สวนทิวลิปที่ดังที่สุด คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจาก Keukenhof สวนนี้ตั้งอยู่ในเมือง Lisse ระหว่างเมือง Haarlem กับ Leiden ลงมาทางใต้ของ Amsterdam ก็คงราวๆ 30 ก.ม.ล่ะมั้ง เปิดให้เข้าชมปีนึงแค่ 2 เดือน ประมาณปลายๆมีนาถึงกลางพฤษภา ค่าเข้าน่ะเหรอ ทีแรกเล่นเอาผมตกใจ 12.50 ยูโร แน่ะ แต่เมื่อคุณเดินครบทั้งสวนแล้ว คุณจะรู้สึกว่า มันไม่แพงเลย คุ้มครับ คุ้ม ยิ่งถ้าชอบถ่ายรูปด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งคุ้มเลย
..แต่ต้องทำใจกันหน่อยนะ.. ก็คนจากทั่วสารทิศทั้งฝรั่งทั้งเอเชีย เดินกันในวุ่น เออ..แต่แปลกแฮะ.. ผมไม่ค่อยเห็นพวกแขกเท่าไร แล้วยิ่งถ้าไปวันที่มีขบวนรถบุผชาติเหมือนผมล่ะก็มึนกับฝูงชนแน่ๆ ที่สำคัญ คือ ห้องน้ำหญิง รอนานมาก
แต่ดอกทิวลิปสิ มีให้เลือกถ่ายไม่ถูกเลย หลากหลายสีสัน หลากหลายรูปทรง อุปสรรคอย่างเดียว ก็คือ คนที่อาจจะเข้ามาในฉากหลัง หรือถ้าตั้งกล้ิองตามทางเดิน ก็อาจจะถูกชนโดยบังเอิญได้ ถ้าไปเช้าๆ ตั้งแต่ประตูเปิด คงจะดีกว่ามากๆ เพราะนอกจากคนไม่เยอะแล้ว ยังได้แสงนุ่มๆยามเช้าอีก
ไม่น่าสงสัยเลย ว่าทำไมคนจำนวนมาก ถึงยอมจ่ายเงินไม่น้อย (12.50 ยูโร สำหรับค่าเข้าชม) เพื่อมาเยือนสวนสวยที่นี่ ทั้งๆที่ ก็ยังมีสวนอื่นๆในราคาที่ถูกกว่าอยู่รอบๆบริเวณเมือง Haarlem
ทั้งการดีไซน์แลนสเคปของสวน การจัดการ การจัดวางพันธุ์ไม้ น้ำพุ บ่อน้ำ การดูแลรักษาความสะอาด และอื่นๆภายในสวน ถูกวางไว้อย่างรอบคอบ เป็นระบบ ระเบียบ และมีแบบแผน ทำให้ผู้มาเยือน ได้เห็นความงามอย่างที่พวกเขาคาดหวัง เพียง 2 เดือนต่อปี กับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาชมสวนแห่งนี้
ไม่แปลกใจเลย ที่เขาจะมีกำไรในช่วงสั้นๆของแต่ละปี
ผม..คนนึง..ที่เชื่อว่า เมืองไทยเราทำสวนเช่นนี้ได้ อาจจะไม่ใช่สวนทิวลิป แต่อาจจะเป็นพันธุ์ไม้ในเมืองร้อน ดอกไม้บ้านเรา ก็ใช่ว่าจะขี้เหล่ กล้วยไม้ก็เป็นที่เชิดหน้าชูตา ทำไม เราจะทำสวนที่ยิ่งใหญ่ ให้ชาวโลกประจักษ์ไม่ได้ ผมเชื่อว่า ต้องมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่ต้องเดินทางมา ก็ดูสิ ที่สวนในพระราชวังเชินบรูนน์ ในเวียนนา ยังมีเรือนกระจกที่สร้างไว้ใหญ่โต สำหรับต้นไม้ ดอกไม้เมืองร้อน เก็บตังค์ค่าเข้าชม แล้วก็มีคนเข้าชมจำนวนไม่น้อย ..นี่ล่ะ บางทีอะไรใกล้ตัวเราเกินไป เราอาจจะมองข้ามมัน..
