Group Blog
 
All Blogs
 
Avatar ---- ธรรมชาติ .... แม่ผู้ให้ชีวิต


Avatar
ธรรมชาติ .... แม่ผู้ให้ชีวิต

เจมส์ คาเมรอน พา Avatar เก็บรายได้ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกแซงหน้าแชมป์เก่า หนังทำเงินสูงสุดของโลก Titanic (๑๙๙๗) ซึ่งเป็นหนังที่เขาอำนวยการสร้าง กำกับและเขียนบทเช่นกัน ได้สำเร็จ และได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ ผู้ชม คว้ารางวัลของหลายสถาบัน รวมทั้งได้เข้าชิงออสก้าร์ถึงเก้าสาขาด้วยกัน ใน Avatar เขาเล่าเรื่องแนวนิยายวิทยาศาสตร์ผสมผสานด้วยฉากแอ็กชั่นตื่นเต้นเทคนิคพิเศษตระการตา สร้างโลกแห่งจินตนาการด้วยคอมพิวเตอร์ เช่นที่เขาประสบความสำเร็จจาก คนเหล็ก The Terminator (๑๙๘๔), The Terminator 2 : Judgement Day (๑๙๙๑) และ Aliens (๑๙๘๖)

Avatar เล่าเรื่องในโลกอนาคตปีค.ศ. ๒๑๕๔ อดีตนาวิกโยธินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเดินไม่ได้ เจค ซัลลี่ (แซม เวิร์ธธิงตัน) ได้รับโอกาสอีกครั้งในชีวิต เมื่อทอมมี่ ฝาแฝดของเขาที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ถูกโจรชิงทรัพย์ฆ่าตาย เจคที่มียีนตรงกับทอมจึงเข้าสู่โครงการ “อวตาร” เดินทางไปยังดาวแพนดอร่าห่างจากโลก ๔.๓ ล้านปีแสง พร้อมกับนักวิทยาศาสตร์ นอร์ม สเปลแมน (โจเอล มัวร์) ได้พบกับหัวหน้าโครงการ ดร.เกรซ ออกัสตีน (ซิกอร์นี่ย์ วีเวอร์) และ ดร.แม็กซ์ พาทาล (ดิลีพ เรา) พร้อมทั้งนักบินหญิง ทรูดี้ เชคอน (มิเชล โรดริเกรซ)

โลกในอนาคตกำลังประสบวิกฤติพลังงานอย่างหนัก สิ่งที่ต้องการคือแร่ยูน็อบทาเนี่ยมที่มีอยู่มหาศาลในถิ่นที่อยู่ของ ชาวนาวี ชนพื้นเมืองของดาวดวงนี้ เจคมีหน้าที่คุ้มครองทีมงานของดร.เกรซและได้รับมอบหมายภารกิจลับจาก ผู้พันไมลส์ ควอริทช์ (สตีเฟ่น แลงจ์) ให้ไปแฝงตัวเป็นหนึ่งเดียวกับชาวนาวีจะได้ล่วงรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ ความต้องการของชาวพื้นเมืองเพื่อผลักดันให้อพยพออกไป โดยผู้พันสัญญาว่า เมื่อกลับไปโลกจะให้เขาได้รับการผ่าตัดมีขาใหม่เดินได้อีกครั้ง จาก “นาวิกโยธิน” พิการสู่ร่างอวตารของชาว “นาวี” ที่เต็มไปด้วยพลังกำลัง เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วว่องไว เหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเจค โดยมี เนย์เตรี (โซ ซัลดานา) ลูกสาวของ อีตูกัน หัวหน้าเผ่า เป็นพี่เลี้ยงให้เขาเข้าใจวิถีของชนเผ่า

แต่ในที่สุดกองทหารรับจ้างจากโลกและบริษัทที่ต้องการมาขุดแร่ เลิกใช้วิธีทางการทูตหันไปใช้กำลังเข้ายึดครองดินแดนของชาวนาวี ระดมยิงอาวุธสารพัดเข้าใส่ “โฮมทรี” บ้านของชาวนาวี ไม่ต่างจากกองทหารม้าอเมริกันขับไล่เข่นฆ่าชาวอินเดียนแดงเผ่าซู (Sioux) ชนพื้นเมืองที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมในผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ เช่นในหนัง Dances with Wolves (๑๙๙๐) ทั้งเจค ซัลลี่ และ ผู้กองจอห์น ดันบาร์ (เควิน คอสต์เนอร์) ต่างมีเส้นทางชีวิตหลายประการที่ใกล้เคียงกัน จากคนของรัฐบาล เข้าไปใช้ชีวิต เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรมคนพื้นเมือง ค้นพบคุณค่าความหมายของชีวิต พบรักกับสาวชนเผ่า (ใน Dances เป็นสาวผิวขาวที่มาอยู่กับเผ่าซูแต่เด็ก) และในที่สุดร่วมกับชนเผ่าต่อสู้การรุกรานของคนขาว และเช่นเดียวกับเรื่องราวบอกเล่าความโหดร้ายของคนขาวที่กระทำต่อชนเผ่าเชโรกีที่ ลิตเติ้ลทรี ได้รับฟัง จากหนังสือและหนังเรื่อง The Education of Little Tree (๑๙๙๗)

ขณะที่โลกถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของมนุษย์ อย่างที่เจคบอกว่า มนุษย์ได้ทำลายแม่แห่งธรรมชาติของตัวเอง จนไม่มีสีเขียวหลงเหลืออยู่บนโลกอีกต่อไป แม้มนุษย์จะพัฒนาเทคโนโลยีไปล้ำหน้าเพียงใดก็ตาม มีทั้งเครื่องบินหลายรูปแบบ หุ่นยนต์และอาวุธยุทโธปกรณ์มากมาย แต่เมื่อธรรมชาติ ทรัพยากรในโลกหมดสิ้นลงจนไม่มีแหล่งพลังงานเหลือ จึงต้องไปรุกรานดาวดวงอื่น แต่ด้วยร่างอวตารเหมือนเป็นการเกิดใหม่สลายอัตตาตัวตนความเป็นมนุษย์โลก มาเป็นชาวนาวีของเจค ทำให้เราได้ทำความรู้จักชนเผ่าที่แม้รูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขาจะต่างจากมนุษย์มากมาย ทั้งร่างสูงใหญ่ถึงเก้าฟุต หน้าเหมือนแมว ตาโตสีเหลือง ผิวสีฟ้าและมีหาง แต่พวกเขามีจิตใจที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้ง มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง มีชีวิตที่ผูกพันโยงใยเข้าด้วยกันกับเครือข่ายแห่งต้นไม้ทั้งผืนป่า

ถิ่นที่อยู่ของพวกเขาแม้จะมีแร่ธาตุสมบรูณ์ แต่ชาวนาวียังคงดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายสอดคล้องกลมกลืน เคารพธรรมชาติและสรรพสิ่ง ไม่ต่างจากชีวิตของคนพื้นเมืองในอเมริกาที่ถูกเรียกว่าอินเดียนแดง พวกเขามีต้นไม้เป็นบ้าน แม้จะล่าสัตว์บ้างแต่ก็ทำไปเพื่อยังชีพ ไม่ได้เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อค้าขาย เมื่อล่าได้ก็สำนึกบุญคุณของสัตว์ตัวนั้นและภาวนาให้ไปเกิดใหม่ในพระแม่แห่งธรรมชาติ แม้แต่สัตว์ที่ดุร้ายพวกเขาจะไม่ฆ่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เช่นตอนที่เนย์เตรีช่วยเจคให้รอดจาก ไวเปอร์ วูล์ฟ เธอบอกกับเขาว่า พวกมันไม่น่าจะต้องมาตายเลย เป็นเพราะคุณส่งเสียงดัง ทำตัวเหมือนทารก เธอช่วยให้สัตว์ตัวที่บาดเจ็บสาหัสได้ไปสบาย พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ และภาวนาให้จิตวิญญาณของสัตว์เหล่านั้นกลับคืนสู่ “เกรท มาเธอร์”

พาหนะของชาวนาวีก็คือสัตว์ในป่าซึ่งพวกเขาเรียนรู้ธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิดเป็นอย่างดี ไม่ได้นำมาใช้งานด้วยการบังคับขู่เข็ญ แต่ใช้จิตใจสื่อสารต่อกัน และเป็นสัตว์เองที่เป็นผู้เลือกพวกเขา เช่น การขี่ ไดเออร์ฮอร์ส ที่รูปร่างคล้ายม้า หรือโบยบินไปอย่างอิสระกับ แบนชี่ นอกจากนี้ชาวนาวียังเคารพในสิ่งสูงสุดที่พวกเขาเรียกว่า เอวา (Eywa) ซึ่งเป็นแม่ผู้ให้ชีวิต และเมื่อชาวนาวีเสียชีวิตลงจิตวิญญาณจะกลับคืนสู่เอวา พวกเขาเชื่อว่าเอวารับฟังคำภาวนาและจะช่วยเหลือพวกเขาเมื่อประสบความยากลำบาก หรือมีภัยรุกรานความอยู่รอดของชนเผ่า

เช่นเดียวกับหนังหลายเรื่องของคาเมรอนที่ให้ความสำคัญกับตัวละครผู้หญิง ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาคือ Titanic บทของ โรส (เคต วินส์เล็ต) คือผู้หญิงที่กล้าทำตามหัวใจตัวเอง ไม่ยึดติดกับชนชั้นหรือสถานะทางสังคม ปรารถนาอิสระจากพันธนาการ ดังปลาโลมาที่แหกว่ายอย่างเสรีที่หัวเรือไททานิก หนังคนเหล็กทั้งสองภาคของเขาก็มีตัวละครผู้หญิงเก่งสู้ไม่ถอย ซาล่าห์ คอนเนอร์ (ลินดา ฮามิลตัน) และเด่นชัดยิ่งขึ้นใน Aliens บท แอลเลน ริปลี่ย์ ของวีเวอร์ คือวีรสตรีในหนังไซ-ไฟ ที่หาได้น้อยมากในหนังฮอลลีวู้ด ใน Avatar เราได้เห็นบทผู้หญิงที่เก่ง ฉลาด กล้าหาญ เช่น เนย์เตรี, ดร.เกรซ และทรูดี้


และAvatar ยังคงมีเรื่องราวความรักของคู่ที่แตกต่าง จากรักต่างชนชั้นใน Titanic มาสู่รักต่างเผ่าพันธุ์ แม้มาจากดวงดาวที่อยู่ห่างไกลกันเพียงใด แต่ถ้าเปิดหัวใจต่อกัน รักในวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติเช่นกัน สื่อสารกันด้วยจิตวิญญาณ มองเห็นตัวเองจากดวงตาของคนรัก เช่นเพลงธีมของหนังเรื่องนี้ I See You ขับร้องโดย ลีโอนา เลวิส พรรณนาเอาไว้ ความรักแท้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข ยืนหยัดเคียงข้างกันเสมอ พร้อมจะสละได้แม้แต่ชีวิตของตัวเอง ย่อมเป็นจริงขึ้นมาได้ .... เธอสอนฉันให้รู้จักมองเห็น ซึ่งสรรพสิ่งที่งดงาม ฉันได้สัมผัสโลกของเธอที่ฉันไม่เคยนึกฝันมาก่อน และบัดนี้ฉันขอมอบความหวังแด่เธอ ฉันขอยอมจำนน และภาวนาอยู่ในใจว่า โลกใบนี้จะไม่มีวันสิ้นสลาย ฉันเห็นตัวฉันเองจากในดวงตาของเธอ เราใช้ชีวิตร่วมกัน โบกบินสู่ฟ้าสูง ความรักของเธอส่องสว่างหนทางสู่สรวงสวรรค์ ฉันได้แต่ขอมอบชีวิตให้เธอ และมอบรักนี้แด่เธอ .....

แม้ภาพส่วนใหญ่ในหนังเรื่องนี้จะใช้เทคนิคพิเศษสร้างตัวละครที่เรียกว่า “โมชั่น แคปเจอร์“ แต่หนังก็ยังต้องพึ่งพาการแสดงของนักแสดง ไม่ได้สร้างตัวละครขึ้นมาด้วยคอมพิวเตอร์อย่างไม่มีตัวตน นักแสดงในหนังล้วนหลากหลายเชื้อชาติ พระเอกเป็นชาวออสซี่ นางเอกเป็นลูกครึ่งโดมินิกัน-เปรโตริกัน เวส สตูดี ที่เล่นเป็นพ่อนางเอกก็มีเชื้อสายเชโรกี มีดาราเพียงคนเดียวที่เคยร่วมงานกับคาเมรอนมาก่อนคือวีเวอร์ จาก Aliens หนังที่เราได้เห็นความเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายของ “คอนพานี” ที่คิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองไม่สนใจชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ใน Avatar ก็มีบทของ พาร์คเกอร์ เซลฟ์ริดจ์ (จิโอวันนี ริบิซี) ตัวแทนของบริษัทที่เข้ามาขุดแร่ในแพดอร่า แม้ในตอนแรกเขาจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการรุนแรงของผู้พันควอริทช์ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้คัดค้าน ส่วนมนุษย์โลกในหนัง Avatar จึงกลายเป็น “เอเลี่ยน” หรือ Sky People ผู้รุกรานสำหรับชาวนาวีเพราะดาวดวงนี้คือบ้านของพวกเขา

นอกจากนี้บทดร.เกรซของวีเวอร์ที่ชอบศึกษาค้นคว้าวิจัยธรรมชาติ ต้นไม้นานาพันธุ์ จนดร.แม็กซ์แซวว่าเธอรักต้นไม้มากกว่าคนเสียอีก เป็นบทที่ใกล้เคียงกับ ดร.ไดแอน ฟอสเซอร์ ที่อุทิศชีวิตในการศึกษาลิงกอลิล่าในป่าของรวันด้าและปกป้องไม่ให้กอลิล่าโดยมนุษย์ล่าไปขายใน Gorillas in the Mist (๑๙๘๘) และเราได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างดร.เกรซกับเจค จากห่างเหินไม่ชอบหน้า แต่เมื่อเห็นความทุ่มเทที่เจคเข้าไปใช้ชีวิตในเผ่านาวี เธอก็เอาใจใส่ดูแลเขา คอยบอกให้กินอาหารให้อิ่ม พักผ่อนให้พอ เช่นเดียวกับที่ริปลี่ย์ปกป้องเป็นห่วงเป็นใย นิวส์ เด็กหญิงกำพร้าใน Aliens

จาก The Terminator เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับที่หลงใหลเทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์ แต่เขาก็ยังแสดงความห่วงใยที่มนุษย์ไปพึ่งพาเครื่องจักรกลมากเสียจนวันหนึ่ง “สกาย เน็ท” มีอำนาจเหนือการควบคุมของมนุษย์ จนทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น กลายเป็นวันพิพากษาโลก สำหรับ Avatar เป็นสารเตือนมนุษยชาติทั้งมวลว่า มนุษย์กับธรรมชาติและสรรพสิ่ง ต้องอยู่อย่างเกื้อกูลสัมพันธ์กัน ในธรรมชาติมีความยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณ ที่มนุษย์มิอาจได้มาด้วยการยึดครองด้วยเทคโนโลยี การมุ่งแต่จะเอาชนะธรรมชาติ หรือทำลายธรรมชาติลงไปทุกวัน ย่อมส่งผลหายนะมาสู่มวลมนุษย์ ในห้วงเวลาที่โลกยังพอมีความอุดมสมบูรณ์หลงเหลือ ยังไม่สายที่เราจะช่วยกันดูแลรักษาโลก เคารพธรรมชาติ สิ่งสร้าง ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่ามากที่สุด หันมาใส่ใจการเติบโตของจิตวิญญาณ มากกว่าสะสมวัตถุสิ่งของ วิ่งไล่ตามเทคโนโลยีที่ย่อมมีวันเปลี่ยนแปลงหรือสิ้นสูญไป

ดังเช่นย่าสอนลิตเติ้ลทรี ว่า “คนทุกคนมีจิตอยู่สองดวง ดวงหนึ่งคือจิตใจที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาสิ่งจำเป็นเพื่อให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้...และอีกดวงคือจิตวิญญาณ... ย่าบอกว่าเรารู้ได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนตาย เมื่อเขามองผู้หญิง เขาไม่เห็นอะไรนอกจากคิดสกปรก เมื่อเขามองต้นไม้ เขาไม่เห็นอะไร นอกจากไม้ซุงและผลกำไร มิใช่ความงาม พวกนี้แหละคือคนตายที่ยังเดินอยู่ทั่วๆ ไป … ย่าว่าจิตวิญญาณเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อของร่างกาย ถ้าเรายิ่งใช้ก็จะใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ย่าบอกว่าทางเดียวที่จะเป็นอย่างนี้ได้ก็โดยใช้จิตวิญญาณในการทำความเข้าใจ แต่เราไม่อาจเปิดประตูเข้าไปยังจิตวิญญาณได้ จนกว่าเราจะละจากความโลภ.... ย่าว่าโดยธรรมชาติแล้ว ความเข้าใจกับความรักเป็นสิ่งเดียวกัน...” (จากหนังสือ “ลิตเติ้ล ทรี” ฟอร์เรสต์ คาร์เตอร์ : เขียน กรรณิการ์ พรมเสาร์ : แปล)



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 15:14:28 น. 0 comments
Counter : 724 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

minkitti
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add minkitti's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.