ประสบการณ์ตรง ฮวงจุ้ย
วันนี้ 1 สิงหาคม 2555 เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผู้เขียนเอง ซึ่งมีความตั้งใจจะเผยแพร่มานานแล้ว เพื่อเป็นกรณีศึกษา แต่ก่อนที่จะมุ่งไปที่ประเด็นสำคัญของเรื่องขอเล่าถึงที่มาของตนเองก่อน โดยมีเจตนาที่จะให้เห็นลักษณะอุปนิสัย หรือความรู้ความสามารถประสบการณ์ทั้งนี้ไม่ได้หวังที่จะยกยอปอปั้นตนเองเพียงมีเจตตนาที่จะชี้ให้เป็นว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่มีความสอดคล้องกันระหว่างบุคคลกับเหตุการณ์ต่าง ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2525ตอนนั้นอายุ 15 ปี หลังจากจบ มัธยมศึกษาปีที่ 3ผมไม่มีโอกาสเรียนต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯได้มีทรงมีพระประสงค์ช่วยเหลือเด็กวัดสระแก้ว อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ให้เข้ากรุงเทพฯเพื่อมาเรียนวิชาชีพ ที่โครงการพระดาบส ซึ่งเป็นโครงการตามกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผมเป็นเด็กคนหนึ่งในนั้นที่โดยรับพระมาหากรุณาธิคุณ ในครั้งนั้น ผมได้เรียนวิชาช่างซ่อมวิทยุและโทรทัศน์จนจบหลักสูตร จากนั้นผมก็ได้เรียนต่อในระดับ ประกาศวิชาชีพ ประกาศวิชาชีพชั้นสูงและ วิศวกรรมศาสตร์สาขาอิเล็กทรอนิกส์สื่อสาร ในปี พ.ศ. 2536 และเมื่อวันที่ xxxx ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่วังสวนจิตรดาพระองค์ท่านชื่นชมและทรงกล่าวชมว่า มีความพยายาม จนสำเร็จ ในการศึกษาหลังจากเรียนจบ ผมก็เข้าทำงานที่บริษัท xxx ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศไทยและขณะที่ทำงานก็ได้ เดินทางไปต่างประเทศหลายครั้งด้วยกัน เช่น สหรัฐอเมริกา, สิงคโปร, มาเลเซีย, ฮ่องกง ซึงถือว่าชีวิตจากเดิมเป็นเด็กกำพร้า วัดสระแก้ว ก็มีโอกาสได้เล่าเรียนจนจบวิศวะโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยและมีทักษะงานด้านช่างหลายแขนงที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญสมัยที่เรียนอยู่ที่โครงการพระดาบส โครงการตามกระแสพระราดำริ พอได้ทำงานที่บริษัท xxxจึงเป็นที่ชื่นชมของหัวหน้างาน จนได้มีโอกาสไปอบรมและดูงานในต่างประเทศซึ่งน้อยคนจะได้มีโอกาสอย่างนี้ จากโอกาสที่ผมได้รับตามที่กล่าวมานั้นในความรู้สึกของผมเห็นว่าสูงส่ง และมีคุณค่าต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นกรอบให้ผม คิดเสมอว่า จะต้องประพฤติตัวให้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องตลอดไป คิดและทำสิ่งดีๆเพื่อตอบแทนและตั้งใจทำงานให้ดีทีสุด เพราะชีวิตนี้ได้โอกาสดีๆมามาก บุคคลที่ให้การอุปการะรวมทั้งสถานีต่างๆที่ได้ให้การพักพิง อบรม ดูแลมาตั้งเด็กจนโต จากที่กล่าวมานั้นจะเห็นว่าผมมีกรอบความคิดและถือว่าเป็นเส้นทางหรือข้อกำหนดในการทำภารกิจต่างไม่ว่าจะในฐานะลูกน้องในฐานะหัวหน้า ในฐานะลูก ในฐานะสามี ในฐานะพ่อ ในฐานะคนในสังคม เพื่อนฝูงซึ่งไม่ว่าจะในฐานะใดผมตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอว่าทำสิ่งใดบกพร่องหรือไม่ซึ่งผมจะไม่ยอมให้เกิดความบกพร่องขึ้นแน่ แต่วันหนึ่งขณะที่นั้งทำงานอยู่ดีๆเมื่อวันที่ xxxx ได้รับ email จากหัวหน้าระดับผู้บริหารแจ้งว่าให้คนมาทำงานแทน เนื่องจากมีปัญหาในการบริหาร เรื่องราวประมาณว่าเราก็เป็นคนพายเรื่อคนหนึ่งตั้งใจที่จะพายเรือองค์นี้ให้ไปข้างหน้าอย่างถูกทิศทิศทาง ในขอบเขตหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้วจู่ๆ ก็มีกัปตันเรือมาถีบด้วยเท้าอย่างแรงจนกระเด็นตกเรือไป ไม่ได้ไต่ถามสักคำ เพื่อฝูงก็ไม่มีสักคนที่จะยื่นมือช่วยเหลือผมลอยคอเกาะเรือตามเรือไป ไม่สามารถขึ้นเรือได้ เกือบ 3 ปีที่ตกอยู่ในภาวะเศร้าหมองทุกข์ตรม เฝ้าถามตัวเองว่า เราผิดอะไร ทำไม่ทำกับเราอย่างนี้ ก่อนนั้นไม่นาน ร่างกายก็ไม่ปรกติวันหนึ่งไปช่วยแฟนตั้งร้านขายเสื้อผ้าที่ตลาดโบเบ้ เป็นตลาดที่ขายตอนเช้ามืดฉนั้นต้องตื่นนอนแต่เช้า ร่างกายพักผ่อนน้อย ต้องกินเครื่องดื่มบำรุงกำลังทุกวันจนวันหนึ่ง พอจะเดินไปที่รถปรากฏว่า ขาบริเวณน่องเป็นตระคิว ทั้งสองขา เดินต่อไม่ได้ต้องยืนเกาะต้นไม้ข้างทาง ความคิดตอนนั้นกังวล ทุกข์ใจเป็นที่สุดเราเป็นอะไรกันนี่ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในที่สุดก็ไปพบหมอที่โรงพยาบาลหัวเฉียวผลประกฏว่าเป็นเบาหวาน หมอบอกโรคนี้รักษาไม่หายต้องกินยาตลอดชีวิต ความทุกข์ใจความกังวล เพิ่มขึ้นทวีคูณ ด้วยความที่ไม่รู้จักโรคมาก่อนประกอบกับหมอให้ยาลดน้ำตาล และยาลดไขมันในเลือดเต็มอัตรา ในขณะที่ให้กินข้าวน้อยลงทำให้ร่างกายแย่หนักไปอีกด้วยฤทธิ์ยาที่แรงเกินไป เวลาขับรถไปทำงานที่อยู่ไกลและรถติดหนัก ความเครียดเกิดขึ้น หรือบางครั้งฤทธิ์ยาทำให้นิ้วมือหงิกขณะที่อยู่ในรถคนเดียว ต้องอดทนนำขับรถต่อไป ให้ถึงจุดที่จะพักรถได้ระหว่างทางก็โทรหาแฟน โทรกาเพื่อนบอกอาการว่าแย่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้เพราะผมอยู่ในรถคนเดียว เป็นอย่างนี้อยู่ ประมาณ 6-9 เดือนระหว่างนั้นก็มีคำสั่งให้ยุติงาน ตามที่กล่าวมา ถือว่าในระยะเวลาใกล้ๆ กัน เจอแรงๆ 2 เด่งเลย ยังครับ ยังไม่หมดต่อจากนั้น ลูกน้องที่เรา ให้ความดูแล เอ็นดูคอยช่วยเหลือแนะนำและสอนงานก็ทำตัวออกห่าง ไม่เข้าใจ ขัดแย้งกันมากขึ้นเหมือนมีบางเรื่องที่เข้าใจผิดแล้วทำสิ่งแย่ๆ สิ่งที่ส่งผลกระทบถึงผม ดูแย่ลงหัวหน้างานโดยตรงก็ไม่ใยดี ก็เกิดการขัดแย้ง ไม่กินเส้นกันอีก อย่างที่บอกว่าผมสำรวจตนเองเสมอเพราะมีกรอบในการดำเนินชีวิต ยังไม่พบว่าตนเองทำอะไรผิดแต่ผลที่ได้รับเหมือนถูกลงโทษ เหมือนคนถูกยัดยาบ้าแล้วถูกนำไปขังคุกโดยไม่มีการไต่สวน อะไรทำนองนั้น เป็นเวลายาวนานที่สังคมที่ทำงานในทุกด้านแย่ลงอย่างมากเพื่อนและญาติพี่น้อง ก็ห่างหาย เข้าใจผิด ไปหมด แม้แต่ในหมู่บ้านช่วงหนึ่งในฐานะเป็นกรรมการหมู่บ้าน อยู่ช่วงหนึ่ง นอกจากจะร่วมประชุมแล้วผมคนเดียวที่ทำประหนึ่งว่าเป็นคนสวนของหมู่บ้านอีกตำแหน่งหนึ่ง คือกรรมการมาประชุมกัน คุยกัน แล้วก็กลับ แต่งานที่กำหนดกันไว้ในที่ประชุมท้ายที่สุดก็ไม่มีคนรับไปทำ ผมจำเป็นต้องลงมือทำ แต่ก็พอไหวไม่หนักมากเพราะเรามีความเป็นช่างมาก่อนงานไฟฟ้าสนามที่เสีย ทำได้ซ่อมได้ก็ทำแต่ไม่มีคนเห็นความดี แต่ในทางตรงข้ามกับถูกต่อว่าอย่างรุนแรง จนคิดว่า ไม่ไหวแล้วทำให้ขนาดนี้ยังโดนขนาดนี้ขอบายดีกว่า ผมทิ้งงานทั้งหมด และไม่ร่วมประชุมกรรมการอีกเลยนี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ ทำอะไร อะไร ดูแย่ไปหมด ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ยังอีกครับ ยังไม่หมดความซวยยังตามรังควานไปจบไม่สิ้น มีอยู่วันหนึ่งรถที่ใช้อยู่มีคราบน้ำมันเครื่องออกมาตรงห้องบริเวณหัวฉีด วิ่งอืด และควันดำ จึงนำไปซ่อมช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนหัวฉีดหรือไม่ก็วางเครื่องใหม่ แล้วติดแก๊สเอาละซิความรู้เรื่องเครื่องยนต์ก็ไม่มีเลย ทั้งสองทางเลือกก็ใช้เงินเป็นหลายหมื่นในที่สุดเลือกวางเครื่องใหม่ ไม่รู้อะไรดลใจให้เลือกทางนั้น ปรากฏว่า ทำไปทำมา บานปลายเจอช่างไม่ดีด้วย เกือบจะวางมวย กันเลยทีเดียว คุยกันดีๆไม่ได้แล้วผลงานน่าโมโหมาก งานไม่เรียบร้อย นำรถออกมาใช้งาน วันแรกขับไปทำงานเติมน้ำมันเต็มถัง ขับไปน้ำมันรั่วเป็นทางเลย ต้องกลับมาแก้ไขวันต่อมานึกว่าเรีบยร้อย ขับไปนครสวรรค์ ออกจากกรุงเทพ ฯ ไปได้แค่อ่างทองปรากฏว่าเกียร์เสีย ต้องจ้างรถยกลากมาจากอ่างทอง ลูกเมียลำบากกันหมด เซ็งสุดๆ นั่งในรถแต่รถถูกลากมาอีกทีเป็นอะไรที่ไม่เคยเจอในชีวิตนี้ ท้ายที่สุดรถคันนี้ต้องขายทิ้ง ทั้งๆที่รถยังดีอยู่เลยจากเรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ มารู้ตอนหลังว่า ด้วยสาเหตุเล็กๆนี้แก้ไขได้ด้วยการแก้ไขที่หัวฉีด ไม่กี่ตังค์ก็จบ ปรากฏว่างานนี้เสียเงินไปประมาณ70,000 บาท ระหว่างที่วางเครื่องรถคันนี้ มีเหตุการณ์ซ้อนขึ้นมาอีกเนื่องจากการวางเครื่องใช้เวลาเป็นเดือน ระหว่างรถอยู่ที่ศูนย์ ต้องไปทำงานและไม่มีรถใช้ลำบากหนักไปอีกจึงขอยืมรถญาติมาใช้ ปรากฏว่า ใช้ไปใช้มากล่องควบคุม หรือกล่อง CPU เสียอีก เสียในขณะที่เรานำรถมาใช้ซวยอีกต้องเสียเงินเปลี่ยนกล่องควบคุมนี้อีกประมาณ 25,000 บาท ความซวยยังไม่หมดมีอยู่วันหนึ่งจอดรถซื้อกับข้าว จอดอยู่ใกล้ๆ ร้าน ปรากฏว่ากลับมาที่รถกล้องถ่ายรูปราคาหมื่นกว่าหายไปแล้ว ทั้งๆที่จอดรถห่างจากร้านค้าไม่ถึง 20 เมตร ในซอยข้างวัดโสมนัส หลายท่านคงคิดว่ามันต้องหายหยู่แล้วประเภทจอดรถไม่ล็อกรถ หรือ ชอบเอาของมีค่าวางทิ้งไว้ในรถ ปกติก็หายกันอยู่แล้วแต่สำหรับผมถ้ามองเป็นกรณีๆ ก็พอจะรู้เหตุได้ ว่าเหตุเกิดเพราะอะไรแต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไม่ต้องซวยซ้ำซวยซ้อน ? ระหว่างที่พิมพ์นี้ก็ทรมารมาก ปวดไหลปวดแขนขวามาเป็นเดือนๆ อาการนี้เรียกว่า Office syndromeคือผมทำงาน Office ใช้คอมพิวเตอร์ทุกวัน และทั้งวัน นี่ก็เป็นปัญหาเรื่องสุขภาพอีกอาการหนึ่งจะเห็นว่าสิ่งที่ปรากฏล้วนมีเหตุมีผล คือ รู้ได้ว่าผลเกิดจากอะไร เรารู้ได้ตรวจทานหาเหตุได้ แต่คำถามว่า ทำไม่ต้องเป็นเรา ทำไม่ต้องเกิดเรื่องหลายเรื่องในช่วงเวลาเดียวกัน ยังมีอีกอาการหนึ่งคือ ตอนถ่ายมีเลือดออกทางทวาร ไม่กล้าไปหาหมอและไม่กล้ามอง กดน้ำทิ้งไปอย่างเดียว ตอนนี้คิดว่า ถ้าจะตายก็ห้ามไม่ได้ มันซวยซ้ำซวยซ้อน ตอนที่มีปัญหาเรื่องงานนอกจากจะตรวจสอบว่าเราผิดตรงไหน แต่ไม่พบสิ่งบกพร่องในทางตรงข้ามกับเห็นว่ามีผลงานเป็นที่ประจักษ์และปัจจุบันผลงานก็ยังปรากฏอยู่ นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผู้อ่านหลายท่าน คงได้ยินมาว่า ทำดี เข้าไว้ ชีวิตจะดีเอง ผมขอบอกว่า ไม่เสมอไปสังคมมีทั้งคนดี และคนไม่ดี ตัวท่านเองทำดี แต่อย่าลืมเรื่องเวร เรื่องกรรมสิ่งที่จะเกิดกับเราในอนาคต ครอบครัว มันไม่ขึ้นอยู่กับการทำดีในช่วงชีวิตหรือปัจจุบันเสมอไปบางคนอ้างถึงโชค หรือ เคราะห์กรรม ถ้าพูดแบบนั้นก็ได้ เพราะตามคำสอนทางพุทธศาสนาสอนว่าเวรกรรมมีจริงแต่ด้วยความที่ยังเป็นปุถุชน คนธรรมดายังไม่สามารถยั่งรู้ที่มาที่ไปของเรื่องเวรกรรมได้ ความโชคดีหรือเคราะห์กรรมเกินความสามารถที่จะเข้าใจหรือรับรู้คาดการณ์ให้เห็นชัดๆได้แต่ก็เชื่อและศรัทราในคำสอน ศิล สมาธิ ปัญญา กิเลส ผมใช้เวลาช่วงที่ทุกข์ใจ เข้าหาธรรมมะ ดถือคำสอนเรียนรู้คำสอนทุกหมวดธรรม เข้าโบสถ์ นั่งสมาธิ เพ่งพระพักต์ขององค์พระประธานและระลึกถึงคำสอน รวมทั้งหาคำสอนที่เป็นหมวดธรรมต่างๆ ตามอินเตอร์เน็ท นำข้อธรรมที่ดีมารวบรวมไว้ร่างเป็น Mind map ทำเป็นหมวดหมู่ นี่เป็นวิธีการทำของผมเพื่อให้คำสอนทางพุทธศาสนาที่มีพลังและเป็นความจริง เพื่อให้ตัวเองได้เข้าถึงได้ง่ายๆแน่นอนสิ่งนี้ช่วยให้ความทุกข์หายได้ แต่ด้วยความจริงของโลกเรายังต้องพบต้องเจอสิ่งต่างๆ อีกต่อไปไม่สามารถหลุดพ้นหรือละทิ้งทุกสิ่งอย่างที่เราสัมพันธ์อยู่ไปได้ แบบปุถุชนคนธรรมดา ไม่ทำความชั่ว ทำแต่ความดี นับถือพุทธด้วยเชื่อในคำสอน แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปในวิธีของปุถุชนคนธรรมดา เวลาผ่านไปนับเดือนนับปี ชีวิตตกต่ำทุกด้าน มีอยู่วันหนึ่งขณะขับรถกลับบ้านฟังวิทยุพิธีกรเขา สนทนากับแขกรับเชิญ ที่เป็นอาจารย์สอนทางฮวงจุ้ย ผมสนใจขึ้นมาเพราะในรายการแจ้งกำหนดวันอบรม และค่าเรียนไม่แพง แค่ 4500 บาทพอดีก่อนหน้านี้ที่บ้านมีการจัดห้องพระ แล้วเถียงกันกับภรรยาต่างคนต่างก็อ้างแบบนี้ดีแบบนี้ไม่ดี ตรงห้องน้ำ ซึ่งไม่มีความรู้ด้วยกันทั้งคู่ฟังคนอื่น มา เลยตัดสินใจสมัครไปเรียนไม้มันรู้ไปเลยว่าที่ถูกต้องมันป็นอย่างไรเพื่อว่าปํญหาต่างๆที่เกิดขึ้นมันจะหายไปบ้าง ด้วยการที่ผมเป็นคนที่ทำอะไรทำจริงอยากรู้อะไรก็ต้องรู้แบบตกผลึก การเรียนที่สถาบันเขาสอน สัปดาห์ละครั้ง เรียนวันอาทิตย์ทั้งหมด 3 สัปดาห์ คือเรียน 3 ครั้ง ผมเห็นว่า หนึ่งนานเกินไปสองไม่น่าจะได้รายละเอียดครบ ผมตั้นสินใจศึกษาด้วยตนเองเพิ่มเติมจากที่ไม่รู้เรื่องเลย รวมทั้งไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย หรือหมดดูต่างๆนาๆ ด้วย การศึกษาด้วยตนเองของผมคือใช้เวลาเป็นวันๆหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ท ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษตอนแรกการค้นหาภาษาอังกฤษยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ Key word ว่าอย่างไรหาไปหามาจึงรู้ว่าควรใช้คำ Feng Shui นอกจากอินเตอร์เน็ทแล้วยังซื้อหนังสือมาอ่านไม่น้อยกว่า 15 เล่มแต่พอถึงวันอาทิตย์ผมก็ไม่เรียบกับอาจารย์ พอเรียนครบ 3 ครั้งปรากฏว่ามีหลักสูตรฮวงจุ้ย2 อีก ต้องเสียเงินเรียนต่ออีก พอจบหลักสูตรฮวงจุ้ยอาจารย์บอกต้องเรียนดูดวงจีนอีก เพราะต้องดูดวงปรับดวงคนที่อาศัยในบ้านอีกรวมๆแล้วต้องเสียเงินค่าเรียน ค่าหนังสือที่ซื้อมาอ่านเอง และค่าเข็มทิศค่าโปรแกรม ฮวงจุ้ย ฤกษ์ยาม ดวงจีน (ยังไม่หมด) อีก รวมๆแล้วประมาณ 30,000 บาทผมรูดบัตรเครดิตไม่เรียนครับ เพราะเงินหมดตั้งแต่ 4,500 แรกแล้วตอนแรกนึกว่า จบแต่ 4,500 บาทนึกถึงตัวเองว่านี่คือการบานปลายอีกหรือเปล่าวะนี๊ พอผมได้ศึกษาไปได้ระยะหนึ่งพอรู้หลักการตรวจสอบ รู้หลักการแก้ไข ฮวงจุ้ย ก็กลับมาดูบ้านตนเอง ปรากฏว่า องศาบ้านกลับทิศบ้านองศากลับทิศ เป็นบ้านที่อยู่แล้วล้มเหลว สอดคล้องตรงตามทฤษฎีทุกอย่างเหตุการณ์ที่ตัวเอง ที่ได้อยู่บ้านหลังนี้มาตลอด และเป็นหัวหน้าครอบครัวอึ้งเลยครับ สิ่ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมาองศาทิศทางของบ้านที่ตรงตามทฤษฎีแห่งความล้มเหลวความรู้สึกตอนที่ทราบครั้งแรกบอกได้เลยว่านี้คือคำตอบของทุกสิ่งอย่างหรือ? สำหรับผม ใช่ มากกว่า 50 แล้ว เหลืออีก 50 ต้องแก้ไข แล้ว สิ่งต่างๆดีขึ้นจะให้เต็ม 100 (การได้เต็มร้อยจากชายไทยสัญชาติไทย และ เชื้อชาติไทย สายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่ โทรคมนาคมไม่ใช่เรื่องง่าย) อ่านมากันมานานหลายท่านคงอยากจะทราบว่าต่อจากนั้นผมทำอะไรกับบ้านและผลที่ได้ต่อจากนั้นเป็นอย่างไรโปรดติดตามต่อครับ ผมเอาแผนผังบ้านมาแล้วหาทิศของบ้าน จากนั้นหาค่าเลขดาว ใช้ยุค 8 ตีความหมายจากค่าเลขดาวที่ได้พบว่าบ้านหลังนี้ต้องการการเคลื่อนไหว(หยาง)ที่หลังบ้านและต้องการสภาพความนิ่ง(หยิน)ที่หน้าบ้าน ซึ่งถ้าทำได้จะดีทั้งโชคภาพและบารมีแต่ในทางปฏิบัติ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะจะให้หลังบ้านเคลื่อนไหวได้อย่างไรเพราะหลังบ้านก็เป็นกำแพงติดกับบ้านคนอื่นไม่มีประตู และไม่ใช้ทาเข้าออก ส่วนหน้าบ้านต้องการสภาพความนิ่ง ก็ทำไม่ได้อีกเพราะหน้าบ้านเป็นทางที่เราใช้เข้าออกเป็นประจำ มีถนน มีประตูทำอย่างไรก็ให้เป็นสภาพนิ่งไม่ได้ ลักษณะบ้านแบบนี้เรียกว่า องศากลับทิศ บ้านที่ปกติมีโชคลาภบารมีจะต้องการสภาพนิ่งที่หลังบ้านและสภาพเคลื่อนไหวที่หน้าบ้าน หรือที่เรียกว่าหลักภูเขา หน้าน้ำ ทางแก้ของบ้านกลับทิศคือต้องหันประตูบ้านไปรับองศาที่ค่าพลังทิศทางดีขึ้นซึ่งการหันประตูบ้านก็เรื่องใหญ่อยู่เหมือนกัน เพราะต้องดูเรื่องความสวยงามด้วย ผมทดลองวาดแบบจำลองภาพก่อนหันประตูกับหันประตูแล้วดูว่าการที่บ้านบิดเบี้ยวไป น่าเกียจมากน้อยแค่ไหน ดูแล้วก็ขัดๆอยู่ในความรูสึกว่าบ้านท่ได้ฉากได้มุมดีอยู่แล้ว จะหันให้มันบิดเบียวไปทำไม อีกใจหนึ่งก็คิดว่านี้พิสูจน์ด้วยหลักวิชาฮวงจุ้ยแล้วแย่ตามทฤษฎีเป๊ะ ทำไงดี และเท่าที่คุยกับผู้รับเหมา ต้องใช้เงินไม่ตำกว่า 30,000บาท เอาอีแล้วครับท่าน จ่ายๆ จ่ายๆ ผมตัดตัดสินใจอยู่นาน หาวิธีแก้อื่นๆ เช่นลองคำนวณหาช่องประตูใหม่แล้วลองคำนวณดาวดูอีกหลายๆวิธี และรอเครื่องมือเข็มทิศที่จะได้จากฮ่องกงเพื่อที่จะได้ใช้วัดองศาให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุดระหว่างที่รอและตัดสินใจผมได้สร้างสภาพให้หลังบ้านเคลื่อนไหวโดยการ หาฤกษ์ และไปซื้อหินกลิ้งน้ำล้นมาวางที่ทิศหลังบ้านในขณะเดียวกันก็ตั้งโต๊ะหินที่หน้าบ้าน และปิดประตูส่วนหน้าให้มากที่สุดเข้าออกเท่าที่จำเป็น ที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการให้หลังบ้านมีสภาพเคลื่อนไหวและหน้าบ้านมีสภาพนิ่งเป็นการทำชั่วคราวไปก่อน เพราะการหันประตูเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากทำตามนี้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ปรากฏว่าถูกล๊อดเตอรี่รางวัล เลขท้าย 3 ตัว 3ใบ และ ที่บริษัทก็ประกาศโครงสร้างองค์กรใหม่ทำให้ได้รับหน้าที่งานชัดเจนขึ้น ในความรู้สึกถือว่าดีกว่าเดิม ถึงจะไม่ดีที่สุด เงินที่ได้มาจากการถูกถูกล๊อดเตอรี่รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 3 ใบก็ไม่ได้มากแต่ก็ถือว่าเป็นลาภ นำเป็นค่ารถสามารถไปเยี่ยมแม่ที่นอนป่วยอยู่ได้จากเดิมที่ เลือกเงินใช้จ่ายอยู่ไม่มาก (ไม่น่าเชื่อว่ามีเงินใช้ไม่ถึง2 พันต้องใช้ทั้งเดือน คือเงินเดือนออกจ่ายโน้นจ่ายนี้ เหลือ2 พัน จะใช้อะไรกันนักกันหนาว๊ะตรู)เลยหยุดทุกอย่าง แม่ที่ป่วยอยู่ต่างจังหวัดยังไม่สามารถไปเยียมได้ มันเจ็บปวดใจจริง จากการปรับฮวงจุ้ยชั่วคราวเพียงเล็กน้อยก็เห็นผลแล้ว จึงมีความมุ่งหวังที่จะหันประตูในโอกาสที่ไปถ้าได้ผลอย่างไรแล้วจะรายงานให้ทราบต่อไป เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงทุกประการครับ ก่อนที่จะจบบทความนี้ขอให้ทุกท่านได้เข้าใจว่า เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับผมจริง ซึ่งเป็นเรื่องของคนๆเดียวหมายถึงอาจจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคนวิธีการก็อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะในแต่ละคนมีความแตกต่างกันมาก ทั้งบุญกรรม ดวงสภาพแวดล้อม กาลเวลา ขอให้ใช้บทความนี้เป็นกรณีศึกษาหนึ่งเท่านั้น และทำแต่ความดีและเว้ณความช่วย เข้าถึงคำสอนทางพุทธศาสนา และน้อมนำมาปฏิบัติชีวิตมีทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดี ช่วงใดชีวิตตกต่ำจะได้ไม่แย่มาก ชั่งใดชีวิตรุ่งจะได้รุ่งเรืองถึงขีดสุด วันนี้ 1 กันยายน 2555 ถูกล๊อตเตอรี่เลขท้าย 3 ตัวอีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน แต่ยังไม่มีเงินสำหรับหันประตูบ้านคาดว่าจะรอเงินโบนัสปลายปี
Create Date : 26 ตุลาคม 2555 | | |
Last Update : 1 ธันวาคม 2555 15:53:48 น. |
Counter : 1667 Pageviews. |
| |
|
|
|