ปรุงก่อนชิม
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปรุงก่อนชิม's blog to your web]
Links
 

 
เล่าสู่กันฟัง

ชีวิตได้ดำเนินมาระยะเวลาหนึ่งย่อมรู้ได้ว่า ลักษณะของชีวิตนี้เป็นอย่างไร อยากจะบันทึกไว้ ให้เห็นภาพ หากจะนำส่วนดีไปเป็นแบบอย่างก็ยินดี แต่พึงระวังว่าบางอย่างทำแล้วอาจไม่ได้ผลตามที่ปราถนา เพราะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ผู้คน และกาลเวลาที่แตกต่าง

ตอนเด็กช่วงอายุ 5-9 ขวบอยู่ที่นครสวรรค์ พ่อแม่เลี้ยงดูอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว นอกบ้าน ชีวิตส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเรียน พอโตมาแนวทางของชีวิตก็ยังคงเป็นแบบเดิม คือส่วนใหญ่เป็นเรื่องเรียน ไม่ค่อยเที่ยว ไม่คอยมีเพื่อน ประเภทไปกินนอนที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่บ้านไม่มีปรากฏ จนเรียนจบ ทำงานก็ยังเป็นอย่างที่ผ่านมา ช่วงปี พ.ศ. 2525 ได้ศึกษาทางด้านช่าง ทำให้มีลักษณะของช่างติดตัวเป็นอุปนิสัย เช่น การวิเคราะห์ หาเหตุ หาผล กลายเป็นคนตรงไปตรงมา ทำอะไร คิดอะไร ต้องยึดหลักเหตุและผล ชอบหลักการทางวิทยาศาตร์ ชอบอ่านประวัติบุคคลสำคัญของโลก ที่คิดค้น สิ่งต่างๆ เช่น ไฟฟ้า วิทยุ การสื่อสาร และมีความสัทธราต่อบุคลที่เปรียบเสมือนบุคคลพิเศษ เหนือนคนธรรมดา ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ภาพเก่า ของเก่า ที่ดูแล้วทำให้จิตนาการถึงเหตุการณ์ในอดีต ความคิด การกระทำของคนในอดีตที่ผ่านมา ทำให้คิดถึงสัจธรรมของโลก ที่เวลาจะผ่านไปอย่างไรก็ตาม ความเป็นอยู่ การคิด การกระทำของคน ที่มีต่อกันก็ยังคงเหมือนเดิม เช่น ความรัก ความเกลียด ความโกรฐ การเอารัดเอาเปรียบ การอิจฉารีษยา และอื่นๆอีกมากมาย เป็นไปตามหลักของศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้ ทำให้ผมชอบที่จะศึกษาคำสอนของพุทธศาสนา เพราะตรงกับความเป็นจริงและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เกี่ยวกับเรื่องนี้บางครั้งก็ไม่เห็นด้วยกับคนที่ชอบไหว้พระ สวดมนต์ บนบาน แต่ไม่สนใจหลักคำสอนที่สำคัญ เป็นแนวทางที่ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข แต่ก็เข้าใจในความแตกต่างของมนุษย์ ที่มีความแตกต่างกันมากทั้งพื้นฐานความรู้ และสถานะภาพ ลักษณะพื้นฐานที่เป็นช่าง ที่คิดวิเคราะห์ ช่างสักเกตุ รอบคอบ ทำโน้นทำนี้ ดัดแปลง ทำงานช่างได้หลายแขนง หลายสาขา อีกทั้งยังเป็น โปรแกรมเมอร์ เขียนโปรแกรม ต่างๆ ศึกษาค้นคว้าความรู้ทางด้านงานวิศวกรรม งานช่าง งานโปรแกรมเมอร์ ด้วยต้นเอง ตามที่ได้กล่าวมาจะเห็นว่าไม่ค่อยได้คบหาสมาคม ทำให้ไม่ค่อยรู้จักผู้คน เจรจาไม่ค่อยจะคล่องแคร่ว การเป็นคนขาดศิลปะในการพูด การเจรจา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จในการงาน ประจบหรือชม ยอคนไม่เป็น ถ้าจะทำก็จะเป็นการแสแสร้ง เลยไม่คิดจะทำในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบ ถึงขั้นเกียดมากๆ เลยกับพอชอบทำงานด้วยปาก แต่ทำอะไรไม่เป็น คนพวกนี้พบมาในสังคม และเป็นที่มาของการไม่ยุติธรรมต่างๆในองค์กร คือคนพวกนี้มักได้ดี กว่าคนที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นแต่พูดเอาใจหัวหน้าไม่เป็น ถ้าหัวหน้าเป็นคนที่ไม่มีสติก็จะเสมือนถูกมนต์เสน่ห์ ให้เห็นผิดเป็นถูก และเห็นถูกเป็นผิด และทั้งหมดเป็นจะเป็นแบบอย่าง เป็นทำเนียม ที่ทำแบบทุเรศแบบนี้ต่อๆกันมา เพราะความแกร่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นมันอยู่ในตัวของคนทุกคน อยู่แล้ว เพียงรอเวลาที่จะผุดขึ้นมาเท่านั้น มันเหมือนเป็นสัญชาติญานของความดำรงความอยู่รอดของมนุษย์ ซึ่งการใช้คำพูดทำงานแทนการลงมือทำ การเอาเปรียบ เอาดีในตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เป็นการกระทำที่หน้ารังเกียจ ซึ่งผมไม่ชอบอย่างมาก คิดว่าหากมีอำนาจจะจัดการคนพวกนี้ให้สิ้นซาก เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่คิดดี ทำดี ได้มีโอกาสได้ดีบ้าง ไม่ใช้คิดดีทำดีแล้วต้องมานั้งทุกข์ใจ ร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำดีไม่มีคนเห็น หัวหน้าไม่เห็น ไม่เข้าใจ เพราะหัวหน้าก็เป็นคนประเภท ทำไม่ได้ทำไม่เป็นเช่นกัน มาคิดอีกแง่หนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะคนที่มีพฤติกรรมทำนองใช้ปากทำงานนี้เป็นเพราะเขาทำงานแบบคิดหรือลงมือทำไม่เป็นนี่เอง เขาจึงใช้ปากทำงานทดแทน สิ่งด้อย ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดนั้นเอง เพราะถ้าไม่ใช้ปากก็เท่ากับไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ดูอย่างคนพิการตาเสีย ก็จะมีหูที่ใช้งานได้ดี หรือ มือแขนเสีย ก็จะใช้เท้าได้ดี

ผมให้ความสำคัญกับการรักษาคำพูด และให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ โดยที่ไม่ละเลย ความรู้สึกของคนอื่น หากไม่สุดวิสัยจริง ๆ ทำแบบนี้มาตลอดชีวิต และทั้งอยู่ที่ทำงาน หรือที่บ้าน งานในบ้านทุกอย่างไม่ว่าตัวบ้าน บริเวณบ้านงานนอกบ้าน งานในบ้าน งานครัว งานดูแลลูกๆ ทำเองหมด พยายามทำเอง ไม่พึ่งคนอื่น (ไม่มีให้พึ่งพาได้ หายาก) จนเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงานพวกนี้ ไม่ได้มีเวลาคบหาสมาคมกับเพื่อนๆ ทำให้เพื่อนๆ หายหน้ากันไปหมด การที่ทำอะไรได้ทุกอย่างทำให้มีความภาคภูมใจ ใครเห็นก็ชื่นชม แต่ว่าทำให้ไม่มีเวลาว่างเหมือนคนอื่น บางครั้งก็รู้สึกว่ารู้งี้ทำไม่เป็นดีกว่าจะได้ไม่ต้องทำ

เกี่ยวกับการทำงาน ลักษณะแนวทางในการทำงานที่ตนเองรับผิดชอบนั้น ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามเน้นที่การป้องกันปัญหาที่ตามมา มีการวางแผนไม่ทำแบบทำไปแก้ไป หรือทำแล้วต้องแก้ไขที่หลัง ชอบที่จะทำการวางระบบงานในทุกส่วนๆให้รอบคอบรัดคุม เพื่อให้งานดำเนินต่อไปได้ ส่วนใหญ่อุปนิสัยจะสอดคล้องกับหลักการของ 7 Habits พอดี จากที่ได้อ่านหนังสือเรื่องนี้แล้วขอบ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังสือนั้นสอดคล้องกับแนวคิดและพฤติกรรมของเราพอดี ทำให้ชอบหนั้งสือเล่มนี้เป็นพิเศษ และยังมีเรื่อง 8 ‘s Th Habits อีกเล่มหนึ่งแต่งโดย โควี่ สตีเฟน เช่นกัน และก็สอดคล้องและเห็นตามด้วยเช่นกัน แต่เมื่อทำตามแล้วปรากฏว่าเกิดช่องว่าง ที่ผู้คนที่เกี่ยวข้องด้วยเค้าไม่ได้อ่าน ทำให้เค้าไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ หรือ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำ ในสิ่งที่คิด ทำให้เกิดผลเสีย คือเค้ามองว่าไม่ดีบ้าง แปลกบ้าง เมื่อผมดูว่าความเป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูง ดึงศักยภาพออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่แต่คนอื่นเขาไม่ได้เห็นตามนั้นด้วย หากเขาเห็นดีเห็นงานด้วยกับเราก็เท่ากับยอมรับว่าตนเองด้อยว่า เพื่อไม่ต้องการให้เห็นภาพนั้น เขาจึงพยายามปิดกั้นเรา ยิ่งทำให้เราดูแย่มากเท่าไร ก็จะทำให้ตัวเขาดูดีขึ้นเท่านั้น เป็นหลักจิตวิทยาง่ายๆ

กีฬาที่ชอบนั้นคือ เล่นฟุตบอลและตะกร้อ เพราะมีทักษะมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนด้านศิลปะนั้นก็มีทักษะด้านการวาดภาพและถ่ายภาพ สามารถดูงานศิลปะได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้เลยคือการร้องเพลง และการใช้เครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ได้เรื่องเลยไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้เลย

ลักษณะเด่นชัดอีกเรื่องหนึ่งคือการให้โอกาสคนที่ด้อยโอกาส อาจจะเป็นเพราะตนเองเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่ยากจน พอชีวิตดีขึ้น ก็จะเข้าใจ เห็นใจคนที่ด้อยโอกาส สงสารคนง่าย อยากส่งเสริมคนดี คนด้อยโอกาส ในทางาตรงข้ามกับไม่ชอบคนที่มีโอกาสแล้วแต่ไม่ทำตัวให้สมกับที่ได้โอกาส หรือคนที่เขามาสู่ตำแหน่งสูงๆได้โดยใช้เส้นสาย ไม่ผ่านการทำงานไต่ตำแหน่งมาตามลำดับอย่างสมเหตุสมผล เสมือนการแซงคิว รัดคิว เห็นแต่ตัว ซึ่งไม่ชอบมากๆ




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2555 10:05:27 น. 2 comments
Counter : 826 Pageviews.

 
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองเลยครับ มีหลาย ๆ อย่างเหมือนกันมาก ผมก็เด็กคอนหวันคนนึง
เป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่ชอบใช้ปากทำงาน แต่ตอนนี้กำลังจะหลุดพันชีวิตลูกจ้างแล้ว

ขอให้โชคดีครับ คนบ้านเดียวกัน


โดย: กระทาชาย IP: 101.109.219.32 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:33:54 น.  

 
สืบค้นเจอบทความนี้จากกูเกิ้ลโดยบังเอิญ เรื่องการทำงานด้วยปาก
อ่านประเด็นนี้ที่เขียนมามันตรงกับที่เป็นอยู่ในองค์กรผมมากๆ ครับ...


โดย: ธรรม์ IP: 180.180.223.40 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:45:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.