If you tremble with indignation at every injustice.Then you are a comrade of mine.
Group Blog
 
All Blogs
 

รูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่จากทั่วโลก(Height Statue of Jesus Christ in The World)




รูปปั้นพระเยซูมหาไถ่(Christ The Redeemer) กรุงริโอ เดจาเนโร บราซิล


หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่  จากผลโหวตเมื่อวันที่ 07/07/2007 ที่ผ่านมา(หนึ่งในนั้นมีผมอยู่ด้วยหนึ่งเสียง)   เนื่องจากผมเห็นว่ารูปปั้นพระเยซูที่ตั้งอยู่บนเขาคอโควาโด้(Corcovado) เมื่องริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล    ซึ่งผมเห็นว่าเป็นรูปสักการะพระเยซูทรงยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้  หรือว่าในโลกก็ว่าได้  รูปปั้นพระเยซูคริสต์ผู้ไถ่(Christ the Redeemer) มีความสูง 38 เมตร(ประมาณ 120 ฟุต)น้ำหนักกว่า 600 ตัน   รูปพระเยซูยืนตระหง่านกางแขนและพระเนตรมองลงไปด้านล่างเหมือนทรงปกป้องเมืองทั้งเมืองไว้ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์   รูปปั้นดังกล่าวถูกออกแบบโดยวิศวกรชาวบราซิล คือ Heitor da Silva Costa


ส่วนผู้แกะสลักคือ Paul Landowski  ในปี ค.ศ. 1921 ใช้เวลาสร้างถึง 5 ปี  ด้วยเงินทุน 250,000 ดอลล่าสหรัฐ(ประมาณ 8 ล้านบาท) เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม 1931

พระรูปสามารถรับสัญญาณคลื่นวิทยุสั้นของโป๊ปจากอิตาลีได้ซึ่งระยะข้ามประเทศระยะทางกว่า 9,200 กม. นอกจากนั้นในปี   ชาวคาทอลิกบราซิล และจากทั่วโลกนิยมมาแต่งงานที่นี่ด้านล่างเป็นหาดชื่อดังโคปาคาบาน่า  ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงไปทั่วโลกไม่แพ้หาดกะตะ  หรือ กะรน ที่ภูเก็ตบ้านเราครับ





 



ประเทศบราซิล หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ทิศเหนือตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศเหนือตะวันตกติดเวเนซูเอลา โคลัมเบีย ด้านตะวันตกติดเปรูและโบลิเวีย ด้านใต้ติดกับอาร์เจนตินา ปราวัย และอรุวัย ดูชื่อประเทศแล้วเล่นฟุตบอลเก่งทั้งนั้น บราซิลนั้นเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพื้นที่ป่าไม้มาก ป่าไม้ที่มีชื่อเสียงได้แก่ป่าอาเมซอน ชื่อ “บราซิล” นั้นมาจากต้นไม้ชื่อ บราซิลวูด(Pau-Brasil) นำไปใช้ย้อมผ้าด้วยสีแดงจากเปลือกไม้คล้าย ๆ กับต้นฝาดของบ้านเรา ชาวบราซิลส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกประมาณ 80 % ของประชากรทั้งประเทศ ประเทศไทยเราเดินทางไปบราซิลไม่ต้องของวีซ่าสามารถอยู่ได้ 90 วัน ที่อยู่สถานทูตบราซิล เบอร์โทรสถานทูตบราซิล ในกรุงเทพ ประเทศไทย The Embassy of the Federative Republic of Brazil 34 ชั้นล่าง อาคารลุมพินีทาวเวอร์ 1168/101 ถ.พระราม4 ทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ10120 โทรศัพท์ (662) 679-8567-8 โทรสาร (662) 679-8569
Free TextEditor


รูปปั้นพระเยซูยืนอยู่บนยอดเขา Nui Nho จังหวัดบะเหรี่ย-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tau)ประเทศเวียดนาม ความสูง 32 เมตรถือว่าเป็นองค์พระเยซูยืนที่สูงมากแห่งหนึ่งของโลก ออกมาจากโฮจิมิน(ไซ่ง่อน)สู่ดาลัดโดยรถยนต์ใกล้ ๆ ถึงเมืองดาลัดจะมองเห็นพระรูปอยู่ด้านซ้ายมือจะเห็นชัดเจน ตลอดข้างทางจะเห็นโบสถ์คาทอลิกของเวียดนามพอ ๆ กับวัดพุทธศาสนาในบ้านเรา ใครที่วาดภาพเวียดนามไว้ว่าจะเป็นเหมือนตอนฟื้นตัวจากสงครามหล่ะก็ต้องเปลี่ยนความคิดได้เลยครับ เมืองโฮจิมิน หรือไซ่ง่อนหน่ะปัจจุบันมีตึกใหญ่โตมากมาย โรงแรม 5 ดาว แทบจะไม่ต่างอะไรจากกรุงเทพฯ เวียดนามได้รับอารยะธรรมทางศาสนาคริสต์จากการเข้ามาปกครองของฝรั่งเศสทำให้ประชากรเวียดนามส่วนหนึ่งเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ เวียดนามได้รับเอกราชโดยการนำไปสู่สงครามจนในที่สุดฝรั่งเศสพ่ายแพ้แก่กองกำลังเวียดมินห์ ภายใต้การนำของท่านโฮจิมิน ที่ค่ายเดียนเบียนฟู ในปี 2497 โฮจิมินจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนชาวเวียดนามทั่วไป ตราบจนปัจจุบัน


Free TextEditor


ด้านหน้ารูปปั้นเป็นพระรูปพระแม่มารีอุ้มพระศพพระเยซู เหมือนที่นครวาติกัน ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นปฎิมากรรมชื่อดังของ ไมเคิล แองเจโร่ ชื่อว่าปีเอตะ (Pietà) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) ที่กรุงโรม คำว่าปีเอตะ (Pieta) มาจากภาษาอิตาลี ที่แปลว่า ความสงสาร คือศิลปที่เป็นรูปพระแม่มารีประคองร่างพระเยซูที่เอาลงมาจากกางเขนภายหลังพระเยซูสิ้นพระชนม์ภายหลังถูกตรึงกางเขนด้านหน้ามีภาษาเวียดนามสลักไว้(อ่านไม่ออก) หากท่านใดที่มีลูกลองจิตนาการดูว่าความเจ็บปวดของแม่พระจะสักขนาดไหนที่เห็นบุตรของตนสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้าต่อตาด้วยความทรมาน แต่แม่พระก็ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปด้วยหวังให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ทำให้คิดถึงของ Andrea Bocelli ซึ่งเป็นเพลงอิตาลีชื่อ วิโวเปเล (Vivo Per Lei) หรือฉันจะอยู่เพื่อเธอ
Free TextEditor

อนุสาวรีย์ Cristo-Rei เป็นภาษาโปตุเกสแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ Christ the King หรือพระเยซูจอมกษัตริย์ ในภาษากรีก(Christ) หมายถึง กษัตริย์ และเรียกว่า Jesus Christ หมายถึง กษัตริย์เยซู อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปตุเกส ซึ่งรูปปั้นพระเยซูยืนนี้ได้รับแรงบันดารใจจากChrist The Redeemer กรุงริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิลแต่มีความสูงน้อยกว่าคือ 28 เมตรออกแบบโดยช่างแกะปั้นชื่อดัง Francisco Franco de Sousa (นักบุญเดียวกับผมเลย) เริ่มสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อ ปี 1959 อนุสาวรีย์กษัตริย์เยซูตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ทากัส(Tagus River) ซึ่งมีความยาว 1,038 กม.ไหลผ่านสเปนนอกจากนั้นยังเป็นพรมแดนกั้นกลางระหว่างโปตุเกส และสเปนอีกด้วย
Free TextEditor


Cristo Rey del Cubilete ที่ประเทศเม็กซิโกตั้งอยู่บนยอดเขาทัมเบอร์(Tumbler Hill) ซึ่งสูง 2,700 เมตรจากระดับน้ำทะเลตั้งอยู่ในรัฐกวานาวาโต(Guanajuato) ประเทศเม็กซิโก ซึ่งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ(หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเม็กซิโกตั้งอยู่ที่อเมริกาใต้รวมถึงผมด้วย)องค์รูปปั้นมีความสูง 23 ม.

ที่ประเทศเม็กซิโก นอกจาก Cristo Rey del Cubilete ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาทัมเบอร์แล้วยังมีรูปปั้น Cristo de las Noas in Torreón, Coah อีกที่ ๆ งดงามไม่แพ้กัน น่าจะตั้งชื่อตามชื่อภูเขา Las Noas รูปปั้นพระเยซูที่เมือง Torreón รัฐเม็กซิกัน ซึ๋งอยู่ตอนกลางของประเทศ ความสูง 21.8 เมตรน้ำหนัก 580 ตันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Torreón การก่อสร้างในปี 1973 ถึงปี 2000 และแน่นอนไม่ว่าแรงบันดารใจในการสร้างหรือรูปแบบของทางประเทศแถมอเมริกาใต้ที่จะสร้างรูปปั้นพระเยซู ล้วนแล้วแต่มาจากรูปปั้นพระเยซู พระผู้ไถ่ ที่เมือง ริโอ เดอจาเนโร ที่ประเทศบราซิลทั้งสิ้น


Cristo Resucitado (Christ Resurrected) ที่เมือง Tlalnepantla ในประเทศเม็กซิโก ประเทศเม็กซิโกนั้นประชาชนมีความศรัทธาอย่างมาก เมือง Tlalnepantla เก่าที่อยู่ทางเหนือของเม็กซิโกซิตตี้ ความสูงของพระรูป 30 เมตร หากรวมเชิงฐานด้วยก็จะเป็น 40 เมตร Resucitado ในภาษาสเปน แปลว่า Resurrect ในภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยก็คือรูปปั้นพระเยซูฟื้นคืนชีพ พระเยซูทรงฟื้นกลับคืนชีพภายหลังพระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กลางเขน 3 วัน หรือที่เรารู้จักกันในเทศกาลอีสเตอร์เมื่อก่อนอีสเตอร์ใช้คำว่า Eostre ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Easter ภายหลัง หากเป็นชาวไทยคงเรียกว่าเทศกาล “สมโภชปัสกา” ในช่วงอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์บาทหลวงในศาสนาคริสต์จะสวมเสื้อในการทำมิซาเป็นสีต่าง ๆ วันพฤหัสจะใช้สีม่วง (ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่อยู่ในเทศกาลมหาพรต) ส่วนวันศุกร์จะใช้สีดำเนื่องจากเป็นวันที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ส่วนวันอาทิตย์จะใช้สีขาวเพื่อเป็นการต้อนรับพระเยซูกลับฟื้นคืนชีพ


รูปปั้นพระเยซูชำรุด(The Broken Chris) อยู่ที่เมืองซานโจส เดอ กาเซีย(San José de Gracia) ในประเทศเม็กซิโก พระรูปพระเยซูชำรุดแขน และขาขวาของพระรูปขาดหาย พระรูปดังกล่าวตั้งอยู่เหนือฐาน 3 เมตรพระรูปมีความสูง 25 เมตร รวมความสูงทั้งสิ้น 28 เมตร เมืองซานโจส เดอ กาเซียอยู่ในรัฐ Aguascalientes ซึ่งเป็นภาษาสเปนแปลว่าน้ำพุร้อน รัฐดังกล่าวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ เหมือนบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพงบ้านเรา เริ่มสร้างในวันที่ 30 พ.ค.1934 และเสร็จในปี 1935 ใช้เวลาสร้างน้อยมากเมื่อเทียบกับความงดงาม แต่พระรูปถูกโจมตีจากปัญหาด้านการเมือง และท้องถิ่นนิยม(ประมาณว่าจะแบ่งแยกดินแดนอะไรทำนองนั้น)


พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซู Cristo del Sagrado Corazon หรือภาษาอังกฤษ คือ Christ of the Sacred Heart เป็นอีกพระรูปหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ ความสูงประมาณ 22.8 เมตร มีน้ำหนัก 40 ตัน ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสี่แยกริมชายหาดทะเล ย่าน Pacific coast of Baja California ประเทศเม็กซิโกประเทศเม็กซิโกนั้นประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนา โรมันคาทอลิก ร้อยละ 89, โปรเตสแตนท์ ร้อยละ 6 อื่นๆ ร้อยละ 5 ไม่แปลกใจใช่ไม๊ครับที่ทำไมถึงมีรูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่อยู่หลายแห่งในประเทศ

Cristo Redentore ในเมือง Marateaประเทศอิตาลี เป็นรูปปั้นพระเยซูที่พระพระพักตร์แปลกที่สุดเท่าที่เห็นมา พระพักตร์คล้ายชาวโรมันหรือกรีก รูปปั้นอยู่ที่ Maratea ตอนใต้ของประเทศอิตาลีเดินทางประมาณ 2 ชม.จากนาโปลี องค์พระรูปสูง 22 เมตร เพ่งมองพระองค์แล้วให้นึกถึงประวัติศาสตร์ยุคคริสตวรรษที่ 14 ที่ศิลปะวิทยาการของกรีก และโรมันนั้นเจริญรุ่งเรืองยิ่งนักหรือเรียกได้ว่ายุคเรอเนอซองส์ อารยธรรมต่าง ๆ ยังได้เข้ามาในบ้านเราที่เห็นได้ชัด ๆ ก็เสาโรมัน "เรอเนสซองซ์" หมายถึง การกำเนิดใหม่ ศิลปินดังยุคนั้นที่มีผลงานทางศาสนามาจนถึงปัจจุบัน เช่นเช่น ลีโอนาร์โด ดา วินชี มิเกลันเจโล ราฟาเอ ซึ่งยุคนั้นอยู่ในช่วง พ.ศ. 1940 – 2140 หากเปรียบเทียบกับประเทศไทยในสมัยนั้นก็น่าจะประมาณ พุทธสตวรรษที่ 19 เป็นยุครุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาและมีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานถึง 400 กว่าปี และเราเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี 2310 ยุคเรอเนสซองซ์นั้นเป็นยุคที่เจริญทางศิลปะแทบจะทุกด้าน เช่น รูปปั้นเดวิด ภาพโมนาลิซ่า มหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ ตัวอย่างศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ในไทย เช่น พระราชวังพญาไท

Christ of the Ozarks in Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ความสูง 21 เมตร Ozarks เป็นเมืองแห่งขุนเขา เป็นพื้นที่ราบสูงตอนกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในรัฐ Arkansas สร้างในปี ค.ศ.1966 โดย Gerald L. K. Smith เท่าที่ทราบเป็นผู้ก่อตั้งพรรค America First Party ในปี ค.ศ.1944 และก่อตั้งกลุ่ม white supremacist ประมาณ ๆ(สันติอโศกหรือธรรมกายบ้านเรา) คือ ดำรงชีพได้ด้วยตนเอง สร้างเมืองของตนเอง สามารถส่งคนเป็นผู้แทนได้เอง ส่วนใหญ่ศาสนาหลีกหนีไม่พ้นกับการเมือง และส่วนหนึ่งที่มักจะเข้ามาเกี่ยวข้องคือการสร้างรูปสักการะ บ้านเราก็เคยมีที่หุบผาสวรรค์ ปากท่อ ราชบุรี


ที่ประเทศสหรัฐอเมริกายังมีรูปปั้นพระเยซูกษัตริย์ของกษัตริย์(King Of King) ความสูง 19 เมตร ตั้งอยู่ที่รัฐโอไฮโอ พระหัตทั้งสองชูขึ้นทรงมองไปบนสวรรค์ด้านล่างเป็นไม้กางเขน อยู่หน้า Solid Rock Church ซึ่งมีสมาชิกกว่า 3,000 คน (น่าจะเป็นโบสถ์ของโปรแตสแต้นท์) ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 250,000USD หรือประมาณ 8 ล้านบาท มลรัฐโอไฮโอ (Ohio) เมืองหลวงคือโคลัมบัส ผมชอบคำขวัญของมลรัฐมาก คือ With God, all things are possible (เมื่อมีพระเจ้า อะไรต่างๆก็เป็นไปได้)


พระเยซูผู้ไถ่แห่งอันเดส(Christ the Redeemer of The Andes) ความสูง 7 เมตร(ความสูงไม่เยอะแต่แปลกที่บริหารจัดการโดย 2 ประเทศจึงขอบันทึกไว้) พระรูปประดิษฐานอยู่ที่ภูเขาอันเดส(Andes Mountain) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,832 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ระหว่างพรมแดนประเทศอาร์เจนติน่า และชิลีทั้ง 2 ประเทศบริหารจัดการรูปปั้นพระเยซูดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเดือน มี.ค. ค.ศ.1904(พ.ศ.2447) ประเทศเพื่อนบ้านกันย่อมต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา แต่ศาสนาและพระเจ้าเป็นองค์เดียวกันใยยังต้องรบลาฆ่าฟันกัน ไฉนเลยไม่บริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน ประเทศอาร์เจนตินาเองก็ย่ำแย่กับวิกฤตเศรษฐกิจที่แทนทำให้ประเทศล้มละลายในปี พ.ศ. 2543 – 2545 หลังจากนั้นก็เผาจริง ธุรกิจใหญ่ ๆ ตกอยู่ในมือต่างชาติ ไม่ว่าจะห้างสรรพสินค้า สาธารณูปโภค ภาคการเงินการธนาคาร ประชาชนเป็นได้เพียงแค่ลูกจ้างที่ต้องทำงานหนักแรกกับค่าแรงไม่กี่เปโซ(ดูไปแล้วบ้านเราคล้าย ๆ จะเดินตายรอยนะครับ หากคนไทยยังไม่กลับเข้าสู่แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง) แต่เลิกคลั่งแบรนด์ แนม ส่วนประเทศชิลีนั้นพื้นที่ด้านตะวันตกนั้นติดทะเล(น่าจะเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก หากดูตามแผนที่) ด้านตะวันออกจะติดกับอาเจนติน่า ตะวันออกเฉียงเหนือติดโบลิเวีย ทิศเหนือเป็นประเทศเปรู


Cristo de la Concordia ประเทศโบลิเวีย Cristo ต้องแปลว่าพระเยซูแน่นอนส่วนคำหลังอ่านไม่ออกแต่เท่าที่ค้นคว้า Cristo de la Concordia แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Christ of Peace “พระเยซูสันติภาพ” ผมไม่รู้ว่าในภาษาไทยจะใช้ว่าอะไรให้สละสลวยกว่านี้แปลมันตรง ๆ เลยแล้วกัน ส่วนรูปปั้นพระเยซูสันติภาพนั้นตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาซานเปโด(San Pedro hill) จัดว่าเป็นรูปปั้นพระเยซูที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลกสูงถึง 44 เมตร(รวมฐาน) มีน้ำหนักถึง 2,200 ตัน ร่วมกันสบทบทุนสร้างโดยคริตสานิกชนชาว Cochabamba เพราะต้องการให้มีรูปสักการะที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก โบลิเวีย เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับ ซีโมน โบลิวาร์ ผู้นำผู้กอบกู้อิสรภาพของโบลิเวียให้พ้นจากการปกครองของสเปน และเป็นประเทศที่ เช กูวารา นักปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ได้มาจบชีวิตที่นี่ในวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ.1967


Cristo Blanco in Cuzco ประดิษฐานอยู่ที่แคว้นกุสโก ประเทศเปรู เป็นรูปปั้นพระเยซูสีขาว (White Christ) ความสูง 25 เมตร สร้างในปี ค.ศ. 1987 ประเทศเปรูอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีพรมแดนด้านเหนือติดเอกวาดอร์และโคลอมเบีย ด้านตะวันออกติดกับบราซิล และโบลิเวีย และด้านใต้ติดกับชิลี ประชากรมากกว่า 95% นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อาจจะได้อิทธิพลมาตั้งแต่สมัยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศสเปน นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เปรูเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดในลาตินอเมริกา นอกจากนั้นยังได้รับอิทธิพลทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จากสเปนอีกด้วยเพราะชาวสเปนเองก็นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมากกว่า 95%


Cristo del Otero ที่เมือง Palenciaประเทศสเปนซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ความสูง 30 เมตร รูปปั้นพระเยซูนี่ละเอียดมากครับเพราะมีเล็บเท้าด้วย แต่ในส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่สมพระเกียรติ พระพักตร์ซูบผอมซึ่งไม่ลึกซึ้งว่าพระรูปดังกล่าวผู้ปั้นหรือผู้ก่อสร้างต้องการสะท้อนพระชีวประวัติในช่วงใด ประเทศสเปน ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทิศเหนือติดทะเลกันตาปิโก ราชรัฐอันดอร์ร่า ประเทศฝรั่งเศส ทิศตะวันออกขนาบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนทางใต้เป็นมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันตกจะติดกับประเทศโปรตุเกส และมหาสมุทรแอตแลนติก ประชากรมากกว่า 94% นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก


รูปพระเยซูคอสมิก(Cosmic Christ) ผมขอใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษแล้วกันครับ เพราะไม่ต้องการเอ่ยพระนามพระเยซูตามภาษาอังกฤษ รูปปั้นดังกล่าวตั้งอยู่ที่Castellane อยู่ใน Alpes-de-Haute-Provence ประเทศฝรั่งเศส สร้างในปี ค.ศ. 1987 ความสูง 21 เมตร ได้สักการะพระเยซูมาก็หลายแห่งทั่วโลก ผมไม่เคยพบพระเยซูที่ไหนทรงดาบ โล่เลย คาดว่าการสร้างคงต้องการใช้ศาสนา ณ ช่วงเวลานั้น ๆ เพราะประเทศฝรั่งเศสเองก็ผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามมามาก เชื่อกันว่าพระรูปมีความศักดิ์สิทธิ์และนอกจากนั้น ที่เมื่อสักครู่ที่บอกว่าไม่เคยพบพระรูปพระเยซูถือดาบพอได้อ่านประวัติแล้วก็ถึงบางอ้อ(เป็นคำอุทาน นะครับไม่ใช่ไปถึงบ้างอ้อจริง ๆ) Its Sword symbolizes Divine Justice, its shield of mirrors, the expression of the True and its Crown of Fire, the purification of the universes. คือ ดาบเป็นตัวแทนของความยุติธรรม โล่เป็นสิ่งที่จะบ่งบอกถึงความจริง ความถูกต้อง และ มงกุฎไฟที่สวมพระเกศาพระเยซู คือ เครื่องหมายแห่งพระมหาทรมานที่จะไถ่บาปให้มวลมนุษยชาติ โอ้โฮ้มันช่างสอดคล้องกลับ พระเยซูตรัสว่า เราคือ หนทาง ความจริง และชีวิต (ยน.14:6) และทำให้นึกถึงบนสร้อยของเพลงสรรเสริญพระองค์ “จงลิ้มชิมและดูว่าพระเจ้านั้นประเสริฐ คนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ก็เป็นสุข”


ท้ายสุดคือรูปปั้นพระเยซูทรงยืนกางแขน ที่หุบผาสวรรค์ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ประเทศไทย ของเรานี่เองแต่เนื่องจากผู้ที่ได้สัปทานไปเกี่ยวข้องด้านความมั่นคงของประเทศเนื่องจากมีข่าวว่าค้นพบอาวุธที่หุบผาสวรรค์และที่เกศาพระรูปพระเยซูมีวิทยุสื่อสารข้ามประเทศ ในยุคนั้นประเทศไทยต้องพบกับทฤษฏีมิโน่ของลัทธิคอมมิวนิสต์ ทาง กอรมน.จึงทำการปิดหุบผาสวรรค์ รูปปั้นศาสดาของศาสนาต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ที่หุบผาสวรรค์จึงปิดตัวไปพร้อมแต่บารมีของพระรูปพระเยซูยังคงอยู่ ผมเคยขึ้นไปสักการะเมื่อหลายปีที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ พระรูปทรุดโทรมตามกาลเวลาและการปล่อยให้รกร้าง ทางมิซังราชบุรีน่าจะติดต่อกับหน่วยงานราชการขอเข้าไปทำนุบำรุงองค์พระรูปพระเยซูให้มีความสง่างาม และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาสักการะเฉกเช่นที่ ริโอ หรือที่เขาบะเหรี่ย-หวุงเต่า เวียดนาม เป็นการสร้างงานให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 30 มีนาคม 2552 20:19:49 น.
Counter : 21018 Pageviews.  

การทำอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูเสกน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นที่เมืองคานาในแคว้นกาลิลี

หากนับถึงชีวประวัติของพระเยซูที่ถูกบันทึกและเป็นที่แพร่หลายตราบจนปัจจุบันที่ได้บันทึกโดยสานุศิษย์ของพระเยซู คือ นักบุญยอห์น มาระโก ลูกา และ มัทธิว   หนึ่งในอัศจรรย์ของพระเยซูที่ถูกบันทึกโดยนักบุญยอห์นเกี่ยวกับการทำอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูในงานสมรสที่หมู่บ้านคานา(Cana) ในแคว้นกาลิลี(Galilee) ซึ่งครั้งนั้นแม่พระ พระเยซูและบรรดาศิษย์มาในงานมงคลนั้นด้วย   เมื่อเหล้าองุ่นหมดลงแม่พระจึงทูนแด่พระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใดเวลาของเรายังมาไม่ถึง”  แม่พระได้กล่าวกับคนรับใช้ว่าเขาบอกให้ทำอะไรก็ทำ   พระเยซูได้ทรงตรัสกับคนรับใช้ว่าให้ตักน้ำใส่โอ่งทั้ง 6 ใบให้เต็ม(ชาวยิวจะมีโอ่งสำหรับพิธีชำระ)  พระเยซูได้ให้ตักน้ำนั้นไปให้ผู้มางานเลี้ยงได้ชิม   น้ำได้กลายเป็นเหล้าองุ่นโดยไม่รู้ว่าเหล้าองุ่นมาจากไหน(แต่คนใช้ที่ตักให้รู้ดีว่าพระเยซูได้แสดงปาฏิหาริย์)  ทางผู้ที่มางานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมาและพูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาเลี้ยงก่อน  เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้วจึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้  แต่ท่านกลับเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนบัดนี้”   เปรียบเป็นปัจจุบันก็นำเหล้าแบล็ก เลเบิ้ล  มาเลี้ยงที่หลังให้กินแม่โขงก่อนก็ว่าได้...



 นั่นเป็นการแสดงอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซู  คราวนี้ผมจะลองพาไปเที่ยวว่าเมืองคานา(Cana) ในแคว้นกาลิลี(Galilee) นั้นปัจจุบันอยู่ที่ไหนในโลกและมีอยู่จริงหรือไม่   เมืองคานานั้นอยู่ในประเทศอิสราเอล(Israel)  หากเรามองประเทศอิสราเอลเป็นรูปคล้าย ๆ กับประเทศไทยด้านเหนือของประเทศจะเป็นเลบานอน ด้านขวาบนจะเป็นซีเรีย  ด้านขวาบนถึงด้านล่างจะเป็นประเทศจอร์แดน ด้านซ้ายล่างจะเป็นอิยิปและด้านซ้ายกลางถึงบนจะติดทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน  ประเทศอิสราเอลแบ่งเป็น 6 เขต ได้แก่ เยรูซาเลม เขตเหนือ(เมืองนาซาเร็ท) เขตไฮฟา และเขตกลาง(รามลา) ส่วน  เขตเทลอาวีฟ(ซึ่งเป็นเมืองหลวง) และเขตใต้(เมืองเบเออร์เชวา) ประเทศอิสราเอลมีประวัติอันยาวนานอีกประเทศหนึ่งของโลกตั้งแต่สมัยพันกว่าปีก่อนคริสตกาล  ใช้ภาษาที่เก่าแก่ที่สุดคือฮิบบรู 



กลับเข้ามาสู่เมืองคานาหากมองแผนที่อิสราเอลด้านขวามือของเมืองไฮฟาจะเป็นนาซาเร็ต(ซึ่งเป็นเมืองที่พระเยซูดำรงชีวิตในวัยเยาว์)  ด้านเหนือเมืองนาซาเร็ตจะเป็นเมืองคานา  ด้านขวาจะเป็นภูเขาทาบอร์ เป็นภูเขารูปโดมอยู่แคว้นกาลิลี      ภูเขาทาบอร์ตามพระวรสารคือสถานที่ที่พระเยซูแสดงพระองค์อย่างรุ่งเรืองต่อหน้าสานุศิษย์ทั้งสามคน คือ นักบุญเปโตร ยอห์น และยากอบ  แต่กลับแปลกที่ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ของเมืองคานากลับเป็นชาวมุสลิม





Free TextEditor
VISA ISRAEL อิสราเอล
- เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 12:00 น. Tel. 02-2049200
- เวลายื่น VISA 09:00 - 12:00 น. Tel. 02-2049227
- เวลารับเล่มตามใบนัด
- ระยะเวลาทำการ 2 วัน
- ค่า VISA 780 บาท ( SINGLE )
เอกสารการยื่นวีซ่า
- หนังสือเดินทางที่เหลืออายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน พร้อมสำเนา
- จดหมายรับรองการทำงานจากบริษัทฯถึงสถานทูตเป็นภาษาอังกฤษ
ใช้หัวจดหมายบริษัทฯ
- สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการเงินใช้ Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของบริษัทฯ
( ธุรกิจ )
ท่องเที่ยวใช้ Statement ส่วนตัว ( ฉบับจริงพร้อมสำเนา )
- แบบฟอร์ม + รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 2 นิ้ว 2 ใบ ( รูปสี ฉากหลังสีพื้นสีอ่อน )
- ตั๋วเครื่องบินตัวจริง
- หนังสือเชิญ ( ธุรกิจ )
- หลักฐานของคนที่รู้จักที่อิสราเอล ( ท่องเที่ยว )



เมืองคานา แคว้นกาลิลี สถานที่ ๆ พระเยซูทรงทำอัศจรรย์ครั้งแรกปัจจุบันอยู่ในประเทศอิสราเอล


โบสถ์ Franciscan Church , เมืองคานา
ตั้งอยู่ที่ P.O.B. 1580, 16930 Kafr Kanna
Tel. +972 (04) 651 70 11 (friary); 651 97 06 (parish)



ภายในโบสถ์ Franciscan Church


ภูเขาทาบอร์ เป็นภูเขารูปโดมอยู่แคว้นกาลิลี ภูเขาทาบอร์ตามพระวรสารคือสถานที่ที่พระเยซูแสดงพระองค์อย่างรุ่งเรืองต่อหน้าสานุศิษย์ทั้งสามคน คือ นักบุญเปโตร ยอห์น และยากอบ


เมืองนาซาเร็ท(Nazareth) เมืองทางเหนือของประเทศอิสราเอล เป็นเมืองที่พระเยซูทรงใช้ชีวิตวัยเด็ก จึงได้ชื่อว่า “เยซู ชาวนาซาเร็ท”


ทะเลสาปกาลิลี(Galilee Sea) ทะเลสาบที่พระเยซูทรงเดินบนน้ำมาหาสานุศิษย์หลังฟื้นคืนชีพของพระองค์และประจักษ์ต่อหน้าสานุศิษย์ ตามพระวารสาร (มก.6:45-47)




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 1:01:56 น.
Counter : 3546 Pageviews.  

บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย(The Seven Blessed Martyrs of Thailand)



            ในศาสนาจักรคาทอลิกนั้นถือว่า “ผู้ใดยอมสละชีพเพื่อความเชื่อในพระเจ้า ไม่ยอมละทิ่งความเชื่อในศาสนา  ไม่ยอมเปลี่ยนไปเป็นอื่นตามที่มีผู้เบียดเบียน บีบบังคับแล้วไซร้  ท่านผู้นั้นเป็นวีรชน ของชาวคาทอลิก  และพระศาสนจักรได้เทิดเกียรติท่านเหลานั้นเป็นนักบุญ(Saint) ที่ประเทศไทยรู้จักและได้ยินชื่อ  นอกจากนั้นยังมีการทำเป็นภาพยนต์  เช่น นักบุญโยน ออฟ อาร์ค(Saint Joan of Arf) ซึ่งเป็นเพียงเด็กหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง แต่พระเป็นเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้เธอเป็นสตรีผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองได้เป็นผู้นำในการกอบกู้ประเทศฝรั่งเศสที่ แบ่งเป็นก๊ก เป็นเหล่า กระจัดกระจายเป็นรัฐเล็กรัฐน้อยให้พ้นจากการยึดครองของต่างชาติรวมเป็นประเทสฝรั่งเศสประเทศเดียว และสถาปนากษัตริย์ขึ้นปกครอง แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองและอำนาจ   ทำให้ผลตอบแทนที่เธอได้รับก็คือเธอถูกจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ใช้วิทยาอาคมกระทำสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วอ้างว่าเป็นเสียงของพระเป็นเจ้า เธอยืนหยัดในความจริงจนถึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการเผาไฟทั้งเป็นส่วนบุญราศี(Blessed)นั้นก็เหมือนกับนักบุญ  การจะเป็นนักบุญนั้นหมายความว่าต้องมีการทำอัศจรรย์อันเป็นที่ยอมรับจากสำนักวาติกัล กรุงโรม ประเทศอิตาลี  Martyr (มาร์'เทอะ)หากดูตามพจนานุกรมจะแปลความหมายได้ว่า  ผู้ยอมรับการทรมานจากความตายแต่ไม่ยอมละทิ้งซึ่งศาสนา ความเชื่อหรืออุดมการณ์ของตัว  เรามาดูประวัติของ บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย(The Seven Blessed Martyrs of Thailand) ความภูมิใจของคริสตชนไทยและคนไทยทั้งชาติที่จะประกาศให้ชาวโลกและชาวยุโรปว่า The Seven Blessed Martyrs is in Songkhon village Thailand
ทุกศาสนาย่อมต้องมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาม  ผ่านการเจ็บปวดผ่านการรุกรานตามยุคสมัยของผู้มีอำนาจทั้งทางการเมือง และการทหาร  การใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือเพื่อการรุกรานมีมาตั้งแต่อดีตกาล   เช่น รัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ก็ทรงกลายเป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภ์ ผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแผ่ขยายมากที่สุดในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา  หรือการทำจีฮัดเพื่อปกป้องศาสนาของอิสลาม แม้แต่ประวัติศาสตร์  หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสก็มีสงครามกลางเมืองฝรั่งเศส ระหว่างช่วงค.ศ. 1562 ถึง ค.ศ. 1598 ระหว่างฝ่ายคาทอลิก นำโดยตระกูลกีส (Guise) กับพวกอูเกอโนต์ (Huguenots) หรือโปรเตสแตนต์ในฝรั่งเศส
           สำหรับคริตสานิกชนชาวไทยแล้วเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความภูมิใจในกับพี่น้องชาวคาทอลิกในประเทศไทย คือ เหตุการณ์มรณะสักขีที่บ้านสองคอน จ.มุกดาหาร   และยิ่งภาคภูมิใจยิ่งกว่านั้นจากการที่สำนักวาติกัลป์ได้ประกาศยอมรับมรณะสักขีของบุญราศีทั้ง 7 อย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่  22  ตุลาคม ค.ศ. 1989 ตรงกับ พ.ศ.2532   ณ   มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรมสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 (องค์ที่ก่อนองค์ปัจจุบัน)ทรงประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงการ “บันทึกนามมรณะสักขีไทยทั้ง 7 ท่าน  เข้าทำเนียบบุญราศี”   ต่อมาวัดแม่พระไถ่ทาสสองคอน จ.มุกดาหาร  ทางพระศาสนจักรแห่งประเทศไทยก็ได้จัดสมโภชอย่างมโหฬาร ระหว่างวันที่ 6 - 10 ธันวาคม พ.ศ.2532
           บ้านสองคอนเป็นหมู่บ้านเล็กแต่เดิมตั้งอยู่กับอำเภอมุกดาหารจังหวัดนครพนม  ต่อมาจังหวัดมุกดาหารได้ถูกยกขึ้นเป็นจังหวัด   บ้านสองคอนได้เปลี่ยนมาขึ้นอยู่กับ กิ่งอำเภอหว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร  แต่เดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเมื่อประมาณ ค.ศ. 1882 (พ.ศ. 2425)   บาทหลวงคาทอลิกรุ่นแรก ๆ ที่ไปเผยแพร่ศาสนาที่บ้านสองคอนน่าจะเป็นคณะพระมหาไถ่(ถ้าผมไม่ผิด) เพราะคณะมหาไถ่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี ค.ศ.1948(พ.ศ. 2491) และเริ่มเผยแพร่ทางอีสานปี ค.ศ. 1957 หากเป็นสายที่ลงจาก กทม.วันที่  2   ม.ค. ค.ศ.1881 พ.ศ. 2424  พระคุณเจ้าเวย์ได้แต่งตั้งคุณพ่อโปรดม และคุณพ่อซาเวียร์  เกโก เป็นทางการให้เดินทางไปสำรวจถึงเมืองอุบลฯ  ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางของการแพร่ธรรมในอนาคตของอีสาน 
            สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) ระหว่างเยอรมนี อิตาลี กับฝ่ายของพันธมิตร อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และโซเวียด(รัสเซีย)  ในช่วงเวลานั้นประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศสมีการเจรจาตกลงเรื่องพรมแดนระหว่างประเทศ   เนื่องจากประเทศฟากอินโดจีนอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส  มีการกระทบกระทั่งกันบริเวณชายแดนจนในที่สุดก็ใช้กำลังทหารเข้ารบกันใน ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483)  ที่มีแผนที่วุ่นวายจนเป็นกรณีเขาพระวิหารในปัจจุบันก็มาจากสมัยนั้นเนื่องจากกรณีใช้สันปันน้ำ หรือ แผนที่เขียนเอง    กรณีพิพาทดังกล่าวได้ยุติลงเมื่อต้นปี ค.ศ. 1941(พ.ศ. 2484) โดยการไกล่เกลี่ยของประเทศญี่ปุ่น  ให้หลังปีเดียวญี่ปุ่นพี่แกทะนงเปิดสงครามมหาเอเชียบูพากับฝ่ายสัมพันธมิตรขึ้นอีกแนวรบหนึ่ง คือญี่ปุ่นแกอยู่ ฝ่ายอักษะ มีเยอรมนี อิตาลี  ญี่ปุ่นได้บีบบังคับให้ประเทศไทยเข้าร่วมรบในสงครามดังกล่าว  สงครามยุติในปี ค.ศ. 1944(พ.ศ. 2487) เพราะพี่กันแกเล่นระเบิดปรมาณู 2 ลูกลงที่ฮิโรชิม่า ชื่อระเบิดก็พี่กันตั้งซะน่ารักว่าลิตเติลบอย  ( Little Boy) แปลตรงตัวก็ระเบิดเด็กน้อยแต่พี่ล่อชีวิตพี่ยุ่นไป 140,000 คน และอีก 3 วันทิ้งระเบิดลูกที่ 2 ที่นางาซากิ  ลูกนี้ชื่อไม่น่ารักหน่อยชื่อแฟตแมน(Fat Man) ลูกนี้ล่อไปอีก 80,000 คนญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามทันที  พี่ไทยรอดตัวเพราะมีเสรีไทยประกาศยกเลิกการประกาศสงครามเป็นโมฆะเนื่องจากถูกบีบบังคับให้ร่วมรบ  นั่นเป็นประวัติศาสตร์แล้วเกี่ยวอะไรกับศาสนา   อ้าวเมื่อไทยกับฝรั่งเศสกำลังมีปัญหากัน  เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยส่วนใหญ่เครียดแค้นชิงชังฝรั่งเศส  เนื่องจากฝรั่งเศสใช้ความเป็นมหาอำนาจของตนยึดครองดินแดนของไทยไปเป็นของประเทศอินโดจีนในอาณัติของฝรั่งเศส   ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนสามจังหวัด คือ ศรีโสภณ เสียมราช และพระตะบองและยังต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นจำนวนเงินมากอีกด้วย   คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าศาสนาคริสต์นั้นเข้ามาในประเทศไทยโดยฝรั่งเศส และมีพระธรรมทูตฝรั่งเศสอยู่ไม่น้อยและมีบทบาทในสมัยนั้น  และมิซังอีสานซึ่งอยู่ห่างไกลหรือที่เราเรียกว่า “ไกลปืนเที่ยง”  ความเป็นชาตินิยมที่ปลุกเล้าจิตสำนึกโดยรัฐเป็นผลให้โบสถ์หลายแห่งถูกปิดและถูกทำลาย  ก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อชาวไทยคาทอลิกทั่วไป  โดยเฉพาะพื้นที่ ๆ ห่างไกลความเจริญหรือไกลปืนเที่ยง  ต่อมาทางราชการได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำตามหมู่บ้าน  ตำรวจได้เริ่มเบียดเบียนชาวบ้าน เช่น เรียกชาวบ้านมาประกาศให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์   และนั่นก็เป็นที่มาของเรื่อง บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย(The Seven Blessed Martyrs of Thailand)


            วัดสองคอนเมื่อปี ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) มีคุณพ่อเปาโล ฟีเกต์ เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้รับแต่งตั้งจากพระสังฆราช แกว็ง ให้มาดูแลคริสตชนตั้งแต่ปี 1925 รวมเวลาได้ประมาณ 15 ปีเศษ คุณพ่อฟีเกต์ มีบุคคล 3 ท่านที่ช่วยเหลือในการอภิบาลสัตบุรุษ คือ ซิสเตอร์อักแนส และซิสเตอร์ลูซีอา กับฆราวาส
1  ท่านคือ ครูสีฟอง
1. ซิสเตอร์อักแนส (1909 - 1940) เดิมชื่อ มาร์การิตา พิลา (สุภีร์) ทิพสุข เป็นบุตรสาวของ โยอากิม สอน และอันนา จูม เกิดที่บ้านนาฮี เมื่อวันพฤหัส เดือนมิถุนายน 6, 1909 ได้อพยพครอบครัวมาอยู่ที่บ้านเวียงคุก ซึ่งเป็นหมู่บ้านคริสตัง ในเขตจังหวัดหนองคาย
           หลังจากรับศีลล้างบาปได้ไม่นาน คุณพ่ออันตน หมุน ได้มองเห็นแวว ชีวิตนักบวชของพิลา จึงได้ออกปากให้เข้าอารามที่เชียงหวาง 16 พฤศจิกายน ค.ศ.1928 ท่านได้ปฏิญญาณตนเป็นข้ารับใช้ของพระเจ้า ใช้ชื่อว่า “ซิสเตอร์ อัสแนส พิลา” ท่านได้รับมอบหมายให้มาทำงานที่สองคอนในปี ค.ศ. 1932
2. ซิสเตอร์ลูซีอา  (1917 - 1940) เดิมชื่อ ลูซีอา คำบาง เป็นบุตร สาวของยากอบ ดำ และมักดาเลนา สี เกิดที่บ้านเวียงคุกได้เข้าอารามที่เชียงหวาง และถวายตัวเป็นซิสเตอร์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.1937 ได้รับชื่อว่า “ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง” หลังจากถวายตัวแล้วก็ได้ไปประจำที่บ้านสองคอนในปี ค.ศ. 1938
3. ครูสีฟอง มีชื่อเต็มว่า ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ เกิดวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1907 ที่วัดนักบุญอันนา หนองแสง จังหวัดนครพนม
           เมื่อเติบโตขึ้น สีฟองเข้าเรียนทีโรงเรียนวัดหนองแสง  จบแล้วเคยไปเรียนต่อที่บ้านเณรพระหฤทัยบางช้าง  จ.สมุทรสงคราม ท่านมาถึงสองคอนประมาณปี ค.ศ. 1926 นอกจากจะสอนเรียนแล้ว ท่านยังสอนให้ชาวบ้านรู้จักตัดเย็บเสื้อผ้า  ช่วยดูแลวัด  ตลอดจนสอนคำสอน  ท่านถูกห้ามไม่ให้สอนคำสอน และให้ละทิ้งศาสนาคาทอลิก แต่ครูสีฟองไม่ยอมละทิ้งศาสนาและยังคงสอนคำสอนต่อไป ท่านจึงถูกฆ่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ.1940 เป็นมรณสักขีองค์แรก



