ระอาไหมถ้าแฟนเป็นคนขี้หึง?

ถ้าคนเราจะรักกัน บางทีอะไรก็ไม่สามารถจะขวางทางได้ แต่ทุกอย่างย่อมมี “ข้อยกเว้น” เสมอจริงไหมล่ะคะ เช่น ถ้าคุณเกิดถูกแย่งแฟนขึ้นมา มันก็เป็นสถานการณ์ที่แย่ใช่ป่ะ แต่ถ้าไม่ได้ถูกแย่งแฟนจริง ทว่าอีกคนระแวงไปซะก่อนว่า มีคนมาก้อร่อก้อติกแฟนของตัวเอง จนแสดงออกด้วยการหึงหวงแฟนขึ้นมาล่ะ

แฟนที่ถูกหึงก็อาจคิดไปได้ 2 ทางค่ะ ได้แก่ ทางแรกคิดว่า แหม ถ้าหึงหวงอย่างนี้ละก็ หมายฟามว่า รักเค้าน่ะซี เพราะไม่งั้นถ้าไม่รักก็คงไม่หึงหรอกว่ามะ นอกจากหึงแล้วยังงอนตะลุบตุ๊บป่องซะด้วย

ทางที่สอง คิดว่า โอ้ย น่าอึดอัดและน่ารำคาญจริงเชียว ไม่รู้จะหึงบ้า หึงบอไปทำไม? ในเมื่อเค้าแค่โทรศัพท์คุยกับเพื่อนและออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงบ้างโดยไม่ได้พาอีกฝ่ายหนึ่งไปด้วย ซึ่งมันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆครั้ง ไม่ใช่เกิดขึ้นทุกวัน แถมทุกครั้งที่เค้าไปไหนกับเพื่อนในกลุ่มหนุ่มๆด้วยกันก็มักโทรศัพท์มาบอกไว้ก่อนเสมอ ไม่ได้หลบหนี (โอ้โห ใช้คำอย่างกะเป็นนักโทษ) ซะหน่อย ดังนั้นจึงไม่ควรจะหึงว่างั้นเถอะ

แต่ช่วยไม่ได้ค่ะ เพราะ “ความหึง” และ “หวง” ของผู้หญิงนั้นเป็นอาการที่สามารถ

เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ บางทีหนุ่มยังไม่ทันได้ทำอะไรให้ฝ่ายหญิงรู้สึกว่าควรไปหึงเค้าเลย เช่น แฟนหนุ่มก็แค่มองไปข้างหน้าแล้วสายตาบังเอิ๊ญไปเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า (แฟน) ยืนอยู่ แค่เนี้ย ผู้หญิงก็ยังหึงได้หึงดี ทั้งที่เค้าไม่ได้มองสาวคนนั้นจนเหลียวหลังซะหน่อย เป็นแค่การมองไปตามทางก็เท่านั้น แต่โถ...ผู้หญิงที่มีอาการนี้ฝังลึกก็ต้องเข้าใจเธอหน่อยค่ะว่า แฟนหนุ่มของเธอนั้นต้องเป็นของ “ข้า” แต่เพียงผู้เดียว คนอื่นอย่ามาแหยม!

ว้าย ใครมีแฟนอย่างนี้ก็ตัวใครตัวมันละกันน้อ เพราะข้อดีก็มีแต่ข้อเสียก็มีด้วย เป็นงั้นไป

นี่ถ้าคนขี้หึงมีแฟนหน้าตาดี ประเภทเข้าขั้นหล่อหรือสวยด้วยแล้ว ไม่ไปกันใหญ่หรอกรึ? เพราะคนขี้หึงมักหวาดระแวงว่าจะมีใครคนไหนเข้าใกล้แฟนของตัวทุกวัน จนไม่เป็นอันทำอะไรให้เกิดประโยชน์น่ะซี

ยกตัวอย่างกรณีของอนุชิตให้ฟังละกัน หนุ่มชิต เรียกสั้นๆ ไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไรมาก แต่ถ้าเปรียบเทียบกับหนุ่มทั่วไป เค้าก็หน้าตาดีกว่านิดนึง ดังนั้นเวลาเขาไปไหนมาไหนกับวนิดาแฟนสาวละก็ เธองี้เล่นเดินชิดเขาไม่ยอมห่าง ถ้าเป็นไปได้ก็ไปจับมือจูงแขนเขาด้วยซ้ำ เพื่อที่จะบอกคนทั่วไปเป็นนัยๆว่า คนนี้แฟนของฉันนะ ใครอย่ามาแหยมเชียว ซึ่งตอนแรกหนุ่มชิตก็ไม่ได้คิดอะไร ถ้าอยากจะมาเดินจับมือกันก็เอา

