If you tremble with indignation at every injustice.Then you are a comrade of mine.
Group Blog
 
All Blogs
 
เทศกาลฉลองพระเยซูดำ ที่ประเทศฟิลิปปินส์(Black Nazarene Procession Philippine)

งานในวันที่ 9 มกราคม 2552  เทศการร่วมขบวนแห่พระเยซูดำ(Black Nazarene Procession)  เป็นเทศกาลที่เก่าแก่และเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลกโดยจัดที่สนามกีฬาตรงข้ามสวนสาธารณะ Rizal Park ทุกปี  ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 402 แล้ว  ประวัติพระเยซูดำโดยละเอียดท่านสามารถหาอ่านได้จากข้อมูลเก่า ๆครับเพราะเขียนเรื่ององค์พระเยซูดำทุกปี และตามที่ผมได้เรียนรับใช้ท่านผู้อ่านไปว่า 2 สิ่งเท่านั้นในโลกที่จะทำให้ผู้คนออกมาเดินทางบนท้องถนนอย่างมืดฟ้ามั่วดิน คือ 1. ศาสนา 2.การเมือง  มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง  นั่นคือพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะสามารถทำให้ประสกนิกรมากมายออกสู่ท้องถนนเพื่อชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่าน


ชาวฟิลิปปินส์ที่นับถือศาสนาคาทอลิกผู้มีจิตศรัทธาหลายพันคนร่วมพิธีมิซาก่อนวันเฉลิมฉลองในขบวนแห่พระรูปพระเยซูดำ(Black Nazarene) ซึ่งมีการฉลองทุกปีในวันที่ 9 ม.ค. ประชาชนล้นหลามไปทั่วเมืองเกียโป(Quiapo)ในกรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ และจะมีพิธีเฝ้าศีลมหาสนิทตลอดคืน(เป็นการสวด)

พระรูปพระเยซูดำที่ประดิษฐานภายในโบสถ์เมืองเกียโป ซึ่งเข้ามาและผ่านการเฉลิมฉลองมาเป็นปีที่ 402 ทุกปีจะมีคนมาร่วมพิธีฉลองเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าแสนคน เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพส่วนตัวแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ และส่วนใหญ่คนรวยกระจุก คนจนกระจาย ผู้คนมีจิตศรัธทาในศาสนาอย่างเป็นชีวิตจิตใจ

โบสถ์เกียโป(Quiapo) อังกฤษสำเนียงภาษาฟิลิปินส์แปลกครับ Quiapo น่าจะอ่าน คุยอาโปแต่กับอ่านเกียโป คือ ตัว Q จะออกเสียงเป็น ก.ไก่ ครับสงสัยจะมาจากสำเนียงสเปน โบสถ์เกียโปเก่าแก่พอ ๆ กับพระเยซูดำครับ

ด้านซ้ายมือของโบสถ์เกียโปจะพบรูปปั้นพระหัตถ์ของพระเยซู ซึ่งชาวคริสต์เรียกว่ารอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูเจ้า (The Sacred Stigmata of Our Lord Jesus Christ) ซึ่งครั้งหนึ่งนักบุญโทมัธ ศิษย์ของพระเยซูได้กล่าวต่อหน้าสาวกของพระเยซูว่า "ข้าจะไม่เชื่อว่าพระเยซูจะพื้นคืนชีพจนกว่าจะได้เอานิ้วแยงรอยแผลที่พระหัตถ์" พระเยซูจึงปรากฎตัวต่อหน้านักบุญโทมัธและยื่นพระหัตถ์ให้นักบุญโทมัธ

ใช้สนามฟุตบอลตรงข้ามรีซัลพาร์คเป็นสถานที่ทำมิซาในช่วงเช้า ผู้คนเริ่มทยอยมาบางคนใช้วิธีการกางเต้นท์ตั้งแต่กลางคืนเพื่อจะได้ชื่นชมและได้พื้นที่ ๆ สามารถเห็นและสัมผัสพระเยซูดำ(Black Nazarene) สักครั้งหนึ่งในชีวิต คนออกมามืดฟ้ามัวดิน ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครในการรักษาความปลอดภัยไม่ต่ำกว่า 2,000 คนทุกปี

อย่างที่เคยเรียนท่านผู้อ่านว่า การที่จะให้คนเป็นแสนคนออกมาทำกิจกรรมอะไรร่วมกันบางอย่างนั้นหากไม่ใช่กิจกรรมทางศาสนา การเมือง ก็มีเพียงในหลวงของชาวไทยเท่านั้นที่เป็นศูนย์รวมของคนไทยทั้งชาติ และประชากรเรือนแสนออกมาเพื่อชื่นชมพระบารมี

คริสตสานิกชนชาวมะนิลา ต่างสร้างรูปเหมือนพระเยซูดำเข้าร่วมขบวนแห่กันอย่างคึกคักและให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้อย่างมาก ทุกคน ทุกชุมชน หมู่บ้านต่างมาด้วยความศรัทธา ผู้คนมากันมากมายจริง ๆ ทำให้เห็นถึงความเชื่อในพระเจ้าของชาวฟิลิปปินส์

ชาวบ้านย่านต่าง ๆ ได้ตกแต่งและจัดทำรูปพระเยซูดำของแต่ละเขตมาเพื่อร่วมขบวนแห่พระเยซูดำโดยแบ่งเป็นย่าน ๆ ดูได้จากเสื้อที่จัดทำมาและสกีนด้านหลังถึงถิ่นที่มา ทุกคนจะใส่เสื้อสีเดียวกับเสื้อคลุมของพระเยซูที่ถูกกลุ่มทหารโรมันถอดเพื่อนำพระเยซูไปตรึงกางเขน

หน่วยพยาบาลเตรียมพร้อมสำหรับคนที่เป็นลม หรือเพื่อรองรับเหตการณ์ที่จะเป็นอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งหากท่านใดได้อ่านข่าวจะพบว่าเทศกาลดังกล่าวมีข่าวเหยียบกันเสียชีวิตทุกปี แต่ผมกลับไม่กลัวเหยียบกันแต่กลัวการก่อการร้ายมากกว่า

สื่อมวลชนฟิลิปปินส์และทั่วโลกให้ความสนใจเทศกาลสำคัญนี้อย่างมากสถานีโทรทัศน์แทบทุกช่องของฟิลิปปินส์ สถานีวิทยุรายงานสดไปทั่วประเทศ ตามที่สอบถามเพื่อนชาวฟิลิปปินส์บอกว่าเนื่องจากรองประเทศนาธิบดีเป็นคนรุ่นใหม่จึงนำสื่อมวลชนมาถ่ายทอดสร้างชื่อเสียงให้กับเทศกาล Black Nazarene ไปทั่วโลก

เทศกาลนี้เป็นที่สนใจของประชาชนทุกหมู่เหล่า ขนาดมีถ่ายทอดสด รายงานสดจากสถานที่ และถ่ายทอดทางวิทยุ ขนาดนั่ง Taxi ยังเปิดฟังและรู้ความเคลื่อนไหวของขบวนแห่ตลอดว่าถึงไหนแล้ว(ขบวนแห่เดินทางได้ช้ามากเพราะผู้คนเยอะ)

พิธีมิซาเริ่มแล้วผู้คนเรือนหมื่นร่วมพิธีมิซา องค์ประธานในพิธีน่าจะเป็นบิชอฟแห่งมะนิลา เทียบเท่าพระสังฆราชอัครสังคมณฑลของบ้านเรา

พิธีมิซาเริ่ม เป็นสหบูชามิซาที่มีคนร่วมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เทียบเท่ากับพระสันตปาปาทำมิซาที่กรุงวาติกัน กรุงโรมเลยก็ว่าได้ พิธีมิซามีการรับศีลตามปกติใช้คุณพ่อ(บาทหลวง) ทำมิซาและแจกศีลไม่ต่ำกว่า 20 องค์ ชาวฟิลิปปินส์นี่ศรัทธาจริง ๆ ในรูปขบวนแห่จะเริ่มหลังมิซาเสร็จสิ้น

ภายหลังมิซาเสร็จสิ้น ขบวนแห่ก็เริ่มแห่ไปตามจุดต่าง ๆ รอบเมือง ขบวนเดินทางได้ช้ามากเพราะคนเยอะ และแต่ละคนมุ่งเข้าไปให้ถึงพระรูป Black Nazarene เพื่อนำผ้าไปสัมผัสกับพระรูป ต้องมีคณะกรรมการโบสถ์(หากเป็นที่เมืองไทยเรียกสภาวัด) คอยป้องกันไม่ให้คนใดคนหนึ่งห้อยโหนกางเขนนานเกินไป

ผู้คนแน่นไปหมดในย่ายริซัลปาร์ก เต็มไปทุกถนนหนทางจนต้องปิดถนนทุกคนมีจิตใจเดียวกันเมื่อมีคนจำนวนมาก ๆ ย่อมต้องมี 2 สิ่ง คือ นักการเมืองหาเสียง กับ ธุรกิจหากิน ซึ่งก็ไม่เว้นแม้แต่งานแห่พระเยซูดำ ที่เห็นตึกสูง ๆ นั้นคือมินิลาโฮเตลโรงแรมชื่อดังและเก่าแก่ของกรุงมะนิลา

ผู้คนจำนวนแสนเริ่มออกมาร่วมขบวนแห่ และพยายามที่จะเบียดเสียดเข้าไปเพื่อให้ได้สัมผัสพระรูปพระเยซูดำ โดยการใช้ผ้าไปสัมผัสพระรูปโดยเชื่อกันว่าเป็นสิริมงคล ศรัทธาจริงต้องถอดรองเท้าด้วย ดังนั้นจะเห็นผู้ร่วมขบวนแบบใกล้ชิดจะเป็นหนุ่ม ๆ ส่วนสาว ๆ กับแม่บ้านก็เชียร์อยู่ข้าง ๆทาง

ลูกเล็กเด็กแดงก็มาร่วมงาน ชาวคาทอลิกส่วนใหญ่จะปลูกฝังให้เด็กมีความเชื่อทางศาสนาเชื่อในพระเจ้า เรียนคำสอน(หลักศาสนา) หัดร้องเพลงขับถวายพระเจ้าตั้งแต่เด็ก ๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่พ่อแม่มักจะพาลูกเด็กเล็กแดงไปร่วมเทศกาลสำคัญดังกล่าว มองอีกแง่หนึ่งก็อาจจะอันตรายแต่อย่างว่าการเมืองอย่าง ศาสนาอย่าง เค้าว่าต้องละไว้แบบว่าเข้าเส้นเลือด

เป็นเรื่องปกติสำหรับเทศกาลแห่พระเยซูดำที่จะเห็นคนเป็นลม ขนาดหนุ่ม ๆ ยังแย่ เนื่องจากทุกคนมุ่งมั่นที่จะเข้าสัมผัสพระรูปพระเยซูดำ เมื่อคนเบียดเสียดกันอ๊อกซิเจนก็น้อย โอกาสเป็นลมก็ค่อนข้างสูง จะสังเกตได้ว่าทุกคนถอดรองเท้าเหลือแต่เท้าเปล่าเข้าร่วมงาน ลอยขูดขีดที่เกิดจากเชื่อกที่ใช้ลากพระรูป หรือเล็บมือของคนข้างเคียงเป็นเรื่องปกติ

วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ TV รายการวิทยุ ยังคงมีข่าวเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ ในรูปเป็นหนังสือพิมพ์ Manila Bulletin หนังสือพิมพ์เก่าแก่ 108 ปี เป็นหนังสือพิมพ์ชื่อดังของฟิลิปปินส์

ขบวนแห่เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่และแห่กันข้ามวันข้ามคืน อย่างกับฉลองสงกานต์บ้านเรายังไงยังงั้น หากไม่อยากร่วมขบวนจนเย็นก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เที่ยวชมในมะนิลาอีกมากมาก เช่น ริซัล พาร์ค,มะนิลาเบย์,อินทรามูรอส,หรือวังมะพร้าว(ติดตามอ่านได้ใน Group เที่ยวโลกเพื่อพัฒนาไทย)


Create Date : 08 มีนาคม 2552
Last Update : 12 มีนาคม 2552 1:38:04 น. 10 comments
Counter : 6721 Pageviews.

 
งานน่าสนใจมากเลยค่ะ เดี๋ยวจะลองเก็บไปคุยกับเพื่อนสาวชาวฟิลิปปินส์ดู

ขอบคุณที่นำมาฝากกันค่ะ


โดย: Picike วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:3:41:10 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ แหมคนฟิลิปปินส์นี่หน้าตาเหมือนคนไทยเลยนะคะ


โดย: t_karnya วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:14:52:32 น.  

 


เป็นครั้งแรกที่ได้รู้เรื่องราวเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะที่นำมาแบ่งกัน




โดย: d__d♥ (มัชชาร ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:16:38:22 น.  

 
ยินดีมากครับที่ได้เข้ามาชม


โดย: Insignia_Museum วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:20:22:17 น.  

 
ทำไมจึงเรียกว่าพระเยฃูดำคะ


โดย: maemaow วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:20:49:31 น.  

 
เรียน คุณ maemaow

ที่เรียกว่าพระเยซูดำ(Black Nazarene) ก็เพราะว่าพระรูปแกะสลักจากไม้สีดำ คณะนักบวชออกัสตินได้นำรูปแกะสลักพระเยซูดำซึ่งทำด้วยไม้สีดำโดยการขนส่งทางเรือจากประเทศแม็กซิโกและมาถึงประเทศฟิลิปปินส์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1606 ตรงกับ พ.ศ.2149 ถ้าเทียบกับประเทศไทยเราก็น่าจะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย


โดย: Nut (People_Trip ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:16:30:05 น.  

 
if you are filipino,pls contect me dean_ctk@yahoo.com thanks


โดย: dean IP: 161.200.255.162 วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:35:56 น.  

 
Dear Khun Dean

I'm Thai people,However, if you have any questions or need any discuss.

please feel free to let me know.


โดย: Nut (People_Trip ) วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:40:23 น.  

 
สนามกีฬานี้เป็นจุดเดียวกันที่ข่าวตำรวจฟิลิลิปปินส์ยิงนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง


โดย: นัท IP: 110.164.187.206 วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:11:40:29 น.  

 
น่าสนจัยมักๆคร้า ต้องบอกต่อ:)


โดย: noff IP: 61.90.87.1 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:15:13:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

People_Trip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




 


If you tremble with indignation at every injustice, then you are a comrade of mine. "ถ้าคุณตัวสั่นเทาด้วยความเดือดดาลทุกครั้งที่เห็นความอยุติธรรม ถ้าเช่นนั้นคุณคือสหายของเรา"






Free TextEditor
Friends' blogs
[Add People_Trip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.