Group Blog
สัตว์ที่บ้าน
ประสบการณ์พิศวง
เรื่องเล่าจากจีน
หนังสือเล่มโปรด
เบ็ดเตล็ด
BOSS จินตนาการพิสดาร
เล่านิยาย 1
ปกม่านม่านชิงหลัว
เล่านิยาย 2
All Blogs
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-16
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-15
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-14
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-13
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-12
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-11
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-16
จู๋หย่าพาพวกป๋ายหลีไปที่เรือนดอกท้อ ที่นั่นป๋ายหลีเห็นต้นทานตะวันท่าทางอ่อนแอมากต้นหนึ่งถูกปลูกอยู่กลางตะเกียงล้มรอบหลายดวง มองออกได้ว่าทานตะวันต้นนั้นเหลือหุนอยู่แค่ดวงเดียว ไม่มีอีกสองหุนและเจ็ดพ่อ คนดูแลต้นทานตะวันเป็นคนรู้จักของหานลั่ว จึงเล่าให้ฟังว่าติดค้างบุญคุณชิงฟ่าน และชิงฟ่านได้ขอให้ขึ้นมาช่วยดูแลต้นทานตะวันนี้ให้ในระหว่างที่เขาถูกลงโทษลงไปผ่านด่านรัก ป๋ายหลีดูต้นทานตะวันนี้แล้วรู้สึกคุ้นตาและคุ้นเคยอย่างประหลาด
ป๋ายหลีอยู่รอชิงฟ่านนานจนหลับไป ในระหว่างที่หลับก็ฝันถึงต้นทานตะวันต้นนั้นอีกครั้ง จึงนึกขึ้นได้ว่านางเคยฝันมาก่อนว่าตัวเองคือต้นทานตะวันต้นนั้น และในความฝันครั้งนี้เป็นภาพมากมายไม่ปะติดปะต่อ บ้างก็ตัวเองเป็นต้นทานตะวัน บ้างก็เป็นเด็กน้อยวิ่งเล่นซนอยู่กลางป่าท้อ พอสะดุดล้มก็ร้องไห้เสียงดังให้ชิงฟ่านมาอุ้มมาโอ๋ สุดท้ายได้ยินเสียงผู้หญิงสาวพูดเลือนรางไม่ชัดเจน ตามด้วยความรู้สึกว่าถูกผลักร่วงตกลงไปและเจ็บปวดเหมือนถูกคมอาวุธกรีดใส่ไปเจ็บทั้งตัวจนหมดสติ
จากนั้นป๋ายหลีก็ตื่นขึ้น หมี่ตัวตัวเดินเข้ามาบอกว่าชิงฟ่านอาบน้ำเสร็จกลับมาแล้ว ป๋ายหลีจึงเดินออกไปที่ห้องโถง ก็เห็นชิงฟ่านนั่งเล่นหมากล้อมอยู่กับฉีหลิง เมื่อเห็นป๋ายหลีตื่นแล้ว ชิงฟ่านก็บอกเลิกเล่น ป๋ายหลีจึงแซวแกมกัดว่าคงจะแพ้อยู่ล่ะสิ เลยฉวยโอกาสเลิกเล่น แทนที่ชิงฟ่านจะกัดตอบอย่างทุกทีก็กลับเงียบไป แล้วฝืนยิ้มพูดว่าถือว่าเขาแพ้ก็แล้วกัน จากนั้นฝืนยิ้มสั่งให้ป๋ายหลีกับฉีหลิงออกไปขุดเหล้าที่ใต้ต้นท้อในสวนมาดื่มฉลองกัน เมื่อป๋ายหลีกับฉีหลิงเดินออกไปแล้ว ชิงฟ่านก็ยืนนิ่งเหม่อ พัดจีบขยับอยู่สองทีก็หยุดนิ่งปิดหน้า พักหนึ่งพัดจีบได้ร่วงตกจากมือลงพื้น บนพัดมีรอยคราบหยดน้ำตาอยู่จางๆ
ด้านป๋ายหลีกับฉีหลิงที่เดินไปขุดเหล้า ได้ผ่านต้นทานตะวันนั้นอีกครั้ง ป๋ายหลีขอเข้าไปดูใกล้ๆ ฉีหลิงเตือนว่าระวังจะทำของเขาพัง แต่ป๋ายหลีก็ยังเผลอสะดุดตะเกียงดวงหนึ่งดับ ผลคือหุนเดียวที่เหลือเริ่มสลายตัว ต้นทานตะวันเริ่มเฉี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว ชิงฟ่านรีบมาที่ต้นทานตะวันอย่างรู้สึกได้ ป๋ายหลีลนลานถามชิงฟ่านว่าทำยังไงดี แล้วต้องตกใจมากต่อท่าทางเย็นชาจนน่ากลัวของชิงฟ่านอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน คนดูแลต้นทานตะวันพยายามรั้งหุนเดียวนั้นไว้แต่ไม่สำเร็จ ได้แต่ส่ายหน้าให้ชิงฟ่าน บอกว่าสลายตัวไปแล้ว ชิงฟ่านหน้าซีดเผือดทันที ป๋ายหลีลนลานนึกไม่ออกว่าจะช่วยยังไงดี จังหวะนี้อยู่ๆ แสงสีเขียวจากต้นทานตะวันนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ร่างป๋ายหลีกะทันหัน แล้วป๋ายหลีก็ล้มลงหมดสติไป
ฉีหลิงอุ้มป๋ายหลีขึ้นมา บอกขอโทษชิงฟ่านจากใจจริง แล้วพาป๋ายหลีกลับลงไป
เมื่อฉีหลิงพาป๋ายหลีไปแล้ว ชิงฟ่านไปยืนอยู่หน้าต้นทานตะวันที่เหี่ยวไปแล้ว น้ำตาไหลออกมา พูดว่า ยายหนู ขอโทษด้วย จากนั้นใช้มือเปล่าขุดดินที่หน้าต้นทานตะวัน ขุดเอาของที่เขาเคยฝังไว้ให้เป็นของขวัญทุกอย่างออกมาใส่ในแขนเสื้อโดยไม่สนใจว่าคราบดินจะเปื้อนเสื้อตัวเอง
