วันนี้ขี่รถไปกลับลำปาง-แพร่ ใช้น้ำมันไป 3.2 ลิตร
Honda wave 125 เครื่องเก่าโทรมๆ วิ่งไม่ค่อยมีแรงวิ่งแวะบ้าง ระยะทาง 227 กิโลเมตร เติมน้ำมันเต็มถังไปก่อน ถึงลำปาง ก็เติมอีก 1.6 ลิตร (50 บาท)กลับมาถึงแพร่ เติมอีก 1.6 ลิตร (50 บาท)อัตราสิ้นเปลือง = 227/3.2 = 70.9 กิโลลิตรประหยัดเว่อร์จริงๆ
เรียนรู้เกียร์อัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัย
ปัจจุบันเทคโนโลยีของรถยนต์ได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยหนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกคิดค้นขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับรถ ก็คือ ระบบเกียร์อัตโนมัติ หรือที่มักเรียกกันสั้นๆ ว่า เกียร์ออโต้ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า เกียร์ออโต้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกมากกว่าที่จะมุ่งเน้นด้านความปลอดภัย ดังนั้น หลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ จึงพบว่า มีสาเหตุมาจากการขาดความระมัดระวัง อาจจะด้วยผู้ขับขี่ไม่เข้าใจการทำงานของเกียร์ออโต้ หรือจะด้วยความพลั้งเผลอของผู้ขับขี่ก็ตาม ดังนั้น จึงมีคำถามว่า ผู้ขับขี่รถที่ใช้ระบบเกียร์ออโต้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ และการทำงานของเกียร์ออโต้ มากน้อยเพียงใด ในวันนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะพาท่านผู้ฟังไปเรียนรู้เทคนิคในการใช้เกียร์อัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ 1. ตำแหน่ง R ถือเป็นตำแหน่งที่อันตรายมากที่สุด โดยตำแหน่ง R ก็คือ ตำแหน่ง การถอย เหตุที่กล่าวว่าอันตรายที่สุด เนื่องจากหลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่มักเกิดจากความพลั้งเผลอและความเคยชินของผู้ขับขี่ เช่น เมื่อสตาร์ทแล้วลืมปลดคันเกียร์จากตำแหน่ง R ทำให้รถไหลไปชนกับสิ่งที่อยู่ด้านหลัง โดยที่ผู้ขับขี่ยังไม่ทันได้ระวังตัว เป็นต้น 2. การคร่อมตำแหน่งเกียร์ ถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะก่อนสตาร์ทหากคันเกียร์ คร่อมตำแหน่งอยู่ เช่น ระหว่าง P R เมื่อสตาร์ทเครื่อง แรงสะเทือนอาจทำให้คันเกียร์ดีดไปเข้าเกียร์ใด เกียร์หนึ่ง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงก่อนสตาร์ทหรือจอดอยู่เฉยๆ ผู้ขับควรตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่า เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย 3. การกดปุ่มที่หัวเกียร์ ผู้ขับขี่ควรศึกษาระบบการล็อคคันเกียร์ก่อนใช้รถเสมอว่า การเลื่อนจากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่งหนึ่ง ต้องกดล็อกที่หัวเกียร์หรือไม่ เพราะวิธีนี้นอกจากจะช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีเด็กนั่งอยู่ใกล้คันเกียร์แล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ได้อีกด้วย 4. อย่าไว้ใจเบรกมือ การดึงเบรกมือจะห้ามล้อได้เพียงแค่ 2 ล้อเท่านั้น แต่หลายคนมักเข้าใจว่า เบรกมือสามารถหยุดการเคลื่นที่ของรถได้ ดังนั้น เมื่อจอดรถก็เลยไม่ได้ใส่ใจที่จะเข้าเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย คือ ตำแหน่ง P หรือ ตำแหน่ง N การกระทำเช่นนี้ถือว่าอันตรายมาก เพราะเบรกมือจะ ทำให้รถเคลื่อนที่เมื่อใดก็ได้ หากคอมเพรสเซอร์แอร์ตัดขณะทำงาน เพราะแรงกดของเบรกมือจะน้อยกว่าการใช้เบรกเท้ามาก 5. การจอดรถขณะที่การจราจรติดขัด เช่น ติดไฟแดง หรือการจราจรคับคั่ง การหยุดในลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักใช้เวลาไม่นานนัก ดังนั้น ควรแตะเบรกและค้างคันเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง D เพื่อป้องกันการสึกหรอจากการสลับตำแหน่งไปมาของเกียร์ 6. การติดตั้งสัญญาณเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (R) ผู้ขับรถสามารถเพิ่มความปลอดภัย ได้ด้วยการติดตั้งสัญญาณไฟถอย เพราะเมื่อผู้ขับเข้าเกียร์ในตำแหน่ง R สัญญาณจะดังขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกัน มิให้ผู้ขับขี่ที่มักเผอเรอดึงคันเกียร์ลงมา แล้วทำให้รถถอยไปโดนสิ่งที่อยู่ด้านหลัง เทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า อาจจะส่งผลดีกับมนุษย์ แต่หากมนุษย์ไม่สนใจที่จะเรียนรู้เทคโนโลยี ก็อาจก่อให้เกิดความสูญเสียได้ ดังนั้น ท่านเจ้าของรถควรเรียนรู้การใช้เกียร์อัตโนมัติที่ถูกวิธีจากคู่มือการใช้รถ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ด้วยความปราถนาดีจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย