aLwaYs moodY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




.
.
.
.
The best things in life are often unseen
that's why we always close our eyes when
we kiss, pray and dream.
.
.
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add aLwaYs moodY's blog to your web]
Links
 

 

วันร้อนๆที่มะละกา มาเล่ มาเล่ย์

ต่อจากบล็อกที่แล้วค่ะ แพทไปทำงานพ่วงเที่ยวมาติดวันหยุดเลยขออยู่เที่ยวต่อซะเลย โชคดีมีสาระถีใจดีขับรถไปส่งถึงมะละกาแพทเลยไม่ต้องระหกระเหินไปคนเดียว รูปไม่มากนะคะ แต่อยากจะบันทึกช่วงเวลาดีๆ ความรู้สึกดีๆกับเมืองเล็กๆนี้ไว้




ข้อมูลเดินทางแพทมีไม่มากเพราะเป็นทริปชุกละหุกจริงๆ (ทำให้ทริปสิงคโปร์ซึ่งถัดไปเพียงอาทิตย์เดียวต้องรุ่งริ่งไปด้วย เหตูเพราะไม่มีเวลาเตรียมตัว)




แพทใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษด้วยรถยนต์ เพราะเพื่อนๆเตือนให้ระวังกลัวจะไม่มีรถกลับเคแอล สาระถีใจดีจึงพาแพทไปจองตั๋วให้เรียบร้อยเราจึงแวะเข้าไปที่ Melaga Sentral (บัสเทอร์มินอล) ก่อน วันนั้นเป็นวันเสาร์ ราคาตั๋วจึงถูกกว่าปกติ (12 MYR --> 10 MYR) เหตุเพราะเค้ามีบริษัทรถให้บริการจำนวนมาก แพทจองไว้เที่ยวห้าโมงครึ่งซึ่งคำนวณแล้วจะกลับถึงเคแอลไม่ดึกนัก ตอนแรกก้อคิดว่าจะทำให้เที่ยวอย่างเร่งรีบแต่เอาเข้าจริง แพทเผ่นอยากหนีกลับตั้งแต่ไปเห็นแว้บแรก ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะเหตุเพราะแดดมันร้อนมากกกกกกกกกกกกกกเรย เข้าใจแล้วว่าทำไมคนมาเลย์ชอบถามว่าไปทำไมที่มะละกา ฮ่าๆ




แต่เอานะดั้นด้นไปถึงแระ สู้ตาย(กลางแดด)เว้ยเฮ้ย..



ให้ข้อมูลตัวเมืองมะละกา โดยสังเขปกันก่อน (อ้างอิงจาก เวป: สวัสดีมาเลเซีย --> //www.sawasdeemalaysia.com )



มะละกา วางตัวอยู่ตรงกลางระหว่าง รัฐเนเกรี เซมบิลัม และยะโฮร์ บาห์รู ทางชายฝั่งด้านตะวันตกของคาบสมุทรมลายู เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้ เคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญมากในอดีต ดึงดูดพ่อค้าจากหลายที่ ทั้งจีน อินเดีย ให้เดินทางเข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก



มะละกาถูกค้นพบโดยเจ้าชายนามว่า Parameswara ในขณะที่พระองค์ทรงเดินทางลี้ภัย จากนั้นก็เติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ระหว่างตะวันตก และตะวันออก สินค้าสำคัญเป็นต้นว่า เครื่องเทศ ทองคำ ผ้าไหม ชา ฝิ่น ยาสูบ และน้ำหอม กลายเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจบรรดานักล่าอาณานิคมชาวตะวันตก อันเป็นผลให้ต่อมามะละกา ตกไปอยู่ใต้อาณัติของโปรตุเกส ดัตช์ และอังกฤษตามลำดับ ในบางส่วนของเมืองยังคงทิ้งร่องรอยแห่งวันในอดีตผ่านอาคารเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมอื่นๆ ซึ่งบรรดาผู้ที่เคยครอบครองแผ่นดินแห่งนี้ ได้ทอดทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์ของเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อนานมาแล้ว




ชนพื้นเมืองคือภาพสะท้อนของการผสมผสานทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี พวกเขาถ่ายทอดออกมาด้วยขนบประเพณี การแสดงออกทางวัฒนธรรม ไปจนถึงรายการอาหารน่าลิ้มลองมากมาย แหล่งท่องเที่ยวทั่วไป อาทิ นิคมโปรตุเกส อาคารที่ว่าการแบบดัตช์ Porta de Santiago และบ้านแบบ Baba – Nyony ซึ่งพบเห็นได้บริเวณใจกลางเมือง




เมืองมะละกา

ตัวเมืองมะละกาถูกแบ่งออกเป็นเมืองใหม่ และเมืองเก่า ย่านที่เป็นเมืองเก่าค่อนข้างอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เรียงรายไปตามถนนเส้นเล็กแคบ สถานที่สำคัญในอดีด ส่วนใหญ่รวมตัวอยู่บริเวณ จัตุรัสกลางเมือง (Town Square) บริเวณริมใกล้ๆ กับแม่น้ำ ซึ่งเหมาะกับการเดินเที่ยว เหนือจัตุรัสกลางเมืองขึ้นไปเป็นที่ตั้งของ St. Paul’s Hill (หรือ Bukit St. Paul) ซึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมปราการของโปรตุเกส A’ Fomosa และโบสถ์ St.Paul’s


ในตัวเมืองมีป้ายสัญลักษณ์ที่จัดแสดงไว้เป็นเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยว หากเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ไปตามป้าย ที่มั่นใจได้ว่าเก็บรายละเอียดและสถานที่ครบถ้วน



ย่านเมืองใหม่ของมะละกา ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ และส่วนมากเป็นพื้นที่ที่ปรับปรุงมาจากทะเล ประกอบไปด้วยแหล่ง ช้อปปิ้งทันสมัย เช่น Makhota Parade มีร้านจำหน่ายอาหารและศูนย์รวมความบันเทิง หากเดินทางออกไปนอกเมืองมะละกาเพียงเล็กน้อย ก็จะได้พบกับชายหาด และร้านอาหารเสิร์ฟอาหารทะเลมากมาย เกาะที่อยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งและย่าน Air Keroh ใกล้กับทางด่วน North – South Expressway มีสวนสนุกมากมายให้เที่ยวชม



ปล. จากที่กล่าวมามะละกามีที่ให้เที่ยวและชมมากมาย แต่แพทไปแค่สองที่ แหะๆๆๆๆ





จุดที่แพทโดนปล่อยคือ จตุรัสกลางเมือง หรือ Ducth's Square โบสถ์สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของมะละกาและเป็นอันนึงที่ดึงดูดให้แพทไปที่นั่น แว่บแรกรู้สึกผิดหวัง(ช้ากว่ารู้สึกว่าร้อนมากๆเล็กน้อย) ตั้งสติได้ก้อมองหาศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อจะหาแผนที่เมือง ซึ่ง i ก้ออยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง แพทซื้อแผนที่มาให้ราคา 5 MYR ใช่ค่ะ ไม่มีแจกฟรีนะคะต้องซื้อเท่านั้น





เดินเล่นหน้าโบสถ์ ถ่ายรูปมุมมหาชน























เปิดแผนที่ที่เสียสะตังค์ซื้อมา แล้วหมุนหาทิศเพื่อไปที่ Jonker Street ซึ่งก้อแค่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามนั่นเอง ซึ่งให้ดีเราควรไปเดินตอนช่วงเย็นเค้าจะมีถนนคนเดิน แต่แพทไปตอนแดดเปรี้ยงนั่นก้อพอมีอะไรให้ดูบ้าง ตึกรามบ้านช่อง ซึ่งถ้ามาเดินตอนกลางคืนคงไม่ได้เห็นแน่ๆ

จากดัชซ์สแควเราเดินข้ามแม่น้ำมะละกามานะคะ วิวสวยดี แดดร่มๆคงน่าเดินทีเดียวเชียว










บ้านเรือนในฝั่งนี้สวยแปลกตาดี ร้านรวงสลับกันไป บ้างเปิดเป็นแกลเลอรี่ ร้านค้าของเก่า มีศาลเจ้า และ ร้านอาหารน่านั่งอยู่หลายร้าน


















แพทแวะพักขา และทานกลางวันที่ร้านนี้ คนเข้าออกแยะเชียวค่ะ










เลือกเมนูง่ายๆ จำชื่อไม่ได้ละ










เดินเล่นๆอยู่ เจ้านี่ผ่านมา เยอะเนอะสามล้อถีบบ้านเราสู้ไม่ได้เลย









ร้านข้าวมันไก่และร้านขนมหวานเจ้าดังคนเยอะตามคำร่ำลือ ตอนแรกอยากลองชิมแต่พอเห็นคนเข้าคิวตากแดดแล้ว ขอบายดีกว่า














หลังจากเดินไปจนสุดถนนก้อวกกลับมาแล้วข้ามกลับมาหน้าโบสถ์ นั่งพักตัดสินใจไม่ไปไหนต่อ รอรถกลับไป Melaga Sentral รถพาวนไปรอบเมือง ผ่านไปแถบชายทะเลด้วยสวยดี เสียดายไม่มีโอกาสได้ไปเดินเล่น สีน้ำทะเลเป็นสีเขียวด้วยหละ ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงได้ก้อวนมาส่งที่ท่ารถ ค่ารถน่าจะ 2 MYR

แพทตัดสินเดินเข้าไปขอเปลี่ยนเที่ยวรถให้เร็วขึ้น ได้รอบบ่ายสามครึ่ง ดีใจสุดๆ และแล้วมะละกาทริปนี้ก้อจบลงเท่านี้




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2554
2 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 21:57:58 น.
Counter : 1432 Pageviews.

 

แพทเดินทางอีกแล้ว (ไม่เรียกคุณแล้วนะ แบบนี้สนิทใจกว่าเนอะ อิอิ) ดีจังจ้ะ ได้เห็นที่นั่นที่นี่ ต่างสถานที่บ่อยๆมันก็คงจะเพลินไปอีกแบบเนอะ อากาศเค้าร้อนกว่าบ้านเราหรือป่าว แต่ดูจากรูปอ้อมว่าบ้านเมืองและถนนเค้าดูสะอาดกว่าบ้านเรานะ น้ำในคลองดูใสๆด้วยอ่ะ หรือมันบังเอิญเฉพาะมุมที่แพทถ่ายมา

บ้านอ้อมก็ไปเรื่อยๆจ้ะ ไปไม่ถึงไหนเลย วนเวียนอยู่แต่มุมเดิมๆ

ปล. ชอบสีของโบสถ์มากเลย

 

โดย: ~ Cerulean Blue ~ 8 กันยายน 2554 6:09:51 น.  

 

หวัดดีจ้ะแพท ผ้าม่านตรงซิงค์อ้อมไม่ได้ปักเองจ้ะ อ้อมซื้อมาจากร้านขายของเก่าน่ะ อิอิ แต่อยากปักได้มั่งจัง ยังไม่เคยลองเลย

 

โดย: ~ Cerulean Blue ~ 15 กันยายน 2554 14:55:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.