ป๋ายหลีหลับไปครั้งนี้ ความทรงจำในชาติก่อนสมัยยังเป็นต้นทานตะวันได้กลับมาครบถ้วน ในตัวเหมือนมีสองคนอยู่ซ้อนกัน คนหนึ่งเรียกชิงฟ่านว่า พี่ชายคนสวย อีกคนเรียกว่า ซือฝุ จึงละเมอคำเรียกทั้งสองคำนี้ออกมา
ตอนที่ป๋ายหลีละเมอเรียก พี่ชายคนสวย ฉีหลิงได้ฟังก็ใจเต้น เพราะไม่แน่ใจว่าป๋ายหลีเรียกใคร แต่พอป๋ายหลีกลับเรียกออกอีกครั้งว่า ซือฝุ หัวใจฉีหลิงดิ่งวูบทันที
ป๋ายหลีตื่นขึ้นมาก็ถามฉีหลิงว่านางหลับไปนานแค่ไหน? ฉีหลิงบอกประมาณหนึ่งชั่วโมง ป๋ายหลีบอกว่าหลับครั้งนี้ นางนึกอะไรออกหลายอย่าง ฉีหลิงพูดตัดบทว่าไม่ต้องบอกเขา เขาไม่อยากฟัง แล้วเหาะออกจากห้องพุ่งหายไป ป๋ายหลีเข้าใจดี จึงไม่ตามไป และนิ่งนึกทบทวนถึงสิ่งที่เพิ่งนึกออก กับเริ่มสับสนว่าตกลงชิงฟ่านคือใคร ระหว่างพี่ชายคนสวยกับซือฝุ จึงตัดสินใจขึ้นไปหาชิงฟ่าน
ชิงฟ่านยังคงยืนเหม่ออยู่หน้าต้นทานตะวันที่เหี่ยวเฉา แต่แล้วอยู่ๆ ต้นทานตะวันก็กลับมาเขียวบานมีชีวิตอีกครั้งอย่างรวดเร็วต่อหน้าสายตาตกตะลึงของชิงฟ่าน จากนั้นข้างหลังจึงมีเสียงป๋ายหลีเรียกขึ้นว่า พี่ชายคนสวย
ชิงฟ่านหันกลับไป เรียกชื่อป๋ายหลีเสียงแหบพร่า แล้วฉวยจังหวะที่ป๋ายหลียืนก้มหน้าลังเลจัดการเสื้อผ้าให้ดูสะอาดเหมือนเดิม (แอบฮา พี่แกแคร์เรื่องรักษาหน้าตาภายนอกให้ดูเนี้ยบไม่มีเปลี่ยนเลย) แล้วเรียกป๋ายหลีเข้ามาหา ป๋ายหลีถามชิงฟ่านว่ารู้อยู่แล้วหรือว่านางคือทานตะวันต้นนั้น? ชิงฟ่านบอกรู้ตั้งแต่ได้ยินป๋ายหลีเรียกเขาว่าพี่ชายคนสวยนั่นแหละ ป๋ายหลีถามว่างั้นนางควรจะเรียกชิงฟ่านว่าอะไรดี? พี่ชายคนสวยหรือซือฝุ?
แทนที่จะตอบ ชิงฟ่านย้อนถามว่าเมื่อก่อนเขาเคยถามป๋ายหลีว่า ถ้าเจ้าเลือกอยู่กับใครสักคนได้แค่คนเดียว เจ้าอยากจะอยู่กับใคร ตอนนี้เจ้าได้คำตอบหรือยัง?
ป๋ายหลีนิ่งคิด พออ้าปากจะตอบ ชิงฟ่านกลับใช้พัดจีบปิดปากนางไว้ เพราะตัวเขาในตอนนี้ประหม่ากลัวคำตอบที่จะได้ยินมากจนมือชุ่มเหงื่อ เนื่องจากมีหลายอย่างที่เขาอยากจะทำ แต่ถ้าคำตอบที่ได้ยินไม่เป็นอย่างที่หวัง เขาจะไม่สามารถทำเรื่องที่อยากทำนั่นได้อีก ชิงฟ่านจึงฉวยโอกาสที่ป๋ายหลียังไม่ตอบนี้ก้มลงจูบนาง ป๋ายหลีตกใจแต่ไม่ต่อต้านผลักไส เท่ากับเป็นการให้คำตอบกลายๆ ชิงฟ่านจึงบอกว่า ป๋ายหลี ข้ารักเจ้า เจ้าจะเรียกข้าว่าชิงฟ่าน หรือเรียกเซี่ยงกงก็ได้ (เซี่ยงกง คือคำเรียกสามี เหมือนฟูจวิน) พอป๋ายหลีทำเสียงรับปาก ชิงฟ่านก็พูดอีกว่า เจ้าบอกเองนะว่าเรามีบุพเพฯต่อกันมาสามร้อยปี ห้ามนึกเสียใจทีหลังเด็ดขาด ป๋ายหลีทำเสียงอืมรับปากอีกครั้ง
กล่าวถึงฉีหลิง หลังเหาะออกมาจากห้องป๋ายหลี ก็ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล พักเดียวก็เห็นป๋ายหลีเหาะขึ้นไปบนสวรรค์ เขารู้ดีว่าปายหลีไปหาชิงฟ่าน และเขาจะเสียป๋ายหลีให้ชิงฟ่านไปตลอดกาล เพราะคนที่ป๋ายหลีรักคือชิงฟ่าน ไม่ใช่เขา แต่จะทำยังไงได้ เพราะถึงร้อยกว่าปีมานี้เขาจะอยู่เคียงข้างป๋ายหลีมาตลอด แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับช่วงเวลาปีแรกๆ เพียงไม่กี่ปีนั้น
ช่วงเวลาปีแรกๆ ไม่กี่ปีที่ป๋ายหลีผ่านมาอย่างลำบากแสนสาหัส ตอนที่ป๋ายหลีต้องการคนเคียงข้าง ต้องการคนคอยช่วยเหลือมากที่สุด คนที่อยู่เคียงข้างนาง ยื่นมือให้นาง คอยช่วยเหลือนางอย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาเหล่านั้นไม่เคยเป็นเขา แล้วเขาจะไปโทษใครได้
ตัดฉากย้อนกล่าวไปถึงที่มาของบุพเพฯระหว่างชิงฟ่านกับป๋ายหลี ว่าในตอนแรกเริ่ม มีอยู่ปีหนึ่งชิงฟ่านพบว่าต้นท้อในโลกมนุษย์ต้นหนึ่งผลิดอกบานทั้งที่เป็นหน้าหนาว ซึ่งเป็นการฝืนคำสั่งของเขาที่เป็นเซียนดอกท้อ ควบคุมช่วงเวลาที่ดอกท้อจะบาน เนื่องจากชิงฟ่านอยู่บนสวรรค์แล้วเบื่อ ไม่มีอะไรทำ จึงขอคำสั่งอนุญาตลงไปตรวจดูต้นท้อต้นนั้น
เมื่อลงไปถึงต้นท้อต้นนั้น ชิงฟ่านพบว่าดอกมันร่วงหมดแล้ว และพลังชีวิตกำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว ใต้ต้นท้อต้นนั้นมีหญิงสาวนางหนึ่งใส่ชุดกันหนาวหนาเตอะนั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนเก้าอี้ ชิงฟ่านสัมผัสได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเองก็ใกล้จะตายเหมือนกับต้นท้อ และเขาเห็นแล้ววูบในใจอย่างประหลาด
ชิงฟ่านเดินเข้าไปเอามือแตะต้นท้อ ถ่ายพลังให้มัน ดอกท้อจึงบานสะพรั่งอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ชิงฟ่านเห็นหิมะเกาะเต็มตัวหญิงสาว จึงช่วยปัดออก และเขียนเขตแดนเล็กๆ ที่กลางอากาศเหนือศีรษะของหญิงสาวช่วยป้องกันหิมะให้ หญิงสาวรู้สึกตัว จึงเงยหน้าขึ้นดูอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นดอกท้อบานสะพรั่งอีกครั้งก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส พูดว่าบานได้มีชีวิตชีวาดีจริงๆ
ชิงฟ่านเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วหัวใจกระตุกวูบโดยแรง หญิงสาวพูดต่อว่า เจ้าว่าถ้าชาติหน้ามีจริง ข้าไปเกิดเป็นดอกทานตะวันดีไหม? ข้าชอบดอกทานตะวัน เพราะมันอยู่กลางแดดได้อย่างแข็งแรงและสดใส ไม่เหมือนตัวข้าในชาตินี้ที่แค่ตากแดดนานหน่อยก็ล้มป่วยเสียแล้ว
ถึงคำพูดนี้จะเหมือนพูดกับเขา แต่ชิงฟ่านรู้ดีว่าหญิงสาวมองไม่เห็นเขา และแค่พูดกับตัวเอง จากนั้นหญิงสาวก็ก้มหน้าลงตามเดิม หลับตาลง และตายจากไปโดยมีชิงฟ่านยืนมองอย่างวูบโหวงในใจที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ไปกำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์
หลังจากกลับขึ้นสวรรค์แล้ว ชิงฟ่านได้เอาสุราดอกท้อที่บ่มเองเจ็ดไหไปติดสินบนดาวเทพลิขิตชะตา ให้ช่วยทำให้หญิงสาวนางนั้นได้ไปเกิดเป็นดอกทานตะวันสมดังใจหมาย หลังจากนั้นชิงฟ่านก็เที่ยวโอกาสลงไปเดินดูดอกทานตะวันในโลกมนุษย์เพื่อหาดูว่าหญิงสาวไปเกิดเป็นทานตะวันดอกไหน
จากนั้นด้วยบุพเพฯบันดาล หญิงสาวที่มาเกิดเป็นดอกทานตะวันได้ถูกลมพัดมาตกลงกลางสวนดอกท้อของชิงฟ่านบนสวรรค์และงอกขึ้นมากลางสวนท้อ ให้ชิงฟ่านได้พบและดูแลอย่างดีด้วยความดีใจ
คืนนั้นป๋ายหลีค้างที่สวนดอกท้อของชิงฟ่าน พอตื่นมาตอนเช้า เง็กเซียนได้ส่งเทพมาตามตัวชิงฟ่านไปเข้าเฝ้าแต่เช้า ป๋ายหลีรออยู่นาน กินเหล้าเพลิน แล้วได้ยินเทพองค์อื่นๆ คุยกันว่าชิงฟ่านถูกเรียกตัวไปเข้าเฝ้าเรื่องเหลียนจิ้วพาชิงเหลียนมาคุยเรื่องงานแต่งของชิงฟ่านกับเจ้าหญิงชิงเหลียน ป๋ายหลีเลือดขึ้นหน้า ตรงไปที่ตำหนักเง็กเซียนถีบประตูห้องประชุมที่ลงอาคมแน่นหนาเปิดผางออกในทีเดียว แล้วตรงเข้าไปนั่งพิงชิงฟ่านหน้าตาเฉยทั้งเมาๆ ชิงฟ่านดึงตัวป๋ายหลีมาพิงแนบอกอย่างอ่อนโยน ส่วนชิงเหลียนดูแล้วน้ำตาไหลออกมาทันที
เง็กเซียนถามชิงฟ่านเสียงเครียดว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เจ้าลงไปเกิดผ่านด่านรักกับเจ้าหญิงชิงเหลียนครบเจ็ดชาติแล้ว พอกลับสวรรค์จะได้แต่งงานกันได้แบบไร้อุปสรรค กลับมาแสดงท่าทีแบบนี้กับหญิงอื่น เจ้าหญิงชิงเหลียนจงใจพูดออกมาว่า ชิงฟ่าน ท่านกับนางเป็นศิษย์อาจารย์กันใช่หรือไม่? เง็กเซียนฟังแล้วขมวดคิ้วทันที
ชิงฟ่านตอบว่า ข้ากับนางมีบุพเพฯต่อกันตั้งแต่เมื่อสามร้อยปีก่อน ก่อนที่ข้าจะลงไปเกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้นเรื่องที่ข้าเป็นอาจารย์ของนางในตอนที่เป็นมนุษย์ จึงเท่ากับว่าไม่นับ
เทียนจวินได้ฟังก็พูดอย่างประหลาดใจว่า สามร้อยปีก่อน? เจ้ากับเจ้าหญิงชิงเหลียนผ่านด่านรักกันใช้เวลาแค่ร้อยกว่าปีเท่านั้น เช่นนี้มิหมายความว่า...
ความหมายของคำพูดชัดเจนโดยไม่ต้องพูดให้จบ และจากท่าทีของชิงฟ่านที่แสดงต่อป๋ายหลีได้บ่งบอกชัดว่าหญิงที่เขารักอย่างแท้จริงคือใคร
เหลียนจิ้วพูดเสียงเย็นชาว่าให้ชิงฟ่านอธิบายมาให้ชัดเจน ก่อนนี้ชิงเหลียนยอมถอนหมั้นองค์ชายรองของเง็กเซียน ทั้งยังผ่านด่านรักร่วมกับชิงฟ่านเพื่อชิงฟ่าน มาตอนนี้เจ้ากลับบอกว่ามีบุพเพฯกับป๋ายหลีมาสามร้อยปี แล้วเจ้าจะทำยังไงกับชิงเหลียน?
ป๋ายหลีฟังแล้วเลือดขึ้นหน้า ศอกกลับไปว่า ท่านเอาแต่พูดว่าชิงเหลียนทำเพื่อชิงฟ่านอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านรู้ได้ยังไงว่าที่เจ้าหญิงชิงเหลียนทำลงไปทั้งหมดนั่น ไม่ได้เป็นการยินยอมเองฝ่ายเดียว ชิงฟ่านไม่ได้ขอร้องหรือต้องการเลยสักนิด?
ชิงเหลียนทำหน้าหน้าสงสาร พูดว่าแต่เรื่องผ่านด่านรักกับนางเจ็ดชาติ ชิงฟ่านเป็นคนรับปากยินยอมเอง ป๋ายหลีจึงศอกกลับว่า ตอนนั้นที่เจ้าจงใจผลักข้าลงจากแท่นประหารเซียน ไม่ใช่เพราะว่าชิงฟ่านรักข้าไม่ได้รักเจ้าหรอกหรือ?
ทุกคนที่ได้ฟังต่างตกตะลึง ชิงเหลียนรีบบอกว่านางไม่ได้ทำ เจ้าเสียหลักตกลงไปเองชัดๆ ข้าสิอุตส่าห์พยายามจะดึงตัวเจ้าขึ้นมาจนรักษาหุนของเจ้าเอาไว้ได้หนึ่งหุน! เจ้ากลับมาตอบแทนบุญคุณข้าด้วยการเนรคุณ!
เหลียนจิ้วพูดว่าเทียนจวินมีหินวิเศษที่ใช้ดูเหตุการณ์ได้ไม่ใช่หรือ? เอามาใช้ดูเหตุการณ์ตอนนั้นสิ แต่เทียนจวินบอกว่าหินนั้นใช้กับเผ่าอสูรไม่ได้ เจ้าหญิงชิงเหลียนแอบยิ้มสมใจ ป๋ายหลีจึงบอกว่า นางมีต้นไม้ที่บอกได้ว่าพูดจริงหรือพูดเท็จอยู่ เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนอสูร เอาออกมาใช้ยืนยันได้ แล้วเอาต้นไม้นั้นออกมา (ได้มาจากหานลั่ว) ถามว่า เฮ้ ไอ้ต้นไม้บ้า ตอนนั้นน่ะนางเป็นคนผลักข้าลงไป!
ต้นไม้ไม่เปลี่ยนสี เท่ากับว่าที่ป๋ายหลีพูดคือความจริง และเป็นหลักฐานมัดตัวชิงเหลียนอย่างแน่นหนาว่านางจงใจผลักป๋ายหลีที่ตอนนั้นเป็นร่างจิตของต้นทานตะวันลงจากแท่นประหารเซียน ชิงเหลียนตกใจหน้าซีด รีบแก้ตัวว่านางไม่ได้เจตนา แต่ผลักเบาๆ เท่านั้น ไม่นึกว่าป๋ายหลีจะตกลงไปจริงๆ แต่เหลียนจิ้วตวาดให้เงียบ แล้วลากตัวชิงเหลียนกลับทันที เพราะเหลียนจิ้วปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว จึงรู้เรื่องทั้งหมดดีและไม่มีหน้าจะอยู่ช่วยน้องสาวแย่งคนรักของคนอื่นต่อ
เรื่องของเรื่องคือ ก่อนจะผลักป๋ายหลีลงแท่นประหารเซียนไป ชิงเหลียนได้ขอให้เหลียนจิ้วไปติดสินบนดาวเทพลิขิตชะตา ถึงดาวเทพฯจะลิขิตชะตาของเทพที่ลงไปเกิดไม่ได้ แต่สามารถใส่คาถาบางอย่างใส่ตัวเทพที่ลงไปเกิดได้ ชิงเหลียนขอให้เหลียนจิ้วไปติดสินบนเทพชะตาให้ใส่คำสาปลงในตัวชิงฟ่านที่ลงไปเกิดว่า จะต้องได้พบและช่วยคุ้มครองนางไปทั้งเจ็ดชาติ จากนั้นก็ไปผลักป๋ายหลีที่เป็นทานตะวันน้อยลงจากแท่นประหารเซียนไม่พอ ยังแยกหุนป๋ายหลีออกมาหนึ่งหุน แล้วใส่เลือดของตัวเองเข้าไปแทนหนึ่งหยดให้กลายเป็นหัวใจของป๋ายหลี เพื่อที่เมื่อป๋ายหลีไปเกิดใหม่ จะได้โดนเลือดหยดนี้ที่กลายเป็นหัวใจควบคุมความคิดจิตใจ ไม่มาแย่งชิงฟ่านกับนาง จากนั้นก็จงใจโดดลงแท่นประหารเซียนให้ตัวเองเกิดมาอ่อนแอถูกผีปิศาจรังควาน เพื่อที่ชิงฟ่านจะต้องคอยตามคุ้มครองนางไปตลอดชีวิตทุกชาติ
ส่วนที่ชิงฟ่านยอมรับปากผ่านด่านรักกับชิงเหลียน เพราะต้องการขอยืมตะเกียงประสานวิญญาณมาซ่อมวิญญาณของทานตะวันน้อยที่เหลือแค่หุนเดียว แต่ซ่อมไม่ได้ เพราะวิญญาณส่วนที่เหลือไปเกิดใหม่แล้ว แต่ชิงฟ่านก็แน่พอตัว ถึงต้องผ่านด่านรัก เขาก็ยังรักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ และทำให้แต่ละชาติกินเวลาสั้นมาก อายุแค่ไม่ถึง 20 ปีก็ตาย ซึ่งเท่ากับว่าแต่ละชาติได้เจอชิงเหลียนและอยู่คุ้มครองชิงเหลียนแค่ไม่กี่ปีก็ตาย
ตอนชิงเหลียนถูกลากตัวออกไป ได้ร้องทวงป๋ายหลีว่าให้คืนของของนางมา ซึ่งหมายถึงหัวใจของป๋ายหลีที่กลายร่างมาจากเลือดหัวใจหนึ่งหยดของชิงเหลียนนั่นเอง ป๋ายหลีรำคาญหัวใจนี้อยู่นานแล้ว ก็ทำท่าจะควักอกมาคืนให้ทันทีโดยไม่ต้องคิด แต่ถูกชิงฟ่านกับเหลียนจิ้วตวาดห้ามเสียงกร้าวพร้อมกัน ป๋ายหลีดูหน้าชิงฟ่านที่โกรธมากแล้วจ๋อยไป ส่วนชิงเหลียน เสียงตวาดห้ามของหลียนจิ้วทั้งตวาดใส่ชิงเหลียนและป๋ายหลีพร้อมกัน เพราะเหลียนจิ้วรู้ดีว่านั่นเป็นแค่เลือดหัวในหยดเดียวของชิงหลียนเท่านั้น แต่เป็นหัวใจทั้งดวงของป๋ายหลี จึงเหลืออดกับนิสัยของน้องสาวตัวเองมาก รีบลากตัวกลับแดนอสูรไปไม่ให้โผล่ขึ้นมาบนสวรรค์อีก
หลังจากนั้นก็แน่นอนล่ะนะว่าเซียนดอกท้อกับดอกทานตะวันน้อยได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
หมี่ตัวตัวกับหานลั่วและครอบครัวได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยว ส่วนลูกชิ้นไปอยู่กับฉีหลิง
จบแล้ว
เรื่องเล่าเรื่องต่อไปจะลงในวันที่ 1 ก.ค. นะคะ
Create Date : 18 มิถุนายน 2554
Last Update : 18 มิถุนายน 2554 9:35:24 น.
33 comments
Counter : 4153 Pageviews.
Share
Tweet
อ่า นี่จบแล้วรึเปล่าคะ?
โดย: tonfu IP: 58.64.55.249 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:8:03:18 น.
พอเรื่องคลี่คลาย ดีจริงๆ ที่นิสัยพระเอกไม่น้ำเน่าจนทำให้เรื่องยืดเยื้อ
ขอบคุณมากค่ะ
โดย: ซาลาสซา IP: 58.8.142.214 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:8:21:05 น.
มาแวะชมบล็อกค่ะ
อย่าลืมแวะไปชมบล็อก
สถานที่ท่องเที่ยว
ของน้ำชานะค่ะ
//thailandtravel.bloggang.com/
โดย:
nonguide
วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:8:30:23 น.
ท่าทางจะจบแล้วสินะ
ออกมาแสดงตัวว่าตามอ่านตั้งแต่ต้น
ขอบคุณมากค่ะ
โดย: mayuma IP: 183.89.127.145 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:8:36:56 น.
จบแล้วหรือค่ะ...ทำไมมันเร็วจังค่ะ...สุดท้ายฉีหลิงก็ไม่ได้กับใคร
โดย: พัชนี IP: 223.205.41.215 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:9:33:50 น.
ใช่แล้วค่ะ จบแล้ว ก็ครึ่งเรื่องหลังมันน่าเบื่อ ไร้เหตุผล หรือไม่ก็เหตุผลรองรับฟังไม่ขึ้น แถมยืดตรงที่ไม่ควรยืด ที่ควรอธิบายเสริมเพิ่มเติมก็ไม่อธิบาย เลยจบแบบนี้แหละค่ะ v_v"
โดย: หลินโหม่ว (
ซีเรีย
) วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:9:37:14 น.
ขอบคุณค่ะ จบไปอย่างว่องไวมาก
ไม่ทราบว่าสามชาติสามภพรอบสองเริ่มส่งหรือยังคะ^^
โดย: กันติมา IP: 118.174.83.178 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:9:49:08 น.
มีข้อสงสัยอยู่นิดหนึ่งหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปรบกวนช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะ...อ่านมาแล้วรู้สึกว่าชิงฟ่านรักป๋ายหลีโดยไม่รู้ว่านางคือต้นทานตะวันมาเกิดหรือรู้อยู่แล้วว่านางคือต้นทานตะวันตั้งแต่เริ่มแรก...ตกลงเป็นยังไงกันแน่...
ปล.หากไม่รู้ว่าป๋ายหลีเป็นต้นทานตะวันน้อยมาเกิดก็แสดงว่าชิงฟ่านรักป่ายหลีกับต้นทานตะวันใช่หรือไม่ค่ะ
โดย: พัชนี IP: 223.205.41.215 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:9:59:02 น.
ฮะ ฮะ จบแล้วเหรอค่ะ แฮปปี้ขนาดนี้คงจบแล้วแหละ
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณที่เล่าให้่อ่าน
ถ้าได้อ่านแบบแปลเต็มๆ เรื่องก็คงจะสนุกมาก ชอบค่ะ
รออ่านเรื่องต่อไปค่ะ ได้ข่าวว่ามีอีกหลายเรื่อง
โดย: diamond_p IP: 101.108.231.199 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:10:11:27 น.
ป๋ายหลีนี่โชคดีจริงๆ มีคนี่ยอมรัก ทุ่มเทให้ขนาดนี้
โดย: calo IP: 124.121.56.165 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:11:19:15 น.
ขอบคุณค่า
ชอบอ่านเรื่องย่อที่พี่หลินเล่าจัง :D
ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า
แต่รู้สึกเรื่องนี้โทนดูแฮปปี้มีความสุข
มากกว่าเรื่องสามชาติฯ นะคะ
โดย: Mapp IP: 124.120.134.91 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:11:20:57 น.
อยากได้ฉีหลิงมาเป็นพระเอกกกกจัง
โดย: Edna IP: 110.168.68.161 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:12:58:16 น.
จบแล้ววว แฮปปิ้เอนดิ้ง สนุกสนานมากค่ะ
แหม พระเอกบุคลิกเจ้าเล่ห์ปากจัดแบบนี้ อยากให้มีหลายๆ เรื่องจัง หุๆ
ขอบคุณคุณหลินโหม่วที่อุตส่าห์มาเล่าให้ฟังนะคะ ^ ^
โดย: Matsakorn IP: 118.173.240.231 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:13:22:33 น.
แหม พระเอกบุคลิกเจ้าเล่ห์ปากจัดแบบนี้ อยากให้มีหลายๆ เรื่องจัง หุๆ <<< ตอนนี้ที่มองเห็นก็มีอยู่เรื่องนึงนะ คือ "สามชาติสามภพ จดหมายบนหมอน" มหาเทตงหัวนิสัยใกล้เคียงชิงฟ่านมาก เพียงแต่น้ำนิ่งไหลลึกกว่า และไม่แสดงออกโจ่งแจ้งเท่า
โดย: หลินโหม่ว (
ซีเรีย
) วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:15:09:00 น.
สงสัยจังว่าทำไมนางเอกเป็นแค่ทานตะวาน
แต่พอมาเกิดใหม่ถึงมีพลังมากที่สุด
โดยรวมอ่านแล้วสนุกมากค่ะ
ขอบคุณคุณหลินโหม่วนะคะ
โดย: jane IP: 183.89.121.48 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:15:39:20 น.
เรื่องสนุกมาก ขอบคุณมากค่้ะ
โดย: million thanks IP: 125.26.129.162 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:16:28:03 น.
สนุกมากๆเลยค่ะ ชอบพระเอกสไตล์นี้จังปากจัด แสบแบบแอบฮาด้วย แถมรักมั่นคงมาก
นางเอกเก่งอาจเพราะมาจากเลือดของชิงเหลียนแล้วก็ไปอาบไฟศักดิสิทธิ์ แถมแม่ก็เป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าอสูรที่สืบทอดทางสายเลือดด้วยมั้ง เลยมีเลือดของเผ่ามารและหัวใจของเผ่าอสูร
สุดท้ายขอบคุณมากๆ ไรเตอร์มากค่ะ
(ถ้าตัดสินใจจะแปลเรื่องนี้อย่าลืมแจ้งข่าวให้ทุกคนๆทราบมาทางอีเมล์เหมือนเดิมนะคะ จะซื้อค่ะ)
โดย: คนอ่าน IP: 202.91.18.206 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:17:52:27 น.
มาเร็ว จบ (เคลม) เร็ว จริง ๆ
นึกว่าจะซับซ้อนกว่านี้ แต่ไป ๆ มา ๆ เรื่องตอนต้นกลับสนุกกว่าซะงั้น
ตอนอยู่บนสวรรค์เนี่ย ดูทุกอย่างมันเป็นใจให้นางเอกเกินไป ทั้ง ๆ ที่ตอนอยู่โลกมนุษย์ลำบากแทบตาย
จริงอย่างที่คุณหลินว่ามันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล โดยเฉพาะเรื่องความสามารถของป๋ายหลี เพราะทั้ง ๆ ที่เดิมเป็นมนุษย์มาเกิดเป็นดอกทานตะวัน ได้เลือดของเผ่าอสูรมานิดหน่อยแต่ดันเก่งเวอร์เลย เทียบกับสามชาติสามภพฯ แล้วนางเอกสามชาติฯ ดูเก่งแบบมีเหตุผลมากกว่า
แต่ยังไงก็ถือเป็นเรื่องที่สนุกเรื่องหนึ่งนะคะ ถ้าแก้ไขบางจุดได้คงน่าติดตามยิ่งกว่านี้
ของคุณคุณหลินนะคะที่มาเล่าเรื่องย่อให้ฟัง มาติดตามทุกวันเลยค่ะ
โดย: PK IP: 58.8.236.231 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:18:27:00 น.
สุดท้ายจบแฮบปี้จนได้คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน พอจะรู้ว่าได้แรงบันดาลใจจากสามชาติ แต่จงใจลอกพลอตหลักมาขนาดนี้เข้าใจเลยว่าทำไมคุณหลินถึงไม่แปลเรื่องนี้
ปล ซือฝุน่ารักมั่นคงในรักแท้มากๆ แต่นางเอกเพิ่งรู้ใจรู้ตัวตอนหลังๆ แอบบื้อความรู้สึกช้าเหมือนเฉียนเฉียนเลย :D
โดย: nutty IP: 125.24.137.195 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:20:07:39 น.
ถ้าคุณหลินลงเรื่องย่อสามชาติตอนใหม่ให้ชื่นใจบ้างจะดีใจมากเลยค่ะ ติดใจคู่มหาเทพตงหัวกับหลานนางเอกที่สุด ตอนแรกนึกว่าเฮียจะเป็นหนุ่มน้ำแข็งเฉยชายิ่งรู้ว่านิสัยคล้ายชิงฟ่าน ยิ่งน่าสนใจ
โดย: nutty IP: 125.24.137.195 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:20:14:30 น.
มีเรื่องไม่เข้าใจนิดหน่อยค่ะ
1.ปานดอกบัวแดงมาจากไหน ทำไมคน(?)มีกันเยอะจัง
2.สายเลือดของป๋ายหลีมาจากไหนบ้าง ทำไมเก่งกว่าราชาเผ่าอสูรกับเผ่ามารอีก
3.ชิงฟ่านไม่สงสัยหรือว่าทำไมเด็ก(ลูกชิ้น)ถึงเรียกป๋ายหลีว่าเหนียงชิน และฉีหลิงว่าเตียเตีย เห็นตอนที่แล้วสะเทือนใจเรื่องนี้อยู่เลย
โดย: vicka IP: 115.87.205.112 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:22:09:19 น.
พลิกลอค นึกว่าฉีหลิงเป็นพระเอกเสียอีก
โดย: yuechan IP: 119.42.117.67 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:0:27:15 น.
ขอบคุณนะคะ ที่มาเล่าให้ฟัง จะรอเรื่องใหม่ค่ะ ติดงอมแงม
แต่ก็พอเข้าใจค่ะที่คุณหลินโหม่วไม่เลือกเรื่องนี้มาแปล
คงเพราะมันรั่วมากจริง ๆ คำตอบของหลาย ๆ ปมก็ไม่ค่อยเคลียร์
เป็นกำลังใจให้คุณหลินโหม่ว ต่อไปนะค่ะ
จะรอผลงานค่ะ
ปล. อยากอ่านหย่งเยี่ยเร็ว ๆ จังเลย ...
โดย: chaluntharee IP: 202.28.182.5 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:3:04:50 น.
ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ เสียงหัวเราะ และนืสัยกวนทีนของพระเอก เหอๆๆ
โดย: แอม IP: 86.24.194.134 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:4:17:01 น.
คุณพัชนี :
อ่านมาแล้วรู้สึกว่าชิงฟ่านรักป๋ายหลีโดยไม่รู้ว่านางคือต้นทานตะวันมาเกิดหรือรู้อยู่แล้วว่านางคือต้นทานตะวันตั้งแต่เริ่มแรก...ตกลงเป็นยังไงกันแน่... <<< คนเขียนเฉลยไม่เคลียร์ในจุดนี้ค่ะ
คุณ Mapp :
ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกเรื่องนี้โทนดูแฮปปี้มีความสุข มากกว่าเรื่องสามชาติฯ นะคะ <<<< ใช่ค่ะ
คุณ jane :
สงสัยจังว่าทำไมนางเอกเป็นแค่ทานตะวาน แต่พอมาเกิดใหม่ถึงมีพลังมากที่สุด <<< สงสัยเหมือนกันค่ะ ตรงนี้เป็นจุดที่ผู้เขียนเขียนที่มาที่ทำให้ดิฉันรับฟังได้ไม่ได้ แต่เรื่องที่ชาติก่อนนางเอกกระจอก มาชาตินี้ดันเก่งเวอร์ จุดนี้ลอกอีกเรื่องที่เคยบอกว่าจะเล่าเป็นเรื่องที่สามมาค่ะ
คุณคนอ่าน :
นางเอกเก่งอาจเพราะมาจากเลือดของชิงเหลียนแล้วก็ไปอาบไฟศักดิสิทธิ์ <<< แบบนี้ชิงเหลียนที่เป็นเจ้าของเลือดเต็มตัวก็ควรได้ชุดจากไฟศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าสิ และเหลียนจิ้วที่เก่งกว่าชิงเหลียนเยอะแถมเป็นราชา ก็ควรจะได้ชุดนี้ยิ่งกว่าด้วย
หญิงศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าอสูรที่สืบทอดทางสายเลือดด้วยมั้ง <<< ในเรื่องไม่ได้บอกเลยว่า แม่ของนางเอกเป็น "เผ่ามาร" บอกแต่ว่าเป็น "มนุษย์" ค่ะ
คุณ PK :
นึกว่าจะซับซ้อนกว่านี้ แต่ไป ๆ มา ๆ เรื่องตอนต้นกลับสนุกกว่าซะงั้น <<< ถูกต้องอย่างยิ่งค่ะ เนื้อเรื่องส่วนที่ผู้เขียนคิดเองที่เข้าท่า ส่วนใหญ่จะอยู่ต้นเรื่องนี่แหละค่ะ ถึงงั้นช่วงต้นเรื่องที่ว่าสนุกและคิดเอง ก็ยังมีหลายจุดที่ลอกสามชาติฯกับเรื่องที่สามที่จะเล่ามาอยู่ดี
คุณ nutty :
นางเอกเพิ่งรู้ใจรู้ตัวตอนหลังๆ แอบบื้อความรู้สึกช้าเหมือนเฉียนเฉียนเลย <<< ก็คงลอกบุคลิกของป๋ายเฉี่ยนมาเกือบจะเด๊ะๆ นั่นแหละค่ะ
เรื่องของตงหัว ถังชีเพิ่งเขียนไปได้แค่ตอนเดียว ไม่สามารถและไม่สมควรย่อมาให้อ่านน่ะค่ะ
คุณ vicka :
1.ปานดอกบัวแดงมาจากไหน ทำไมคน(?)มีกันเยอะจัง <<< มีแต่นางเอกมีคนเดียวนะ
2.สายเลือดของป๋ายหลีมาจากไหนบ้าง ทำไมเก่งกว่าราชาเผ่าอสูรกับเผ่ามารอีก <<< คนเขียนตอบไม่เคลียร์ค่ะ
3.ชิงฟ่านไม่สงสัยหรือว่าทำไมเด็ก(ลูกชิ้น)ถึงเรียกป๋ายหลีว่าเหนียงชิน และฉีหลิงว่าเตียเตีย เห็นตอนที่แล้วสะเทือนใจเรื่องนี้อยู่เลย <<< คนเขียนไม่เอ่ยถึงค่ะ
yuechan :
พลิกลอค นึกว่าฉีหลิงเป็นพระเอกเสียอีก <<< แล้วชอบพระเอกที่แสนดีกับนางเอกยิ่งกว่าพระรองแบบนี้ไหมล่ะยู? หุหุหุ
คุณ chaluntharee :
แต่ก็พอเข้าใจค่ะที่คุณหลินโหม่วไม่เลือกเรื่องนี้มาแปล คงเพราะมันรั่วมากจริง ๆ คำตอบของหลาย ๆ ปมก็ไม่ค่อยเคลียร์ <<< ถูกต้องเลยค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดคือลอก 2 เรื่องต้นแบบมามากเกินไป
โดย: หลินโหม่ว (
ซีเรีย
) วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:8:28:15 น.
ตอนแรก ที่ทำสัญญากับฉีหลิงและม่อเฮย มีรูปดอกบัวปรากฎไม่ใช่เหรอค่ะ แล้วรู้สึกชิงฟ่านก็มีปานเหมือนกัน หรือเข้าใจผิด จำไม่ค่อยได้แล้ว
โดย: vicka IP: 202.91.18.201 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:11:20:40 น.
ปี้ฟัง นี่คือนกอะำไรเหรอคะ
โดย: กันติมา IP: 125.26.124.85 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:22:41:28 น.
ขอบคุณค่ะ ที่เอามาแบ่งปันกัน :]
โดย: HOUSE IP: 99.180.3.65 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:7:41:56 น.
ขอบคุณมากค่ะ ช่วงตอนต้นเรื่องสนุกกว่าจริงๆนั่นแหละ
พอมาอ่านตอนท้ายเรื่องแล้ว แฮปปี้อ่ะใช่แต่ไม่ประทับใจไงไม่รู้ - -
โดย: หลี่หลิง IP: 124.120.90.238 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:8:56:34 น.
ขอบคุณมากค่ะ ตอนจบนี่เร็วจนช็อกเลย แบบเปิดมาอีกทีสองตอนจบแล้ว นึกว่าจะต้องต่ออีกเยอะซะอีก มีโปรแกรมลงเรื่องย่อเรื่องใหม่ต่อมั้ยคะ
โดย: amy IP: 101.108.29.139 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:12:52:17 น.
น้องสาวตามมาอ่านค่ะ แต่เข้ามาแล้วลบตอนแรกๆ
ไปแล้ว พี่หลินโหม่ว ช่วยลงตอนเก่าให้หน่อยได้มั้ยค่ะ
อยากให้น้องอ่าน เขาชอบงานของพี่มากมาก ^^
โดย: พี่สาว IP: 124.122.200.24 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:23:56:59 น.
เรื่องนี้ตอนต้นสนุกค่ะ
แล้วกลางๆก็ยืดๆขึ้นมาแบบว่ารับได้
แต่ตอนท้ายใกล้จะจบ นี่แอบรั่วๆเหมือนโดนตัดจบเลยทีเดียว
พอคุณหลินโหม่วบอกว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องสามชาติฯกับเรื่องที่สาม เลยรอลุ้นเรื่องที่สามที่จะเล่าค่ะ
ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านค่ะ
โดย: คิสจ้า IP: 61.19.65.219 วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:11:21:54 น.
ดีแล้วค่ะที่คุณหลินไม่ได้เอาเรื่องนี้มาทำเล่ม รู้สึกว่าไม่สนุกจริง ๆ ช่วงแรก ๆ จะสนุกมาก น่าติดตาม หลังจากที่นางเอกได้พลังเพิ่ม เก่งเวอร์แล้วก็เริ่มไม่สนุกแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่แปลให้อ่าน
โดย: kranja IP: 223.205.160.19 วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:10:53:54 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ซีเรีย
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Friends' blogs
วัสส์
Webmaster - BlogGang
[Add ซีเรีย's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.