เพ้อระยะที่หนึ่ง


Dear My boy

           เมื่อวานบอกว่าจะเขียนบันทึกเกี่ยวกับผู้ชายที่ทำให้ สติ สตางค์ ไม่ค่อยสมประกอบ เกริ่นกันก่อนเราไม่ใช่คนสวย หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ ถูกสอนสั่งมาแต่เด็กว่าต้องทำงานทุกอย่างได้เพราะงั้นทำงานบ้านทุกอย่างได้ เป็นผู้หญิงที่ถูกนิยามว่า “เจ๊โหด”เพื่อนชายหลายคนไม่นับเป็น ผู้หญิง เพราะ ไปยิงปืน ไปซ้อมไอคิโด้ ไปเล่นบีบีกันก็ไปกับพวกมัน ไปตีกอล์ฟ เล่นเทนนิส ว่ายน้ำ ก็ลากมันไปด้วย แต่ ใครว่าเราไม่เป็นผู้หญิงเสื้อผ้า หน้า ผม เป๊ะตลอดนะ เครื่องสำอางก็มีเพียบ สมัยนี้เพื่อนบอกเป็นผู้หญิงที่มีแววจะขึ้นคานสูง

              ช่างปะไรล่ะพ่อบอกว่าลูกคนอื่นยังเอามาเลี้ยงได้ ลูกคนเดียวก็เลี้ยงได้หนะ อย่าบ่นนิสัยเสียอย่างเดียว ไม่ว่าจะไปไหน ติดรองเท้าส้นสูงมากๆ สองถึงสี่นิ้วตลอดเวลาด้วยความที่เตี้ย - -เพราะฉะนั้น รองเท้าผ้าใบยังใส่เสริมส้น ไม่งั้นไม่มั่นใจเวลาไปเดินกับใครเพื่อนพ้องน้องพี่แต่ละคนก็ยังกับเปรต 170 อัพกันทั้งนั้น

เข้าเรื่อง เดี๋ยวออกอ่าว ออกทะเลอีกหลังจากอกหักดังเป๊าะเพราะอยู่ดีๆ คนสวยก็กลายเป็นควายมีเขางอกออกมาเกิดอาการน้อยใจ เสียใจ สติแตก ดราม่า ร้องไห้ เหมือนคนบ้าเลยช่วงนั้นแล้วก็ลงเอยด้วยการกลับไปเป็นเด็กน้อย เล่นเว็บบอร์ดคุยกับเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานานแล้วก็เจอ ใครคนนึง เค้าเป็นแฟนเก่าเพื่อนสนิทเราด้วยความที่ เค้าเป็นสุภาพบุรุษมาก แล้วก๊อกหักนะ เพราะเพื่อนเราเนี่ยแหละบอกเลิกเค้าไปกินเด็ก - -อะไรก็ไม่รู้ดลใจ แอด MSN ไป ทักเค้า คุยกันธรรมดาๆคุยไปคุยมา เฮ้ย แบบนี้มันไม่ธรรมดานะ แล้วมันก็ไม่ธรรมดาจริงนะเมื่อวันนึง โดนโยนคำว่ารักใส่หน้ากรี๊ด...ฉันก็เขินเป็นนะคะคุณๆทั้งหลาย คิดว่าฉันนิ่งๆ หยิ่งๆฉันก็เป็นกับคนที่ไม่สนิท ไม่รู้จักทั้งนั้นแหละ คุยไปคุยมาอิตาคนนี้จะรู้จักฉันเยอะเกินไปและ แนทำอะไรเป็นยังไง ขนาดบอกว่าเลวสารพัดเลว ทั้งงี่เง่างอแง ขี้หึง ขี้หวง ขี้วีน สารพัดจะไม่ดี เขาบอกว่า

                 “น่ารักดีออกครับ เหมือนแมวหวงเจ้าของเหมือนแมวที่พยายามตะกุยพรมเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ”

                   ป๊าดดดดด...พ่อเจ้าประคุณ แต่ละคำอิฉันจะละลายคาหน้าคอม ยังๆๆ ยังไม่หมดนะ

                   ฉันเขียนนิยายแอบไปอ่านนิยายฉันแล้วถามว่า รักเขา หรือรักพระเอกนิยายคนนั้นมากกว่า แหม...พระเอกนิยายมันไม่มีตัวตนนะคะคุณ!!!

