ก่อนใช้งาน ควรศึกษาการล็อกตำแหน่งต่าง ๆ ของแต่ ละเกียร์ ว่ามีการควบคุมด้วยปุ่มบนหัวเกียร์อย่างไร เช่น การเลื่อนคันเกียร์สลับไปมาระหว่าง N และ D มักไม่ต้องกดปุ่ม เป็นการออกแบบเพื่อความสะดวก หากกดปุ่ม นอกจากเปล่าประโยชน์แล้วยังอาจเลื่อน เลยมาทางเกียร์ต่ำกว่าได้ หรือในการปลดเป็นเกียร์ว่าง อาจผลักเลยไปยังเกียร์ถอยหลังได้ รถยนต์บางรุ่น สามารถดึงคันเกียร์ลงมาสุดที่ตำแหน่ง D2 หรือ 2 โดยไม่ต้องกดปุ่ม ถ้าผลักไป ข้างหน้าจะสุดที่ N ดังนั้นไม่ควรกดปุ่ม เพราะถ้าผลักคันเกียร์เลยขึ้นไปก็จะสุดที่เกียร์ว่างเท่านั้น ไม่มีทางเลยไปถึงเกียร์ถอยหลังได้
ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ต้องอยู่ในตำแหน่ง P หรือ N เท่านั้น ถ้าอยู่ในตำแหน่งอื่นจะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด การเข้าเกียร์ P แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์สามารถ ทำได้แต่ถ้าต้องการเดินหน้าก็ต้องเลื่อนคันเกียร์ไปที่ D ซึ่งต้องผ่านเกียร์ R ก่อน ดังนั้นก่อนสตาร์ทควรเลื่อนคันเกียร์ไปที่ N ดึงเบรกมือให้สุด แล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นจึงเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังตามปกติ
P หมายถึง PARKING เป็นตำแหน่งที่ใช้สำหรับจอดรถ และไม่ต้องการให้รถเคลื่อน โดยล้อรถจะถูกล็อกไว้ไม่สามารถเข็นได้ เช่น ในการจอดบนทางลาดชัน เมื่อต้องการจอดรถทิ้งไว้ หลังจากเหยียบเบรกจนรถหยุดสนิทแล้ว อย่าเพิ่งปล่อยเบรก จับคันเกียร์กดปุ่มปลดล็อก แล้วโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P จากนั้นปล่อยเบรก แล้วดับเครื่องยนต์
R หมายถึง REVERSE เป็นเกียร์สำหรับการถอยหลัง เมื่อต้องการเข้าเกียร์ R จะต้องเหยียบเบรกให้รถหยุดสนิท แตะเท้าขวาก่อน จากนั้นจับคันเกียร์กดปุ่มล็อก แล้วโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง R แล้วจึงปล่อยเบรค เหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวถอยหลัง
ตำแหน่ง P ใช้สำหรับจอดรถไว้นานๆ
ตำแหน่ง R ใช้ถอยหลัง
ตำแหน่ง N ใช้เป็นเกียร์ว่าง
ส่วนตำแหน่ง D , 3 , 2 , 1 เป็นเกียร์ขับเคลื่อนไปด้านหน้า
การจอดรถเพื่อรอสัญญาณไฟตามสี่แยก ไม่ควรเข้าเกียร์ตำแหน่ง P เพราะหากรถคันที่ตามมา
พุ่งเข้าชนด้านหลัง หรือมีแรงกระแทกจากด้านหลัง จะทำให้ตัวรถเคลื่อนไปด้านหน้า
ทำให้สลักล๊อกตำแหน่งเกียร์ P แตกหัก อาจทำความเสียหายให้กับชุดเกียร์ทั้งระบบ จนรถไม่อาจแล่นต่อไปได้
ดังนั้นหากรอสัญญาณไฟแดงในระยะไม่นานนัก ควรเข้าเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง D แล้วเหยียบเบรก หรือดึงเบรกมือให้แน่นหนา แต่หากรอเป็นเวลานาน เกิน 3 นาที ควรเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่ง N แล้วจึงถอนเท้าเบรก หากอยู่บนที่ลาดเอียงก็ดึงเบรกมือไว้เพื่อป้องกันการไหลของรถ
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2548