Group Blog
 
All Blogs
 
เล่านิยาย เรื่องที่ 1-11

หลังจัดการเยี่ยกับมารโลหิตแล้ว ชิงฟ่านก็พาป๋ายหลีเที่ยวไปพลางปราบปิศาจฝึกฝีมือไปพลาง จนกระทั่งใกล้ครบครึ่งปีก็ได้รับจดหมายจากหมิ่นจือบอกว่ายังหาสัตว์ภูตที่ถูกใจไม่ได้เลย กับจดหมายจากเจ้าสำนักจางส่งมาเร่งให้ชิงฟ่านกลับสำนักก่อนสามค่ำเดือนเก้า ซึ่งจะถึงงานประลองฝีมือของศิษย์หน้าใหม่อายุ 15-18 ปีของสำนักผู้ฝึกตนเป็นเซียนทั่วแผ่นดินซึ่งจัดขึ้นห้าปีต่อครั้ง โดยครั้งนี้จะจัดขึ้นที่สำนักส้าวหัวพอดี ป๋ายหลีจะเข้าร่วมด้วย ชิงฟ่านถามว่าตอนนี้แปดค่ำเดือนแปด อยากจะรีบกลับไปไหมล่ะ? ป๋ายหลีรีบบอกว่าไม่อยาก เที่ยวแบบนี้สบายดี ชิงฟ่านเลยบอกงั้นไว้ใกล้ถึงวันแล้วค่อยกลับไปกัน จากนั้นพาป๋ายหลีทั้งกินทั้งเที่ยวเต็มที่

ระหว่างนี้วันหนึ่ง ตอนที่ขนของกินชื่อดังสารพัดที่ออกมาให้ป๋ายหลีกินแล้วได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากลูกศิษย์ตะกละว่าซือฝุคนดีที่หนึ่งเลย ชิงฟ่านก็ยิ้มรับหน้าบาน ทำท่าจะยกมือขึ้นลูบหัวป๋ายหลี อยู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้กะทันหันว่าตัวเขาเป็น “ซือฝุ” ของป๋ายหลีนี่นา แต่ตัวเขาในตอนนี้รู้สึกกับป๋ายหลีแค่อาจารย์กับศิษย์จริงๆ หรือ? ชิงฟ่านย้อนนึกถึงความคิดจิตใจและพฤติกรรมของตัวเองที่ผ่านมาแล้วรู้ใจตัวเองดีว่าที่เขารู้สึกกับป๋ายหลีไม่ใช่แบบศิษย์กับอาจารย์ ตอนแรกที่เขาเลือกป๋ายหลีเป็นศิษย์อาจจะแค่เพราะสงสารกับนึกถูกชะตาชอบเด็กคนนี้อยู่นิดๆ ก็จริง แต่สองปีที่เป็นศิษย์อาจารย์อยู่ใกล้ชิดกันความชอบนี้ได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนถอยกลับไปไม่ได้แล้ว แต่ตามจารีต อาจารย์จะแต่งกับลูกศิษย์ไม่ได้ สักวันป๋ายหลีก็ต้องไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วจะเป็นใครล่ะ?

ชิงฟ่านนึกถึงหมิ่นจือ เขาดูออกว่าหมิ่นจือชอบป๋ายหลี เพราะงั้นเขาถึงชอบแกล้งกันท่าหมิ่นจือโดยไม่รู้ตัว เขาเห็นว่าหมิ่นจือใจร้อนวู่วามเกินไป ไม่เหมาะกับป๋ายหลี เพราะจะคุ้มครองป๋ายหลีไม่ได้ดี นึกไปถึงฉีหลิง นั่นยิ่งแล้วใหญ่ ยังกับก้อนน้ำแข็ง มีแต่จะทำให้ป๋ายหลีเสียใจ นึกไปนึกมาชิงฟ่านก็รู้สึกหวานจางๆ อยู่ในใจ เหลือบมองเงาตัวเองในน้ำ ตอนนั้นป๋ายหลีเห็นซือฝุเงียบไปนานจึงชะโงกหน้ามาถามพอดีว่า “ซือฝุ กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”

ภาพสะท้อนเงาในน้ำของคู่หนุ่มสาวดูเหมาะสมกันราวกับภาพวาด อารมณ์หลงตัวเองหรืออะไรสักอย่างผุดวาบขึ้นในใจชิงฟ่านทันที เขาเห็นว่าไม่ว่าจะดูยังไง ป๋ายหลีก็ค่อนข้างเหมาะกับการอยู่ข้างๆ เขามากที่สุด เพราะงั้นตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อนเถอะ คิดแล้วหลับตาลง ริมฝีปากขยับยิ้ม พูดว่า

“ป๋ายหลี ต่อไปต้องอยู่กับซือฝุอย่างว่าง่ายรู้มั้ย?”

ข้าก็อยู่กับซือฝุอย่างว่าง่ายมาตลอดอยู่แล้วนี่นา! ป๋ายหลีเบ้ปากคิดในใจ แต่ก็รับปากออกไปว่า “อื้ม!”

“ไปกันเถอะ ที่นอกป่าดอกไม้กำลังบานได้ที่พอดี ซือฝุจะพาเจ้าไปดู”

“อื้ม!”

ชิงฟ่านจูงมือป๋ายหลีเดินไปที่นอกป่าตามที่บอก เขาคิดว่าความจริงแล้วเขาอยากจะเดินจูงมือป๋ายหลีอย่างนี้โดยไม่ปล่อยไปตลอดกาล...



เมื่อใกล้ถึงวันงานประลอง ชิงฟ่านก็พาป๋ายหลีเดินทางกลับ เนื่องจากสถานที่จัดงานของปีนี้คือสำนักส้าวหัว และตอนสองคนเดินทางกลับ อีกแค่ 2-3 วันก็จะถึงงานแข่งขันประลอง ระหว่างทางจึงพบทั้งศิษย์สำนักส้าวหัวที่เดินทางกลับสำนักและศิษย์สำนักอื่นที่เดินทางไปร่วมงานประลองมากมาย ซึ่งหลายคนที่รู้จักชิงฟ่าน เนื่องจากฉายาวิญญูชนไผ่ใสดังมาก ถึงชิงฟ่านจะจงใจพาป๋ายหลีเดินแบบไม่สะดุดตาใครก็ยังไม่วายถูกคนโน้นคนนี้เข้ามาทัก และถูกหลายคนขอร่วมทางด้วย

ชิงฟ่านจะยิ้มอย่างอบอุ่นนุ่มนวลให้ทุกคน ส่วนคนที่มาขอร่วมทาง ก็จะปฏิเสธไปแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นด้วยเหตุผลสารพัดอย่างไม่ซ้ำกันเป็นกระบุงโกย ป๋ายหลีฟังความลื่นเป็นปลาไหลของซือฝุตัวเองแล้วเหงื่อตก ชิงฟ่านปฏิเสธคนอื่นเสร็จยังมีหน้าหันมายิ้มอย่างภาคภูมิใจ พูดอวดแกมสั่งสอนป๋ายหลีว่า “เห็นรึยัง นี่แหละคือวิธีจัดการกับเรื่องราวทางโลก!”

ป๋ายหลีนึกในใจว่าซือฝุนี่ยิ้มให้คนทั้งโลกอย่างอบอุ่นนุ่มนวลเสมอภาคกันมาก แต่ทำไมเวลายิ้มให้นางแบบเดียวกับที่ยิ้มให้ชาวโลกทีไร นางเป็นต้องรู้สึกขนหัวลุกชอบกลทุกทีว่าต้องวางแผนแกล้งนางอะไรสักอย่างอยู่ในใจแหงๆ

ชิงฟ่านพาป๋ายหลีแวะบ้านจู๋หย่าอีกครั้งก่อนกลับสำนัก คราวนี้ทางเดินคั่นระหว่างป่าท้อกับป่าไผ่เปลี่ยนเป็นสระบัวปลูกดอกบัวสารพัดสี ชิงฟ่านเห็นดอกบัวแล้วใจกระตุกวูบ รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด จู๋หย่าถามชิงฟ่านว่าเจอชิงเหลียน (บัวเขียว) หรือยัง? ชิงฟ่านบอกว่าเจอแล้ว จู๋หย่าถามว่าเจอที่ไหน? ชิงฟ่านบอกก็มีทั่วไปหมดนี่ ในสระนั่นก็มีตั้งหลายดอกไง จากนั้นจู๋หย่าก็โดนป๋ายหลีที่กะแอบจะขโมยขุดเหล้าของจู๋หย่าไปฝากทุกคนที่รู้จักให้หมดเกลี้ยงดึงความสนใจ รีบไปห้ามไว้ เรื่องนี้จึงถูกพับไป



ทางด้านฉีหลิงเองก็ได้รับจดหมายเร่งให้กลับจากเจ้าสำนักจางผู้เป็นอาจารย์เช่นกัน แต่ฉีหลิงผูกใจเจ็บที่เจ้าสำนักจางเคยลงโทษป๋ายหลี บวกกับตัวเองกำลังปิดด่านกักตัวเร่งสำเร็จฝึกปรือให้สำเร็จเป็นเซียนเร็วๆ จึงปฏิเสธไปว่าเขาจะไม่กลับไปร่วมการแข่งขัน เพราะกำลังปิดด่านกักตัวอยู่ ทำเอาเจ้าสำนักจางโกรธมาก

ข้างเซิงเกอเดินทางกลับสำนักไปตามลำพัง แต่กลับส่งจดหมายไปบอกป๋ายหลีว่า “พวกเขา” กำลังเริ่มออกเดินทางกลับสำนัก

แต่แล้วสองเทพชั่วที่กะวางแผนจับตัวป๋ายหลีได้แอบเข้าไปพบเจ้าสำนักจางเพื่อเจรจา และโกหกว่าความจริงฉีหลิงเป็นปิศาจแฝงตัวเข้ามา พร้อมกับถามว่าใครในสำนักนี้ที่น่าจะเป็นเจ้านายของฉีหลิง เพราะจากการสันนิษฐานของสองเทพชั่ว การที่ฉีหลิงอยู่ที่สำนักนี้ไม่ไปไหน น่าจะเพราะเจ้านายก็อยู่ในนี้ สัตว์ภูตที่ห่างจากนายมากไม่ได้จึงต้องอยู่ที่นี่ไปด้วย

เจ้าสำนักจางตัดสินใจยอมสละทิ้งฉีหลิงเพื่อแลกกับเคล็ดลับในการฝึกตนเป็นเซียนและการสนับสนุนคุ้มครองสำนักส้าวหัวจากเทพชั่วทั้งสองคน โดยบอกสองเทพชั่วไปว่าคนที่พาฉีหลิงกลับมาในตอนแรกสุดคือป๋ายหลี จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่ป๋ายหลีจะเป็นเจ้านายของฉีหลิง เจ้าสำนักจางฝันหวานว่าสำนักส้าวหัวจะเป็นที่หนึ่งในการแข่งครั้งนี้หรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือหลังจากนี้ไปสำนักส้าวหัวจะพัฒนาก้าวหน้าเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นสำนักผู้ฝึกตนเป็นเซียนอันดับหนึ่งของแผ่นดิน เพื่อแผนการลับที่ร่วมมือกับเทพชั่วสองคนนี้ เจ้าสำนักจางได้เลือกเซิงเกอร่วมดำเนินแผนการด้วยอีกคน

ข้างสองเทพชั่วเมื่อรู้ว่าป๋ายหลีคือเจ้านายของฉีหลิง ก็พากันแวะไปสำรวจดูที่พักของป๋ายหลีเพื่อหาร่องรอย ก็พบว่าสวนท้อของชิงฟ่านประหลาดมาก ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูดอกท้อบาน ดอกท้อกลับบานสะพรั่งงาม และมีกลิ่นอายเซียนที่คุ้นเคยลอยอบอวล ทั้งสองรู้ทันทีว่าชิงฟ่านคือเซียนดอกท้อมาเกิด จึงนึกสงสัยว่าหรือป๋ายหลีจะคือเจ้าหญิงชิงเหลียน และได้แต่รอป๋ายหลีกลับมาแล้วค่อยยืนยัน

ป๋ายหลีกับชิงฟ่านกลับไปถึงสำนักส้าวหัวก็พบว่าเซี่ยงเผิงได้หายตัวไป ประตูเรือนถูกปิดลงกุญแจและมีฝุ่นจับเห็นชัด เหมือนกับว่าเซี่ยงเผิงได้หายตัวไปมาหลายเดือนแล้ว ชิงฟ่านหน้าเครียดทันที แยกย้ายกันออกตามหาเซี่ยงเผิงกับป๋ายหลี แต่ปกติเซี่ยงเผิงก็เอาแต่ฝึกวิชาอยู่ในเรือน แทบไม่ได้ออกไปเจอหน้าใคร จึงแทบไม่มีใครจำเขาได้เลย และไม่มีใครเห็นเขา ชิงฟ่านจึงต้องขยายขอบเขตตามหาออกไปถึงนอกสำนักด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเองเอาใจใส่แต่ป๋ายหลี ละเลยเซี่ยงเผิง ป๋ายหลีเองก็เป็นห่วงมากว่าเซี่ยงเผิงมีโอกาสถูกใครลอบทำร้ายถึงตายไปแล้ว พร้อมกันนี้ก็ประหลาดใจมากที่พบว่าฉีหลิงไม่กลับมาร่วมการแข่งขัน แต่จดหมายที่เซิงเกอเขียนถึงนางกลับพูดเหมือนกับว่าเขากับฉีหลิงเดินทางกลับสำนักมาพร้อมกัน

เมื่อสองเทพชั่วรู้ว่าป๋ายหลีกลับมาแล้วก็ไปพิสูจน์กัน ก็พบว่าป๋ายหลีไม่ใช่เจ้าหญิงชิงเหลียนแห่งเผ่าอสูรแน่ๆ จึงค่อยโล่งใจ



หมิ่นจือได้กลับมาจากการเดินทางฝึกฝนตนโดยที่หาสัตว์ภูตไม่ได้ตามเคย จึงตัดสินใจรับหมี่ตัวตัวเป็นสัตว์ภูตของตัวเองตามที่ชิงฟ่านแนะนำ หมี่ตัวตัวเองก็ดีใจมาก ชิงฟ่านกับชิงหลวนยิ่งดีใจกว่าที่ตัวเผาสวนท้อกับเผาขนนกยูงไปให้พ้นๆ ได้ซะที

เนื่องจากฉีหลิงไม่กลับมา และลูกชิ้นอยู่กับฉีหลิง ป๋ายหลีจึงส่งจดหมายไปหาฉีหลิง ถามไถ่อย่างเป็นห่วงว่าเป็นอะไรไป ทำไมถึงไม่กลับมาร่วมการแข่งขัน?

ฉีหลิงได้รับจดหมายถามไถ่แสดงความเป็นห่วงจากป๋ายหลีก็ดีใจ เขียนตอบกลับไปว่าเขากำลังปิดด่านกักตัวอยู่ และแอบเขียนตัวหนังสือเล็กๆ ตรงปีกนกว่าป๋ายหลีสบายดีหรือเปล่า?

จดหมายตอบกลับของฉีหลิงถูกเทพกระเทยที่เฝ้าอยู่หน้าปากถ้ำดักจับไว้และเปิดออกอ่าน ทำให้เทพกระเทยรู้ว่าฉีหลิงมีใจให้ป๋ายหลี หลังจากอ่านจดหมายตอบของฉีหลิงจบ เทพกระเทพก็เผาทำลาย แล้วค่อยสร้างขึ้นใหม่โดยลอกเลียนกลิ่นอายเหมือนเปี๊ยบส่งไปให้ป๋ายหลีแทน ซึ่งเนื้อความในจดหมายเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ฉบับใหม่ไม่มีข้อความตัวเล็กจิ๋วนั่น ที่เทพกระเทยไม่เปลี่ยนเนื้อหาก็เพราะกะใช้จดหมายนี้ในตอนที่จำเป็นและได้ผลที่สุดเท่านั้น ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้

จดหมายตอบของฉีหลิงบินกลับมาถึงป๋ายหลี ป๋ายหลีกระโดดรับ หันไปร้องบอกชิงฟ่านอย่างดีใจว่า “จดหมายของฉีหลิง!” แต่กลับเห็นชิงฟ่านทำหน้าเครียด เอาพัดเคาะหัวนางแรงๆ ไปที ดุเสียงหนักว่า “ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ต้องเรียกซือซู!” (อาจารย์อา ศิษย์น้องของอาจารย์) ป๋ายหลีเอามือลูบหัวป้อยๆ ตอบรับเสียงอ่อยอย่างไม่เต็มใจ ชิงฟ่านหันหลังไป ซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เป็นจิ้งจอก

ป๋ายหลีส่งจดหมายกลับไปถามฉีหลิงอีกว่าจะช่วยส่งลูกชิ้นมาให้หน่อยได้ไหม? เพราะการแข่งขันนี้ถ้าไม่มีสัตว์ภูตจะลงแข่งไม่ได้ และทุกคนต่างรู้กันว่าลูกชิ้นเป็นสัตว์ภูตของป๋ายหลี

คืนนั้นป๋ายหลีพลิกตัวไปมาอยู่นานกว่าจะหลับลงได้ เพราะคิดมากเรื่องที่เซิงเกอเหมือนจงใจหลอกให้คิดว่าเดินทางกลับสำนักร่วมกับฉีหลิง และเรื่องที่เซียนจู๋หย่าทำท่าเหมือนจะบอกอะไรนางแต่ไม่ได้บอก หลังจากป๋ายหลีหลับ ชิงฟ่านที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องก็เดินออกห่างจากไป ชิงฟ่านเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เรื่องที่เซี่ยงเผิงหายตัวไปยังไม่รบกวนจิตใจมากเท่าชื่อชิงเหลียนและท่าทางของเซียนจู๋หย่าที่แสดงออกเกี่ยวกับชื่อนี้ ชื่อชิงเหลียนที่คุ้นเคยอย่างประหลาดทำให้ชิงฟ่านปั่นป่วนสับสนในใจอย่างบอกไม่ถูก มีแต่ตอนที่ได้เห็นหน้าป๋ายหลีเท่านั้นที่ความรู้สึกพวกนี้จะสงบลงและหายไป

วันรุ่งขึ้นลูกชิ้นก็ถูกส่งกลับมาถึงสวนดอกท้อของชิงฟ่านที่ป๋ายหลีพักอยู่ หมิ่นจือพาหมี่ตัวตัวมาเยี่ยม ลูกชิ้นกับหมี่ตัวตัวตรงเข้าไปกอดกันอย่างแสนคิดถึง

คืนที่ผ่านมา เซิงเกอไปหาสัตว์ภูตคุ้มครองสำนักส้าวหัวอีกตนที่เหลืออยู่ กะรับเป็นสัตว์ภูตของตน แต่ไม่สำเร็จ โดนทำร้ายบาดเจ็บ จึงไม่สามารถลงแข่งขันในวันพรุ่งนี้ได้ ป๋ายหลีได้ไปเยี่ยม และมอบยาเม็ดรักษาอาการบาดเจ็บและเพิ่มพลังฝึกปรือที่ได้มาจากเซียนจู๋หย่าให้ไปหนึ่งเม็ด พอป๋ายหลีกลับไป เจ้าสำนักจางก็เข้ามาหาเซิงเกอ ถามว่าเจ้าแน่ใจได้หรือยัง? เซิงเกอเอ่ยรับ เจ้าสำนักจางถามว่ามีหลักฐานไหม? เซิงเกอบอก ยังไม่มีชั่วคราว แต่จะมีในเร็วๆ นี้แหละ!

ค่ำวันนั้นมีการจับฉลากคิวแข่งขัน ชิงฟ่านไปดำเนินการจับฉลากแทนป๋ายหลีให้ ทำเอาป๋ายหลีตื้นตันมาก ล้อมหน้าล้อมหลังขอบคุณซือฝุเป็นการใหญ่ หมิ่นจือที่แวะมาหาพูดว่าเรื่องนี้เขาให้ซือฝุจับฉลากแทนกันทั้งนั้นอยู่แล้วนี่ เพราะขืนให้ลูกศิษย์จับฉลากกันเองได้เบียดกันตายพอดี ทำเอารอยยิ้มของชิงฟ่านค้างไปแป๊บนึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างขวาง ตาหมิ่นจือกระตุกโดยไร้สาเหตุไปสองตุบทันที ก่อนจะพบว่าอยู่ๆ ตัวก็ลอยวูบขึ้น ก้มหน้าลงก็เห็นพัดของชิงฟ่านขยายใหญ่รองอยู่ใต้เท้า จากนั้นทั้งหมิ่นจือและหมี่ตัวตัวก็ถูกพัดเหวี่ยงกระเด็นออกไปจากยอดเขามู่ซิ่วทั้งอย่างนี้ท่ามกลางสายตามองอย่างตกตะลึงของป๋ายหลี



ตอนไปบ้านเซียนจู๋หย่าครั้งหลัง ป๋ายหลีได้เอาดอกบัวกลับมาด้วย เป็นดอกบัวสีแดง พอมาถึงสวนดอกท้อก็โยนทิ้งไว้ตรงน้ำตก ปรากฏว่าแค่วันเดียวมันก็โตออกดอก ป๋ายหลีไปยืนดูอย่างทึ่งมาก ชิงฟ่านมาเห็นเข้าจึงถามว่ามีอะไรหรือ? ป๋ายหลีบอกเห็นดอกบัวนี้แล้วรู้สึกคุ้นตามาก แล้วนึกต่อในใจว่าเหมือนปานรูปดอกบัวตรงหน้าอกของนางเลย สมัยยังเด็กป๋ายหลีชอบดอกทานตะวันมาก แต่ตั้งแต่เริ่มีปานดอกบัวที่อก ก็เริ่มหันมาชอบดอกบัวด้วย มาตอนนี้เริ่มชอบดอกบัวมากยิ่งกว่าดอกทานตะวันเสียอีก

ชิงฟ่านถามอย่างไม่สนใจนักว่าเจ้าเองก็รู้สึกคุ้นๆ เหมือนกันหรือ? ข้าเองก็เหมือนกัน วันนี้เจ้ายังไม่ต้องลงประลอง จะไปดูการประลองของคนอื่นกันไหม? ป๋ายหลีบอกว่าไป ชิงฟ่านจึงพาไปที่สนามประลอง



Create Date : 11 มิถุนายน 2554
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 8:23:45 น. 15 comments
Counter : 1397 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ

เซิงเกอจะทำอะไรน้า


โดย: ซาลาสซา IP: 58.8.120.98 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:9:48:26 น.  

 
เซิงเกอต้องแิอบรักฉีหลิงแน่เลย จึงตกลงใจทำร้ายนางเอกเพราะรู้ว่าฉีหลิงชอบนางเอกอยู่ เรื่องราวกำลังสนุกเลยอยากรู้ว่าเซิงเกอมีแผนอะไรอยู่ในใจกันแน่ แล้วนางเอกเกี่ยวอะไรกับนิกายมาร หรือว่านางเอกเป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์ต้วจิิืิิิิิั่ิิั่ิิงร


โดย: chaluntharee IP: 49.228.104.88 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:11:06:52 น.  

 

คุณหลินโหม่ว บอกว่าแม่ของป๋ายหลี เป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์และอาจมีการสืบตำแหน่งทางสายเลือดน่ะ


ว่าแต่ เซิงเกอ นี่ต้องเป็นตัวร้ายแน่เลยแกล้งทำเป็นคนดี นี่ไม่รู้ว่าแอบชอบฉีหลิงด้วยหรือเปล่านะ?


โดย: คนอ่าน IP: 202.91.19.206 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:15:34:42 น.  

 
ถึงฉีหลิงจะดวงซวยกับนางเอกตลอดตั้งแต่เจอเทพชั่วสองคน แต่ซือฝุช่างเจ้าเล่ห์กันท่าทุกคนเลย

ปล ชิงเหลียนน่าจะเป็นป๋ายหลี หญิงงามเริ่ดขนาดนี้่มีอยู่คนเดียว


โดย: ืีnutty IP: 125.24.111.76 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:20:18:40 น.  

 
เซิังเกอน่ากลัวจะเป็นชิงเหลียน เพราะคนอยู่ในเหตุการณ์ใช้ไฟเผาเทพชั่วมีแค่ฉีหลิง (สีไฟไม่ใช่) นางเอก(สองเทพทดสอบแล้วไม่ใช่) ก็เหลือเซิงเกอนี่แหละ แต่ทำไมมายุ่งแต่กับฉีหลิงไม่ไปแย่งชิงฟ่าน หรือว่าจริงๆ แล้วนางเอกกะชิงฟ่านเค้า้รักกันมาก่อนแล้วชิงเหลียนนี่แหละตามแทรกเป็นยาดำทุกชาติ ชาตินี้เลยติดนิสัยแย่งกับนางเอก แต่ดันไปแย่งฉีหลิง ไม่ใช่ชิงฟ่าน


โดย: สมมติฐาน IP: 125.26.120.146 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:21:37:11 น.  

 
เซิงเกอก็ร้ายใช่เล่นนะเนี่ย

ใครอย่าได้ทำให้ซือฝูโกรธเชียว ไม่งั้นจะเป็นแบบหมื่นจือ 5555


โดย: หลี่หลิง IP: 58.9.178.27 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:23:11:34 น.  

 
แอบคิดเหมือนสมมติฐานข้างบนนะคะ

ซือฝุน่ารักจิงๆเลยยย


โดย: nothingme IP: 223.24.187.172 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:18:54:10 น.  

 
นั่งฮาที่ซือฝุทำกับหมิ่นจือ

สงสัยว่าตกลงป๋ายหลีเป็นใครกันแน่ แถมไม่ใช่ชิงเหลียนอีก
แล้วเรื่องดอกบัวแดงมันยังไงกันแน่นะ คาใจดีจริงๆ


โดย: Lucresia IP: unknown, 58.8.66.124 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:20:55:36 น.  

 
แต่ทำไมเราถึงคิดว่าป๋ายหลีคือชิงเหลียนละ คือ อ้างอิงจาก 1-5 กับ 1-9 อ่ะนะ หรือ เราสับสน ๆ ไปเองนิ


โดย: Jujee IP: 172.16.7.32, 115.31.176.130 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:10:18:09 น.  

 
ไม่อัพแล้วหรือ พี่หลิน


โดย: bebe IP: 110.169.193.98 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:14:59:49 น.  

 
อ่า ไม่อัพแล้วหรอคะ เมื่อวานรอตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง แล้วต้องออกไปข้างนอกพอดี เลยคิดว่าพี่หลินน่าจะมาอัพตอนเย็นๆ


โดย: tonfu IP: 58.64.55.147 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:16:29:09 น.  

 
พี่ชิงฟ่านน่ารักสุดฤทธิ์


โดย: เพราะนิยายคือศิลปะแห่งตัวอักษร IP: 119.46.227.5 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:18:26:03 น.  

 
ไม่ได้เข้าเน็ตซะ 2-3 วันน่ะค่ะ อัพให้แล้วนะคะ ^__^"


โดย: หลินโหม่ว (ซีเรีย ) วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:20:52:29 น.  

 
ขอบคุณคุณหลินมากๆค่ะ นิยายกำลังหนุกเลย


โดย: calo IP: 124.121.119.211 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:1:21:14 น.  

 
แล้วตอนแรก อยู่ที่ไหนเหรอค่ะ


โดย: PiN.VE IP: 10.192.1.43, 10.192.253.226, 203.155.29.220 วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:52:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ซีเรีย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ซีเรีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.