                   แต่อนิจจา เวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วนะว่ามั้ยหลังๆเริ่มรู้สึกว่าเค้าแปลกๆไป ก็เออ ช่างมัน เดี๋ยวก็ทำใจได้ ตอนนี้ทำใจได้ละซักพัก เค้าก็มาสารภาพความจริง เราก็ นางเอกโคตร ไม่โกรธ ไม่เคืองยังคุยกันได้เหมือนเดิมนะ ยังเป็นเพื่อนกัน ยิ้มค่า ยิ้มตลอดเวลา

                   หลังจากนั้นเราก็หาเรื่องไปเที่ยวกับน้องสาวที่สนิทคนหนึ่ง ไปลั้นลาเชียงใหม่สี่วันไปกันเองเลย ไปเหยียบถิ่นเค้าโดยที่ ไม่บอกใครเลย ไปกันเงียบๆ ไปถึง โผล่ไปโทรบอกแฟนเก่าอิตาคนนั้น ไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้คิดถึงเค้าไปเพื่อบอกให้ชาวโลกรู้ว่า “ใช่ว่าฉันแคร์ตาคนนี้นะยะ” อะไรทำนองนั้นไปเที่ยวกลับมา ซักอาทิตย์นึง ทะเลาะกันใหญ่โต เคือง ไม่พูดด้วยเลย ไม่ชายตาแลเมินเหมือนเป็นอากาศธาตุ

                    มันเป็นนิสัยเสียๆของเรานะคนที่ไม่รู้จักจะดูว่า เราหยิ่ง เรานิ่ง เราเย็นชา พอรู้จัก สนิทจะรู้ว่าเราเป็นคนกะโหลกกะลา ฮา บ๊อง ต๊อง รั่ว ที่สุดของความไร้สาระ แต่เวลาโกรธมากๆ จะกลับมากลายเป็นคนที่เพื่อนเรียก “เจ้าหญิงน้ำแข็ง” คือ นิ่ง เชิด มองเมินไม่พูด ไม่คุย มองเลยผ่านไป อะไรเทือกๆนั้น อิตาคนนี้โดนเข้าไปเต็มๆจนกระทั่งเขามาบอกว่าจะบวช โอเค ฉันยกโทษให้ จากนั้นก็ไม่คุยกันอีกเลยอะไรทำนองนั้น วันนั้น อยู่ดีๆโผล่มาในเอ็มเอสเอ็น สะดุ้งตกใจ ออนทิ้งไว้นะแต่แสดงเป็นออฟไลน์ เพราะงั้น เค้าคงไม่เห็นเราหรอก ก็แบบ เออ ลืมๆไปซะเถอะ

                    หลังจากปีใหม่มา พอโดนบอกเลิกฉันก็ไปตะโกนแหกปากในเฟซบุ๊ค ในบอร์ด ในเอ็มเอสเอ็นว่า ฉันจะเป็นโสดซักสองปีหลังจากนั้นก็จัดการปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ ตัดผม ทำสีผมใหม่ โมหนังหน้าใหม่ ซื้อเครื่องสำอางกระเป๋ารองเท้าใหม่หมด(จริงๆแล้วมันคือหาเรื่องเสียเงินเพื่อความสะใจส่วนตัวนั่นแหละ)เพื่อนบอกว่า สวยซะให้เข็ด เอาให้ควายมันเสียดายเล่น กร๊ากกกกแรงส์ชนะเลิศไปเลยคุณเพื่อน

ไร้สาระเสียจริง แต่ก็ยังเขียน

ณัฐกัลยา




 

Create Date : 29 เมษายน 2555    
Last Update : 29 เมษายน 2555 10:21:29 น.
Counter : 490 Pageviews.  

ลูกสาวพ่อ

Photobucket - Video and Image Hosting


Dear Diary

               หลังจากนั่งเขียนไดอารี่มานานเนเขียนไปเขียนมาเอามาเล่าให้น้องๆหลายคนฟังถึงสิ่งที่เจอมาในแต่ละวันน้องๆเพื่อนๆบางคนถามว่า ทำไมเจ๊ไม่อัพลงบล็อก บอกตรงๆ ขี้เกียจมากนิยายยังรีไรท์ไม่เสร็จ งานที่รับจ้างทำมายังไม่ถึงไหนเลย งอแงมาก สุดท้ายทนไม่ไหว เอามาลงซะเลย อัพอาทิตย์ละตอน รวมกันจันทร์ถึงเสาร์เลยนะจ๊ะหรือไม่ก็อัพตามอารมณ์ติสต์แตกของตัว (ไม่ต้องทวงถามนิยายนะคะ ไม่ไหวจะแก้ T___T) ทั้งหมดนี้ไม่ใช่นิยายนะ แต่จดไว้ในเล่มจริงๆ เยอะแยะมากมาย - -

                เล่าก่อน ชื่อเล่นเราย่าตั้งให้ด้วยความเห่อหลานสาวคนเดียว มันพ้องกับชื่อเล่นคุณพ่อ แต่คุณยายตั้งให้อยากให้หลานสาวเป็นกุลสตรีแสนหวานเรียบร้อย ซึ่งตรงข้ามทุกประการ =.= คุณยายตั้งว่าน้องน้ำผึ้ง ซึ่งคล้องกับ พี่น้ำหวาน น้องน้ำตาล น้องน้ำอ้อยและแมวชื่อนังน้ำเชื่อม - -* ดังนั้น ชื่อเล่นจะมาตามอารมณ์บางวันใครจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เจ้าประคุณท่าน

24/4 : ลูกสาวพ่อ

              วันอังคารตื่นเช้ามาตั้งแต่ตีห้าเข้าครัวทำกับข้าวกับแม่เสร็จ กระโดดกลับขึ้นเตียง นอนต่อเจ็ดโมงเช้า เสียงเคาะประตูห้องดังสนั่นหวั่นไหวทะลุลอดหูฟังและเสียงเพลงเข้ามา

          “น้องน้ำผึ้ง ตื่นได้แล้วสายแล้ว”เสียงปะป๊าลอยมาเลย

          “หนูตื่นนานแล้วนะ”

          “งั้นจะไม่เอาใช่มั้ยเงินค่าขนมเนี่ยจะไปมั้ยซื้อของน่ะ” เท่านั้นแหละค่าตาลุกวาวกระโดดลงจากที่นอนติดสปีดออกไปแบมือขอตังค์เลย

          “งก” น่าน โดนว่า

           “เนอะ ลูกใครก็ไม่รู้” กร๊ากกกฮาทั้งบ้าน พูดเสร็จ โดดเข้าห้องหลบระเบิดมะเหงกทันที ฮ่าๆๆ

           หลังจากเค้าออกไปทำงานกันหมดแม่ไปโรงเรียน เอาหลานไปส่ง นั่งง่อยอยู่บ้านรอรถมารับออกไปตลาดด้วยความที่บ้านนอก อยู่นอกเมือง ไม่มีรถโดยสารผ่าน นั่งรอมันครึ่งชั่วโมงจากที่แต่งสวยรอ สรุป ร้อนตับแลบ หน้าเหงื่อซึม เป็นยายเพิ้งไปตลาดเลย ตะโกนบอกย่าเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งคุ้งทั้งแคว

          “ย่า หนูไปตลาดนะ”

          “เอ้อ” เสร็จโจ๋วิ่งแจ้นขึ้นแมงกะไซที่มารับแปลงร่างเป็นสก๊อยซิ่งหัวฟูไปหาสารถีเพื่อลากมันไปช่วยแบกของซื้อแต่ของในครัวทั้งน้านนนนน ไม่มีของส่วนตัวซักกะอย่าง กลับมาถึงบ้าน หน้ามันแผล๊บเหงื่อโทรมประหนึ่งไปอาบน้ำที่ไหนมา คุณย่าผู้แสนดี๊ดีถาม

           “ไปทำอะไรมา โทรมเชียว”

