Morocco - การผจญภัย ครั้งใหม่ในดินแดนอาหรับ ตอนที่ 5 - Volubilis - Meknes
สถานที่ท่องเที่ยว : Volubilis, Meknes, Morocco
พิกัด GPS : 33° 55' 58.98" N -6° 28' 18.86" E




วันที่ 5 Volubilis (Ruin Ancient Roman) - Meknes

วันนี้เราออกเดินทางกันแต่เช้าด้วยแท็กซี่เพื่อเดินทางไป Volubilis ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งของนครโรมันอันเก่าแก่อันเคยเป็นที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง Mauretania อาณาจักรโรมันในครั้งอดีตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ก่อสร้างในช่วง ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ด้วยพื้นที่กว่า 42 เฮกเตอร์ และมีกำแพงที่กว้างถึง 2.6 กิโลเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แห่งนครแห่งนี้ในครั้งอดีต อีกทั้งยังเคยเป็นเมืองหลวงสั้นๆ ในช่วงยุคกษัตรย์ Idriss I นครแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ทำการเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ แหล่งผลิตธัญพืชและน้ำมันมะกอก ซึ่งชาวโรมันได้นำผลผลิตเหล่านี้ส่งกลับไปนครโรมัน แต่หลังจากนั้นเกิดข้อพิพาทกับชาว Berber (ชนพื้นเมืองของโมรอกโก) เนื่องมาจากชนพื้นเมืองไม่ต้องการให้ชาวโรมันใช้ประโยชน์การผืนแผ่นดันอันสมบูรณ์ของตน 300 ปี แห่งการพิพาท อีกทั้งการเสื่อมสลายของอาณาจักรโรมัน ทำให้ชาวโรมันออกจากประเทศโมรอกโกไป กลางศตวรรษที่ 18 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ส่งผลให้อาณาจักรแห่งนี้ได้รับความเสียหายไปมาก นครโบราณแห่งนี้ได้รับการยอมรับให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งแต่ปี 1997 อาณาจักรโบราณแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ชื่อว่า Last Temptation of Christ กำกับโดย Martin Scorsese ในปี 1988.







ต่อจากนั้นเราเดินทางเข้าเมือง Meknes ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 11 โดย Almoravids และได้กลายเป็นเมืองหลวงภายในการปกครองของกษัตริย์ Sultan Moulay Ismail (คศ.1672 - 1727) รูปแบบสถาปัตยกรรมการก่อสร้างได้รับการผสมผสานระหว่างอิสลามและแบบตะวันตก นครแห่งได้มีการสร้างกำแพงสูงที่มีความยาวถึง 40 กิโลเมตร ล้อมรอบตัวเมือง การถ่ายรูปใน Medina ถือว่าค่อนข้างยากเนื่องจากตัวสถานที่ค่อนข้างแคบจริงๆ และมีหลายสถานที่ไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม


Bab Mansour ประตูเมืองที่มีการสร้างถึง 27 แห่ง ล้อมรอบตัวเมือง เราจะสังเกตุเห็นว่ามีการเจาะรู ซึ่งทำเพื่อระบายความชื้น ซึ่งก็ได้เป็นที่อาศัยของเหล่าบรรดานกที่อยู่ในเขตนี้




ที่นี่ชื่อว่า Medresa Bou Inania ซึ่งเป็นโรงเรียนอิสลามสำหรับเด็กๆ ซึ่งเด็กที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่จะได้รับการศึกษาฟรี และมีที่พักให้อยู่ด้วย


Grand Mosche สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12

ก่อนเดินทางเราก็แวะไปลองชิม เบอร์เกอร์เนื้ออูฐกัน ซึ่งรสชาติของเนื้ออูฐไม่ได้มีรสชาติอะไรมาก หากมีโอกาสไปก็ลองแวะชิมนะคะ แต่อย่าถามว่าอยู่ตรงไหนนะ เพราะขนาดเดินไปมายังหลงเลย ตรอกซอยเล็กน้อยเยอะมาก กลับไปอีกรอบก็ไม่รู้จะหาเจอไหม 555



หลังจากนั้นเราก็เดินทางเพื่อไปขึ้นรถไฟไปยังจุดหมายปลายทางต่อไปคือ เมือง Fez.
ส่วนตัว หากมีเวลาน่าจะแวะเมืองนี้อีกสักหนึ่งวัน เพราะยังมีอีกหลายสถานที่ที่เราไม่ได้เช้าชม เช่น พระราชวัง Hedim พิพิธภัณฑ์ Dar Jamai คุก Hab Qara




Create Date : 27 พฤษภาคม 2559
Last Update : 27 พฤษภาคม 2559 14:49:26 น.
Counter : 999 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2696677
Location :
Bern  Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อ นิลวดี เอ็กเกอร์ คร่า ชอบท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เนื่องจากเราเที่ยวไม่ค่อยเหมือนใคร ลุยบ้างแล้วแต่โอกาส เคยเป็นหัวหน้าทัวร์ประมาณ 5 ปี โดยเ้ส้นทางที่ทำทัวร์ เขมร เวียดนาม ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ ปักกิ่ง มองโกเลีย รัสเซีย ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 100% จุดนี้ทำให้ได้พบรักกับสามีชาวสวิส ก่อนมาเปิดบริษัททัวร์ในประเทศไทย 2 ปี ตอนนี้เพื่อนทำต่อ เพราะเราแต่งมาอยู่ที่สวิสแล้ว

สวิสเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆ คน หากใครต้องการข้อมูล หรือรายละเอียด คำแนะนำ สามารถเขียนมาถามกันได้นะคะ ยินดีให้คำแนะนำคร่าาา