Group Blog
 
All blogs
 
My love, in my heart...2

“อ้าวพี่เคโระนี่นา มาทำงานหรือครับ” ฉันชะงักกึกทันทีที่ได้ยิน ใครบังอาจมาเรียกฉันว่าเคโระห๊า มฆวันถอนหายใจเฮือก เกือบไปแล้วไหมล่ะ แล้วหันไปพิจารณาคนที่มาช่วยชีวิตไว้อย่างหวุดหวิด นี่มันเดือนคณะปีนี้นี่หว่า คิดแล้วก็ขมวดคิ้วมองเด็กรุ่นน้องอย่างระแวงโดยไม่รู้ตัว
     “อ้าวต้น พี่บอกกี่ทีแล้วว่าไม่ให้เรียกว่าเคโระยังอยากมีชีวิตอยู่รึเปล่าหา”
ต้นหัวเราะออกมา ฉันมองอย่างไม่ชอบใจนักเรื่องมันตั้งเกือบปีแล้วทำไมคนถึงไม่ยอมลืมมันไปเสียทีนะ
     “ผมว่าน่ารักดีออก” มฆวันขมวดคิ้วแน่นมองคนที่พึ่งมาใหม่อย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
     “ฮะ แฮ่ม” ต้นหันมามองแล้วยิ้มให้นิดนึ่งก่อนจะขอตัวเดินออกไป
     “ใครน่ะ” มฆวันถามเสียงขรึมมองคนที่ก้มหน้าทำงานต่อ ฉันไม่สนใจแล้วก็ต้องร้องออกมา
     “เอ๊ะ” ฉันมองปากที่ถูกดึงออกไปอย่างไม่เข้าใจมองหน้ามฆวันแล้วก็ต้องชะงัก เป็นอะไรไปอีกล่ะ สีหน้าที่เริ่มเครียดและดุอย่างที่ใครหลายคนกลัว สีหน้าที่ฉันไม่ได้เห็นมานาน
    “คนเมื่อกี้น่ะใคร” อยากจะจะตอบออกไปนักว่ามันเรื่องอะไรที่ต้องบอกด้วยแต่สีหน้าท่าทางที่เห็นเริ่มทำเอาฉันหวาด ๆ เหมือนกัน อย่างกับคนล่ะคนกับเมื่อกี้
     “ว่าไงก๊อ” มฆวันเอ่ยเสียงดุ ทำไมต้องดุด้วยเล่าไม่รู้หรือไงว่าตัวเองตอนดุน่ะน่ากลัวแค่ไหนแง
     “ก็รุ่นน้องที่คณะ” ฉันพูดออกมาเบา ๆ ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเด็กที่โดนผู้ปกครองดุเวลาแอบเล่นของเล่นแล้วโดนจับได้นะ
     “เรื่องนั่นน่ะรู้แล้ว ที่อยากรู้น่ะคือรู้จักกันได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วสนิทกันมากแค่ไหนด้วย” มฆวันถามออกมาเป็นชุดมองอย่างคาดคั้นเอาจริง ๆ จัง ๆ ฉันอยากจะยกมือขึ้นเกาหัวจริง ๆ ทำไมต้อนนี้ฉันถึงตกเป็นจำเลยได้ล่ะ
     “ก็ต้นเขาเป็นเพื่อนของน้องรหัสน่ะ พึ่งรู้จักได้ไม่นาน ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่หรอกเจอกันก็ทักกันธรรมดา” มฆวันคลายสีหน้าลงแต่ยังไม่หมดข้อสงสัย
     “แล้วทำไมต้องเรียกเคโระด้วย” ฉันหน้าหน้าแดงขึ้นมาทันทีตวัดสายตาค้อนคนถามกัดฟันกรอด
     “เพราะใครล่ะ” เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วตอนรับน้องใหม่ถือเป็นเรื่องที่อับอายที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้ต้นเหตุของเรื่องน่ะเหรอก็คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉันนี่ไง
     “ทำไมล่ะหรือว่าเพราะเรื่องนั่น” คิดแล้วใบหน้าคมสันก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ฉันหันหน้าหนีอย่างงอน ๆ โดยไม่รู้ตัว ตาขันทีบ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีกเพราะนายคนเดียว
        เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วฉันอยู่ปี 2 วันนั้นเป็นวันปฐมนิเทศน้องใหม่ที่ห้องประชุมใหญ่ของคณะฉันรับหน้าที่เป็นพิธีกร เรื่องมันคงไม่เกิดถ้าฉันไม่เดินซุ่มซ่ามตกบันไดทางขึ้นเวทีและตอนนั้นนายขันหรือมฆวันประธานปี 2 กำลังกล่าวพูดต้อนรับน้องใหม่อยู่รีบวิ่งมาดูฉันแทนทีจะเข้ามาช่วยนายนั่นกับพูดออกมาเบา ๆ
     ‘ยังมีคนใส่กางเกงในรูปกบเคโระอยู่อีกเหรอเนี่ย’ ใช่นายขันทีพูดเบาก็จริงแต่ดันพูดใส่ไมค์! พูดจบก็เงียบกันไปทั้งห้องประชุม และนายขันทีนี่แหละเป็นคนหัวเราะออกมาคนแรก พอมีคนแรกทีนี่ก็พากันหัวเราะไปทั้งห้องประชุมฉันทั้งเจ็บทั้งอาย แต่ความอายดูจะมากกว่าเป็นร้อยเท่าลืมความเจ็บลุกขึ้นพรวดมองหน้านายขันทีงี่เง่าอย่างกินเลือดกินเนื้อก่อนจะก้มหน้าวิ่งออกไป เหตุการณ์ในวันนั้นเล่นเอาฉันเป็นที่รู้จักของน้อง ๆ ทั้งคณะแล้วฉายาพี่เคโระก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับความเหม็นหน้านายขันทีอย่างรุนแรง และที่ว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอตั้งแต่วันนั้นนายขันทีก็ดูเหมือนจะเป็นเงาตามตัวฉันมาตลอดทั้งด่า ทั้งจิก ทั้งไล่ก็ไม่ยอมไปพาตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันจนเกิดเป็นความเคยชินที่ฉันเองก็ยังไม่รู้ตัว
     “อ้าวจะไปไหนล่ะ” มฆวันถามอย่างงง ๆ มองคนที่ลุกขึ้นเก็บของอย่างรวดเร็ว ฉันถอนหายใจมองมฆวันที่ตอนนี่กลับมาเป็นจอมกระล้อนเหมือนเดิมแล้วแต่คนที่จะเปลี่ยนเป็นนางมารน่ะจะเป็นฉันเอง
     “หิว” บอกสั้น ๆ แล้วฉันก็เดินออกมาเลยแวะบอกเปรี้ยวสั้น ๆ ว่าขอกลับก่อน เปรี้ยวมองอย่างเข้าใจปนขอโทษ
     “อืม งั้นเดี๋ยวฉันไปหาที่ห้องน่ะ” ฉันพยักหน้ารับ
     “ไปก่อนนะนน” นนพยักหน้ารับนึกกลัวใจกชมนอยู่เหมือนกันเมื่อเห็นสายตาคมปลาบมองมา
     “อ้าวไอ้ขันจะไปแล้วเหรอ” นนร้องทักเมื่อเห็นมฆวันเดินไปทางประตู มฆวันหันมาบุ้ยหน้าไปทางร่างบางที่เห็นหลังไว ๆ แล้วเดินตามไป นนส่ายหน้าหัวเราะหึหึ
     “ก๊อนี่เป็นคนยังไงนะเปรี้ยว” นนถามอย่างสงสัยจริง ๆ บางทีก็เห็นเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน บางทีก็เงียบขรึมจนน่ากลัว
    “เอ จะบอกยังไงดีล่ะ จะบอกว่าเป็นคนอ่อนนอกแข็งในก็ได้นะ เพราะธรรมดาก๊อก็เป็นคนใจเย็นอ่อนโยน ขี้เล่น ขี้สงสารแต่พอเอาเข้าจริงก็เป็นคนที่มั่นคงมากเลยนะ เป็นที่พึ่งให้กับเพื่อน ๆ เสมอเลย” นนพยักหน้ารับ
     “แต่บางทีก็ใจร้อน ขี้น้อยใจกับเรื่องที่เรานึกไม่ถึงเลยล่ะ แล้วก็ขี้อายมากด้วย” อันหลังนี่เขาเข้าใจดีเลยล่ะเมื่อปีที่แล้วเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ที่กชมนถือว่าอับอายที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ด้วย เปรี้ยวเคยเตือนเขาไว้ว่าถ้ารักจะคบกับกชมนอย่าพูดถึงเรื่องนี้เป็นอันขาด
     “มันน่าจะเติมเจ้าคิดเจ้าแค้นเข้าไปด้วยนะ” เปรี้ยวหัวเราะออกมา
     “ไม่หรอกนน เห็นก๊อเป็นอย่างนั้นที่จริงก๊อไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นหรอก ถ้าก๊อเกลียดใครหรือแค้นใครใครจริงล่ะก็แม้แต่หน้ายังไม่มองเลย” นนมองเปรี้ยวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จริง ๆ แล้วถ้าก๊อเป็นอย่างนั้นเมื่อไหร่ล่ะก็น่ากลัวมาก ๆ ด้วย” เธอเคยเจอหนเดียวเท่านั้นที่กชมนเป็นอย่างนั้นและเป็นหนเดียวที่เธอไม่เคยลืมเลย!
     “นี่ก๊อ รอผมด้วยซิ” เสียงที่ได้ยินทำเอาฉันรีบเร่งฝีเท้าขึ้นแต่ขาสั้น ๆ อย่างฉันน่ะเหรอจะสู้ขายาว ๆ ของคนตัวสูงที่ก้าวไม่กี่ก้าวก็เดินมาทันได้
     “นี่นายขันทีนายจะเดินตามฉันมาทำไมเนี่ย” มฆวันมองคนตัวเล็กที่พยายามเดินจ้ำเอา ๆ หนีเขาอย่างขำ ๆ คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ






Free TextEditor


Create Date : 10 ตุลาคม 2552
Last Update : 10 ตุลาคม 2552 22:14:40 น. 0 comments
Counter : 133 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ก้านของ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ก้านของ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.