คนฮอลแลนด์นี่เขาเก่งจริงๆ ลำพังแค่เรื่องทิวลิป ก็เป็นธุรกิจใหญ่โต ขนาดว่า มีตลาดประมูลดอกไม้ แล้วทิวลิปก็เป็นที่ต้องการของตลาด มีพ่อค้ามาจากทั่วสารทิศ ประมูลได้ ก็มีรถคอนเทรนเนอร์ปรับอากาศ
ผมคนนึงล่ะ ที่สามารถเดินในสวนค้อยเค่นโฮฟแห่งนี้ได้ตั้งแต่เปิดยันปิด ไม่ใช่แค่ทิวลิปหลากหลายพันธุ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในสวนยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ มุมเก๋ๆ ที่นั่งริมน้ำบรรยากาศแสนสบาย ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น โรงเพาะชำ ที่ให้ความรู้ในการปลูกและพัฒนาพันธุ์ทิวลิป ไม่ใช่แค่เดินๆ ถ่ายรูป แล้วจบ
แต่ก็ได้แค่นึก เพราะ ตอนที่ไปนั้นมีเวลาไม่มาก ไปสายเพราะรถติดมากๆ แล้วเพื่อนชาวดัทช์ที่อาสาขับรถไปให้ ก็หิวซะแล้ว และเขาก็อยากกลับไปทานข้าวฝีมือภรรยาที่ทำเตรียมไว้ให้พวกเราทุกคน
คนดัชท์เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากๆ เป็นที่รู้กันในยุโรป ว่าชาวดัทช์ เป็นมิตรกับคนต่างชาติมากที่สุด แต่ไม่ถูกกับคนเยอรมัน ก็เป็นเรื่องในอดีตน่ะครับ คนเยอรมันไปเอาเปรียบเขาไว้เยอะ ระหว่างทางกลับบ้าน เพื่อนดัทช์ของเรา อุตส่าห์ขับรถอ้อมๆ เพื่อให้เราได้ชมสวนที่เขาปลูกไว้ขาย แล้วก็บังเอิญจริงๆ มีอยู่สวนหนึ่งที่เขาเปิดไว้ ให้คนเข้าไปได้ (เห็นรถจอดข้างทางเยอะแยะ) ก็เลยจอดแวะสักหน่อย ทำเนียน ลงไปถ่ายรูปในสวนที่เขาปลูกไว้ขายจริงๆ
โอเค.. ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ ไว้พบกันใหม่ ตอนหน้าครับผม
| Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549 | | |
| Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2549 18:16:26 น. |
| Counter : 265 Pageviews. |
| |
|
 |
ฤดูใบไม้ผลิทีไร ใครๆ เขาต่างพากันไปชม
ผม..คนนึง..ที่เชื่อว่า เมืองไทยเราทำสวนเช่นนี้ได้ อาจจะไม่ใช่สวนทิวลิป แต่อาจจะเป็นพันธุ์ไม้ในเมืองร้อน ดอกไม้บ้านเรา ก็ใช่ว่าจะขี้เหล่ กล้วยไม้ก็เป็นที่เชิดหน้าชูตา ทำไม เราจะทำสวนที่ยิ่งใหญ่ ให้ชาวโลกประจักษ์ไม่ได้ ผมเชื่อว่า ต้องมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่ต้องเดินทางมา ก็ดูสิ ที่สวนในพระราชวังเชินบรูนน์ ในเวียนนา ยังมีเรือนกระจกที่สร้างไว้ใหญ่โต สำหรับต้นไม้ ดอกไม้เมืองร้อน เก็บตังค์ค่าเข้าชม แล้วก็มีคนเข้าชมจำนวนไม่น้อย 
คนดัชท์เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากๆ เป็นที่รู้กันในยุโรป ว่าชาวดัทช์ เป็นมิตรกับคนต่างชาติมากที่สุด แต่ไม่ถูกกับคนเยอรมัน ก็เป็นเรื่องในอดีตน่ะครับ คนเยอรมันไปเอาเปรียบเขาไว้เยอะ ระหว่างทางกลับบ้าน เพื่อนดัทช์ของเรา อุตส่าห์ขับรถอ้อมๆ เพื่อให้เราได้ชมสวนที่เขาปลูกไว้ขาย แล้วก็บังเอิญจริงๆ มีอยู่สวนหนึ่งที่เขาเปิดไว้ ให้คนเข้าไปได้ (เห็นรถจอดข้างทางเยอะแยะ) ก็เลยจอดแวะสักหน่อย ทำเนียน ลงไปถ่ายรูปในสวนที่เขาปลูกไว้ขายจริงๆ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [