โดนอีกจนได้ สำหรับ แคนดี้ รากแก่น ลูกสาวคนสวยของศิลปินแห่งชาติ บานเย็น รากแก่น ที่ล่าสุดถูกมองเป็นมารวัฒนธรรม จากบรรดานักเลงคีย์บอร์ด หลังจากลุกขึ้นมาสืบสานจัดโครงการประกวดหมอลำและมีภาพหลุดกางเกงในโผล่จนถูกหาว่าสร้างกระแส ล่าสุด (23 กันยายน 2557) เธอขอเปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2
ถามถึงกระแสข่าวที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ?
จริง ๆ แล้วเรื่องนี้แคนดี้ว่าทุกคนโดน และก็โดนเป็นเรื่องปกติ สำหรับนักเลงคีย์บอร์ดที่เขาจะขึ้นอะไรก็ได้ ตัวแคนดี้เองหลีกเลี่ยงการเข้าไปอ่าน การเข้าไปปะทะกับคนพวกนี้อยู่แล้ว เราอยู่กันคนละที่ก็ดีอยู่แล้ว แต่พอดีมันเป็นจังหวะที่แคนดี้ทำโครงการเกี่ยวกับวัฒนธรรม พอดีมันภาพที่หลุดออกมาอีกแล้ว มันหลุดช่วงจังหวะ จังหวะที่เราทำโครงการวัฒนธรรม ด้วยความที่สังคมไทย ถ้าเป็นเรื่องวัฒนธรรมก็ยังจะต้องเรียบร้อย และไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี แต่บังเอิญรูปที่มันหลุดออกมาดูแล้วมันขัด คงไปขัดหูขัดตาด้วย เขาก็เลยมาตอบโต้มาว่าเรา
ตอนที่เรารู้สึกเดือด ก็คือการพาดพิงไปถึงคุณแม่ เรื่องที่คุณแม่ทำ มันก็เลยทำให้แคนดี้เดือด ส่วนคำที่คุณพูดถึงแคนดี้ว่าอะไรยังไงก็แล้วแต่คุณ ความที่เราเป็นคนก็มีความรู้สึกว่าเราทำอะไรมาเหรอ ทำไมด่ากันขนาดแล้ว คุณไม่แยกแยะเหรอว่าสิ่งที่แคนดี้ทำอยู่ในปัจจุบัน กับรูปที่มันหลุดออกมา กับงาน งาน แคนดี้ก็ไม่ใส่ชุดอย่างนั้นมาเดินเล่น หรือขึ้นแสดงบนเวที การที่ตอบโต้ไปมันก็คืออารมณ์คน
จริง ๆ แล้วภาพลักษณ์ขอเราที่ดูเปรี้ยว เซ็กซี่ มันขัดกับงานทำด้านวัฒนธรรมหรือเปล่า ?
มันขัดแน่นอน ถ้าในมุมมองของคนที่กำลังมองว่าสิ่งที่แคนดี้กำลังทำมันคือการแสดงแบบนั้น แต่ถ้าลึก ๆ แล้วแคนดี้บอกเสมอว่าไม่ได้เป็นคนที่จะมาถ่ายทอดแทนคุณแม่ ไม่ได้ออกมาร้อง มารำหมอลำ แต่แคนดี้เป็นคนจัดงาน และประกาศไปแล้ว ร้องหมอลำไม่ได้ รำไม่ได้เหมือนคุณแม่ ซึ่งแคนดี้ก็รับหน้าที่จัดงานละกัน ระหว่างที่เราทำงานอะไร รับหน้าที่อะไร เราก็ทำตรงนั้นให้ดีที่สุด
ด้วยภาพลักษณ์และชื่อเสียงของคุณแม่หรือเปล่าทำให้เราโดนกดดัน ?
นี่คือเหตุผลที่ทำให้แคนดี้ไม่เข้าวงการตั้งแต่แรก โอกาสการเข้าวงการก็แคนดี้มีมานานแล้ว แต่เราไม่เข้าเพราะทุกคนคิดว่าเราต้องเหมือนคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ทำไว้ดีมาก เราพยายามค้นหาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนมาค้นพบว่าตัวเราเป็นวาไรตี้ เป็นคนที่ทำโชว์ อีกบทบาทหนึ่งคือ หลังจากที่คุณแม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ คุณแม่ก็บอกว่าอยากจะหาผู้สืบทอด คำว่าผู้สืบทอดมันไม่ได้หมายความตรงถึงแคนดี้ว่าต้องไปแสดง ในเมื่อเราแสดงไม่ได้ เราพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้ เราก็บอกคุณแม่ว่าถ้าเราทำไม่ได้ เราใช้วิธีอื่นได้มั้ย
หนูตั้งบริษัทให้คุณแม่ ชอบบริหาร หนูขอทำโครงการประกวดหมอลำ ล่าสุดที่โดนก็คือการประกวดวงโปงลาง และประกวดลำซิ่ง ซึ่งแคนดี้ก็ออกมาประชาสัมพันธ์ให้คนมาประกวด นั้นแหละก็สาเหตุที่เราโดนว่า คนก็เลยมองว่ามันขัดกันนะ คุณมองภาพดี ๆ เพราะแคนดี้ไม่ได้ออกมาร้องเอง แสดงเอง แต่แคนดี้เป็นผู้จัดงาน ถามว่ากดดันมั้ย ตอบเลยว่ากดดันมาก และรู้ว่าทำไมเหรอ เวลาเราทำดี ๆ แล้วรู้สึกว่ามันยากเนอะ มันกำลังทำให้คนที่รู้สึกอยากจะทำความดีไม่อยากทำ เหมือนเวลาเราทำความดี เราออกไปช่วยคน ไปช่วยเด็ก ๆ พอจะรู้รูปอะไร คนก็จะหาว่าสร้างภาพ ทุกวันนี้เวลาแคนดี้จะทำความดีกับองค์กรของพี่ ๆ แคนดี้จะถามเลยว่ามีสื่อมั้ย ถ้ามีสื่อแคนดี้ไม่ไป กลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว เคยเป็นมั้ยเห็นคนรถล้มอยู่ข้างถนนแต่ไม่กล้าไปช่วย เพราะอะไร เพราะสังคมเป็นแบบนี้ไง ทุกคนถูกตัดสินด้วยความรู้สึกส่วนตัว และตัดสินคนจากภายนอก
ตอนที่เห็นข่าวแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
นึกภาพตามนะคะ แคนดี้เห็นข่าวนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์ ขณะกำลังคุยงานเรื่องวัฒนธรรม มาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ จะมาสานต่อเรื่องวัฒนธรรม พอดีมีข่าวตัวนี้ออกมาปุ๊บ แล้วข่าวมันเร็วผู้ใหญ่เห็น เขาก็เลยพิจารณาใหม่เลย มันก็เลยรู้สึกไงว่าคำพูดคน ๆ เดียว มันส่งผลกับเรา แคนดี้ก็เลยตอบโต้เขาค่อนข้างแรง
กับคนที่ว่าเราไม่เหมาะสมกับการทำงานด้านวัฒนธรรม เราอยากจะบอกอะไรกับเขา
อยากจะบอกว่าคุยเกือบจะทำให้แคนดี้เกือบท้อแล้ว ในขณะที่สิ่งที่แคนดี้พยายามทำ พยายามสร้างมานานแล้วค้นพบแล้วว่าถ้าแคนดี้ไม่ทำแล้วใครจะทำให้คุณแม่ เราก็พยายามบอกกับทุกคนเสมอ ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับตัวเอง ว่าเราเป็นคนแรง ๆ เป็นคนตรง ๆ แต่วันนี้แคนดี้ลุกขึ้นมาตั้งใจสานต่อวัฒนธรรมเท่าที่แคนดี้ทำได้นั้นก็คือ การสร้างเวทีประกวดให้กับน้อง ๆ แคนดี้ก็ออกมาบอกตรง ๆ ไม่ใช่มาบอกว่าแคนดี้จะเปลี่ยรนไปแล้วนะ แคนดี้ไม่เคยพูด และอยากจะบอกว่าสิ่งที่คุณทำก็คือ คุณสนุกปาก แต่คุณกำลังทำให้ความตั้งใจของแคนดี้มันล้มลง ถึงขนาดคุยกันเลยว่าไม่ทำก็ได้นะ ถ้าการทำความดีมันจะยากขนาดนี้ มันบั่นทอนชีวิตมากนะ
หลายคนมองว่าเราสร้างกระแส ?
ถ้าจะปั่นกระแสขนาดนี้อย่าทำเลย เพราะมันทำให้งานที่แคนดี้ตั้งใจจะทำเกือบล้ม แคนดี้ก็ไม่คิดบ้าที่จะทำแบบนั้น การสร้างกระแสไม่ได้ช่วยให้เรามีชื่อเสียง หรืองานเยอะขึ้นเลย
หลังจากมีข่าวออกมาคุณแม่ว่ายังไงบ้าง ?
คุณแม่คงชินแล้วเนอะ แต่คุณแม่ก็ยังเป็นห่วง คือ ครั้งนี้คุณแม่เห็นว่าเราระวังตัวสุด ๆ แล้ว มันยังโดน คุณแม่เลยไม่รู้จะบอกยังไง ก็ได้แค่บอกว่า ไม่เป็นไรลูกตั้งใจจะทำอะไรก็ทำไป เพราะคุณแม่เห็นว่าเราถอยแล้ว เหมือนที่คุณแม่บอกว้า ถ้ามารไม่มีบารมีไม่เกิด ก็บอกให้เราสู้ ๆ นะลูก