มีสวรรค์ก็มีนรก มีตลกคงมีโศกเศร้า มีท่านย่อมมีเรา หากมีเงาคงมี...วิญญาณ
Group Blog
 
All blogs
 

ผีฝรั่ง : โดเพิลเกงเกอร์ Doppelgänger

หลังจากที่เขียนหัวข้อที่ค่อนข้างนำจากเวบอื่นมาปั๊มแล้ว ผู้เขียนรู้สึกละอายในสิ่งที่ทำ เพราะถ้าเป็นอะไรไปเขาอาจมาหลอกผม...(ล้อเล่น) ดังนั้น blog นี้จึงขอนำเานอเรื่องที่ เป็น แนวของผมเอง พิมพ์เองจริงๆนะครับ และคิดว่าจะไม่ยืดยาวเหมือนก่อนๆด้วย...(ไม่ต้องห่วงยังคงมีฐานข้อมูลอยู่รับรองว่าไม่ได้เขียนจากจิตนาการ)

ท่านหลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้มาจาก เกมออนไลน์ RagnaroK มาบ้างแล้ว หรืออาจได้ยินมาจากหนัง หรือ การ์ตูนหลายๆเรื่อง
แต่คุณ รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้ว สิ่งนี้คืออะไร?

ตำนาน1.ได้เล่าว่า สิ่งนี้ (Doppelgänger) เป็นร่างวิญญาณของคนที่ใกล้ตาย หรือ ถึงเวลาตายนั่นเอง ประมาณว่าป่วยเหลาะแหละอยู่ที่ ICU แล้วโผล่มาที่บ้านประมาณเนี้ย เป็นสัญญาณบอกว่าคนนี้จิตอ่อนแอจนจะถึงเวลาแล้ว ทำให้วิญญาณออกจากร่าง (ออกใมาโดยไม่รู้ หรือว่า ออกมาลา ก็ไม่อาจรู้ได้...)

ตำนาน2.เล่าว่า เป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ ปลอมแปลงร่างมา เพื่อจะได้ชิงที่ของคนๆนั้น...ก็คือลบ "ตัวจริง" ออกไปนั่นเอง เช่นว่า หาก นาย A เดินอยู่ในห้าง พบกับ นาย ก ซึ่งหน้าตาเหมือนกันทุกประการ อีกทั้งนิสัย ความสามารถเช่นกัน ถ้าไม่มีข้อมูลว่ามีฝาแฝด แล้วละก็ ระวังไว้เถิดนาย A
เพราะถ้าหากนายเผลอเมื่อไร นาย ก จะฆ่านายและแทนที่เป็น นาย A ทันที

ขออีกตำนานที่เล่าว่า Doppelgänger เป็นสัญลักษณ์ของความตาย(คล้ายๆตำนาน1)
แต่ผู้ที่จะตายไม่จำเป็นต้องบาดเจ็บใดๆ เช่น นาย ข ตอนกลางคืนยังนั่งเล่น msn แชทกับเพื่อนอยู่ คืนนั้น นาย ข ก็ไปปรากฏตัวในที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งอาจสำคัญต่อใจเขา เช่น บ้้านของพ่อแม่ของตน วันรุ่งขึ้น เขาอาจเป็นข่าวว่า นาย ข ถูกไฟคลอกตายเนื่องจาก ไฟฟ้าลัดวงจร จากปลั้กคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

เป็นอย่างไรครับ...Doppelgänger ที่ท่านเข้าใจเป็นอย่างนี้หรือไม่
พึงระวังเถิดว่า หากเจอคนที่หน้าตาเหมือนเราเมื่อไหร่ล่ะก็ ระวังไว้...มันจะมาโดยไม่รู้ตัว...
credit //en.wikipedia.org/wiki/Doppelg%C3%A4nger
หากมีข้อติ ชม แนะนำอย่างไรก็ช่วย comment ด้วยนะครับ...




 

Create Date : 12 กันยายน 2551    
Last Update : 7 ธันวาคม 2551 11:24:41 น.
Counter : 942 Pageviews.  

ผีไทย : เปรต

ขอขั้นรายการผีญี่ปุ่น ด้วยเรื่องของผี ไทยไทย บ้างเพื่อเป็นการอนุรักษ์ผีไทยให้คงอยู่คู่เมืองไทยต่อไป ในการนี้ กระผมจึงเลือกผี เปรต ที่โด่งดังมากๆๆมานำเสนอ

ผีเปรต

ผีเปรต(ไม่ได้อ่านว่า เป-รด แต่อย่างใด...อย่าสับสน...)ในตำนานผีไทยกล่าวไว้ว่า มีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ๆ ใครอยากจะทราบราย ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถาอันเป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรียญ ณ วัดพระเชตุพนฯ และหาอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้

หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งใ นป่าหิมพานต์ ชื่อว่าวิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล

นอกจากเปรต 12 ตระกูลนี้ ยังมีเปรตอีก 19 จำพวก ได้แก่
1. สุจิโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นเข็ม
2. ขุรโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นกรด
3. เอกปาทา คือ เปรตผู้มีเท้าข้างเดียว
4. อเนกปาทา คือ เปรตผู้เท้ามาก
5. เอกหตถา คือเปรตผู้มีมือข้างเดียว
6. อเนกหตถา คือ เปรตผู้มีมือมาก
7. เอกเจตตา คือ เปรตผู้มีจักษุข้างเดียว
8. อเนกเนตตา คือ เปรตผู้มีจักษุมาก
9. ได้แก่ เปรตจำพวกที่กินมลทินครรภ์เป็นอาหาร
10. ได้แก่ เปรตจำพวกขนหยักเยื่อทูลศีรษะไว้เป็นนิตย์
11. ได้แก่ เปรตจำพวกกายยาว 25 เส้น นอนกลิ้งอยู่ดุจแผ่นศิลา
12. ได้แก่ เปรตจำพวกตัวจมอยู่บนภูเขาเพียง สะเอว ไฟไหม้อยู่
13. ได้แก่ เปรตพวกไถนาอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
14. ได้แก่ เปรตจำพวกมีกายสูง มีกลิ่นตัวเหม็นยิ่งนัก
15. ได้แก่ เปรตจำพวกมีพืชเป็นเหล็กเป็นเปลวเพลิงรัดศีรษะอยู่
16. ได้แก่ เปรตจำพวกมีร่างกายผอม และเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา
17. ได้แก่ เปรตจำพวกรูปชั่วตัวผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศีรษะกลั้วไปด้วยฝุ่น
18. ได้แก่เปรตจำพวกดำดุจตอไฟไหม้ และ
19. ได้แก่ เปรตจำพวกสูงเท่าลำตาล มีแต่หนังหุ้มกระดูก

เปรตไม่สมประกอบ 4 ชนิด
1. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ร่างกายซูบผอมอดโซ
2. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิการ เช่น กายเป็นอย่างร่างของมนุษย์ แต่ศีรษะ เป็นอย่างสัตว์ดิรัจฉาน เช่น ตัวเป็นคนหัวเป็นนกกาบ้าง...เป็นสุกรบ้าง...เป็นสุนัขบ้าง
3. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิกล เสวยกรรมกรณ์ (รับกรรม รับอาญา) อยู่ตามลำพังด้วยอำนาจบาปกรรมที่ได้กระทำเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่บนโลก มนุษย์
4. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างอย่างมนุษย์ปกติ แม้เป็นผู้เสวยก็มีวิมานอยู่ แต่ใน ราตรีต้องออกจากวิมานไปเสวยกรรมจนกว่าจะรุ่งเช้า เรียกว่าวิมานนิกเปรต

เปรตเป็นผีจำพวกหนึ่ง ซึ่งเคยทำบาปสร้างกรรมเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ครั้น ตายลงแล้วก็ต้องมารับผลกรรมตามที่ได้สร้างไว้ทำให้ต้องมีความเป็นอยู่ อย่างอดอยาก ผอมโซ ชอบส่งเสียงร้องหรือปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นเพื่อขอส่วนบุญให้ช่วยทำบุญอุทิศ ส่วนกุศลไปให้บ้างเพราะอดอยากหิวโหยซะเหลือเกิน

โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเนียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ....สูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโหยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติของคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตัญญู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่าง ที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้านก็จะพากันด่าประณามว่า...ไอ้เปรต คนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดหมู เชือดวัว อยู่เป็นอาจิณ เวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นคนหัวเป็นไก่ หรือหัวเป็นหมู ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง ฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก ใครอยากเห็นก็ลองดูรูปปั้นเปรตชนิดต่างๆ ได้ที่วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี

เปรตมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไปตามประเภทและเผ่าพันธุ์รวมทั้งคติความเชื่อ ที่บอกต่อหรือสืบทอดกันมา บางตำราว่าอาศัยอยู่ตามวัดคอยปรากฏตัวหลอกหลอนหรือแสดงร่างให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญ บ้างว่าอยู่ตามท้องทุ่งตามทางเปลี่ยวใครไปเที่ยวดึกๆ กลับบ้านคนเดียวเดินผ่านศาลาวัด หรือตามทางแยก อาจเจอเปรตเดินตามหลังมาส่งถึงบ้าน หรือเดินเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ซึ่งหากเจอเปรตก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไร วิ่งลูกเดียว หรือหากว่ามีเปรตและผีชนิดใดก็ตามขวางหน้าเรา อยู่ โบราณว่าอย่าวิ่งหันหลังกลับ เพราะจะโดนมันดักหน้า ให้วิ่งไปข้างหน้าหรือวิ่งฝ่าไปเลย แต่ถ้าจะให้ดีกลางค่ำกลางคืน นอนอยู่บ้านสบายที่สุด...ว่ามั๊ย...

เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุญจากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผีญาติๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน ใครจะศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดถวาย ซาวด์อเบาท์ หรือโทรทัศน์ วีดีโอ ซีดี. ก็ ตามถนัดไม่ผิดกติกาอันใด หากไม่มีญาติหรือ ลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหย ร้องโหยหวล เสียงร้องของเปรตไม่มีใครยืนยันได้ว่าไพเราะเพราะพริ้งขนาดไหน นอกจากในบางตำรา บอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนล่ะอย่างกับที่พวก วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต ว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ดๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่า รูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก แบบนี้พวกเปรตที่มีหัวเป็นไก่ก็อาจจะร้องเสียง เอก-อี้-เอ้ก-เอ้ก ก็ได้ล่ะมั้ง ถ้าใครทำบุญหากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกนามพวกผีไม่มีญาติ หรือบรรดาผีๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร

หลังจากที่ถูกพระพันวษาสั่งประหารชีวิต นางวันทองได้กลายเป็นผีเปรตที่ไม่มีหั วหรือเปรตหัวขาด วันหนึ่งนางทราบข่าวว่าพระไวยวรนาถลูกชาย กำลังจะไปรบกับผู้เป็นพ่อคือขุนแผน เปรตนางวันทองกลัวพ่อกับลูกจะต้องฆ่ากันเอง พลอยเป็นบาปกรรมติดตัวกันไปเปล่าๆ ก็เลยออกมาห้ามทัพ โดยแปลงกายเป็นสาวงาม นั่งเล่นอยู่บนชิงช้า เพราะรู้ว่าพระไวยฯ นั้นชีกอเหมือนพ่อนั่นแหละพระไวยฯ ไม่ทราบความนัย จีบสาวงามที่ได้พบ แม้เธอจะบอกว่าเป็นแม่ หรือนางวันทอง พระไวยฯ ก็ไม่ยอมเชื่อจนนางต้องแปลงเพศกลับเป็นเปรตอย่างเดิมเพื่อให้เห็นแจ้ง ประจักษ์ ว่ากันว่า เปรตนอกจากจะมีรูปร่างผอมโซจนเห็นโครงกระดูกทุก ซี่และมีความสูงชนิดผีฝรั่งอายแล้ว มันยังสามารถ แลบลิ้นได้ยาวเท่ากบความสูงของตัวเองอีกด้วย อะไรจะเว่อร์ปานนั้น

เปรตน่าจะเหมือนผีธรรมดาสามัญทั่วไปคือ กลัวพระ กลัวเครื่องรางของขลัง ลองเจอเข้าเป็นเผ่นกระเจิง เพราะผีกับพระไม่ถูกกัน เหมือนงูกบเชือกกล้วยยังไงยังงั้น แต่สำหรับ ผีเปรตมีท่านผู้รู้แนะนำว่า หากใครเจอระหว่างทางหรือเจอที่ไหนก็แล้วแต่ ให้รีบบอกว่า...ไปที่ชอบๆ...หรือไปผุดไปเกิดซะเถอะ แล้วจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ เท่านี้ผีเปรตและผีทั้งหลาย ก็จะเลิกตอแย หายตัวแว๊บ..ไปเลย แล้วก็อย่าลืมทำตามสัญญา เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเจออีกเป็นรอบที่สอง เพราะคุณผีเขามาทวงส่วนกุศลนั่นแหละ

ผีเปรต หรือชาวอีสานเรียกว่า ผีเผด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เอ๊ย..ไม่ใช่ เกิดหรือถือกำเนิดขึ้นตามผลกรรมที่เคยได้กระทำเอาไว้ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตำราโบราณกล่าวว่า เวลาที่เปรตตัวเดิมจะพ้นจากกรรมได้ไปผุดไปเกิด จะมีเปรตตัวใหม่ มารับตำแหน่งแทนดังมีเค้ามาจากนิทานพระมาลัยเรื่องหนึ่ง ดังนี้

ยังมีมานพหนึ่งคนหนึ่งชื่อว่า มิตตวินทุ อยากจะไปเที่ยวทะเลกับพ่อค้าสำเภาจึงเคี่ยวเข็ญเอาเงินทองจากมารดาซึ่งเป็นแม่ม่ายใจบุญ ด้วยความเป็นห่วงลูกชายมารดาก็ขัดขวาง มิตตวินทุปกติเป็นคนเกกมะเหรกเกเรอยู่แล้ว จึงโกรธจนลืมตัว ถีบแม่จนล้มแล้วหนีไปเที่ยวทะเลจนได้ แต่ผลกรรมตามทันทำให้เรือแตก มิตตวินทุว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของพวกเปรต แต่ชายหนุ่มกลับมองเห็นกงจักรที่หมุนคว้างผ่าศีรษะของพวกเปรตเหล่านั้นเป็นดอกบัวซึ่ง ประดิษฐ์เป็นมาลาสวมใส่ไว้อย่างสวยงาม..เห็นเลือดที่ไหลย้อยมาตามตัวเป็น สังวาลสาย สร้อย เห็นพวกเปรตที่กำลังร้องครวญครางยกมือยกไม้ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดเป็น การร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข มิตตวินทุจึงเอ่ยปากขอพวกเปรตรู้ ว่ามีผู้มารับกรรมหรือรับช่วงต่อ แสดงว่าพวกตนได้พ้นจากกรรมที่เคยกระทำเอาไว้แล้วก็ดีใจ รีบยกให้อย่างไม่ลังเล จึงเป็นที่มาของคำพังเพยไทยที่ว่า "เห็นก งจักรเป็นดอกบัว เห็นสองโพดำเป็นสเปโต..." อะไรทำนองนี้แหละ

ในพจนานุกรมฉบับต่างๆ กล่าวถึงเปรตพอรวมความได้ว่าเป็นสัตว์พวกหนึ่ง เกิดในอบายภูมิ แปลว่า แดนแห่งความทุกข์เป็นผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด รูปร่างสูงโย่งยังกับลำตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซเพราะอดอยาก ปากเท่ารูเข็ม..... สงสัยจะหมายถึงเข็มเย็บผ้ามากกว่าเข็มเย็บกระสอบ มีมือโตเท่าใบตาล กินเลือดและหนองเป็นอาหาร ร้องเสียงดังกรี๊ดๆ ไม่ใช่กรี๊ดกร๊าด ส่วนในหนังสือไตรภูมิพระร่วง พรรณนาเกี่ยวกับเปรตเอาไว้ว่า บางจำพวกอยู่ในมหาสมุทร บนยอดเขา ตามไหล่เขา แต่บางจำพวกก็อยู่ในปราสาท มีช้างม้าเป็นข้าทาส บางจำพวกเวลาข้างแรม เป็นเปรต เวลาข้างขึ้นเป็นเทวดา ฯลฯ อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ได้กระทำเอาไว้

ทางภาคใต้ มีผีอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า 'ผีหลังกลวง" เป็นผีที่มีรูปร่างลักษณะอย่างคน แต่ข้างหลังเป็นรูกลวงสามารถมองเห็นเครื่องในประเภทตับไตใส้พุงได้หมด มีหนอนยั๊วเยี๊ย เวลาใครก่อไฟผิงอยู่กลางแจ้ง ผีหลังกลวงจะทำทีเข้ามาขออาศัย ด้วย แล้วหลอกหลอนโดยการแสดงให้เห็นอวัยวะภายในจากหลังที่กลวง บางทีมันแกล้งวานเด็กๆ เกาหลังให้ แล้วหลอกให้เห็นอวัยวะภายในหรือหลังที่กลวงซึ่งมีกิ๊งกือเต็มไปหมดผีพวกนี้ ไม่ทำร้ายใคร แต่จะหลอกหลอนให้ตกใจกลัว



ทีนี้ก็รู้แล้วว่า "เปรต" ที่เขาด่ากันเป็นอย่างไร...
มีข้อแนะนำ ติ ชม อย่างไร ก็ช่วย comment กันด้วยนะครับ!!!




 

Create Date : 07 กันยายน 2551    
Last Update : 8 กันยายน 2551 15:59:31 น.
Counter : 1030 Pageviews.  

ผีญี่ปุ่น : รายการ : G - H

G

• Gagoze – ปีศาจที่โจมตี เณร ที่วัด Gangō-ji
• Gaki – ผีหิวโซของศาสนาพุทธ
• Gangi-kozō – ปีศาจในน้ำที่กินปลาเป็นอาหาร
• Garappa – กัปปะจาก Kyūshū
• Gashadokuro – โครงกระดูกยักษ์ วิญญาณของศพที่ไม่ได้ถูกเผา



• Genbu – เต่าดำแห่งภาคเหนือ...เค้าบอกว่า เต่า อ่ะ...



• Goryō – วิญญาณอาฆาตแค้นของคนตาย
• Guhin – อีกชื่อของ tengu
• Gyūki – อีกชื่อของปีศาจวัว




H

• Hakutaku – ปีศาจ Bai Ze ของจีนที่รายงาน ความเป็นไปของปีศาจ



• Hakuzōsu – จิ้งจอกที่แปลงตนเองเป็นคุณลุง
• Hannya – หน้ากากละครโนที่แสดงสีหน้า อิจฉาของปีศาจผู้หญิง



• Harionago – ปีศาจผู้หญิงที่มีผมโค้งเป็นตะขอ
• Hayatarō – สุนัขที่ฆ่า sarugami
• Heikegani – ปูที่มีกระดองเป็นรูปหน้าคน วิญญาณของนักรบที่ถูกฆ่า ในสงคราม Dan-no-ura
• Hibagon – ประมาณว่า บิ๊กฟุตของญี่ปุ่น



อันนี้น่ารัก...

• Hiderigami – เทพเจ้าแห่งความแห้งแล้ง



• Hihi – ปีศาจบาบูน...กึ๋ย...
• Hitodama – วิญญาณลูกไฟที่ปรากฏเมื่อมีคนตาย



• Hitotsume-kozō – เด็กชายที่มีตาเดียว




• Hoji – วิญญาณชั่วของ Tamamo-no-Mae
• Hōkō – วิญญาณของต้นไม้ที่เหมือนสุนัข ของจีน



• Hone-onna – โครงกระดูกของหญิงสาว
• Hō-ō – นกในตำนานของจีน...เหมือนในpokemonน่ะแหละ...



• Hotoke – คนที่ตายแล้ว
• Hyakki Yakō – ขบวน “พาเหรด” ของปีศาจในยามค่ำคืน




• Hyakume – สิ่งมีชีวิตที่มี 100 ตา
• Hyōsube – ผมของกัปปะ...เอ...มันมีผมด้วยเหรอ...
• Hyōtan-kozō – วิญญาณของบวบ...จริงๆนะ...


มีข้อแนะนำ ติ ชม อย่างไร ก็ช่วย comment กันด้วยนะครับ!!!




 

Create Date : 05 กันยายน 2551    
Last Update : 8 กันยายน 2551 15:59:08 น.
Counter : 3062 Pageviews.  

ผีญี่ปุ่น : รายการ : B - F

B

Betobeto-san – วิญญาณที่มองไม่เห็นที่มักตามผู้คนในยามค่ำคืน และทำเสียงคนเดิน...หึหึ...ระวัง...มันจะมาโดยไม่รู้ตัว...
Bake-kujira – ผีของวาฬ
Bakeneko – แมวที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้



Bakezōri – วิญญาณของรองเท้าแตะ...เออ...มีด้วยเนอะ...



Baku – สัตว์ที่ดีที่สามารถกินฝันร้ายได้
Basan – ปีศาจไก่ ที่พ่นไฟได้ขนาดใหญ่



Binbōgami – วิญญาณของ ความจน
Biwa-bokuboku – วิญญาณของเครื่องดนตรีที่ biwa
Bunbuku Chagama – ตำนานที่โด่งดังเกี่ยวกับ ทานุกิที่แปลงกายเป็น กาน้ำ...???
Buruburu – วิญญาณที่ทำให้เกิด อาการ “สั่น”
Byakko – เสือขาวแห่งตะวันตก




C

Chōchinobake – โคมกระดาษผีสิง



Cho Hakkai – วิญญาณหมูชื่อ Zhu Bajie ที่เดินทางไปทางตะวันตก...???อีกครั้ง



D

Daitengu – tengu ที่มีพละกำลังมากที่สุด ที่ต่างอาศัยในภูเขาลูกต่างๆกันไป...ประมาณว่า เจ้าถิ่น...

ภาพเทนงู และพระญี่ปุ่น



Datsue-ba – หญิงแก่ที่ นั่งในชั้นบาดาล ที่ “ขโมย” เสื้อผ้าจากวิญญาณของผู้ตาย



Dodomeki – ผีแห่งการ ฉกกระเป๋า แขนของเธอเต็มไปด้วย ลูกตา...เขาว่า “เธอ” แสดงว่าเป็น...
Doji – วิญญาณที่มีปีกสีขาว อยู่ในตำนานของยุโรป เนื่องจากคล้ายเทวดา Dorotabō – วิญญาณของชายแก่ ที่นาข้าวของเขาถูกขาย...ประมาณว่าผีหวงที่

E

Enenra – ปีศาจที่เกิดจากควัน



Enkō – กัปปะใน Shikoku และ Honshū ตะวันตก
Eritate-goromo – เสื้อที่ร่ายมนตร์แล้วของ tengu Sōjōbō

F

Fūjin – พระเจ้าแห่งสายลม



Funayūrei – ผีของคนที่ตายในทะเล
Futakuchi-onna – หญิงที่มี 2 ปาก



คราวนี้พอแค่นี้ คราวหน้ามีต่อ
*แปลจากwikipedia
มีข้อแนะนำ ติ ชม อย่างไร ก็ช่วย comment กันด้วยนะครับ!!!




 

Create Date : 04 กันยายน 2551    
Last Update : 8 กันยายน 2551 16:01:35 น.
Counter : 1986 Pageviews.  

ผีญี่ปุ่น : รายการ : A

A
• Abumi-guchi – สิ่งมีชีวิต ขนยาว มีรูปร่างมาจาก โกลน ของม้า ที่ใช้สำหรับทหาร



• Abura-akago - ผีทารก ที่เลีย น้ำมันก้าดของโคมไฟ



• Abura-bō - วิญญาณลูกไฟของอำเภอ Shiga ที่มักปรากฏตัวในรูปพระสงฆ์
• Abura-sumashi – วิญญาณที่อาศัยในภูเขา ในอำเภอ คุมาโมโต้
• Akabeko – วัวแดง ที่สิงสู่ในสถานที่ก่อสร้าง ของ Enzō-ji ใน Yanaizu, Fukushima



...น่ารักดี

• Akamataa - วิญญาณงูจาก Okinawa
• Akaname – วิญญาณที่ “เลีย” ห้องน้ำ...ยี้



ขอยี้อีกทีเถอะ...ยี้...

• Akashita – สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวรางๆในรูป ก้อนเมฆสีดำ เหนือเขื่อน



• Akateko – แขนสีแดงที่ห้อยออกมาจากต้นไม้
• Akki – อีกชื่อหนึ่ง ของยักษ์ที่ดุร้าย
• Akkorokamui – ปีศาจของชาว Ainu ที่คล้ายปลา หรือ หมึกยักษ์
• Akuma - วิญญาณของปีศาจ
• Akurojin-no-hi - วิญญาณลูกไฟ ของ อำเภอ Mie
• Amaburakosagi – พิธีปีศาจจาก Shikoku

ตัวอย่างชุดของพิธีต่างๆ


• Amamehagi – พิธีปีศาจจาก Hokuriku
• Amanojaku – ปีศาจตัวเล็กที่ ยุยงให้ผู้คนทำสิ่งชั่วร้าย



• Amanozako – เทพธิดาที่มีลักษณะคล้ายปีศาจ เป็นที่พูดถึงใน Kujiki



• Amazake-babaa – หญิงแก่ที่มาขอ “สาเก” และนำโรคภัยมาให้
• Amefurikozō – วิญญาณของเด็กชายเล็กๆ ที่เล่นน้ำฝน




• Amemasu - สัตว์ประหลาดของชาวAinu มีลักษณะคล้าย ปลา หรือ วาฬ
• Ameonna - วิญญาณผู้หญิงในสายฝน



• Amikiri – วิญญาณที่ตัด ตาข่าย...เออมีด้วยเนอะ



• Amorōnagu – ภูตจากเกาะ Amami Ōshima
• Anmo - พิธีปีศาจจากอำเภอ Iwate
• Aoandon - วิญญาณของโคมสีฟ้า



• Aobōzu – พระสงฆ์สีฟ้าที่ลักพาตัว เด็กๆ
• Aonyōbō – ผีผู้หญิงที่สิงสู่ในราชวังร้าง
• Aosaginohi - นกกระสาที่เปล่งแสง



• Asobibi - วิญญาณลูกไฟจากอำเภอ Kōchi
• Arikura-no-baba – หญิงแก่ที่มีพลังเวทมนตร์
• Ashiaraiyashiki(足洗邸) – ตำนานของ ปีศาจขนาดใหญ่ที่ “เรียกร้อง”ให้ช่วยล้างขา...แปลก...
• Ashimagari - ผีที่พัวพันขาของนักเดินทาง
• Ashinagatenaga – คู่ของคนที่ คนหนึ่งมีขายาว อีกคนหนึ่งมีแขนยาว
• Ato-oi-kozō – วิญญาณที่มองไม่เห็น ที่ตามผู้คน
• Ayakashi - อีกชื่อของ ikuchi
• Ayakashi-no-ayashibi - วิญญาณลูกไฟของอำเภอ Ishikawa
• Azukiarai – วิญญาณที่ทำเสียง ล้างถั่ว azuki



• Azukibabaa - ลูกพี่ลูกน้องที่ชั่วร้ายของazukiarai เป็นยายแก่น่าเกลียดที่บดถั่ว คอยกินคน
• Azukitogi - อีกชื่อของ azukiarai

*แปลมาจาก wikipedia
นี่แค่ตัว A นะเนี่ย...
มีข้อแนะนำ ติ ชม อย่างไร ก็ช่วย comment กันด้วยนะครับ!!!




 

Create Date : 03 กันยายน 2551    
Last Update : 8 กันยายน 2551 16:02:02 น.
Counter : 2486 Pageviews.  

1  2  

real 1993 np
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่ "เชื่อ" เรื่องผี แต่ ข้าพเจ้า "สนใจ" ในสิ่งนี้ ข้าพเจ้า ไม่ได้ "หมกมุ่น" ในเรื่องผีจนกระทั่งข้าพเจ้าบ้าคลั่งไป แต่ ข้าพเจ้า "หลงไหล" ต่างหาก พวกเราเคยสงสัยไหมว่า ทำไม โลกนี้ต้องมี ผี ด้วย ข้าพเจ้าก็สงสัย ข้าพเจ้าจึงดำเนินการค้นหา นี่คือจุดเริ่มต้น ของทุกสิ่งใน blog นี้
Friends' blogs
[Add real 1993 np's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.