Group Blog
 
All blogs
 
ตะกองล่องไพร ไปบ้านป๋า [ มันส์โคตรๆ ]



ฮ้า..................................................................................................

กว่าจะได้มาทำกระทู้ไปเที่ยวบ้านป๋า สามบั้ง ได้ ไอ้กระผมต้องรอให้ไอ้ขาบ้าๆ ข้างซ้ายหายปวดเสียก่อน

จึงกินเวลามานานกว่า 3 วัน ตอนนี้ หายแล้วครับ เตะหมาได้เหมือนเดิมแล้ว จึงค่อยกล้าหาเวลาว่างมาทำกระทู้ให้ดู ให้ชม ให้ดม กันเสียที


เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ

จากความเดิมตอนนู้น เราได้ตกลงว่าจะไปเที่ยวบ้านป๋า ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ แต่เนื่องด้วยติดธุระกันหมด เลยได้ไปกันเอาวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันศุกร์ ข้าพเจ้าเลยได้โอกาศทอง โดดงานซะเลย 1 วัน (แต่ก็โดนหักตังเหมือนเดิม)

เรานัดเจอกันที่สวนจตุจักรในเวลา 2 ทุ่มตรงครับ สมาชิกทุกๆท่านก็ทยอยมากันอย่างรู้เวลา กว่าจะได้ย้ายตูดกันก็ล่อไปตั้ง 3 ทุ่มแหนะ แต่อันนี้มันก็ช่วยไม่ได้ครับ

เพราะเรามัวแต่คุยนู่นคุยนี่ จนคนที่เดินผ่านไปนึกว่ามีคณะตลกเชิญยิ้มที่ไหนมาเล่น


-----------------------------------------------------------------------------------


อันนี้เราได้มาถึงบ้านป๋าแล้วนะครับ มาถึงก็ถ่ายรูปปลาซะเล้ย แชะๆ

mbu





แฟนข้าพเจ้าและเหล่าเพื่อนบอกว่า หน้าข้าพเจ้าเหมือนเจ้าเอ็มบูตัวนี้ซะละเกิน ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี
เอาเป็นว่า ขอให้ลูกๆพวกเอ็งทุกคนหน้าตาเหมือนข้าพเจ้าก็แล้วกัน เอิ๊กๆ



ขอสารภาพว่าวันนั้นข้พเจ้าง่วงมากมาย ถึงขนาดฟุ๊บหลับคาตักของเพื่อนเป้
ดูแล้วเหมือนเกย์สองคนกำลังทำกิจกามอย่างไรไม่ทราบ

แต่เมื่อมาถึงบ้านป๋า ได้พบป๋า(ซึ่งยังไม่มีใครเคยเจอเลย) ได้พบลังปลาของป๋า ทำให้ข้าพเจ้ามีแรงฮึดสู้กับความง่วงขึ้นมาอีกครั้ง

ในขณะที่ทุกๆคนกำลังแยกย้ายขึ้นไปนอน ข้าพเจ้าก็ได้แยกตัวไป ขี้
โดยมิได้บอกกล่าวใคร ทำให้หลังเสร็จกิจอันเป็นสุขแล้ว ข้าพเจ้าก็พบว่า ตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางเสียงกรน ของเหล่าสมาชิกทั้งหลาย

(โดยเฉพาะไอ้ปาล์มนะคุณเอ๊ย เสียงกรนอย่างกับน้ำป่ากำลังไหลหลากเชียวล่ะ......)



---------------------------------------------------------------------------------




ตัดภาพมาตอนเช้า

อ่อ ลืมเล่าให้ฟัง ห้องที่ผมนอนนั้นมีสไตล์แบบบ้านแฟนผมอย่างบอกไม่ถูก ทำให้ผมนั้นหลับอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว

ตื่นเช้ามา ผมเลยตื่นเป็นคนสุดท้าย แหะๆ

ตื่นมาใครเล่าจะรีบไปแปรงฟันอาบน้ำ ผมเลยเดินโต๋เต๋ไปเรื่อยในบริเวณบ้านป๋า

ไปถ่ายรูปหน้าบ้านป๋าบ้าง ในบ้านบ้าง ถ่ายหมาก็มี ถ่ายนกก็ได้ อิอิ สนุกจริงๆว้อย



อันนี้คงเป็นดอกของต้นทุเรียนกระมัง สวยดีนะครับ



ส่วนนี่ก็คือผลของ สะละ



ตอนแรกว่าจะขโมยโดยการเก็บใส่กระเป๋ากางเกง แต่หลังจากพิจารณาแล้ว หนามของผลสะละ อาจตำไข่ของข้าพเจ้าได้ เลยไม่เอาดีกว่า ช่วงนี้ หวงไข่เป็นพิเศษครับ

หลังจากนั้นความซนปนเสือกของข้าพเจ้าก็ยังไม่จบสิ้น ข้าพเจ้าได้ถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ ของป๋าอีกหลายรูป เรียกได้ว่าเช้านี้ข้าพเจ้าคุ้มมากมายครับผม



อันนี้ดอกกล้วยไม้สีเหลืองสดใส ข้าพเจ้าชอบมากมาย



อันนี้เป็นบ่อบัวของป๋าครับ ผมชอบบ่อแบบนี้นะ เพราะมันมักมีอะไรให้เราดูเสมอ ถ้าเราสังเกตุ และให้ความสำคัญ



หลังจากเดินชมจนตัวเริ่มเหม็นแล้ว ข้าพเจ้าก็เกิดหิวน้ำขึ้นมา
พอมาถึงชานบ้านผมถึงกับอึ้งไปเลยครับ ท่านเจ้าบ้านได้เตรียมกาแฟ และ ชา ให้เราดื่มกันด้วย โฮ โฮ โฮ

อยากจะไปกระโดดกอดป๋าจังครับ แต่กลัวป๋าตบเอา

ถ้าเป็นบ้านผมนะ น้ำฝนสถานเดียว



ใส่น้ำตาล 1 ก้อน แค่นี้ก็ถึงสวรรค์โดยไม่ต้องไปแห่กันทำบุญแล้วครับ



ซู้ดส์................................................... อ่า~~~~~

ชื่นใจกว่าหอมแก้มแฟนชาวบ้านเป็นไหนๆ




นั่งอมยิ้มกับการลิ้มรสชาติของชาหอมๆ จนเพลิน ผมก็ได้ไปเหลือบเห็นตู้ปลาของป๋า

ในตู้ใบนั้นมีปลาอโรทองอินโดอยู่หนึ่งตัวกับปลาอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ เอาเป็นว่า ถ่ายมาให้ดูกันก็พอเนอะ



แสงสะท้อนเยอะนะจ๊ะ เลยยิงแฟรชซะ พอได้ๆ

อันนี้อินทรีเน็ต ตัวอย่างใหญ่


หลังจากนั้นห้องน้ำก็ว่างเสียที ถึงตาข้าพเจ้าอาบน้ำแล้ว จึงขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเน่อ

เดี๋ยวมาโพสให้ดูใหม่

เอารูปไอ้หมาเวรนี่ไปดูก่อน แม่ง ทำดีกับมันยังไง แม่งก็เห่า อยู่ดี หลังๆเลยไม่เล่นกับมันซะเลย ................................ งอน




ซุ่.........ซู่...........ซ่า..............ขณะนี้ข้าพเจ้ากำลังเอาสบู่ถูตูดอยู่ ไม่ว่างโพสเหมือนเดิม

เอารูปปลาคราฟบ้านป๋าไปดูอีกรูปก็แล้วกันเนอะ เดี๋ยวปะแป้งเสร็จแล้ว ค่อยว่ากัน











อ่ะ มาต่อกันดีกว่า ตอนนี้ติ๊ต่าง ว่าทุกคนพร้อมกันหมดแล้วก็แล้วกัน

เพราะว่าข้าพเจ้ามันช้าครับ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมายนัก

เรานั่งรถไปถึงหมายแรก เป็นหมายเสบียงครับ ทุกๆคนจะต้องกินข้าวรองท้องที่นี่กันก่อน จากนั้นซื้อเสบียง สะสมสุรา โซดา น้ำแข็ง โอย สารพัด......

รูปตอนนี้กำลังเดินข้ามถนน จะเห็นได้ว่า กลุ่มของผมมันมักจะตามหลังตลอด ไม่รู้ทำไม .......


ขณะกำลังข้ามถนน ก็ได้ยินเสียงม้าเหล็กตัวนึง ห้อตะบึงมาแต่ไกล

เลยถ่ายไว้ซะ ซักวัน ..............ซักวันตรูรวยก่อนเหอะ



เนี่ย.........ผลของการตื่นเต้นเป็นพิเศษ เลยคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไรกินดี

เลยเอานี่เล้ย...............ข้าวไข่เจียวหมูสับ อร่อยมากมาย ขอบอก



เมื่อทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่บ้านใครก็ไม่ทราบ ต้องถามป๋าเอา
คาดว่าคงเป็นเพื่อนป๋าครับ ใจดีมากมาย



เราฝากรถไว้กับคุณลุง คุณป้าที่นั่น จากนั้นป๋าก็นำพวกเราสู่พงไพร.....

นี่ทางเข้านะจ๊ะ สองข้างทางเป็นสวนผลไม้จ้า.......



เริ่มเข้าป่ามาได้ซักระยะหนึ่ง เราก็มาถึงจุดพัก จุดแรกก่อนเลยครับ ขาไปนี่เราพักกันบ่อยมากครับ เพราะแต่ละคนนี่ คนเมืองทั้งนั้น

ขนาดผมเองว่าซนๆ แล้ว ยังมีหอบเลยครับผม



ดูสัมภาระเอาแล้วกัน ไม่เหนื่อยก็ต้องเหนื่อยครับ หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไป

เราเริ่มเข้าป่าลึกเท่าไหร่ แสงก็ดูเหมือนจะน้อยลงเท่านั้น

แล้วเราก็ไปเจอต้นไม้ต้นนี้ครับ ป๋าชี้ให้ดูจึงได้เห็น
เชื่อไหมครับว่าทุกคนเดินผ่านกันไปหมด ไม่มีใครสังเกตุเห็นเลย

เป็นต้นไม้ที่ใหญ่มากๆ เลยครับ สง่าและขลังมากๆ



รูปนี้แสดงให้เห็นว่าต้นไม้ต้นนี้ ใหญ่แค่ไหน ดูจากหุ่นนายแบบเอาก็แล้วกันนะครับ




คู่รักแห่งพงไพรครับ หนุบหนับนัวเนียตลอดเวลา น่ารักน่าอิจฉาชมัด 55 55

หลังจากนั้นเราก็มาถึงที่อยู่ของ เจ้าแก่ปลากั้งสุดเท่ ขวัญใจของผม

เจ้านี่ ถือเป็นจุดมุ่งหมายอย่างหนึ่งของผมเลยทีเดียวครับ



เดิมทีเจ้าแก่จะอยู่อีกบ่อนึง ที่กว้างขวางกว่า สูงกว่านี้นะครับ แต่ด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบ เจ้าแก่กลับมาอยู่ในแอ่งน้ำตื่นๆ นี้ได้



สภาพเจ้าแก่ที่ผมเห็นคือ เป็นปลากั้งขนาดราวๆ คืบหน่อยๆ
สีสันนั้นไม่ต้องพูดถึง ถ่ายมาให้ตายก็สวยไม่เท่าตัวจริง
ตรงปากมีรอยสีดำๆ ทำให้เราแยกเจ้าแก่จากปลาตัวอื่นได้อย่างสบายมาก

แม้ครีบจะแตก และว่ายตัวเอียง แต่ความเก๋าก็ยังไม่เลือนหายไปนะครับ

ยังคงงับอาหารรุนแรง แม่นยำ ที่สำคัญ งับนิ้วข้าพเจ้าด้วย



ดูความน่ารักของเจ้าแก่จิคุณๆขา น่ารักเป็นบ้าเลยทีเดียว

ส่วนตัวแล้ว ผมว่าเหมือนเพื่อนในวัยเดียวกัน หยอกล้อกันเล่มมากกว่านะครับ

วันนี้ป๋าติดขนมปังมาให้เจ้าแก่กินด้วยนะครับ กินเยอะทีเดียว คาดว่าคงจะหิวกระมังครับ



รูปนี้จะเห็นปานดำๆ ตรงปาก และร่องรอยของความเก๋าได้ชัดพอสมควร
ผมเห็นแล้วถึงขนาดอยากทำตู้ปลากั้งเลยทีเดียวนะครับ แต่ยังก่อนๆ ใจเย็นๆไว้



นี่รูป โม่ ฮาฟมูน [3 แต้ม] ครับ ลังกาหลังสองรอบ .......อยากรู้รายละเอียด ถามเจ้าตัวเขาดีกว่าครับ



ผมว่าถึงตรงนี้ คงมีคนเริ่มเหนื่อยแล้วล่ะครับ หุหุ

แต่.........แต่ก่อนที่เราจะเดินทางต่อนั้น มีใครซักคนเอ่ยขึ้นมาว่า "เฮ้ย กบ!!"

เท่านั้นแหละครับ ตากล้องนี่สายตาเตรียมหาเจ้ากบที่ว่าทันควัน และเมื่อเจอเจ้ากบแล้ว ยังมีเรื่องน่าตกใจให้เราได้เก็บเป็นประสบการณ์อีก.....



นั่นคือ..........!!!!



ว้ายยยยยยยยยยยยยย!!!!! ผมแหกปากร้องเสียงดังในใจ
ก็สิ่งที่ผมกลัวที่สุด หวั่นใจที่สุดก็คือ งู นั่นเองครับ

แต่เมื่อพิจารณาพร้อมคำบอกของป๋าแล้วว่า เจ้านี่ไม่ใช่งู แต่เป็นปลาไหล ครับ

~~~~ ฮู้ว ~~~~~

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีนะที่เจ้านี่ไม่ใช่งู ไม่งั้นทุกๆคนอาจเห็นความเป็นผู้นำ(วิ่ง)ในตัวผมก็เป็นได้

ว่าแล้วเจ้ากบตัวนี้ก็บอกว่า " ย้างงงงงง ยังไม่ช่วยกูอีก มันอมขาตูไปแล้ว ช่วยยยยย ด้วยยยยยยย....."
พวกผมลงความเห็นกันว่า ช่างเอ็ง มันเป็นกฏของธรรมชาติครับ เราผู้เจริญแล้ว ไม่ควรเสือก ...... อันนี้พูดจากใจเลย

-----------------------------------------------------------------------------------

เมื่อพักหายใจหายคอจนพอสมควรแล้ว เรากูมุ่งหน้าเข้าป่าต่อครับ บอกตรงๆ ผมไม่ได้ถ่ายอะไรเลย เพราะกลัวจะหลงครับ

แบบว่า ป๋าเองคงกังวลว่าอาจจะถึงมืด ถ้ามัวแวะถ่ายรูป ชมไพร ไปเรื่อย เลยจ้ำอ้าวมุ่งหน้าสู่จุดหมายอย่างเดียว

ผมเองก็พวกรั้งท้ายเหมือนเดิมครับ เดินไปร้องเพลงไป เผลอแผลบเดียว พวกหายไปไหนแล้วหว่า ......

เลยต้องจ้ำตามอย่างกระชั้นชิด ที่บอกว่าวิ่งไม่ได้นั้น เพราะว่า อาจลื่นล้ม ไม้เสียบพุงตายในป่าก็เป็นได้

ลองนึกสภาพซิครับ บอกใครไป อายเขาแย่ เลยใช้วิธี จ้ำดีกว่าครับ





ปาล์ม หินเคลื่อน หรือ ปาล์ม ร้อยหนาม [ 5 แต้ม ] กำลังนั่งพักครับ สบายดีไม๊พี่ครับ 55 สังเกตุเหงื่อซิครับ ชุ่มเชียว

หลังจากพักกันเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก เราก็มุ่งหน้าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ(มั้ง....)

เดินทะลุป่าออกมาก็จะเจอนี่เลยครับ กองหิน...... ผมอมยิ้มในใจ นึกเสียว่า เดินเล่นในทะเลสาบทังกันยิกา เหอๆๆ



การเดินในป่าว่ายากแล้ว เดินบนกองหินเหล่านี้นับว่ายากกว่านะครับ
คนที่เดินป่ามาจะรู้เลยว่า เดินป่านั้นง่ายกว่ามาก

เมื่อออกมาจากผืนป่าแล้ว ป๋าก็ให้เราพักตรงกองหินชายป่า เรานั่งพัก นั่งคุยเล่นไปตามประสาครับ

นี่ พี่เจ ครับ กี่แต้มผมจำไม่ได้ แต่ผมเกรงใจพี่ท่านมากๆ เพราะพี่เจแกหิ้วกระติ๊กน้ำไฮเนเก้น ของผม ซึ่งอันแน่นไปด้วยสิ่งมึนเมา พร้อมน้ำแข็ง และที่สำคัญ พี่ท่านใส่รองเท้าแตะครับ

นึกภาพเอาแล้วกันครับ ว่าพี่ท่านจะลำบากแค่ไหน



รูปนี้เป็นวิวด้านหลังของเราครับ



ณจุดนี้ผมว่าเราพักกันนานพอสมควรเลยนะครับ ผมเลยหยิบกล้องมากดได้หลายภาพหน่อย

นี่แม่ยอดดวงใจของผมครับ นั่งอ้วนอยู่ตรงนี้พอดี เลยกดซะ 1 รูป



นี่ตัวกระผมเอง แบบว่าไม่ได้แอ๊คท่าอะไรนะครับ กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่พอดีครับ

ดูไปเหมือนพวกมาหากบยังไงไม่ทราบ



ขออีกรูปแล้วกัน สำหรับ คุณแฟน ของผม อิอิ หน้างี้กลมบ๊อค เลยว่าไม๊ครับ 55 55



อันนี้ นู๋แอม ป่าแตก แฟนของนพ ครับ นู๋แอมกับถุงเท้าคนละข้าง ถุงเท้าก็ของปาล์มครับ แม่งหยิบมายังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ........


สังเกตุด้านหลังนะครับ มีคนแอบสะใจนู๋แอมอยู่ครับ อิอิ

สะใจไม่พอ ยังมีแอบนินทาพวกเราด้วย หุหุ
(ล้อเล่นกันนะครับ แต่คู่นี้ผมว่า น่ารักสุดๆแล้วครับ สำหรับทริปนี้)



อันนี้ ไอ้เป้ครับ ไอ้เป้เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนของผมและแฟน ลุยมาด้วยกันหลายต่อหลายอย่าง จนรู้ใจกันหมดแล้ว


รูปนี้เป้ไม่ได้เก๊กนะครับ แต่ผมว่าเป้มันหนักและเหนื่อยครับ ลองดูของที่มันแบกมาจะรู้เลยว่า ไอ้นี้มันบ้า....... 5555

อ้าว......มัวแต่โม้ เขาไปกันนู่นแล้ววววววว รอนู๋ด้วยยยยยยยย


เราเดินต่อไปเรื่อย บริเวณแถวๆนี้ดีหน่อย เพราะมีน้ำจากลำธารให้ดื่มกิน

เชื่อไหมครับ เดินเหนื่อยๆ เหงื่อชุ่มๆ อย่างนี้ ได้เอาน้ำในลำธารมาล้างหน้าล้างตา กรอกลงคอซักอึก สองอึก อ้า....................แหม มันชื่นใจเสียจริงๆ










และแล้ว...... และแล้ว.........

ก็มาถึงจนด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย







มาถึงแล้วก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างพักเหนื่อย บ้างก็ชงสุราเพื่อเป็นแนวทางสู่การลิ้มรสในบรรยากาศแห่งป่าเขาเช่นนี้

ผมเองก็บอก นพ ว่าขอยืมแว่นดำน้ำดูปลาหน่อย นพก็ใจดีเหลือหลาย ให้ทั้งแว่น ให้ทั้งกล้องถ่ายรูปใต้น้ำเลยนะครับ

ผมเองก็ไม่รอช้า ค่อยนำตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของสายน้ำ(ตื้นๆ) แห่งนี้....



-----------------------------------------------------------------------------------

ภาพใต้น้ำนั้นสวยงามกว่าตู้ปลาไหนๆที่ผมเคยเห็นจริงๆนะครับ
มันทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ทำไมพวกพี่ นนณ์ ผาติวงศ์ ถึงกระสันจะลงไปดูชมใต้น้ำนัก

ส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยจะมีโอกาศแบบนี้ซักเท่าไหร่ แต่เมื่อโอกาศมาถึงผมเลยไม่รีรอที่จะไขว่ขว้าไว้ครับ

ผมไล่ดูปลามากมายใต้น้ำ ถ่ายภาพไปไม่รู้กี่ภาพ กัดฟันทนหนาวไม่รู้กี่หน ......

ทน จนทนไม่ได้ ต้องขึ้นมานั่งพัก เพราะตะคริวกิน กว่าจะหาย แสงก็ใกล้จะหมดแล้วครับ ผมจึงตกลงใจว่า พรุ่งนี้จะต้องดำน้ำไปถ่ายอีกให้ได้

Note : รูปใต้น้ำ ผมรอ นพ ส่งมาให้อยู่นะจ๊ะ ส่งมาเร็วๆ จิ เค้าอยากเห็น



ใช่ว่าจะมีแต่ปลาเท่านั้นที่น่าสนใจนะครับ ปูเองก็มีเยอะเหมือนกัน เพียงแต่ต้องค่อยๆหาครับ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย



จากที่ผมสังเกตุ ปูที่นี่มีหลากหลายสีมากๆครับ ตอนแรกก็นึกว่าปูมันมีหลายสี แต่จากที่สังเกตุไป สังเกตุมา ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่า ปูมันปรับสีเองได้ครับ


ปูตัวนี้สีเหลือง สวยงามมากๆครับ



เผลอดูนู่นนิด นี่หน่อย พวกข้างหลังเล่นข้าวกล่องกันแล้วครับ ก็แน่ล่ะ เหนื่อยซะขนาดนั้น ไม่หิวก็ไม่รู้จะว่ายังไง

แฟนผมก็ใช่ย่อยนะครับ เล่นกับเขาเหมือนกัน



กินข้าวเสร็จก็ต้องกินน้ำ เห็นขวดสีส้มๆนั่นไหมครับ อย่าให้สีสันอันแสบร้อนตบตาคุณๆได้นะครับ

ที่เห็นในขวดนั่นมันเหล้าเข้มข้น ผสมน้ำเปล่านะครับ เผลอกระดกเข้าไป เมาหัวทิ้มไม่รู้ด้วยเน่อ



ส่วนตัวผมแล้ว ผมยังไม่หิวเท่าไหร่ กินบรรยากาศไปพลางๆก่อนได้ครับ

เดินดูต้นไม้กันบ้างเนอะ มีตั้งหลายต้นที่ผมช๊อบ~ชอบ

เลยถ่ายมาให้ดูกันหน่อยคงจะดี แชะๆ
อ่อ อย่าถามนะว่าต้นอะไร ไม่รู้จริงๆครับ






ผมชอบต้นนี้มากครับ ใบใหม่จะเป็นสีโอรถ สีชอบสีนึงของผมเลยทีเดียว



รูปนี้เป็นทางที่หินถล่มลงมากระมังครับ น่าปีนดี แต่ผมไม่เอาอะ เดี๋ยวทับรอยเจ้าโม่มัน ลังกาหลังสองรอบ สุดยอดจริงๆครับ



นี่ก็ต้นไม้อีกต้นนึงที่เลื้อยไปมาตามเนินดินสีแดงๆ ที่เคลืบก้อนหินก้อนใหญ่อยู่ครับ ต้นนี้เป็นต้นเดียว ที่ชูต้นได้ครับ ต้นอื่นๆ เขาเลื้อยไปที่อื่นกันหมด


หลังจากชมปลาชมไม้จนนานพอสมควร ป๋าก็หาอะไรให้ผมเล่นอีกแล้วครับ
ไม่ขอบอกวิธีนะครับ เอาเป็นว่าได้ภาพมาให้ชมก็แล้วกันครับ
(ภาพนี้ยืมนู๋เอ็มมานะครับ ขอบใจหลายนะจ๊ะ นู๋เอ็ม...)



ปลาจาด(มั้งครับ) ไม่ก็ ปลาพลวง(มั้งเนอะ)


ปลาไหลก็มี ปลาค้อก็มา


คราวนี้ก็มาถึงเจ้าปูสีเหลือง สดสวย





นพ เหล็กใน กับปูเหลือง




ตัวนี้ สีออกน้ำตาลแดงครับ


ตัวนี้สีส้มแดงครับ สวยไปอีกแบบ.....



ทีนี้เราก็มาดูสาวฮอต ของป๋ากันบ้างครับ เราเรียกว่า "แม่" นะครับ แม่เป็นคนที่ยิ้มได้แบบ.......แบบ.........แบบว่าบอกไม่ถูก
ยิ้มแบบหมดเปลือก ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ยิ้มเป็นกันเอง ยิ้มอย่างมีไมตรี .....

อย่างนี้กระมังครับ ที่เขาเรียกกันว่า ยิ้มสยาม

ผมกับแฟนผมเราลงความเห็นกันว่า สมัยสาวๆ "แม่" คงเป็นนางงามเก่ามาก่อนเป็นแน่ครับ

ป๋าครับ จีบยังไง บอกหน่อยซิครับ 55 55


ตบท้ายด้วยต้นนี้ก่อนฟ้าจะมืด ชอบจริงๆ


และแล้ว ..............ฟ้าก็กำลังจะมืด ..................จนได้







ฟ้ามืดหน่อย เปรตมาเชียว.......(เพื่อนผมครับ ชินซะแล้ว เล็กแต่ด้านโชว์ สังเกตุแฟนผมซิ ไม่มีอาย ได้แต่ขำ อิอิ)



-----------------------------------------------------------------------------------

อันนี้ต้องขอพูดหน่อย ป๋าให้เราเกิน100 มากๆครับ คำว่าเกรงใจสุดๆ อาจไม่พอ ทั้งหาข้าวปลาอาหารให้กิน ทั้งเต้นท์ ทั้งถางป่า นำเที่ยว บริการพวกเราดีสุดๆ

