เกียวโต เที่ยววันเดียวยังไงก็ไม่หมด
มาแล้วค่ะ.... เรื่องไปเที่ยวเกียวโตครั้งแรกในชีวิต (แอบดองไว้นานนิดนึง)
โชคดีที่ได้ไปบินโอซาก้าในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หลังจากที่แพลนแล้วก็ได้ข่าวดีจากเพื่อน ว่าเราจะไปเจอกันที่โอซาก้าเย้ๆ เที่ยวคราวนี้ไม่เหงาแล้ว ดีจัง พอรู้ว่าเพื่อนจะไปด้วย ก็เลยนั่งหาข้อมูลจากอินเตอร์เนตซะครึ่งคืน หลังจากสรุปสถานที่และการเดินทาง พร้อมด้วยตารางเวลารถไฟ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาถามพนักงานบ่อยๆ แล้วเวลาการเดินทางจะได้สั้นลง แถมสะดวกขึ้นอีกเยอะๆ แล้วเราก็นั่งเฝ้ารอเวลาให้วันที่นัดมาถึงเร็วๆซะที
ทันทีที่จบการทำงานไฟล์ กรุงเทพ-โอซาก้า พร้อมๆกับการอดนอนมาอีกค่อนคืน เมื่อก้าวเท้าเข้าห้องพักได้ รีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนโดยทันที ตอนแรกนึกไว้ว่าจะให้เวลาแค่ ครึ่งชั่วโมง แล้วออกเดินทางกันก่อน 8.30 น. แต่แล้วในความเป็นจริง เมื่อมีผู้ร่วมทริปเพิ่มขึ้นมา เวลาที่ใช้ไปก็ต้องมากขึ้นไปด้วย เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ เอาเหอะ ทำไงได้ คนเยอะขึ้นอาจจะสนุกขึ้นก็ได้ วันนี้คาดหวังไว้เยอะเลยเซ็งไปหน่อยนึง เลิกบ่นดีกว่า ...
การเดินทางไปเกียวโตใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง จากโรงแรมที่เราพัก เราเลือกใช้รถไฟ(1590เยน) เนื่องจากถูกกว่า การนั่งรสบัส(2300เยน) และเราไม่ต้องกลับไปเริ่มต้นที่ Airport กว่าจะไปถึงที่เกียวโต และเดินซื้อตั๋วรถบัสรอบเมืองแบบ 1 Day pass (500 เยน) ก็ปาไปเกือบเที่ยง เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือก่อนที่วัดจะปิด และแสงในหน้าหนาวจะหมดก็เหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมง สถานที่ๆเลือกมาแล้ว บางที่ก็ไม่ได้ไป เอาที่ๆขึ้นชื่อ ซึ่งได้แก่ วัดน้ำใส วัดเงิน วัดทอง รายละเอียดการเดินทางขอไม่ลงนะคะ เนื่องจากมันเปลี่ยนแปลงตามความสะดวกของแต่ละบุคคล จากสถานีออกมาก็จะพบกับ โตเกียวทาวเวอร์ แวะซื้อบัตร 1 day และขึ้นรถแถวๆนี้
วัดแรก Kiyomizu-deraหรือวัดน้ำใส ไฮไลท์ของที่นี่ คือตัวระเบียงวัด ที่สร้างโดยการใช้ท่อนซุงมาขัดกันจนเป็นโครงสร้าง โดยที่ไม่มีการใช้ตะปู ยึดตอกท่อนซุงเลยซักตัว และ สายน้ำ3 สายที่ใครไปใครมา จะต้องมาดื่ม เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่า จะโชคดีเรื่องการงาน สุขภาพ และความรัก แต่ว่าจะเป็นสายน้ำเส้นไหนอันนี้ไม่ได้ถามคนญี่ปุ่นค่ะ ลืม... สำหรับค่าเข้าที่นี่ สนนราคา 300 เยน
อ่อ .. ลืมไปอย่างวัดนี้ตั้งอยู่บนเขาค่ะ เมื่อขึ้นไปที่ระเบียงไม้ เราจึงสามารถมองเห็นวิวของ เมืองเกียวโตได้ไกลเชียว และแน่นอนค่ะ เรามองเห็นเกียวโตทาวเวอร์ด้วย มาดูบรรยากาศบริเวณรอบนอกมีของขายเพียบๆค่ะ มีสาวๆ แต่งตัวกันเป็นไมโกะ กันเยอะแยะเลยค่ะ แต่ที่จริงแล้วเป็นบริการรับแต่งตัวให้นักท่องเที่ยวค่ะ สนนราคาประมาณ 10,000 เยนต่อ ครั้งรึว่า เป็นชม. ไม่แน่ใจ
มาดูสถานที่แห่งต่อไปค่ะ เราไปกันที่ วัดเงิน Ginkakuji ค่าเข้า 500 เยน น่าเสียดายว่าช่วงที่ไปนั้น กำลังทำการปรับปรุงอยู่ เลยไม่ได้เห็นอาคารที่เป็น วัดเงินแบบเต็มๆ เค้าว่ากันว่า อาคารนี้หรือพลับพลาเงิน ถูกสร้างโดยโชกุนท่านนึง ตั้งใจจะสร้างให้คู่ชีวิตของท่าน โดยจะห่อคุมอาคาร ทั้งหลังด้วยเงิน แต่ท่านได้จากไปเสียก่อน ทำให้การสร้างได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น อาคารที่เราเห็นจึงเป็นแค่เพียงแผ่นไม้สีน้ำตาลเท่านั้น
นอกจากนี้เรายังเห็นสวนหินแบบเซ็นอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วยค่ะ
และสถานที่สุดท้ายของวันนี้ นั่นคือ วัดทองหรือKinkakuji ค่าเข้า 400เยน โชคยังดีที่เราไปยังเปิดอยู่ แสงก็ยังมีอยู่นิดหน่อย อย่างน้อยก็ได้รูปมาอวดกัน ช่างเป็นที่ๆควรจะมาจริงๆค่ะ บอกได้คำเดียวว่าสวยมากกกกก นอกจากตัวอาคารที่ถูกล้อมไว้ด้วยทองแล้ว สระน้ำที่อยู่รอบอาคารนั้น ยังสะท้อนเงาของวัดทอง ทำให้สวยขึ้นไปอีก แต่อยู่ได้ไม่ถึง 10 นาที รอบๆตัวช่างมืดลงอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่จะได้เดินดูอย่างเต็มตา เราก็ต้องอำลาออกมาซะแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เราจะต้องกลับมาที่นี่อีกแน่ๆ
ที่จริงแล้ว เราตั้งใจว่าจะไปกิออนในตอนกลางคืน แต่ว่า ในตอนนั้นสติคงจะไม่มีแล้ว คิดแต่หาทางจะกลับไปนัมบะ ต่อรถลูกเดียว จนลืมว่าตั้งใจจะนั่งรถบัสกลับ แถมยังหลงทางอีกต่างหาก แต่ก็ยังไม่เข็ดที่จะเที่ยวและครั้งหน้าถ้ามีโอกาส จะเก็บสถานที่เที่ยวในเกียวโตให้หมดเลย คอยดู ...
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
Last Update : 18 มกราคม 2553 21:20:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1199 Pageviews. |
|
|