           “แบกน้ำ แบกข้าวสารแบกของกินทั้งนั้นแหละค่า” นางซินก้นครัวชี้ไปยังผู้ร้ายทั้งหลายอันได้แก่น้ำถังละ 6ลิตร 10 ถังที่ฉันไปแบกมาจากห้างกับสารถี ข้าวสาร 10 กิโล พร้อมทั้ง หมู เห็ด ผัก ปลา บลาๆๆ สรุป เงินที่พ่อให้ไปไม่พอค่าเข้าเนื้อไปหกร้อยสี่สิบแปดบาทถ้วน จากนั้นยังไม่หมดเวรหมดกรรม ต้องล้างหม้อหุงข้าว ทำกับข้าว เป็นโคตรนังแจ๋วโดยสมบูรณ์แบบ กินข้าวเสร็จ ขึ้นไปนั่งพิมพ์ๆๆๆๆงานไม่ได้สนใจใคร ซักสามทุ่ม เสียงรถพ่อกลับถึงบ้านสลัดตัวเองกระโดดลงจากหน้าทีวีและแลปท๊อปจัดแจงหาอะไรให้พ่อกินเสร็จ ปะป๊ายิงคำถามพิฆาตทันที

           “ซื้อของหมดไปกี่บาท”

          “ทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยสี่สิบแปดบาทเจ็บสิบห้าสตางค์ค่ะ”ประกอบความน่าเชื่อถือด้วยบิลเงินสดยาวเป้นหางว่าว

           “พ่อให้ไปพันเดียว” ช่ายเลยปะป๊าถูกที่สุดเลยยยยย

          “หนูควักออกไปก่อน” ผีงกเริ่มสิงละค่ะ

          “อ่ะ”คุณพ่อผู้น่ารักที่สุดในสามโลกเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบแบงค์ม่วงๆออกมาใบนึงแดงๆอีกใบนึง

           “ที่เหลืออ่ะคะ”ยังสิยังไม่ครบนะยังขาดอีกสี่สิบแปดบาท เจ็ดสิบห้าสตางค์ยกให้ก็ได้ ถามพร้อมทำตาแป๋วๆ

            “แปะโป้งไว้ก่อนได้มั้ย”คุณพ่อคงไม่ทันสังเกตว่าจานเชิงบนหน้าเริ่มกลายเป้นจวักแล้วแล้วเสียงสวรรค์จากพระมารดาก็โพล่งมาว่า

           “ดอกเบี้ยด้วยนะ” เท่านั่นแหละฮาครืนกันทั้งบ้าน

           “งกว่ะ” พ่อบ่น

           “ก็เหมือนพ่อมันไง” อันนี้หนูเปล่านะย่าพูด เอิ๊กกกกก..ฮาๆๆๆ



lozocat

          พอก่อน วันละเล็กละน้อย ยังไม่หมดหรอกวันวันนึงมีเรื่องให้ฮาเยอะแยะ จริงๆมันก็ไม่ได้ฮาทั้งหมดนะไหงมานั่งๆย้อนเขียนแล้วมันฮาก็ไม่รู้ เหอๆๆ พรุ่งนี้จะมาแปะเรื่องหัวใจกับผู้ชายที่ทำให้สติสตังค์ไม่สมประกอบมั่งดีกว่า เอิ๊กกกก

มานั่งๆย้อนดูแล้วก็ขำตัวเองจริงๆทำไปได้เนอะเรา

รักพ่อที่สุดในสามโลก

ณัฐกัลยา(ยายจอมอู้งาน)

 




 

Create Date : 28 เมษายน 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2558 13:14:27 น.
Counter : 407 Pageviews.  

กุมภา...เดือนแห่งความรัก

กุมภา...เดือนแห่งความรัก


กลับมาเล่นพันทัปอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน


ประเดิมบล็อกแรกของปีนี้และเดือนแห่งความรักนี้


ด้วยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 กพ. ที่ผ่านมา



มีนัดไปสัมภาษณ์ฝึกงานที่สถานที่หนึ่ง



เดินออกจากห้องสัมภาษณ์แบบชิลๆ ไปนั่งกินนมปั่นเล่นที่ร้าน
กดโทรศัพท์หา "ผู้ใหญ่"ท่านนึง ตามคำสั่งพ่อ


ซักพัก "ผู้ใหญ่" ที่รู้จักเดินเข้ามาในร้าน ยกมือไหว้


คนที่เดินมาด้วย ถามคนที่เรายกมือไหว้ว่าใคร
เค้าหันกลับไปตอบคนๆนั้นว่า...



"พี่จำลูกสาว.(ชื่อพ่อ). ได้มั้ย เนี่ย
คนนี้แหละ" ผู้ชายคนนั้น ตอบกลับมาด้วยประโยคที่ทำให้เราเสียน้ำตาว่า



"เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้น
ที่วิ่งเล่นซนเวลาเราไปประชุม ไปทำงานกันน่ะนะ โตขนาดนี้แล้วหรอ"



ผู้ใหญ่ท่านนั้น หันกลับไปตอบว่าใช่ แล้วบอกต่อว่า



"ผม จำได้ ผมเคยถามเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า โตขึ้น
เธออยากทำงานอะไร


เธอบอกว่า เธออยากทำงานเหมือนพ่อ ทำงานที่นี่ พี่เห็นมั้ย
วันนี้เธอกลับมา"



ผู้ใหญ่คนที่เดินมาด้วยกันกับคุณลุงท่านนั้นบอกเราว่า



"พยายามเข้านะ
ลุงๆป้าๆทุกๆคนยังเป็นกำลังใจให้เราเสมอ"




น้ำตา ร่วงเลย ไม่คิดว่า
คำพูดของเด็กสี่ขวบในวันนั้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน


จะยังมีผู้ชายคนนึง
คนที่เรียกเราว่า "หลานสาว" จะจำมันได้นานถึงสิบกว่าปี.... นี่ไง
"ครอบครัว"



ไม่คิดจริงๆ ผ่านมาสิบกว่าปี บางอย่างเลือนหายไปตามกาลเวลา


แต่ความรักยังคงอยู่ ความเอื้ออาทรยังคงอยู่ ยังไงก็อย่างนั้น



สิบกว่าปีก่อน เราเคยไปวิ่งเล่นซน มุดใต้โต๊ะ
วิ่งเล่นไล่จับในห้องประชุม


เอากระดาษรายงานการประชุมมาพับจรวดมั่ง วาดรูปเล่นมั่ง



วันนี้ เมื่อเราเดินกลับมาที่นี่
คนที่นี่ยังคงต้อนรับเราเหมือนเดิมเสมอ


ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
เหมือนเมื่อวันที่พ่อพาเราเดินเข้ามา



นี่ใช่มั้ย เหตุผลที่พ่อเลือกให้เราฝึกงานที่นี่ เพราะพ่อรู้ดีว่า
ที่นี่




ไม่ว่าจะมี รึไม่มีพ่อ เด็กผู้หญิงคนนี้
จะยังมีที่ที่แสนอบอุ่นแห่งนี้
ต้อนรับเสมอๆ



ขอบคุณความรักดีๆจากพ่อ


ขอบคุณความเมตตากรุณาปราณีจากคุณลุง คุณป้า ที่พอรู้ว่าหลานมา ก็ทิ้งงานมานั่งคุยกับหลาน



ขอบคุณโชคชะตารึอะไรก็ตาม



ขอบคุณที่ทำให้วันนี้เป็นวันดีๆที่แสนน่าจดจำ ขอบคุณจริงๆค่ะ..................



รัก



เด็กหญิงสี่ขวบกว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน ^
^







Free TextEditor




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 18:39:03 น.
Counter : 415 Pageviews.  

1  2  

~PerSepHoneY~
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









“กุหลาบแดง” แต่งวาจา พาตอกย้ำ

ดังถ้อยคำ พร่ำรักไว้ ให้ชวนฝัน

หลงกลิ่นหอม หวนกลิ่นเจ้า เฝ้ารำพัน

คืนเปลี่ยนผัน กุหลาบนั้น ...พลันโรยลา



แต่กุหลาบ ดอกหนึ่ง คงหยัดยืน

ยังเฝ้าฝืน กลืนรอยช้ำ ร่ำเรียกหา

ผ่านสายลมพรมพร่างพรางน้ำตา

เวลาผัน “กุหลาบดำ” ยังทนทาน



กรุ่นกลิ่นชวน หวนหอม ตรอมอุรา

ยังตรึงตรา จารึกคำ พร่ำเพรียกขาน

ฝังอารมณ์ จมรากไว้ ในสายกาล

มอบวิญญาณ พลีหัวใจ ...ไว้ชั่วกัลป์



กุหลาบดำ จำวาจา เจ้าฝากไว้

กุหลาบไซร้ คือรักแท้ ที่เฝ้าฝัน

สีดำหรือ คือความรัก จักคงมั่น


“กุหลาบดำ” จึ่งแทนคำ...”รักนิรันดร์”








Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ~PerSepHoneY~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.