ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.เผยโพลระดับความสุขของเกษตรกรไทยและแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจการเกษตรไทย ครึ่งหลัง ปี 2556 พบดัชนีความสุขเกษตรกรในภาพรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 89% สูงกว่าการสำรวจในช่วงต้นปีซึ่งอยู่ที่ 76% ...
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2556 นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกร ภายใต้หัวข้อ ระดับความสุขของเกษตรกรไทย จากกลุ่มตัวอย่างทุกจังหวัดทั่วประเทศรวม 2,448 ราย ในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าในภาพรวมเกษตรกรมีความสุขอยู่ในระดับค่อนข้างมากถึงมากที่สุด 89% โดยมีความสุขในระดับมากอยู่ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม ด้านสุขภาพ และด้านการทำงาน และมีความสุขในระดับค่อนข้างมากอยู่ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสังคม ด้านการศึกษาและด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ถือว่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในช่วงเดือน ม.ค.56 ซึ่งเกษตรกรมีความสุขอยู่ในระดับค่อนข้างมากถึงมากที่สุด 76%
จากข้อมูลที่สำรวจยังพบว่า เกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความสุขมากที่สุด ส่วนเกษตรกรในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีความสุขน้อยกว่าภาคอื่น โดยเกษตรกรต้องการให้ ธ.ก.ส สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการสร้างงานที่มั่นคงในชนบทมากที่สุด รองลงมาคือ สนับสนุนการใช้ชีวิตพอเพียง และสนับสนุนการสร้างอาชีพเสริม
สำหรับแนวทางการสร้างความสุขให้แก่เกษตรกร ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. มีความเห็นว่า การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการลงทุนประกอบอาชีพทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมเพื่อให้มีรายได้และเงินออมเพิ่มขึ้น ยังเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญกับเกษตรกร ขณะที่ภาครัฐควรสนับสนุนการมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร เพื่อสร้างความมั่นคงในที่ดินทำกิน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีระดับความสุขด้านเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนควรส่งเสริมการใช้ชีวิตพอเพียงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนการจัดทำบัญชีฟาร์มและบัญชีครัวเรือน และการส่งเสริมให้เกษตรกรก้าวไปสู่การเป็น Smart Farmer โดยการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตและนวัตกรรมทางการเกษตร
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรไทย ครึ่งหลังปี 56 ว่า จะขยายตัวอยู่ 4.6% จากครึ่งปีแรก ทำให้คาดว่าทั้งปี 56 เศรษฐ กิจการเกษตรไทยจะขยายตัว 4% เป็นผลจากผลผลิตทางการเกษตรในหมวดสำคัญ ๆขยายตัวดี อาทิ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน ที่มีผลผลิตต่อไร่ที่ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกทำให้มูลค่าสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น และคาดว่าสินค้าหมวดพืชผลและปศุสัตว์จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรจะมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะภัยแล้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตภาคการเกษตรได้ สำหรับสิน ค้าเกษตรที่จะมีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อยโรงงานและน้ำตาลทราย ไก่เนื้อ กุ้งขาวแวนนาไม และสุกร ส่วนสินค้าเกษตรที่จะมีราคาลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา.