พาชิมอาหารเจ ที่ร้าน ฉางโซ่ว ... พระราม 2 วันนี้ขอเกาะกระแสเทศกาลกินเจด้วยคนนะคร๊าบบ... จะพาไปชิมอาหารเจอร่อยๆ ที่ร้าน "ฉางโซ่ว" แถวๆ พระราม 2 กันครับ ... เป็นร้านอาหารจีน ที่บริการเมนูเจๆ ตลอดทั้งปี ทุกช่วงเทศกาล เรียกว่าจะมาวันไหน เทศกาลใด ก็มีให้กินกันตลอด ... ร้านนี้จะอยู่ในซอย ระหว่าง โฮมโปร กับ บิ๊กซี (ฝั่งตรงข้าม เซ็นทรัลพระราม 2) เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 800 เมตร ร้านจะอยู่ขวามือ ... ร้านนี้มีเมนูอาหารเจเยอะมั่กมาก จนไม่รู้จะเลือกชิมอันไหนดี เราลองสั่ง ขาหมูยัดไส้ หอยจ๊อ มะเขือยาวอบหม้อดิน ผัดโหงวก๊วย มาชิมกัน ... (อ้อ !! ถึงแม้ชื่อเมนูจะเป็นสารพัดสัตว์ แต่ทุกอย่างรับรองเป็นเจแน่นอนครับ) ก็ขนาดเบียร์ที่สั่งมาชิม ยังเป็นเบียร์เจเลย ?? ... สำหรับรสชาติอาหารก็อร่อยใช้ได้ครับ มื้อนี้ชอบ "มะเขือยาวอบหม้อดิน" ที่สุด อร่อยเข้มข้นดีทีเดียว ... และสุดท้าย ห้ามพลาดเด็ดขาด ! เมนูขนมหวาน "มะเขือยาวยัดไส้เผือกทอด" กรอบนอกนุ่มใน ... ร้านอาหารเจ ฉางโซ่ว 84/88 ม.7 ท่าข้าม พระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เปิดเวลา 10.00-15.00 , 17.00-22.00 โทร : 02-8954895   Create Date : 10 ตุลาคม 2553 10 comments Last Update : 10 ตุลาคม 2553 22:55:23 น. Counter : 8742 Pageviews. Share Tweet

อยากลองจัง...   โดย: never the last 11 ตุลาคม 2553 5:10:03 น.

มา เยี่ยม ก้าบบบบบ   โดย: dogamania 11 ตุลาคม 2553 13:28:47 น.

มื้อนี้สุดยอดไปเลย....   โดย: bee_koki 11 ตุลาคม 2553 21:18:51 น.

ขออนุญาติแนะนำสินค้าหน่อยนะค่ะ สัปดาห์ นี้เรามีโปรโมชั่น มานำเสนอ เป็นผลิตภัณฑ์ กล่องอินเตอร์เน็ต มันทำงานได้เสมือนเป็นคอมพิวเตอร์ เอาใว้ให้นักเรียนศึกษาใช้ได้ตอนช่วงพักหรือรอเข้าเรียน หรือเอาไว้ใช้ในห้องสันทนาการ สามารถใช้เล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง และเล่นเกมส์ มันจะเชื่อมต่อเม้า คีย์บอร์ด จอคอมพิวเตอร์ เหมือนPC ที่สําคัญประหยัดกว่า ซื้อคอมพิวเตอร์ ถึงเกือบ 50% ราคาไม่แพง สนใจติตต่อ 026741353-4 คุณยุทธนา หรือ Sales@12plusinone.com   โดย: Taro 01 IP: 58.11.93.183 18 ตุลาคม 2553 12:33:31 น.

ร้านนี้มีเมนูเด็ดคือ 1.ส้มตำทอด คือเอาเส้นมะละกอกับแครอทไปชุบแป้ง ทอด แล้วเวลากินค่อยเอาส้มตำมาราด 2.ปลาสมุนไพรเทียนหม่า 3. ยำ 3 กรอบ 4. โคนเห็ดผัดใบกระเพรา 5.นักเก็ต 6.ต้มซุปเยื่อไผ่ อร่อยสุดๆจ้า ลูกเราไปกินเกือบทุกวันหยุดเลย 7.ไอติม โฮมเมด   โดย: อริส IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 10:26:34 น.

ที่ร้านมีพวกอาหารแช่แข็งด้วยนะ พวกลูกชิ้น แฮมเจ มีมาม่าใต้หวันด้วยแหละ (แต่แพงมากกกก ห่อละ 50 บาทแนะ ซื้อมา 2 ห่อ ก็ 100 บาท จ๊าก! เอาน่าลองดู) ก็คุ้มนะเพราะอร่อยจริง น้ำซุปเข้มข้น แต่เราแอบเอามาม่าเปล่าๆลงไปเติมในหม้อด้วย เป็นการเพิ่มปริมาณเพราะกินกัน 4 คน อิอิ Volumn added เทียบกับมาม่าเจบ้านเราห่อละ 6 บาท รสชาดสมราคา แนะนำเพื่อนๆมาทานเจเพื่อสุขภาพกันเถอะ ทานเนื้อสัตว์มาหลายวันแล้ว ลองทานเจสัก1 มื้อใน 1 สัปดาห์ (7 x 3=21 มื้อ) ล้างพิษ พักลำไส้ พักกระพาะ ให้ได้พักผ่อนสักมื้อนะ เพื่อชีวิตที่ยืนยาว อยู่กับคนที่เรารักได้เห็นหน้ากันไปนานๆ เราเริ่มทานมา 5 เดือนแล้ว รู้สึกสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ก็แนะนำเพื่อนๆ ให้ทานทุกวันเกิด เช่นเกฺดวันจันทร์ก็ทานทุกวันจันทร์ ยกผลบุญกุศลในการทานเจให้กับเทวดา พระประจำวันที่ปกปักรักษาตัวเรา ขอบคุณท่านที่ช่วยดูแลพุทธจิตของเราให้มีความเมตตาต่อสัตว์ ไม่เอาเลือดเนื้อของผู้อื่นมาต่อชีวิตเรา สัตว์ก็มีครอบครัวเหมือนเรา หากวันนี้เรากินแม่หมู แล้วลูกหมูจะอยู่อย่างไร จริงอยู่ว่า วันนี้อาจอยู่กับพ่อ แล้วถ้าอีกวันพ่อโดนฆ่าตายละ ลูกหมูก็คงเศร้ามากๆ เมื่อเห็นพี่น้องของมัน สัตว์ทุกตัวก็รักชีวิตเหมือนกับเรา ทุกครั้งที่มันจะโดนฆ่า มันจะวิ่งหนี ไม่มีสัตว์ตัวไหนเดินมาให้คนเอามีดมาเฉือนด้วยความยินดีหรอก คิดดูซิ แค่เราโดนมีดบาดเลือดออกซิบๆ และยังเจ็บไปหลายวันเลย จริงไหม? ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่าน ยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ   โดย: อริส IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 11:29:05 น.

อาหารธรรมชาติของมนุษย์ เนื้อสัตว์เป็นอาหารตามธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์หรือไม่? ข้อเปรียบเทียบลักษณะทางกายวิภาค และระบบทำงานของอวัยวะต่างๆระหว่างมนุษย์และสัตว์กินเนื้อ ฟัน ฟันของมนุษย์และสัตว์กินพืช เป็นฟันตรงแบบเรียบ เพื่อใช้กัดลงตรงๆไม่มีเขี้ยวแหลมยาว มนุษย์มีจำนวนซี่ฟันมากกว่าสัตว์กินเนื้อ ฟันกรามบนล่างเรียบไม่แหลมเพื่อใช้บดอาหารที่มีเส้นใยจำพวกพืชผักผลไม้ได้ดี ลักษณะการเคี้ยวเป็นแบบเคี้ยวเอื้อง คือขากรรไกรล่างเคลื่อนไหวไปมาเหมือนสัตว์กินพืชทั่วไปเช่นเดียวกับ ม้า วัว ควาย แพะ แกะ เปรียบเทียบกับฟันของสัตว์ประเภทกินพืช สัตว์กินเนื้อมีฟันที่แหลมคม มีจำนวนซี่ฟันน้อยกว่าสัตว์กินพืช มีเขี้ยวแหลมยาวเพื่อใช้สำหรับฉีกกระชาก ขบกัดเพื่อให้ตาย มีขากรรไกรและฟันกรามแข็งแรงแหลมคม เป็นฟันสำหรับกัดทะลุสามารถขบกระดูกแข็งๆให้แตกละเอียดได้ สัตว์กินเนื้อเวลากินอาหารฟันบนของมันจะกัดลงตรงๆ เท่านั้น แล้วกลืนลงไปโดยไม่เคี้ยวอาหารให้ละเอียด Credit : //www.vithi.com/menu03-01-04.html   โดย: อริส IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 11:52:41 น.

แนะนำให้อ่านหนังสือ ลังกาวตารสูตร "เป็นพระสูตรสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส ณ เกาะลังกา เพื่อที่จะโปรด ให้ผู้คนได้สติ สำนึกรู้ถึงเวรภัยแห่งการเข่นฆ่าเบียดเบียน" เป็นคัมภีร์หลักของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยท่านพุทธทาสภิกขุ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า "โอ มหาบัณฑิต!ด้วยน้ำหนักแห่งเหตุผลมากมาย เหลือจะประมวล บ่งแสดงว่า เนื้อทุกชนิด เป็นสิ่งที่ควรปฏิเสธ" "สัตว์ผู้มีชีพทั้งหลาย ได้พากันท่องเที่ยวไปในการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีสัตว์แม้แต่ตัวเดียว ที่ในบางสมัย ไม่เคยเป็น แม่ พ่อ พี่น้องชายหญิง หรือเครือญาติ สัตว์เหล่านี้เป็น ภราดรของตน แล้วจะเชือดเนื้อเถือหนัง ของมันอีกหรือ" "โอ มหาบัณฑิต!มีกลิ่นอันน่ารังเกียจ ไม่น่าบริโภคอยู่ในเนื้อสัตว์ เช่นเดียวกับกลิ่นแห่งซากศพ แม้เหตุผลเพียงเท่านี้ เนื้อก็เป็นของที่ไม่สมควรบริโภคสำหรับพุทธศาสนิกชนอยู่แล้ว"   โดย: อริส IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 13:51:48 น.

ลังกาวตารสูตร พระสูตรสำคัญเพื่อรักษาไว้ซึ่งรากฐานแห่งพุทธจิตตน เป็นพระวจนะของพระพุทธเจ้า ซึ่งตรัสบอกเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์ ไว้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นพระสูตรที่ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมาก ยังไม่เคยได้ศึกษามาก่อน "โอ มหาบัณฑิต!เรามิได้เคยบัญญัติเนื้อสัตว์ไว้ในสูตรใด หรือกล่าวว่า มันเป็นของกิน หรือนับมันเข้าในประเภท ของดีที่ควรกิน" "ในอนาคตกาล หมู่สงฆ์สาวกของเรา จะเกิดมีคนบางคน กำลังครองผ้ากาสาวพัสตร์สีแดงหม่น จะเป็นผู้มัวเมา เขาจะบัญญัติข้อปฏิบัติที่ผิดแบบแผนขึ้นใหม่ เขาเหล่านั้นเป็นผู้อยากเสพ และติดรส จะเรียบเรียงพระคัมภีร์ให้มีข้อความเท็จ อันจะเป็นสิ่งยืนยันและโต้แย้งอย่างพอเพียงสำหรับการกินเนื้อสัตว์ เขาจะบัญญัติสิ่งที่ตถาตถมิได้บัญญัติเอาไว้ เขาจะกล่าวข้อความที่ส่งเสริมการกินเนื้อสัตว์ เขาจะกล่าวว่าเราตถาคตได้บัญญัติไว้ในเรื่องนี้ เช่นนี้ และว่าพระภควันต์ก็ได้ทรงเสวยเนื้อสัตว์โดยพระองค์เอง" "สัตว์ย่อมรักชีวิต ย่อมกลัวต่อความตาย เช่นเดียวกับมนุษย์ แล้วทำไมมนุษย์จะมาใช้กำลัง ที่ตนมีเหนือสัตว์ ผู้เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันนั้น ให้เป็นไปในทาง ปล้นเอาชีวิตซึ่งเป็นที่รักของมันเสียเล่า" "ถ้ามนุษย์เป็นผู้ล้างผลาญชีวิต เขาก็จะถูกล้างผลาญชีวิต เป็นสิ่งตอบแทน ตามกฎความเป็นจริงซึ่งครองโลก กล่าวสรุปว่า ถ้าเราปรารถนาความสุขแห่งตนในอนาคตแล้ว ก็ต้องไม่ทำความทุกข์ ให้เกิดแก่สัตว์อื่น แม้ที่ต่ำต้อย" Note : กฎความเป็นจริง =กฎแห่งกรรม วิญญาณของสัตว์ที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เกิดเป็นหนี้เวรกรรม ผู้ซื้อจึงไม่ต่างอะไร ไปจากผู้จ้างวานฆ่า ย่อมมีโทษผิด หนี้กรรมด้วยเช่นกัน การงดเว้นบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากเป็นการแสดงความเมตตาต่อสรรพชีวิตแล้ว ยังไม่ต้องมีหนี้กรรมที่ผูกพัน ต้องชอใช้ในภพชาติต่อไป อีกทั้งสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงยืนยาว เพิ่มพูนกุศลจิต   โดย: Aris IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 14:48:44 น.

เคยได้ยินเรื่องราวของครอบครัวคนฆ่าหมูขาย ชีวิตก่อกรรมมาตลอด คนในครอบครัวก็เจ็บป่วยเป็นมะเร็ง และมีเหตุให้เสียเงินมาตลอด ได้เงินมามากแค่ไหน ก็ไม่พอรักษา เพราะเป็นเงินจากการก่อกรรม เงินที่ได้มาเต็มไปด้วยวิญญาณอาฆาตแค้น ของเหล่าสัตว์ คนทำอาชีพนี้ ช่วงตอนใกล้ตายก็มีอาการเหมือนหมูที่ถูกฆ่า คือ ร้องเสียง อี๊ดๆๆ แล้วนอนหงายยกแขนขาตั้งขึ้นมา ดิ้นพรวดพราดอยู่อย่างนั้น ทรมานจนตาย ดูแล้วน่าเวทนาจริงๆ หากท่านมีตาทิพย์ก็คงเห็นได้ว่า สัตว์เหล่านั้นก็คือคนที่ทำผิดมาก แล้วมาเกิดเป็นสัตว์ เกิดมาใช้กรรม เขาอาจจะเคยเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ของเรามาก่อน แล้วเราจะกินเขาลงคอหรือ อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ ปัจจุบันเป็ที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นอาหารธรรมชาติของมนุษย์ พืชผักผลไม้ มีสารอาหารเพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย ขอให้ทุกท่านค่อยๆฝึกฝน ละเลิกเพื่อตัวของเราเอง สันติภาพที่แท้จริงในโลกจึงจะเกิด ไอแห่งความดีก็จะแผ่ขยายไปทั่ว ไอแห่งความดี ทำง่ายๆ โดยเริ่มจากการกินนี่แหละ เพราะเรากินทุกวัน วันละ 3 มื้อ หากเราเฝ้าดูแลพุทธจิตนี้ ฝึกฝนให้จิตเมตตานี้หลั่งไหล แสดงออกถึงจิตเมตตา ทุกวัน ทุกวัน ต่อทุกสรรพสิ่ง ทั้งคนด้วยกันเอง ไม่เข่นฆ่ากัน ดังที่เห็นเป็นข่าวภาคใต้อยู่ทุกวัน มาร่วมมีจิตเมตตาต่อสัตว์ ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพียงเพื่อสนองความอยาก ไม่ยึดติดในรสชาติของซากศพสัตว์ จิตเมตตาเริ่มจากตัวเรา ก็พอแล้ว เหมือนจุดเทียนคนละ 1 เล่ม คนไทยมีประมาณ 60ล้านคน อาจมีคนที่เกิดวันจันทร์ 5 ล้านคน หากเริ่มกินเจทุกวันจันทร์ เทียนแห่งพุทธจิตในใจตนก็สว่างไสวไป 5 ล้านเล่ม สัตว์กว่าหมื่นชีวิต รอดตาย คิดดูซิว่าช่างเป็นเรื่องที่น่าปิติยินดีแค่ไหน หรือหากทุกคนจุดเทียนพุทธจิตเมตตาทุกวันพระ และทุกคนก็เฝ้าระวังรักษาพุทธจิตนี้ ไม่ให้หม่นหมอง ไม่ปล่อยให้เจ้ากรรมนายเวรมาครอบงำ กำหนดชะตาชีวิตของเรา พุทธจิตก็จะสว่างไสวเข้าใจสัจธรรม เข้าใจกฎแห่งกรรม ดำเนินชีวิตด้วยความระวัง พิจารณาถึงเหตุ แห่งทุกข์ และ ผลของเหตุนั้น สัจจะ =ความจริง ธรรม =ธรรมชาติ ความจริงตามธรรมชาตินั่นเอง เช่น ชาตินี้ชอบกินเนื้อสัตว์ ก็จะต้องชดใช้ ในรูปแบบต่างๆกันเช่น เป็นมะเร็งลำไส้ โดนหมอผ่าตัด เอาไส้ส่วนที่เป็นมะเร็งทิ้งไป อย่างนี้เป็นต้น   โดย: อริส IP: 116.68.151.90 8 มีนาคม 2556 15:55:52 น.