แต่ไปๆมาๆ ความหึงหวงของฝ่ายหญิงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้หลายครั้งที่หนุ่มชิตรู้สึกหายใจไม่ออกเพราะอึดอัดกับความขี้หึงของหล่อน หนุ่มชิตให้ความเห็นกับผู้เขียนว่า ถ้าจะหึงก็ควรมีเหตุผลกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็หึงไปซะทุกคนและทุกอย่าง ทั้งที่เค้าก็ไม่ได้เจ้าชู้เป็นคาสโนว่าซะหน่อย

จากที่หนุ่มชิตไม่กล้าหยิบยกเรื่องความขี้หึง ของวนิดามาพูดกับเธอ (กลัวเธอรับไม่ได้ว่างั้น) แต่ในที่สุดเขาก็ต้องตัดสินใจพูดมั่งแหละ เพราะความขี้หึงของฝ่ายหญิงทำให้เพื่อนของหนุ่มชิต ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชายต่างพากันหนีหน้าไปทีละคน สองคน จนเขาแทบไม่มีเพื่อนอยากพูดด้วยแล้ว เพราะความหึงไม่เข้าท่านี่เอง

พูดก็พูดเถอะ แต่ถ้าไม่หึงกันเลย เดี๋ยวก็จะหาว่าไม่รักอีก เฮ่อ....คนเราเอาใจยากเนอะ

ว่าแต่ ถ้าคุณผู้อ่านเจอกรณีที่แฟนเป็นคนขี้หึงขึ้นมาบ้าง แล้วจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรกันดีคะ กระนั้นขอบอกไว้ก่อนนะว่า อาการขี้หึงนั้นไม่ได้สงวนไว้สำหรับผู้หญิงแต่เพียงฝ่ายเดียว มีถมไปค่ะที่ผู้ชายก็หึงหวงผู้หญิงแบบหน้ามืดตามัว งั้นถ้าคุณมีแฟนเป็นคนขี้หึง (เพศไหนก็แล้วแต่) ก็คงต้องแก้ไขด้วยการไม่แก้ไขอะไร.....เอ้ย นี่แค่พูดเล่น แก้ด้วยการ 1.เข้าใจ “แฟนที่ขี้หึง” สิคะว่า การที่เค้าหึงขึ้นมาน่ะ เป็นเพราะกลัวจะสูญเสียคุณไป ดังนั้น คุณจึงต้องทำให้ “แฟนที่ขี้หึง” เกิดความมั่นใจให้ได้ว่า คุณจะไม่ทิ้งเค้าไปแน่ๆ ด้วยการพูดกับเค้าบ่อยๆก็ได้ว่า “ไม่เห็นมีใครดีไปกว่าคุณเลย” หรือ เวลาเค้าทำอะไรให้คุณ ก็ชมเค้าไปเลยว่า แฟนคุณน่ารักจัง และก็เพราะน่ารักอย่างนี้นี่เล่า คุณถึงไม่เคยคิดจะไปมีกิ๊กหรือมีคนอื่นให้แฟนเสียความรู้สึก!

โม้อะไรได้ก็โม้มันเข้าไป แต่ถึงโม้ก็ควรมีความจริงแฝงอยู่บ้างนะ ไม่ใช่โกหกไปหมดก็ไม่ดี

2. “แฟนที่ขี้หึง” มักคิดว่า อีกฝ่ายไม่ค่อยรักเค้า ฉะนั้น คุณควรบอกรักเค้าบ้าง ไม่ใช่คบกันมา 5 ปี เคยพูดว่ารักเค้าแค่ครั้งเดียวคือตอนจีบเพื่อให้ได้มาเป็นแฟนแค่นั้น มันก็น้อยเกินไป ส่วนการบอกรักแฟน ก็มีตั้งหลายวิธีไม่จำเป็นต้องพูดว่ารักอย่างเดียว แต่การบอกไปตรงๆว่ารัก คนฟังมักดีใจมากที่สุดก็ควรพูด ไม่ต้องหวานทุกวัน แต่อย่าลืมหวานใส่กันนะ อ้อ วิธีบอกรักแฟนด้วยวิธีที่ไม่ต้องพูดก็เช่น ตัดกระดาษเป็นรูปหัวใจแล้วแอบไปใส่ไว้ในเสื้อผ้าของเค้า พอเค้าหยิบขึ้นมาก็เห็นชื่อคุณจึงรู้ว่าใครทำให้ อะไรเงี้ย

3. ชวน “แฟนขี้หึง” ไปไหนกับคุณด้วยตลอด เค้าจะได้ไม่คิดว่า คุณมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า จึงทำให้บางครั้งไม่ยอมชวนเค้าไปด้วย ทั้งๆที่ไม่มีอะไรซ่อน งั้นทีนี้ชวนเค้าไปทุกงานที่คุณไปเลยละกัน จะได้เลิกหวั่นไหวซะที จะได้มีแต่ความวาบหวามเพราะอยู่ใกล้กันตลอด หวังว่าดีกรีความขี้หึงจะลดน้อยลงไปด้วยนะ.

@@@