| |
|||
[18] ก่อผนังอิฐมวลเบา 3
นี่เป็นตอนที่ 3 แล้วสำหรับงานก่ออิฐ อาจจะดูเหมือนนานมาก แต่จริงๆ แล้วผ่านมาเพียง 20 วันนับจากวันแรกที่ช่างเริ่มลงมือ และเป็นตอนสุดท้ายของงานก่ออิฐ ถึงจะทำไปแล้ว 90% ก็ตาม เพราะส่วนที่เหลือ พวกครอบท่อระบายน้ำหลังคา กล่องบนสแลป งานพวกนี้จะค่อยๆ ไล่ทำเพิ่มตอนงานจับเซี้ยม และงานฉาบผนัง ช่วงของงานก่อผนังต้องระมัดระวังฝุ่นของอิฐมวลเบาด้วยครับ เพราะเวลาตัดทีนึงฝุ่นจะฟุ้งไปทั่ว ผมเลยชอบไปดูตอนพักเที่ยง  "ที่รักเดินตรวจงานระวังนะ..."  "ระวังฝุ่นเข้าจมูกหรอ"  "ระวังเข้าช่องประตูไม่ได้นะจ้ะ..." ..   >> ห้องบันไดเรียบๆ ยังไม่ได้ติดราวกันตก ต้องเดินระวังหน่อย  >> ช่องแสงของห้องบันได ดูยาวต่อกัน เราทั้งคู่ชอบเป็นพิเศษ  >> ยังตัดสินใจขนาดของหน้าต่างที่ไว้มองออกไปในโถงโรงรถไม่ได้(เพราะเรื่องราคา) ช่างเลยปล่อยไว้ก่อน  >> ผนังจะก่อขึ้นไปแค่นี้ เพราะสุดท้ายจะมีงานฝ้ามาปิดอยู่ดีครับ  >> หน้าต่างห้องน้ำบานเล็กๆ เพราะหันไปทิศตะวันตกทุกห้อง  >> ช่องประตูเชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องแต่งตัวค่อนข้างกว้าง  >> ขนาดของห้องแต่งตัวจะกว้างกว่าเล็กน้อยเพราะต้องวางตู้เสื้อผ้าหลายมุม  >> ผนังบังหลังคาด้านบน ช่างฉาบด้านในเรียบร้อยแล้ว  >> ปีนขึ้นมาดูโครงหลังคาครั้งแรก ด้านซ้ายจะเป็นรางน้ำปูน  >> กรอบประตูไม้ติดตั้งเรียบร้อยหมดแล้ว  >> ห้องน้ำขนาดกะทัดรัด แต่มีห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งทุกห้อง  >> ห้องนอนเล็กเป็นห้องเดียวที่ไม่มีชุดประตูบานเลื่อนกระจก แต่เป็นหน้าต่างแทนเพราะไม่ได้เป็นระเบียงออกไป  >> ห้องนอนเล็กขนาด 3.5x4 เมตร ไม่ค่อยกว้างมาก แต่ถ้าวางเตียงเดี่ยวจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น  > ด้านห้องนอนใหญ่จะเป็นระเบียงเดินออกไปได้ครับ แต่ฝั่งห้องนอนเล็กเป็นแค่แผ่นสแลปปูน(จริงๆ ก็ยืนได้สบาย)  >> เทียบกับมุมมองจากห้องนั่งเล่นชั้นล่าง สามารถเดินไปที่ครัวทั้งจากในบ้านและจากเฉลียงนอกบ้าน จะเห็นว่ามีการใส่กรอบประตูไม้ และเริ่มฉาบผนังบางส่วนบ้างแล้ว ทำให้บ้านดูเป็นบ้านขึ้นมามาก เพราะเริ่มเห็นห้องต่างๆ ชัดเจนขึ้น  "ยังไม่ถึงเดือนเลย ก่อผนังเสร็จหมดแล้วหรอ" เมื่อก่อผนังเสร็จแล้วจะรู้สึกได้เลยครับ ว่าชั้นล่างค่อนข้างเย็นสบาย ลมพัดเข้ามาทางโรงรถ แต่ชั้นบนยังร้อนอยู่เพราะยังไม่ได้มุงหลังคา แต่ยังมีอีกชั้นที่ลืมบอก..  "ชั้นไหนอีกล่ะ ขี้ลืมจัง"  "ชั้นรักเธอ ~" ..  "อย่าพึ่งอ้วกกันนะครับ ห้องน้ำยังสร้างไม่เสร็จ..." [17] ก่อผนังอิฐมวลเบา 2
งานทั้งหมดตอนนี้ก็ยังอยู่กับการก่อผนังอิฐมวลเบาครับ ค่อนข้างคืบหน้าไปมาก น่าจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อก่อภายนอกทั้งหมดแล้วก็ดูหลังใหญ่กว่าที่คิดเลยทีเดียว เพราะใครผ่านไปผ่านมา ก็จะถามว่า..  "นี่บ้านสามชั้นหรอ" คงเป็นเพราะมีผนังที่ปิดหลังคาและเสาชั้นล่างค่อนข้างสูง แถมทรงก็แปลกอีก เมื่อเทียบกับทรงบ้านจัดสรรทั่วไป  "ก็ดูเหมือนสามชั้นนะ"  "บ้านอ่ะหรอ..."  "พุงเจ้าของบ้านเนี่ย" ..   >> ผ่านไปอีกสัปดาห์ ภายนอกก่อแทบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว  >> ด้านหลังโรงรถ ด้ายซ้ายจะก่อผนังเต็ม มีเคาน์เตอร์ ด้านขวาจะเป็นบานกระจกใหญ่ชนเพดาน  >> ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ พึ่งเทเสาเอ็นกับคานทับหลังเสร็จ เห็นเป็นช่องประตูแล้ว  >> ห้องแต่งตัวที่มีปรับขนาดหน้าต่าง เลยช้ากว่าห้องอื่นหน่อย  >> ห้องนอนก่อเสร็จแล้ว ที่เห็นคือจะมีกระจกบานเลื่อน และช่องแสงด้านขวา สูง 2.4 เมตรเกือบชนคาน  >> ระเบียงของห้องนอนใหญ่ เอาไว้แค่บังแดดบังฝนชั้นล่าง ไม่ได้ใช้งานอะไร  >> ห้องนอนเล็กก่ออิฐแล้ว รอทำเสาเอ็นและคานทับหลังอยู่  >> มุมนั่งเล่นหลังบ้าน น่าจะเป็นมุมโปรดในอนาคต  >> กระจกบานเลื่อนของครัวจะหันรับแสงช่วงเช้าจากทิศตะวันออก  >> ผนังอีกสองด้านไม่เจาะช่องแสงเพิ่มเพราะเท่าที่มีก็สว่างมากแล้ว  >> ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ข้างครัว ซึ่งแปลนจะเหมือนกับห้องนอนเล็กด้านบนเป๊ะ  >> ระบบท่อน้ำจากห้องน้ำเล็กด้านบน จะลงมาในห้องน้ำชั้นล่าง ทำให้เดินท่อใกล้กันหมด เซอร์วิสง่าย  >> ใต้บันไดจะกลายเป็นห้องเก็บของ รวมถึงตู้ควบคุมไฟฟ้าด้วย  >> ผนังติดทีวีในห้องนั่งเล่น และด้านขวาเป็นช่องทางเดินไปสู่ครัว  >> ห้องรับแขกให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง มีผนังน้อยเมื่อเทียบกับหน้าต่างและประตูกระจกรอบๆ  >> ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างโรงรถและระเบียงด้านนอก  >> กรอบประตูห้องต่างๆ ในบ้าน ใช้แค่ประตูห้องเก็บของ ห้องนอนและห้องน้ำสองห้อง ที่เห็นเพิ่มเติมเข้ามาพร้อมกับงานก่อผนังคือระบบท่อน้ำตามจุดต่างๆ จุดที่ควรระมัดระวังคือต้องมีการปิดปากท่อ เพื่อกันเศษปูนเข้าไปอุดตัน จริงๆ ตอนนี้ถือว่างานก่อผนังสำเร็จไปแล้ว 80% เหลือแค่บางจุดเท่านั้น อย่างผนังส่วนต่อเติมโรงรถ (จริงๆคือแค่ยื่นออกไปจากตัวบ้าน 1.2 เมตร แต่ห่างจากแนวรั้ว 2 เมตร) ต้องรอราคาค่าก่อผนังและชุดหน้าต่างอลูมิเนียม จากผู้รับเหมาก่อนว่าแพงแค่ไหน เพราะหน้าต่างยิ่งบานใหญ่ราคาก็ยิ่งแพง  "ไม่เหมือนกระเป๋าเสื้อผ้าผู้หญิงครับ ยิ่งเล็กก็ยิ่งแพงไม่รู้ทำไม..."  "บ่นอะไรหรอจ้ะ"  [16] ก่อผนังอิฐมวลเบา 1
เดือนสิงหาคมทั้งเดือนนี้ คงจะเป็นงานก่อผนังทั้งหมดครับ ผมจะแบ่งเป็นหลายๆ ตอน เพื่อให้ค่อยๆ เห็นความคืบหน้า อิฐที่ใช้จะเป็น อิฐมวลเบา Q-CON G4 ทั้งหลัง แต่มันดียังไงล่ะ.. รุ่นนี้ผู้รับเหมาบอกว่าต้องสั่ง มันมีส่วนผสมดีกว่ารุ่นปกตินิดหน่อย เรื่องอิฐคงไม่มีอะไรมาก แต่ที่ต้องเน้นคือ คานทับหลัง เสาเอ็น ต้องมีทุกด้าน โดยเฉพาะผนังด้านที่มีช่องประตู หน้าต่าง และเมื่อพูดถึงประตู หน้าต่าง และช่องแสงต่างๆ เมื่อทำไปพร้อมผนัง เราก็ต้องเริ่มเข้ามาดูในบ้านจริง ว่าขนาดหรือตำแหน่งตามแบบ เหมาะสมและตรงกับความต้องการหรือไม่ เพราะบางห้องมืดเกินไป หรือไม่รับลมเท่าที่ควร ก็ปรึกษากับผู้รับเหมาเพื่อปรับเปลี่ยนได้ แต่ของผมจะปรึกษากับสถาปนิกด้วย โดยให้คำแนะนำผมมาว่า ระดับความสูงของช่องแสง เมื่อมองจากภายนอกควรสูงเท่ากันหมด  "งั้นเอาหน้าต่างบานใหญ่ๆ ทุกห้องเลยไม่ได้หรอ"  "ก็เปลืองค่าผ้าม่านอ่ะสิจ้ะ..."  >> อิฐมวลเบาลอตแรกมากองรอช่างแล้ว เมฆก็เช่นกัน  >> บ้านตอนนี้เห็นแต่เสากับคาน ดูโปร่งโล่งมาก  >> ผู้รับเหมาบอกทยอยสั่งมาทีละชุดดีกว่า เดี๋ยวไม่มีที่วาง  >> Q-CON G4 ตามที่ผู้รับเหมาสั่งมา  >> คนงานทยอยยกมากองแยกไว้ตามห้องต่างๆ  >> ช่างเริ่มก่อผนังจากชั้นสองก่อน  >> เมื่อก่อขึ้นมาถึงระดับนึง ก็ต้องหยุดเพื่อเทคานทับหลังก่อน  >> ก่อเร็วมากครับ จุดเด่นของอิฐมวลเบาเลย  >> นอกจากชั้นสองแล้ว ก็เริ่มก่อปิดหลังคาด้านบนด้วย หลังจากนั้นผมไม่ได้ไปที่ไซส์งานอีก 3 วันครับ ปล่อยให้ช่างทำงาน ระหว่างนั้นก็กลับมากางแบบดูว่าอยากปรับช่องแสง หรือผนังตรงไหนบ้าง ปรึกษากันแล้วว่าจะไม่ปรับอะไรมาก เพราะแบบเดิมดีอยู่แล้ว มีแค่ขยายหน้าต่างห้องแต่งตัวใหญ่ขึ้นเท่านั้น เพราะมืดเกินไป และเมื่อไปดูไซส์งานอีกครั้ง..  "ทำไมเร็วจัง"  "วันก่อนยังโล่งอยู่เลย..."  >> ลงรถมาแอบตกใจ บ้านกล่องหลังน้อยเป็นรูปเป็นร่างแล้ว  >> ห้องนอนเล็กกำลังรอเทคานทับหลังกับเสาเอ็น  >> โถงโรงรถชั้นสองเสร็จทุกด้านแล้ว ตรงนี้ไม่มีหน้าต่างครับ  >> ตรวจดูว่ามีคานทับหลังแบบนี้ โอเคผ่าน  >> ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็กำลังก่อผนังอยู่เลย ห้องนี้ต้องก่อเบิ้ลสองชั้นสามด้าน  >> อิฐมวลเบาก็ทยอยมาเรื่อยๆ กองรอให้ช่างมาก่อผนังชั้นล่างแล้ว  >> โรงรถชั้นล่างด้านหลังนี้เป็นส่วนต่อเติมยื่นออกไป จะทำผนังแบบไหนคอยติดตามครับ ตอนนี้ก่อผนังไปแล้ว 30% ก็ถือว่างานเดินเร็วมากครับ และไม่มีก่อผิดแบบเลย เพราะช่างเขมรที่ทำก็อ่านแบบได้ เหตุผลที่เลือกอิฐมวลเบา คงเป็นเพราะคุณสมบัติในตัวมัน ที่ทั้งเบา ก่อเร็ว และกันร้อน ในราคาใกล้เคียงกับอิฐมอญ แต่อิฐมอญจะดีกว่าตรงถ้าเจาะผนังแขวนของจะแข็งแรงกว่า  "จะว่าไป อิฐมวลเบาก็เหมือนรุ้งอยู่นะ..."  "ทั้งขาว ทั้งเบา ชิมิ"  "แบนน่ะจ้ะ..." ..  อิฐมวลเบาแข็งแรงทุกก้อนครับ หัวผมคอนเฟิร์ม.. [15] งานบันไดปูน
เข้าสู่ต้นเดือนสิงหาคมแล้ว แต่ฝนปีนี้ก็ยังไม่มาจริงๆ ซักที ช่างก็ทำงานสบาย พอไปถึงไซส์งานช่างก็ทักทันทีครับ..  "คืนมั้ย!!.. จะคืนมั้ย!!.. (ในสำเนียงเขมร)"  "เอ๊ะ..." เราไปเผลอยืมอะไรช่างรึเปล่า.. ตลับเมตรช่างติดมือเราไปรึเปล่า.. แต่ถึงอย่างนั้นก็จะถามเราดีๆ นะ.. ขณะที่ผมกำลังยืนงงอยู่นั้น เมียช่างก็เดินมาถามย้ำว่า..  "บันไดเสร็จแล้วนะ จะขึ้นมั้ย" ครับ คงเป็นความผิดของผมเองที่ไม่เตรียมตัวรับ AEC เอาเป็นว่าเรารีบไปคืน.. เอ้ย ขึ้นบันไดกันดูดีกว่า งานส่วนบันไดนั้น คนออกแบบคนแรกเลือกใช้แบบโครงเหล็กครับ แต่เมื่อเปลี่ยนคนออกแบบ ผมก็ขอให้เปลี่ยนเป็นแบบโครงปูนละกัน ถามผู้ใหญ่มาก็แนะนำว่าปูนดีกว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องอายุการใช้งาน เพราะเหล็กก็ทนทานอยู่ได้หลายสิบปีเหมือนกัน แต่เป็นเรื่องของสัมผัสการเดิน ให้ความรู้สึกแน่นกว่า เสียงก็ไม่ดัง ราคาก็ไม่ได้ต่างกัน เพียงแค่โครงเหล็กเร็วและง่ายต่อผู้รับเหมาหน่อย  "แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าแข็งแรง"  "ถ้ารุ้งขึ้นไปยืนแล้วไม่พังล่ะก็..." ..   >> ขึ้นไปแล้วยังมีหันมาเรียกให้ทดลองขึ้นด้วยกันอีกแน่ะ  >> บ้านหลักเล็ก บันไดก็กะทัดรัดตาม  >> ผนังด้านข้างบันไดจะก่ออิฐซ้อนสองชั้นเต็มคานครับ  >> ตอนนี้รู้สึกเหมือนบ้านแบบมีใต้ถุนสูงมากเลย  >> ลูกตั้ง ลูกนอน ก็ตามขนาดที่สถาปนิกแนะนำครับ เดินขึ้นลงได้สะดวก  >> อีกเหตุผลสำคัญที่เลือกบันไดปูน เพราะลูกสาวตัวน้อยนี่แหละครับ ถามว่าเกี่ยวอะไรกับหนูมะลิด้วย.. ต้องบอกก่อนว่าบ้านเก่าผมเป็นโครงบันไดไม้ ซึ่งบันไดไม่มีแผ่นไม้ปิดที่ลูกตั้ง มองเห็นเป็นช่องๆ ทำให้หนูมะลิกลัวตกมาก ไม่กล้าขึ้น ต้องอุ้มเอาอย่างเดียว  "ต่อไปก็ขึ้นเองได้แล้ว..."  >> มองเหมือนจะบอกว่ายังไงก็ต้องอุ้มขึ้นบันไดเหมือนเดิมนั่นแหละ  >> เพราะแค่ทำหน้าแบ๊วหน่อยพ่อก็ใจอ่อนแล้ว  >> สงสัยจะได้อุ้มขึ้นบันไดเหมือนเดิม ที่นอกเรื่องซะเยอะเพราะงานบันไดไม่ค่อยมีรายละเอียดมากครับ บอกได้แค่ความกว้างบันได 90 เซนติเมตร ข้างใต้เป็นห้องเก็บของ ส่วนเรื่องจำนวนขั้นตามความเชื่อ ผมยกให้สถาปนิกไปคุยกับคุณแม่เลย  >> มาดูไซส์งานทั้งทีก็นั่งเล่นชมบรรยากาศไปด้วย ลมดีมากเลย  >> เพดานในโรงรถผมตั้งใจจะเก็บไว้แบบนี้ โดยเฉพาะปูนหล่อนี่ชอบมาก(แต่ไม่ชอบปูนลอฟนะ) งานโครงสร้างปูนต่างๆ เสร็จเกือบหมดแล้วครับ และผ่านไปได้ด้วยดี ตรงจุดไหนที่ผมอยากจะโชว์ความดิบของผิวปูน ก็แจ้งผู้รับเหมาล่วงหน้าไว้ เช่น ท้องสแลปปูน คานและแผ่นพื้นสำเร็จรูปชั้นสอง ซึ่งต้องเข้าใจตรงกันก่อน ว่าเจ้าของบ้านต้องการแบบไหน รับได้แค่ไหน เพราะความสวยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้ผมรู้ว่างานปูนหล่อที่ผมชอบ ทำยากและต่างจากงานปูนลอฟที่มาฉาบทีหลัง ปูนหล่อสำคัญที่แผ่นแบบที่มารับปูน ลายก็จะออกมาตามนั้น แก้ไขทีหลังไม่ได้แล้ว ซึ่งงานที่ออกมาทั้งหมดเมื่อเห็นก็โล่งอก แต่ดูผู้รับเหมาคงจะโล่งอกกว่าผมอีก..  "สวยถูกใจเลย..."  "ช่างคะๆ ฉาบทับเลยค่ะ"  [14] เทคานบนและโครงหลังคา
งานโครงสร้างใกล้จะมาถึงส่วนสุดท้ายแล้วครับ ก็ตามหัวข้อเลย คืองาน คานรับหลังคา หรือเรียกอีกอย่างว่า อะเส หน้าที่มันก็ตามชื่อครับ ส่วนหน้าตามันก็เหมือนชั้นล่างๆ นั่นแหละ เพราะคานส่วนนี้ของผมเป็นแบบคานปูน วิธีทำก็เหมือนกันหมด อาจจะเคยเห็นผ่านตาอีกแบบคือ อะเสเหล็ก ก็จะใช้เหล็กกล่องๆ เชื่อมตามหัวเสา ขนาดก็ตามวิศวกรระบุ รับน้ำหนักได้เหมือนกัน ตรงนี้ผมจะไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้นะครับ..  "กลัวคนอ่านไม่เข้าใจหรอ"  "พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันจ้ะ..."  >> ตีแบบและผูกเหล็กรอไว้เหมือนชั้นล่างๆ  >> รถเครนถูกเรียกใช้บริการอีกครั้ง เวลามันทำงานต้องยืนห่างๆ ไว้ก่อน  >> สูงขนาดนี้ ตามขึ้นไปถ่ายไม่ไหวแล้ว  >> รถปูน CPAC มาตรงเวลาทุกคันครับ ไว้ใจได้  >> งานทั้งหมดก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเหมือนเดิม เห็นเมฆแล้วก็กลัวฝนเหมือนกันครับ เหตุผลที่บ้านผมเลือกใช้คานรับหลังคาปูนมันมีความจำเป็นอยู่ครับ ถ้าได้ดูภาพ 3D ที่ผมทำจากตอน [4] จะเห็นว่าบ้านเมื่อสร้างเสร็จ จะมองไม่เห็นหลังคา เพราะตรงส่วนนี้จะมีการก่ออิฐบังหลังคาไว้ นอกจากคานต้องจะรับน้ำหนักสองอย่างคือจากโครงหลังคา และผนังอิฐ ยังมีรางรับน้ำจากหลังคาที่เป็นปูนหล่อยื่นจากคานอีก ซึ่งรายละเอียด ตรงรางน้ำนี้ค่อยอธิบายเพิ่มหลังจากมุงหลังคาแล้วละกันครับ  >> แกะแบบออกแล้ว ก็ต่อด้วยงานเชื่อมโครงหลังคาเหล็ก  >> โครงหลังคามีแบ่งเป็นสองส่วนนะครับ โครงใหญ่อยู่ด้านหน้าที่เห็น โครงเล็กอยู่ด้านหลัง  >> ระหว่างที่ตรวจงานโครงหลังคา แอบเห็นอิฐมวลเบามากองรอแล้ว  >> โครงหลังคาเล็กด้านหลัง สโลปหันไปคนละทางกัน  >> สแลปปูนหล่อตรงนี้ ผมอยากโชว์ผิวดิบๆ ของมันแบบนี้เลย  >> มุมนี้ที่ผมยืนในห้องนอนเล็ก จะเห็นโครงหลังคาทั้งสองชุดที่หันไปคนละทางกัน  >> จุดที่โครงหลังคาทั้งสองชุดมาชนกัน  >> จะเห็นหลังคาสโลปลงไปที่รางน้ำปูนทางซ้าย  >> รางน้ำจะยื่นออกจากตัวบ้านป้องกันปัญหารั่วลงในตัวบ้าน  >> จะมีท่อระบายน้ำและก่ออิฐเป็นกล่องครอบท่อน้ำอีกที  >> มองมุมนี้จะเห็นความแตกต่างของขนาดห้องน้ำทั้งสองห้อง  >> ห้องน้ำเล็กจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกอย่าง แต่ห้องข้างล่างจะมีช่องชาร์ปตรงส่วนอาบน้ำ  >> ตรงโถงนี้ไม่มีเสากลางกับคานคั่นกลาง ให้ความรู้สึกโปร่ง  >> ที่ชั้นล่างระหว่างเสาจะเป็นประตูเข้าบ้าน เทคนิคการทำหลังคาแบบนี้ก็จะได้บ้านทรงกล่อง โมเดิร์นๆ แบบที่หลายๆ คนชอบ โดยไม่ต้องทำเป็นพื้นดาดฟ้าปูน ซึ่งเสี่ยงปัญหาน้ำขัง รั่วซึม จากน้ำฝนมากกว่า ส่วนกระเบื้องผมจะปูด้วยกระเบื้องลอนคู่ธรรมดา เพราะคนจะมองไม่เห็นอยู่แล้ว ถ้าถามว่าทำไมไม่ใช้เมทัลชีท เพราะเสียงเงียบกว่าเมทัลชีทเวลาฝนตกครับ และที่สำคัญ..  "ไม่แพง เงินก็เหลือไว้แต่งรถ..."  "เครื่องสำอางไว้แต่งหน้าก่อน" ..  |
สมาชิกหมายเลข 3192459
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Rest Area & Fill Garage Group Blog All Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
