เพราะความรุนแรงและความไม่สงบเป็นปัญหาที่ทำร้ายประเทศมานาน และความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นและยืดเยื้อ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น และแม้การเมืองจะดีขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยขณะนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเพราะได้รับผลกระทบจากนโยบายประชานิยม ทำให้ความต้องการในประเทศหดหาย ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว

ดังนั้น ในปีนี้ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจคงต้องหวังพึ่งการส่งออกที่ยังพอไปได้ เพราะงบประมาณต่างๆ ขณะนี้ที่จะเอามา กระตุ้นเศรษฐกิจมีจำกัด และเศรษฐกิจไตรมาส 2 ก็คงไม่แตกต่างจากไตรมาสแรกที่ติดลบ 0.6% โดยหากการส่งออกสามารถขยายตัวได้ประมาณ 5% เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 2-3%

และหากได้รัฐบาลใหม่มา บริหารประเทศแล้ว สิ่งแรกที่ควรเร่งดำเนินการ คือ การเร่งจ่ายคืนหนี้จำนำข้าวให้กับชาวนา

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าแม้เศรษฐกิจไตรมาส 2 อาจจะติดลบต่อเนื่อง แต่ไม่อยากให้มองว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่อยากให้ดูเรื่องอัตราการว่างงาน และภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึมยาวหรือไม่ เหมือนที่สหรัฐใช้

เนื่องจากอัตราการว่างงานของไทยอยู่ที่เพียง 0.9% เท่านั้น และคนไทยมีกำลังซื้อ เพียงแต่ไม่มั่นใจในภาวะการเมืองที่ยืดเยื้อเท่านั้น โดยรวมแล้วเศรษฐกิจไทย พื้นฐานดี คนไทยมีกำลังซื้อ เพียงแต่รอการเมืองจบ ซึ่งหากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาดีขึ้นได้

นาย สมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) กล่าวว่า กบข. ได้ประเมินตั้งแต่กลางปี 2556 แล้วว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง 

 จึงมีการปรับพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลดลงเรื่อยๆ โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 11% หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 4.7 แสนล้านบาท โดยส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยประมาณ 62% ต่างชาติ 4-5% หุ้นต่างชาติ 14% อสังหาริมทรัพย์ 5-6% เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง

"4 เดือนแรกของปี 2557 ผลตอบแทนจากการลงทุนของกบข. เป็นบวกในระดับที่น่าพอใจ โดยทั้งปีมีความเป็นไปได้ว่าปีนี้ผลตอบแทนของสมาชิก กบข. จะอยู่ที่ 5-6%" นายสมบัติกล่าว

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

Create Date : 26 พฤษภาคม 2557
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 6:47:57 น.		1 comments
Counter : 1141 Pageviews.
Share Tweet