ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

Day of future past หนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของ X-Men

โดย ธรรมธวัช ศรีสุข : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Day of future past หนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของ X-Men

ก่อน X-Men : Day of future past จะเข้าฉาย มีคำถามคาใจเล่นๆ มากมาย ทั้งการกลับมาของศาสตราจารย์เซเวียร์ การพบกันระหว่างปัจจุบันกับตัวละครในอดีต ซึ่งจริงๆ หนังสปอยล์ตัวเองตังแต่ชื่อ Day of future past แล้ว ว่าภาคนี้จะเป็นการย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอดีต

ก่อนที่สงครามล้างเผ่า (มนุษย์กลาย) พันธุ์จะเกิดขึ้น พล็อตหนังดูล้ำสมัยทีเดียว แต่เราก็เห็นหนังแนวๆ นี้มาพอสมควร ทั้งจาก The Terminator และ The Matrix ที่ส่งตัวละครย้อนเวลากลับมาทำภารกิจเพื่อแก้ไขอนาคต ไอเดียนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมากในโลกภาพยนตร์

และแม้จะตีความยังไง เหตุผลเดียวที่นึกออกก็หนีไม่พ้นการแก้ไขไทม์ไลน์หนังให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หลังภาค The Last Stand และ Origins หนังภาคแยกของวูล์ฟเวอร์รีน พาเส้นเรื่องหลักออกทะเลไปพอสมควร รวมถึงการกำจัดตัวละครบางตัวแบบไม่จำเป็นทิ้ง แม้จะตอบสนองในเรื่องความมันส์ระดับบู๊ล้างผลาญก็ตาม

โดยภาคนี้ได้ผู้กำกับหน้าเก่า "ไบรอัน ซิงเกอร์" กลับมารับหน้าที่อีกครั้ง และทำออกมาได้ท็อปฟอร์มทีเดียว กับการรีเซ็ทหนังให้กลับมาอยู่ในจักรวาลเดียวกันอีกครั้ง แม้หลายๆ คนจะออกมาจิกว่าเป็นภาค "แถ" ก็ตาม

แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อแบรนด์เอ็กซ์เม็นยังขายได้ แถมยังมองไกลถึงการแพลนภาคต่อๆ ไปเอาไว้ การรีเซ็ตลำดับเวลาบางส่วนของหนัง จึงเป็นทางออกที่สมควรทำที่สุด ส่วนที่ศาสตราจารย์เซเวียร์ยังรอด แม้จะร่างสลายไปในภาค Last Stand นั้น เป็นเพราะได้ย้ายจิตไปยังร่างผู้ป่วนในโรงพยาบาลในตอน End Credit

ซึ่งองค์ประกอบหลักๆ มาจากความสำเร็จของภาคเฟิร์สคลาส ของผู้กำกับแมตธิว วอห์น จึงต่อยอดด้วยนักแสดงชุดนี้เป็นหลักทั้ง เจมส์ แม็คอะวอย(ศาสตราจารย์เซเวียร์) ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ (แมกนีโต้) นิโคลัส โฮลท์(บีทต์) และซุปตาร์หญิงแห่งยุค เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (มิสทีค)

โดยมี ฮิวจ์ แจ็คแมน ตัวพ่อของซีรี่ย์เอ็กซ์เม็นร่วมภารกิจด้วย ซึ่งนี่เป็นการรับบทเป็นวูล์ฟเวอร์รีนครั้งที่ 7 เข้าไปแล้ว แต่คอนเฟิร์มว่าหุ่นยังฟิตเปรี๊ยะมาก กล้ามแน่นเป็นมัด

ภาคนี้มองว่าฉากแอ็คชั่นน้อยไปหน่อย ไม่เต็มอิ่มอย่างที่คาดไว้ เพราะแฟนๆ ส่วนใหญ่จิ้นไปไกลที่เห็นการรวมตัวละครเยอะมากขนาดนี้ ว่าจะได้เห็นฉากต่อสู้กับหุ่นเซนทิเนลอันวินาศสันตะโร รวมถึงวิชวลเอฟเฟกต์ที่อลังการพอตัว แต่ก็มีบางฉากที่ยังไม่เนี๊ยบ

เช่นฉากหุ่นยนต์เซนทิเนลบนรถไฟ กับทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์ เข้าใจว่าหมดไปกับค่าตัวนักแสดงซะเยอะ (ฮ่าๆ) เพราะทีมนักแสดงภาคนี้จัดเต็มจริงๆ แค่เห็นการรวมตัวก็คุ้มแล้ว ทั้ง แพทริก สจ๊วต, เอียน แมคเคลเลน, ฮิวจ์ แจ็คแมน, เจมส์ แม็คอะวอย, ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, ฮัลลี่ แบร์รี่, นิโคลัส โฮลต์, เอลเลน เพจ, ฟาน บลิง บลิง 

