ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

"เปรี้ยว" เกิดบท "เปีย" เล่นนางร้ายพัฒนาฝีมือ



พลิกร้ายครั้งแรกกับบทเด่น "เปีย" ในละครรีเมก "คมพยาบาท" ทางช่อง 7 งานนี้ถือว่านางเอกสาว "เปรี้ยว"ทัศนียา การสมนุช สอบผ่าน เพราะถูกเกลียดทั่วบ้านทั่วเมือง

ฟีดแบ็กเล่นร้ายครั้งแรกในละคร "คมพยาบาท" เป็นยังไง

เปรี้ยว - "แฟนละครเกลียดค่ะ มีแต่คนเรียก นังเปีย อีเปีย น่าตบมาก เอาทุเรียนไหม (หัวเราะ) คนพูดแบบนี้เยอะ อย่างเวลาไปโรงอาหาร ป้าที่ขายข้าวก็จะทักว่าเฮ้ยนี่นังเปียนี่ ก็จะมีคนทักประมาณนี้ค่ะ"

"การได้เล่นร้ายครั้งแรก รู้สึกว่าเราได้รับโอกาสดีๆ ได้ปรับเรื่องการแสดงและได้พัฒนาการแสดงในบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ดีใจที่ได้เล่น ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ ถามว่ากลัวคนติดภาพร้ายไหม อยากให้มองเป็นเรื่องของการแสดง เป็นการทำงาน"

เรื่องนี้ใช้พลังงานมาก เรียกว่าทุ่มสุดตัว

เปรี้ยว - "ใช่ค่ะ ใช้พลังเยอะมากโดยเฉพาะเรื่องกรี๊ดเยอะมาก มันเหนื่อยมาก ตอนเช้าเปรี้ยวลงไปในคลองขึ้นมาตบกันบนฝั่งแล้วลงไปตบกันในคลองอีก ถ้าไม่ใช้พลังก็ใช้ความคิดเยอะ เพราะต้องเล่นหลายๆ อารมณ์ในหนึ่งซีน"

บทนี้ "อั้ม-พัชราภา" เคยเล่นไว้ประสบความสำเร็จมาก กดดันไหม

เปรี้ยว - "กดดันบ้าง แต่พอมาดูบทแล้วเวอร์ชั่นนี้กับเวอร์ชั่นที่แล้วมันต่างกันก็เลยไม่ค่อยเครียด เราก็เล่นในแบบของเรา เปรี้ยวเล่นละครรีเมกมา 3 เรื่อง ตั้งแต่ แม่ปูเปรี้ยว โดมทอง และ คมพยา บาท ซึ่งบทค่อนข้างแรง อาโย-ทัศน์วรรณ สอนว่าถ้าเราเล่นละครรีเมกแล้วอย่าไปดูเวอร์ชั่นที่แล้ว เพราะมันไม่มีทางเหมือนกัน เราเล่นเปียเป็นแบบพี่อั้มไม่ได้อยู่แล้ว พี่อั้มเล่นในแบบของเขา เราก็เล่นในแบบเรา"

มีฉากไหนที่กังวล

เปรี้ยว - "ฉากแรกๆ ที่ต้องเล่นเสแสร้งกับคุณพ่อคุณแม่คุณย่า ร้องไห้ไปพูดเสแสร้งไป กอดปุ๊บต้องทำหน้าเบะ มันยากมาก 7 เทกกว่าจะได้ แต่หลังจากวันนั้นคลิกเลย ทำให้เข้าใจได้ว่าเราจะใช้คำพูดหรือน้ำเสียง เสียงสูงเสียงต่ำยังไง อีกเรื่องเวลาเล่นจะห่วงเรื่องโป๊ เพราะเปียใส่เอวลอย ขาสั้นมาก แล้วมีฉากตบเยอะกลัวกางเกงจะเปิด ต้องเซฟใส่ซับในหลายชั้น มันแรงจริงๆ มันดูไม่งาม เพราะบทเปียเป็นคนที่ทำตัวไม่งามสุดๆ"

เข้าฉากกับ "นาว-ทิสานาฏ" ต้องตบตีกัน เป็นไง

เปรี้ยว - "พี่นาวเป็นพี่ที่น่ารักมากเราสนิทกันมาก พอเล่นด้วยกันเราก็ จะบอกว่าพี่นาวๆ ทำอย่างนี้นะ แอ๊กติ้งเองนะ เดี๋ยวเปรี้ยวจะกำผมไว้เฉยๆ เราจะแค่ดึงนิดๆ แล้วให้พี่เขาเล่นเองเพื่อจะได้เซฟตัวเองจะได้ไม่เจ็บ"

เล่นเรื่องนี้ปรับการแสดงอย่างไร

เปรี้ยว - "โดยส่วนตัวไม่รู้ว่าออกมาดีมากน้อยแค่ไหน แต่ในความรู้สึก การได้มาเล่นอะไรแบบนี้ทำให้ได้พัฒนาตัวเอง ได้ระเบิดอารมณ์จากตอนเป็นนางเอกที่เราต้องเรียบร้อยหงิมๆ ถึงบางทีสู้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายเท่านี้ค่ะ"






กลัวไหมว่าคาแร็กเตอร์เปียจะติดไปชีวิตจริง

เปรี้ยว - "ไม่นะเพราะต่างกันมาก ไม่มีเผลอกรี๊ดในชีวิตจริงนะ แต่จะมีคนบอกว่าตาดุ คือตอนแรกเขาไม่คิดอะไรขนาดนั้น แค่บอกว่าหน้าดุเฉยๆ ตอนเล่นบทนางเอกเขาก็บอกสวยเรียบร้อย แต่พอเล่นร้ายปุ๊บเวลาเรายิ้มให้ใครหรือมองใครเขาก็จะว่าทำไมมองจิกจัง (หัวเราะ) เราก็จะบอกว่าไม่มีอะไร มันติดภาพในละครไง แววตาเราคนก็จะว่าเราคิดอะไรรึเปล่า"

ได้รับโอกาสจากช่อง 7 เล่นบทที่หลากหลาย

เปรี้ยว - "ใช่ค่ะ ชอบทุกแบบเลยเพราะต่างกัน อย่าง "แม่ปูเปรี้ยว" เล่นเป็นเด็กไร้เดียงสาแก่นๆ "โดมทอง" ได้เล่นเป็นสองคน คุณพลับพลึงจะเรียบร้อยมาก ร้องไห้ตลอด วิรงรองจะเป็นสาวมั่น พอ "เล่ห์นางหงส์" สู้ชีวิต มา"คมพยาบาท" ต้องชนะทุกอย่าง ต่างกันทุกบทบาท ชอบเพราะเวลาได้ลองอะไรหลายๆ รูปแบบทำให้รักงานนี้ไปเลย ขอบพระคุณสำหรับโอกาสดีๆ ที่ให้เรา จะทำให้เต็มที่ อะไรที่ผิดพลาดก็จะปรับปรุง"

ผลงานละครเรื่องต่อไป

เปรี้ยว - "มี "พรายพยากรณ์" ค่ะ เพิ่งถ่ายไปคิวเดียวเอง เพราะนักแสดงทุกคนติดละครที่ถ่ายออนแอร์อยู่ อย่างเปรี้ยวติด คมพยาบาท พี่ปู-ไปรยา ติดเรื่อง สะใภ้หัวเเดง พี่ออย ธนา ติดเรื่อง แหม่มจ๋า คือคิวนักแสดงทุกคนติดละครที่ตัวเองเล่นอยู่ถ่ายไปออนแอร์ไป"

"ใน "พรายพยากรณ์" เปรี้ยวเล่นเป็นน้องสาว พี่ปูที่เป็นหมอดู แต่เราจะเป็นคนเห็นวิญญาณมีสัมผัสพิเศษ เรื่องนี้เล่นคู่กับ พี่บอส-โตนนท์ ค่ะ"

เริ่มติดใจการแสดงหรือยัง

เปรี้ยว - "เปรี้ยวเข้าวงการมา 2 ปี เล่นละครมา 4 เรื่อง ก็เริ่มติดใจค่ะ สนุกดี วันไหนที่เรื่องนี้ปิดกล้องแล้วแต่อีกเรื่องยังไม่ถ่ายจะรู้สึกว่าวันหนึ่งมันผ่านไปช้ามาก ทั้งๆ ที่ตอนถ่ายละครเราถ่ายทั้งวันทั้งคืนเลย เราคิดถึงบรรยากาศในกองตลอดเลยค่ะ ไม่เคยท้อ ไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อยหรือว่าไม่ไหวค่ะ"

มองอนาคตในวงการไว้อย่างไร

เปรี้ยว - "จะพยายามตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เสมอต้นเสมอปลาย และอยากให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา อยากดูแลครอบครัวดูแลตัวเองด้วย อยากเป็นนักแสดงที่ดีและอยากเป็นนางแบบด้วย ยังไม่มีโอกาสเดินแบบเลย อยากลองดู แต่ถ้าให้เลือก ก็ชอบนักแสดงมากกว่า เพราะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่หลากหลายค่ะ"

ดูแลตัวเอง

"มีรุ่นน้องเอารูปเปรี้ยวไปลงตามเว็บก็มีพวกโมเดลลิ่งแมวมองมาเห็นก็ติดต่อมาแล้วก็พามาประกวดยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง เราก็ได้รางวัลค่ะ" นางเอกสาว "เปรี้ยว-ทัศนียา" เผยถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าวงการบันเทิง




และกล่าวต่อว่า "จากนั้นก็ได้มาแคสต์การแสดง ผู้ใหญ่เห็นก็ได้รับโอกาสเข้ามาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 7 เซ็นสัญญา 7 ปี มีผลงานละครเรื่องแรก "แม่ปูเปรี้ยว" เล่นกับพี่อ้วน-รังสิตค่ะ"

เข้าวงการมาชีวิตเปลี่ยนไปไหม เปรี้ยวพยักหน้ารับ "เปลี่ยนไปนะคะ ความเป็นส่วนตัวเริ่มไม่มีแล้ว เวลาจะไปไหนคนก็จำได้ แรกๆ จะรู้สึกแปลกๆ แต่ตอนนี้ชินแล้ว"

ครอบครัวสนับสนุนไหมที่มาเป็นนักแสดง "เปรี้ยวจะสนิทกับน้า แต่น้าไม่ค่อยอยากให้เข้าวงการเพราะกลัวเราทิ้งการเรียน แต่พอเราเข้ามาทำงานก็พยายามประคองการเรียนให้อยู่ในระดับที่โอเค น้าก็ไม่ว่าอะไร เขาก็ว่าดีแล้วที่เราทำได้ มีรายได้จ่ายค่าเทอมเองให้พ่อแม่ได้"

สมัยเรียนเป็นเด็กกิจกรรมด้วย "เป็นนางรำของโรงเรียน รำตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6 เป็นเด็กโควตานาฏศิลป์ อาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องการแสดงด้วย บางส่วนทำให้กล้าแสดงออก แต่จริงๆ เปรี้ยวเป็นคนขี้อายนะคะเป็นคนเฉยๆ โก๊ะๆ ซนๆ ด้วยซ้ำ"

เปรี้ยวมีพี่สาวหนึ่งคน แต่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เพราะเธอจะอยู่กับน้าเป็นส่วนใหญ่ "ครอบครัวเปรี้ยวเป็นครอบครัวใหญ่ มีหลายบ้าน เปรี้ยวจะอยู่บ้านน้า เราจะทำทุกอย่างเป็นหมด กวาดบ้านถูบ้านล้างจานซักผ้ารีดผ้าทำกับข้าวล้างแอร์ทำทุกอย่าง ที่บ้านไม่เลี้ยงลูกหลานแบบตามใจ จะมีการสอนที่ไม่เหมือนครอบครัวอื่น เพราะที่บ้านทำธุรกิจค้าขาย จะเอาพวกเราไปนั่งขายด้วย เป็นการฝึกเรา ทำให้ขายของเป็น ทำงานเป็น"

สนิทกับพ่อแม่ไหม "คุยได้ทุกเรื่องถ้าอย่างแม่เขาจะเป็นห่วงเยอะเป็นคนขี้ห่วง ถามว่าห่วงเรื่องหนุ่มๆ ไหม อันนี้ไม่ทราบเพราะไม่ค่อยมีคนเข้ามา เพราะเราก็อยู่แต่มหาวิทยาลัยและทำงาน ไม่ค่อยมีใครเข้ามา ไม่ค่อยเจอใคร"

ครอบครัวเลี้ยงมาสไตล์ไหน "เลี้ยงมาแบบให้ดูแลตัวเอง ทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้าได้หมด และสอนให้รู้จักใช้เงินค่ะ"

สาวห้าวเท่-สเป๊กหนุ่มขอแค่คุยกันเข้าใจ

ทํางานควบเรียนไปด้วย โดยนางเอกสาว "เปรี้ยว"ทัศนียา การสมนุช เผยว่า "ตอนนี้เปรี้ยวเรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ ที่เลือกเรียนคณะนี้มันเอื้ออำนวยต่อการทำงาน ไม่อยากให้มีปัญหากระทบกัน เรียกว่าเป็นการปูทางให้กับอนาคตทางการแสดงด้วย เรียนประชาสัมพันธ์อย่างน้อยก็มีอะไรซัพพอร์ตอาชีพ"

แบ่งเวลาเรียนกับการทำงานอย่างไร "จะแบ่งเวลาคือถ่ายละครพฤหัสบดีถึงอาทิตย์ ก็จะเลือกเรียนจันทร์ถึงพุธไม่ให้มันตรงกับเวลาที่เราถ่ายละครจะได้ไม่มีปัญหา แต่ก็จะมีผลกระทบบ้างเรื่องการส่งงาน บางทีเราไม่รู้ว่ามีงานอะไรที่ต้องทำ เพื่อนเขาส่งกันไปแล้ว แต่เราถ่ายละครอยู่แล้วส่งย้อนหลังไม่ได้ เราก็ต้องทำใจค่ะ ก็ไปเก็บงานใหม่เอา ก็ไปเรียนตลอด ถ้าเกิดมีงานเราก็จะบอกเพื่อนบอกอาจารย์ก่อน จะมีเพื่อนช่วยเก็บงานไว้แล้วบอกว่ามีงานอะไรยังไงบ้าง"

ถามถึงนิสัยส่วนตัวว่าเป็นคนยังไง เปรี้ยวแง้ม "เปรี้ยวเป็นคนซนๆ นะ มีความเป็นผู้หญิงห้าวสูงมาก ไม่ชอบอะไรที่มันคล้ายๆ ผู้หญิง ชอบต่อยมวย ชอบใส่เสื้อคุมโทนสีดำสีขาว เราแค่ชื่อเปรี้ยว แต่ไม่ใช่สาวเปรี้ยวเลย เป็นสาวเท่มากกว่า เป็นคนไม่ใส่ส้นสูงเลย จะชอบใส่รองเท้าผ้าใบ ที่คนมองว่าเราเป็นสาวเปรี้ยวเพราะเวลาเล่นละครหรือใส่ชุดออกงานอาจจะดูโฉบเฉี่ยวเปรี้ยว คนเลยมองว่าเป็นอย่างนั้น แต่ชีวิตจริงก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง"

แล้วเรื่องหัวใจล่ะ ตอนนี้มีใครเข้ามาจับจองหรือยัง นางเอกสาวหัวเราะก่อนปฏิเสธว่า "ตอนนี้ไม่มีคนคุยเลยค่ะ มีแต่เพื่อนปกติ เพราะเราไม่ค่อยเจอใครและไม่ค่อยมีใครเข้ามาด้วย อย่างเวลาอยู่ในกองถ่ายพวกพี่ๆ เขาจะชอบพูดว่าเปรี้ยวเหมือนเป็นน้องชายมากกว่า เพราะเราดูห้าว ปกติเราไม่ได้แต่งหน้าด้วยนิสัยเราจะห้าวมาก พี่เขาก็จะแซวว่าเฮ้ยน้องชายว่าไง"

เรียกว่าปิดใจเลยไหม "ก็ไม่นะคะ แค่อยากทำงานก่อน"

ส่วนสเป๊กหนุ่มเจ้าตัวตอบชัด "คือ "ลีมินโฮ" ค่ะ เราไม่ได้ชอบเพราะเขาคือสเป๊กแบบจะมาเป็นแฟนนะคะ แต่เราชอบการแสดงของเขามากกว่า สเป๊กสำหรับเปรี้ยวไม่ได้คิดไว้ ขอแค่นิสัยคุยกันได้เข้าใจ รู้เรื่องก็โอเคแล้ว"

"แต่ตอนนี้โสดค่ะ" นางเอกสาวย้ำ


ต่อของเก่ง

ก่อนเข้าวงการบันเทิง สาว "เปรี้ยว-ทัศนียา" เคยมีอาชีพเป็นแม่ค้า ขายของอยู่ตลาดนัดสวนจตุจักร ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า

"เป็นแม่ค้าขายของกันทั้งบ้านเลยค่ะ ตั้งแต่ยาย น้า แม่ ทุกคนเลย ขายแยกกันคนละร้าน ของที่ขายก็แตกต่างกันไป เป็นพวกเครื่องประดับสร้อยข้อมือสร้อยคอ กระโปรงเสื้อผ้าเนปาลอินดี้ๆ นิดหนึ่ง พอเราขายของมันทำให้เราต่อของเป็น เพราะเราเป็นแม่ค้า รู้จักใช้จิตวิทยาในการต่อของ"

"แต่ทุกวันนี้ตัวเปรี้ยวไม่ได้ไปขายแล้วค่ะ พอมาทำงานถ่ายละครไม่มีเวลา แต่ก็มีโอกาสกลับไปที่ร้านบ้าง ไปดูร้านไปเดินเล่น ชอบไปที่นั่นรู้สึกผูกพันกับสถานที่ เพราะบ้านเปรี้ยวขายของมาตั้งแต่เปรี้ยวยังไม่เกิดเลย จนเราเกิดมาก็เห็นบรรยากาศการขายของอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต มันเลยชิน มีความผูกพัน สนุก ได้เจอเพื่อนเจอคนมากมายค่ะ" เรียกว่าอยู่ในสายเลือด



ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์




Create Date : 26 พฤษภาคม 2557
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 6:50:59 น. 0 comments
Counter : 1251 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]