ผมว่าสิ่งที่ป๋าให้เรานั้นมันมากเสียจนไม่รู้จะตอบแทนยังไง

ถ้ายังไง ไว้มีโอกาศได้ไปอีกครั้ง คราวนี้พวกผมคงเตรียมตัว เตรียมของให้พร้อมกว่านี้ ป๋าจะได้ไม่เหนื่อยขนาดนี้นะครับ

ขอขอบคุณอีกครั้งครับ

มืดแล้วก็เริ่มกันแล้วครับ วงสุรา 55 55



อันนี้กับข้าวกับปลาที่ป๋าหามาปรนเปรอพวกเราครับ ไว้คราวหน้า เราจะหามาปรนเปรอป๋าบ้างนะครับ


สังเกตุหน้าเจ้าเจ๊ก แบบว่าอยากชิมไปซะทุกอย่าง อิอิ ถือชามถือช้อนเตรียมพร้อม

รูปนี้ข้าพเจ้าโดนแอบถ่ายครับ ดีนะ หันมายิ้มทัน

กำลังม่วนกับอาหารการกินกันเลยทีเดียวนะครับ มือเป็นระวิง 55 55


คืนนั้นอากาศเย็น ท้องฟ้ามีดาวมากมาย ผมนอนดูดาวซะจนอิ่ม ลุกไปเอาไฟฉายไปส่องดูสัตซืตอนกลางคืนอีกตะหาก

ที่เจอๆ มาก็มีปูตามแก่งหิน แม่ปูตัวใหญ่กับลูกน้อย ใต้ซอกหิน

ป๋าโชว์ลีลาจับ กบอกหนามมาให้ดู แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เสียดายจริงๆ
(ก็ผมเองอีกนั่นแหละ ที่ปล่อยมันไปในตอนเช้า....)

คืนนั้น ผมหลับไปพร้อมๆกับเสียงกรน 2 เสียงผสานจากเต้นท์ข้างๆ ไม่ต้องบอกก็คงรู้....ว่าเสียงใคร



เช้านี้ฝนตกปรอยๆ อากาศเย็นสบาย ผมตื่นสายอีกตามเคย
รู้สึกหิวตะหงิดๆ เป้มันเลยชวนไปต้มน้ำเพื่อต้ม มาม่า กิน

เช้านั้น เป็นมาม่าที่อร่อยเป็นพอเศาเลยนะครับ

หมอกหนาที่ยอดไม้ มันทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกคุ้มมากมาย ในการมาครั้งนี้ เรียกได้ว่า เจอทุกฤดูเลยทีเดียว





ข้าพเจ้ากับเพื่อนเป้ก็หาอะไรเล่นตามเคย เช่นการก่อไฟและเอาถุงเท้ามาผิง
กลิ่นถุงเท้ากับกลิ่นควันผสมกัน มันทำให้ได้กลิ่นใหม่ขึ้นมา เรียกว่า กลิ่นตีนอุ่นๆ



และแล้วความสุขก็ผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน เวลาเดินทางกลับได้มาถึงแล้วครับ



ขามาว่าโหดแล้ว ขากลับนี่โหด มันส์ กว่าครับ เพราะว่าฝนตก
ป๋าจึงให้เราปีนขึ้นเขาแทนการเดินบนกองหิน

ผมเข้าใจว่าปลากลัวเราลื่นล้มหัวฟาดเสียมากกว่านะครับ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นด้วยครับ เพราะถ้าล้มในป่า ยังไงมันก็ไม่เจ็บเท่าล้มฟาดหินเป็นแน่ครับ



ขามาว่าโหดแล้ว ขากลับนี่โหดกว่านะครับ โหดขนาดปาล์มแหกปากว่า " ไม่ได้ๆ ไม่ไหว ขึ้นม่ได้ "

แต่ยังไงมันก็ต้องมาครับ และการกลับทางนี้ ปาล์มก็ได้ของฝากจากผืนป่าเป็น หนามกว่า ร้อยดอก ครับ

พรุนเต็มขา เต็มตัวไปหมด 55 55 สมน้ำหน้า ปนสงสารนะครับ

รูปนี้เป็นรูปต้นไม้ขึ้นบนขอนไม้ล้มครับ



เราเดินแบบไม่หยุดพักจนในที่สุดเราก็มาถึงบ้านเจ้าแก่อีกครั้งครับ


นพโชว์รอยผึ้งต่อยที่พุงให้ดูครับ รอยนี้บวมขึ้นเรื่อยๆ จนคล้าย ตูด นี่ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆ มันอาจตดก็เป็นได้นะครับ



ไหนๆก็มาถึงนี่และ ขอไปหาเจ้าแก่ก่อนกลับอีกซักครั้งเถอะนะ
แน่นอนครับ แขกมา มีหรือเจ้าของบ้านจะไม่ออกมาต้อนรับ




เราเดินหน้าลงเขาต่อไปครับ แล้วผมก็พบมอสขึ้นมากมายตามก้อนหินริมทาง
จะหยุดถ่ายก็กลัวโดนชาวคณะทิ้ง จะไม่ถ่ายก็คงเสียดายแย่

เลยได้รูปมาไม่มากนักหรอกนะครับ



อันนี้เป็นมอสที่ขึ้นปกคลุมอยู่บนต้นไม้ต้นใหญ่ในตอนต้นครับ โม่ให้ผมถ่ายครับ



-----------------------------------------------------------------------------------

หลังจากนั้นไม่นานเราก็มาถึงตีนเขา ออกมาเจอถนนลูกรังสีแดงตามเคย มีคนโห่ร้องยินดีด้วยล่ะ

แต่สำหรับผมแล้ว ผมยังไม่อยากกลับจริงๆนะครับ แต่ถ้าไม่กลับพร้อมคณะ ก็ไม่รู้จะได้กลับเอาวันไหน เพราะกลับไม่ถูก 55 55 ไม่เป็นไรๆ ไว้โอกาศหน้าถ้ามาอีก ผมจะเอาให้คุ้มกว่านี้เลยครับ

รูปนี้เป็นดอกของทุเรียนมั้งครับ เหมือนดอกแคดีจริงๆ ผมว่าน่ากินเหมือนกันนะครับ


ก่อนกลับไปบ้านป๋า ข้าพเจ้าก็แอบวิ่งมาถ่ายดอกอะไรซักอย่างก็ไม่รู้ อีก 1 รูป
สีมันสวยงามจริงๆเลย ว่าไม๊ครับ



หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่บ้านป๋าต่อ เพื่ออาบน้ำอาบท่า เก็บของและเตรียมตัวกลับ แน่นอน ผมก็ยังคงชักช้าอืดอาดยืดยาดตามเคย

ใครรำคาญก็ต้องขออภัย แก้ไม่หาย เลิกไม่ได้จริงๆครับ 55 55

รูปนี้ ปลากัดหัวโม่ง ครับ ป๋านำมาให้ชมกัน ผมว่ามันดูดิบๆดีนะ



อันนี้เป็นเหล่าปลาหลด ที่ป๋ากรุณายกให้ผมเอาไปเลี้ยงครับ



มาๆ มาต่อด้วย ตะกองน้อยที่ปาล์มรับไปเลี้ยงต่อครับ ได้ข่าวว่าซื้อกรงมาแล้วนี่ครับ ว่างๆ เอามาให้ดูกันหน่อยเน่อ


นกยูง สวยๆที่บ้านป๋าครับ ผมชอบมากมาย นั่งดูได้ตั้งนานสองนาน






แล้วก็รูปกุ้งครับ กุ้งอะไรก็ไม่รู้ ผมว่าคล้ายๆ ไทกอร์ชริม ดีเหมือนกันนะครับ




รูปสุดท้ายแล้วนะครับ รูปปลาไหลเผือกที่ป๋าเคยนำมาให้ดู ตัวจริง สวยกว่าในรูปเยอะครับผม




---------------------------------------------------------------------------------



สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกๆท่านที่กรุณาพาพวกผมมาเที่ยว มอบทั้งความรู้ มอบทั้งความสุข เสียงหัวเราะ

พี่เจ ที่ต้องถือกระติกหนักๆของผม แถมเป็นโชเฟอร์ขากลับด้วย แล้วก็นำรถตู้มาอำนวยความสะดวกกับพวกเราทุกอย่าง

นพ ที่ชวนผมมาในทริปนี้ เป็นทั้งโชเฟอร์ขามา ทั้งคนนัดวัน คอยเป็นธุระติดต่อป๋า

โม่ ที่มักห่วงใยและมอบสิ่งดีๆให้ผมตลอดการเดินทาง (โดยเฉพาะเสียงหัวเราะ)

ปาล์ม ที่มอบโอเปรา เสียงกรน สนั่นป่า มอบทั้งเสียงหัวเราะ ความสนุกต่างๆ นาๆ

แอม แฟนนพ ที่แม้จะบ่นไปหน่อย แต่คุณเธอก็บ่นเพื่อทุกๆคน


เจ็ก เพื่อนโม่ ที่ให้ความเป็นกันเองกับพวกผมเอามากๆ

แม่ ที่มักจะส่งรอยยิ้มทุกๆครั้งเวลาผมหันไปมองทีไร ก็มักจะใจชื้นขึ้นเสียทุกทีไป (ไม่เคยเห็นหน้าบึ้งเลยเชื่อไหมครับ)

ป๋าสามบั้ง ที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ตั้งแต่ถึงยันวันกลับ ขอบพระคุณอย่างสูงมากๆครับ ป๋า ซึ้งๆ

เด็กสองคน ที่ป๋าเรียกมาเพื่อช่วยเหลือพวกเราในทุกๆเรื่อง ขอบอกว่า พวกนายสองคนแน่มากกกกกกกก เจ๋งมากกกกกกกกก

คุณลุง คุณป้า บ้านตรงตีนเขา ที่มอบที่จอดรถ คำพูดขำๆ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ

นกยูงที่แหกปากในช่วงเช้า ทำให้ผมตื่นขึ้นมาพบเจอกับสิ่งสวยงาม

หมาขนฟูๆ บ้านป๋า ไว้คราวหน้า คงจะได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ

เจ้าแก่ที่งับนิ้วเราเล่นอย่างเป็นกันเอง

เพื่อนเป้กับนู๋เอ็มที่ยังคงเต็มที่กับ เพื่อนห่วยแตกคนนี้เสมอ

ทุกๆอย่างที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง ขอบคุณครับ




ป_ปลาระเบิดเกร็ดกระจาย



ปล.สุดท้าย : อย่าลืมคิดถึงนู๋แดง ลุงปลัด และคุณแม่ที่ล้างจานของนู่แดงด้วยนะจ๊ะ จุ๊บๆ






-----------------------------------------END--------------------------------------


Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2551 16:39:54 น. 21 comments
Counter : 3064 Pageviews.

 
ยาวดีจริงๆ อ่านเพลินเลย


โดย: may_neena@hotmail.co IP: 124.121.194.107 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:25:18 น.  

 
เห็นหน้าเจ้าบ้านเต็มๆนึกว่า"โจ๋ย บางจาก" แรกๆก็ดูเพลินดีนะ มันไปสะดุดไอ้ตรง"เปรต"นี่สิ ฮาตรึม ดูบรรยากาศและเหล่าบรรดาสหายของท่านแล้วนึกถึงพวก "ฮิปปี้" ว่ะ เด็ด!!!
ปล. ท่าล้างหน้า ล้างตา ได้ใจมาก


โดย: ธุช IP: 203.146.94.2 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:47:24 น.  

 
โห่ๆๆๆๆๆๆเหงแล้วอยากไปดู ปลากั้งตัวนั้นบ้างจัง
สุดยอดเลยพี่!


โดย: popdeub IP: 210.86.128.50 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:21:52 น.  

 
เยี่ยมครับ ป๋าดูอบอุ่นจังครับ อยากไปเที่ยวเยี่ยมป๋ากับเจ้าแก่


โดย: mee777 IP: 125.27.66.82 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:01:21 น.  

 
โหยพี่บอยรูปสวยดีง่ะ

บรรยายรูปก้อดีน่ารักดี

แต่ไม่มีรูปเอ็มเลยง่ะ งอลๆๆๆ


โดย: นู๋เอ็ม IP: 125.24.76.245 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:41:40 น.  

 
น่าหนุก..จัง..จังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ......


โดย: nymp IP: 202.149.24.161 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:55:25 น.  

 
เป็นทริปที่น่าหนุก ท่าทางจะมันส์ มากๆ เลยนะครับ

เท่มากครับ


โดย: เคียงมอ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:48:05 น.  

 
สวัสดีครับ สมาชิกใหม่แวะมาทักทายครับ


โดย: เคียงมอ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:06:19 น.  

 
สวัสดีครับ ทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอบคุณมากๆเน่อ

อย่างแรกต้องบอกก่อนว่า ต้องขออภัยที่ข้าพเจ้ามาตอบช้าเพราะจำเป็นต้องไปเที่ยวป่า(อีกและ)

คราวนี้กลับมาแล้วเดี๋ยวจะเอาภาพมาให้ชมกันนะครับ

ในส่วนของทริปบ้านป๋านั้น แหะๆ มันส์จนไม่รู้ลืมเลยล่ะครับ

เรียกได้ว่าถ้าไปทริปนี้แล้ว ท่านจะไปเดินป่าที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวแล้ว 5555

เดี๋ยวมีอีกทริปนะจ๊ะ อย่าลืมตามมาชมกันนะ จุ๊บๆ ตอนนี้ขอตัวไปทำมาหากินก่อนเน่อ....(ย๊ากกกกกกก งานตรึมเล้ยยยยยยย)


โดย: ลายเส้นหลังเขา วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:13:28 น.  

 
ชอบมากครับ


โดย: RoF IP: 58.9.152.86 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:07:08 น.  

 
น่าเที่ยวจริงๆครับ...

ขอบคุณ ป๋า แทนทุกๆ คนด้วยครับ...


โดย: genus IP: 203.151.40.13 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:43:30 น.  

 
เยี่ยม ขึ้นวันพี่โผมมมมมมมมมมมม...


โดย: เตงคุง... IP: 124.121.186.236 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:44:19 น.  

 
น่าไปมากๆเลย อยากไปเข้าป่าอย่างนี้มากๆ ธรรมชาติมันงามจริงๆเลย


โดย: อีกาตัวดำๆ IP: 118.175.64.88 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:51:21 น.  

 
มิตรภาพที่ฉาบฉวย แต่แสนจะอบอุ่น
จากหนึ่งสหาย นำพาไปสู่อีกหลากหลายสหาย
จากสองขา นำพาไปสู่ป่าอันกว้างใหญ่
นำพาไปสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ
แม้จะเหนื่อย ล้า แต่ความอิ่มเอมที่ได้กลับนั้น
มันมากมายกว่าต้นไม้ทั้งป่า ที่เราผ่านมาด้วยกันเสียอีก

ขอบคุณสหายทุกคน ที่มอบมิตรภาพมาให้
ขอบคุณผืนป่า ที่ทอดกายให้เราได้เหยียบย่ำ
ขอบคุณน้ำตก ที่เผื่อแผ่สายน้ำให้เราได้ชุ่มฉ่ำ
ขอบคุณเจ้าบ้านที่น่ารัก ที่สละเวลา
และความเอื้ออาทรมาให้เรา
จะไม่มีวันลืมมิตรภาพครั้งนี้เลย สัญญา...


โดย: เปรตเป้ เจ้าพ่อสังคัง IP: 124.121.124.230 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:27:02 น.  

 
เป็นกะทู้ที่เริดมากค่ะคุณพี่... หุหุ


โดย: bella IP: 124.157.217.70 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:02:42 น.  

 
ดูแล้วสดชื่นจัง ครับ


โดย: นิคค์ IP: 125.26.51.236 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:21:58 น.  

 
แวะเข้ามาชมนะครับ เป็นกระทู้พาเที่ยวที่สะใจมากเลยครับ ขอบคุณนะครับ


โดย: JJ IP: 202.44.4.43 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:13:12:22 น.  

 
สุดยอดค่ะ


โดย: cherrynaruk IP: 202.8.84.29 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:23:02:27 น.  

 
d


โดย: s IP: 125.25.139.9 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:2:26:39 น.  

 
สุขใดจะเทียบเท่าเท่ามีเพื่อนร่วมทุกษ์ร่วมสุข OK ซึ้ง


โดย: put IP: 124.157.137.213 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:22:36:19 น.  

 
แนวอ่ะเพ่


โดย: เจ่ IP: 1.4.155.246 วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:18:10:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลายเส้นหลังเขา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




กี่โมงกันแล้วหน๋อ..... หลงเข้ามาแล้วอยู่นานๆ หน่อยนะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add ลายเส้นหลังเขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.