แต่ในส่วนของบทและเส้นเรื่องความดราม่า ผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ แกทำได้ดีมาก กับการเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของศาสตราจารย์เซเวียร์ แมกนีโต้ และมีสทีค ทุกซีนที่มีการปะทะอารมณ์ของสามคนนี้หนังดูมีพลังมาก รวมถึงการให้คนแข็งๆ อย่างวูล์ฟเวอร์รีน มาโน้มน้าวสองคนสุดโต่งอย่างศาสตราจารย์และแมกนีโต้ ที่กลายเป็นภารกิจจับปูใส่กระด้งที่น่ารัก 

 และสนุกทุกฉากที่สามคนนี้เฉือนฝีปากกัน และการกระจายบทที่ทั่วถึง ไม่มีใครเด่นกว่าใคร แม้กระทั่งของตายอย่างพี่วูล์ฟ ยังมีอาการดร็อปๆ เล็กน้อยในภาคนี้ แม้จะเป็นตัวหลักที่ถูกส่งกลับไปอดีตก็ตาม

ถามว่าใครเด่นสุดในภาคนี้? หวยกลับไปออกที่มิสทีค ว่าจะไม่คิดแล้ว แต่ดูเหมือนหนังจะโหนกระแสความดังของนางพอสมควร เรื่องนี้เด่นและสำคัญสุดๆ เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องทั้งหมดในประเด็น "กระสุนสังหาร" ในหนัง ซึ่งนางก็สวยสง่าในบทนี้จริงๆ อีกตัวละครที่แย่งซีนสุดๆ เป็น "ควิกซิลเวอร์" ของ เอแวน ปีเตอร์ นักแสดงหนุ่มจากซีรี่ย์ American Horror Story ที่เกรียนจนได้ใจคนดู 

 โดยเฉพาะฉากในห้องครัวระหว่างไปชิงตัวแมกนีโต้ ที่ต้องเป็นฉากที่ถูกพูดถึงไปอีกนานแน่นอน อีกตัวละครที่เหนือความคาดหมาย "โบลิวาร์ เทรสค์" ของ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ จาก Game of thrones  ตัวเล็กใจใหญ่ ไม่ยอมใคร ดื้อรั้น และเหี้ยมเกรียม อีกตัวละครที่ถูกตีความใหม่ โดยที่ขนาดตัวของ ดิงค์เลจ ไม่ใช่ปัญหาเลย แต่ยิ่งทำให้ตัวละคร เทรสค์ กลับดูมีพลังมากยิ่งขึ้น

แม้ Day of future past จะยังเทียบ First Class ไม่ได้ แต่นี่เป็นเอ็กซ์เม็นที่ดีที่สุดภาคหนึ่งเลย หนังสมบูรณ์แบบในแง่ของบท ที่ทำให้เนื้อหา X-Men กลับมาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น การแสดงที่มีพลังของตัวหลักทั้งหมด โดยมีฉากแอ็คชั่นสวยๆ ให้ดูเป็นระยะ 

 บวกกับการได้เห็นตัวละครจากไตรภาคแรกกลับมาอีกครั้ง แค่นี้ก็ฟินที่สุดแล้ว ส่วนจะมีใครบ้าง ขออุปไว้ให้ไปดูกันเอง แถมหนังมีมุขตลด อารมณ์ขันแทรกอยู่เรื่อยๆ เป็น 2 ชั่วโมง 10 นาทีที่ดูเพลินแบบไม่รู้สึกเบื่อ

แนะนำว่าควรดูหนังไตรภาคแรกมาก่อน รวมถึงภาคแยกของวูล์ฟเวอร์รีน เพราะตัวละคร และเนื้อหาเชื่อมโยงหากันหมด โดยเฉพาะ วิลเลียม สไตรค์เกอร์ ผู้ยัดเหล็กอาดาแมนเทียมเข้าไปในตัวของวูล์ฟเวอร์รีน ก็มีการเล่าถึงตัวละครนี้ในหนังด้วย

ว่าแล้วก็อยากจะแซวว่า แหม...นี่ไม่ได้กลับไปแก้ไขอดีตเพื่อปกป้องอนาคตเหล่ามนุษย์กลายพันธ์ุอย่างเดียว แต่พี่วูล์ฟยังกลับไปกู้หนังไม่ให้ออกทะเลไปมากกว่านี้ แถมยังเปิดตัวละครสำคัญ (ช่วง End Credit) ปูทางสู่ภาคต่อไปใน X-Men : Apocalypse อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย ภารกิจนี้คุ้มสุดๆ ครับ


ขอบคุณภาพประกอบจาก //spinoff.comicbookresources.com


ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์




Create Date : 02 มิถุนายน 2557
Last Update : 2 มิถุนายน 2557 7:46:47 น. 0 comments
Counter : 1374 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]