มรณสักขีองค์ที่ 2 - 7


ตำรวจให้ผู้ใหญ่บ้านมาตามซิสเตอร์ไปพบที่วัดเมื่อพบกัน   ตำรวจถามซิสเตอร์ว่า “ได้ละทิ้งพระเจ้า ทิ้งศาสนาแล้วหรือยัง?” ซิสเตอร์ทั้งสองตอบว่า “ไม่มีวัน จะไม่มีวันทิ้งพระเจ้าโดยเด็ดขาด” ตำรวจจึงว่า เมื่อไม่ทิ้งพระเจ้า ไม่กลัวตาย ให้ทุกคนไปที่แม่น้ำโขงเดี๋ยวนี้ จะจัดการซิสเตอร์อักแนส พิลา แย้งว่า “จะไม่ไปที่แม่น้ำโขง ถ้าจะฆ่าพวกเราขอให้ไปฆ่าที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ (คือป่าช้าของวัด)
           ตำรวจโกรธ พูดตัดบทว่า “ไม่ต้องมาพูดมาก ไปป่าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้
คณะผู้ยอมพลีชีพทั้ง 8 คือ


1. ซิสเตอร์อักแนส พิลา
2. ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง
3. อากาทา พูดทา
4. น.ส.เซซีลีอา บุดสี ว่องไว
5. น.ส.บีบีอานา อำไพ ว่องไว
6. ด.ญ.มารีอา พร ว่องไว
7. น.ส.เซซีลีอา สุวรรณ
8. ด.ญ.เซซีลีอา สอน ว่องไว


ได้ออกเดินทางมุ่งไปยังป่าศักดิ์สิทธิ์    ระยะทางจากวัดถึงป่าศักดิ์สิทธิ์ประมาณ  300 - 400 เมตร ทุกคนเดินไปพร้อมกับสวดภาวนาและร้องเพลงไปด้วย ไม่มีการสะทกสะท้านใด ๆ พวกตำรวจ แบกปืนเดินตามไปห่างๆ ขณะที่คณะผู้ยอมพลีชีพทั้ง 8 คน กำลังเดินอยู่ นายกองสี บิดาของน.ส.สุวรรณ สงสารบุตรสาวของตน รีบตามมาพาตัวกลับบ้าน บอกว่ายังไม่ถึงเวลาไปตาย ด.ญ.เซซีลีอา สอน ว่องไว ผู้อยู่ในคณะผู้ยอมพลีชีพเล่าว่า  เมื่อถึงป่าศักดิ์สิทธิ์เห็นขอนไม้ใหญ่ล้มทอดอยู่ต้นหนึ่ง ซิสเตอร์อักแนส พิลาพูดว่า  “ขอนไม้นี้แหละเหมาะดี พวกเราอาศัยขอนไม้นี้เป็นที่คุกเข่าสวดก่อนตายกันเถิด”ทุกคนคุกเข่าลงข้างขอนไม้เรียงกันไปตามลำดับสเตอร์อักแนส  พิลา,   ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง, แม่พุดทา, น.ส.บุดสี, น.ส.คำไพ, ด.ญ.พร, ด.ญ.สอน อยู่ริมในสุด แล้วสวดพร้อมกัน เมื่อพวกตำรวจมาถึง ตำรวจบอกให้คณะของซิสเตอร์เตรียมตัว แล้วเริ่มยิงทางด้านหลังทันที แต่ปืนไม่ลั่น จึงเปลี่ยนมายิงทางด้านหน้า แต่ปืนไม่ลั่นอีก ตำรวจจึงเปลี่ยนเอาปืนจากตำรวจอีกนายหนึ่งขึ้นมายิง เสียงปืนลั่นขี้น  พวกตำรวจยิงประมาณ 20 นัด เข้าใจว่าทุกคนตายแล้วจึงเดินกลับที่พัก นายสาลีเข้าไปดูเห็นถูกกระสุนปืน 6 คน ด.ญ.สอนคนเดียวไม่ถูกกระสุนปืนเลย ชาวบ้านได้ขุดหลุมฝังรวม 3 หลุม ฝังหลุมละ 2 ศพ ซิสเตอร์ทั้งสองและคณะได้บรรลุสมปรารถนาที่จะตายเพื่อยืนยันความเชื่อ    



พวกท่านเหล่านั้นได้หลั่ง เลือดทาผืนแผ่นดินไทยเป็นการประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่า พวกเขามีและนับถือพระเจ้า องค์ปฐม แห่งสรรพสิ่ง พระองค์ผู้ประทานชีวิตแก่โลกและมนุษย์ พระองค์ผู้ทรงดูแล ช่วยเหลือ และเมตตาชาว เรา พวกเขาได้รับชีวิตมาแต่พระองค์ เขาก็พร้อมที่จะถวายชีวิตนั้นคืนแด่พระองค์ ความตายมิได้ทำให้พวกเขาหวั่นไหวที่จะปฏิเสธพระองค์เลย


ไปสักการะสถานที่ที่บุญราศีเสียชีวิต 7 ท่านได้ที่   วัดพระมารดาแห่งมรณสักขี (วัดสองคอน)โทรศัพท์ติดต่อ (042)699066
เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย เป็นสถานที่ที่บุญราศีเสียชีวิต 7 ท่าน และได้รับการประกาศจากองค์สัตปาปาให้เป็น บุญราศี ทั้ง 7 ชาวคาทอลิกจัดงานบุญราศีเป็นประจำทุกปี


ข้อมูลทางวิชาการอ้างอิง

//www.sspxasia.com/Newsletters/2002/Oct-Dec/Seven_Blessed_Martyrs_of_Thailand.htm


-หนังสือบุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย โดย คณะกรรมการจัดงานเฉลิมฉลองบุญราศีทั้งเจ็ด



Free TextEditor


วัดพระมารดาแห่งมรณสักขี (วัดสองคอน)




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2551 21:30:28 น.
Counter : 5053 Pageviews.  

เจ้าแม่กวนอิมพระพักตร์ละม้ายพระแม่มารี ที่มาเก๊า

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม-มาเก๊า (Kun Iam Statue-De Macau)  เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่รัฐบาลโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับรัฐบาลจีน เขตปกครองพิเศษมาเก๊า เนื่องในโอกาสที่ส่งมอบ มาเก๊าคืนให้กับจีน องค์รูปปั้นเป็นสีทองมีพระพักต์ละม้ายพระแม่มารี   ซึ่งก็แน่นอนเพราะโปตุเกสเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก  ซึ่งมีความศรัทธาในพระแม่มารีหรือแม่พระซึ่งเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า  รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีทองอร่ามประดิษฐานบนดอกบัว ภายในฐานพระรูปจะเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงถึงประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างซึ่งมี 2 ชั้น ชั้น1 เป็นห้องแสดงประวัติ ห้องสมุดและโสตทัศนศึกษา  ส่วนชั้น 2 เป็นห้องภาวนาและจำหน่ายของที่ระลึก  ตัวรูปปั้นยื่นลงไปในทะเลและมีวิวทิวทัศน์สวยงามมากมีเส้นทางเดินสู่องค์รูปปั้นมีความยาว 60 เมตรน้ำหนักรูปปั้น 60 ตัน ความสูง 20 เมตร   ด้านหน้าเป็น ถนน ดร.ซุนยัดเซ็น ซึ่งเป็นแหลงธุรกิจของมาเก๊า  นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ภัตคาร และ ผับ บาร์ ประวัติการก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมนั้นถูกออกแบบโดยศิลปินชาวโปตุเกส Cristina Rocha Leiria เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1997 และสำเร็จในเดือน มี.ค. ค.ศ. 1999  รูปหล่อองค์เจ้าแม่กวนอิมสูง 20 เมตรถูกหล่อขึ้นโดยโรงหล่อชื่อดังในนานกิง(Nanjing) และขนย้ายมาประกอบที่มาเก๊า



สายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน: 1A, 8, 12, 17, 23

 



Free TextEditor


 




รัฐบาลโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับรัฐบาลจีน ในโอกาสส่งคืนเกาะมาเก๊าให้กับรัฐบาลจีน เจ้าแม่กวนอิมพระพักต์ละม้ายพระแม่มารี


องค์รูปปั้นมีความยาว 60 เมตรน้ำหนักรูปปั้น 60 ตัน ความสูง 20 เมตร ด้านหน้าเป็น ถนน ดร.ซุนยัดเซ็น


ด้านหน้าองค์พระรูปวิวสวยงามมาก สามารถมองเห็นมาเก๊าทาวเวอร์ได้




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2551    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2551 18:18:43 น.
Counter : 2843 Pageviews.  

บ้านแม่พระมารีนิรมล (House of Virgin Mary)

หลายคนนักที่จะรู้ว่าประวัติแม่พระหลังจากพระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  แม้แต่พระศาสนจักรเองก็ยังมีการถกเถียงกันในช่วงแรกว่าจริง ๆ แล้วแม่พระทรงสิ้นพระชนม์ที่ไหนกันแน่ระหว่างเมืองเยรูซาเลมในประเทศอิสราเอล หรือที่เมืองเอเฟซุส ประเทศตุรกี   ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีประเทศตุรกีสมัยแม่พระทรงมีพระชมน์ชีพอยู่น่าจะเป็นช่วงที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ   ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ.324  จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ได้ย้ายเมืองหลวงเป็นแห่งใหม่และสร้างอาณาจักรใหม่ซึ่งมีชื่อว่าไบเซนไทน์ และภายหลังการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน  อาณาจักไบเซนไทน์ยั่งยืนต่อมาได้กว่าพันปี  และจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 นั้นก็คือนักบุญคอนสแตนตินนั่งเอง(Flavius Valerius Aurelius Constantinus) พระราชกรณียกิจสำคัญที่สุดคือการประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมายของจักรวรรดิโรมันเมือปี ค.ศ. 313 จักพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 จึงเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกของจักรวรรดิโรมันที่นับถือศาสนาคริสต์ตามพระราชกฤษฎีกาแห่งมิลาน (Edict of Milan) ที่ประกาศโดยจักรพรรดิลีซีนีอุส (Licinius) ผู้ทรงเป็นจักรพรรดิร่วมกับพระองค์ พระราชกฤษฎีกาแห่งมิลานเป็นพระราชกฤษฎีกาที่ยกเลิกการทารุณกรรมต่อคริสต์ศาสนิกชนทั่วทั้งจักรวรรดิโรมัน



  แต่ที่มีชาวคาทอลิกยอมรับมากที่สุดน่าจะเป็นบ้านแม่พระมารีนิรมล(House of Virgin Mary)  ซึ่งอยู่ที่เมืองเซลจุก(Seljuk) ประเทศตุรกี   ความเป็นไปได้หากเราดูแผนที่ระหว่างเมืองเยรูซาเลมในประเทศอิสราเอล สู่เมืองเชลจุกซึ่งอยู่ในเมืองเอเฟซุส(Ephesus)  นักก็เป็นไปได้ที่พระแม่มารีจะเดินทางโดยทางเท้าจากขึ้นทางเหนือผ่านทางเบรุส และซีเรียประมาณนั้น หรือจะสามารถข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งยุโรปกับตะวันออกกลางก็อาจจะเป็นได้  สาเหตุว่าทำไมพระแม่มารีต้องเดินทางมาที่นี่เนื่องจากต้องหนีภัยพวกโรมันฆ่าฟันชาวคริสต์ภายหลังจากจับพระเยซูตรึงกางเขน  ซึ่งชาวคริสต์ทั้งนิกายโรมันคาทอลิก และกรีกออร์โธดอกช์เชื่อว่าพระแม่มารีพักอาศัยที่บ้านหลังนี้และสิ้นพระชมน์ที่นี่ราว ๆ ปี ค.ศ. 37-48  ปัจจุบันเป็นโรงสวดและมีอัศจรรย์ เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยเชื่อกันว่ารูปแม่พระสามารถรักษาโรคให้หายได้  จึงเห็นผู้แสวงบุญทิ้งเฝือก ไม้เท้าเอาไว้มากมาย   ชาวคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์จำนวนมากมายจะชุมนุมกันที่โรงสวดนี้ทุกวันที่ 15 สิงหาของทุกปี   เพื่อฉลองเทศกาลแห่งพระแม่มารีเสร็จขึ้นสูสวรรค์(Panagyri)   ซึ่งพิธีกรรม ”พานาเกีย” สำนักวาติกันถือเป็นอารามศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของโลก   โป๊ปหรือพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ได้เสด็จมาเยือนในปี ค.ศ. 1967 และพระสันตะปาปาเบเนดิกซ์โป๊ปองค์ปัจจุบันได้เสด็จมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในวันที่ 29 พ.ย.
ค.ศ. 2006  ประเทศตุรกีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม  แต่ชาวมุสลิมก็มีความศรัทธราต่อแม่พระและเดินทางมาสักการะกันเป็นประจำ  ซึ่งบ้านแม่พระถูกเปิดเผยโดยซิสเตอร์ชาวเยอรมันชื่อแอนนา แคทารีน่า อีเมอร์ริค”Anna Katharina Emmerick” ประมาณ ค.ศ.1812ได้ฝันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่พักในบั่นปลายของแม่พระโดยและได้เขียนไว้ในบันทึกของเธอ



Free TextEditor


เชื่อว่าพระแม่มารีต้องเดินทางมาที่ตุรกีเนื่องจากต้องหนีภัยพวกโรมันฆ่าฟันชาวคริสต์ภายหลังจากจับพระเยซูตรึงกางเขน ยุคก่อนอาณาจักรไบเซนไทน์หรืออาณาจักรโรมยุคใหม่


บ้านแม่พระมารีนิรมล(House of Virgin Mary) ซึ่งอยู่ที่เมืองเซลจุก(Seljuk) ประเทศตุรกี


พระสันตะปาปาเบเนดิกซ์โป๊ปองค์ปัจจุบันได้เสด็จมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในวันที่ 29 พ.ย. ค.ศ. 2006




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2551    
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 5:00:48 น.
Counter : 3376 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

People_Trip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




 


If you tremble with indignation at every injustice, then you are a comrade of mine. "ถ้าคุณตัวสั่นเทาด้วยความเดือดดาลทุกครั้งที่เห็นความอยุติธรรม ถ้าเช่นนั้นคุณคือสหายของเรา"






Free TextEditor
Friends' blogs
[Add People_Trip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.