ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

น้องไอนส์ เด็กในสภาวะแช่แข็ง ด้วยรักจากพ่อแม่ หวังอนาคตชุบชีวิตลูก

น้องไอนส์  เด็กในสภาวะแช่แข็ง ด้วยรักจากพ่อแม่ หวังอนาคตชุบชีวิตลูก

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่เรื่องราวของ เด็กหญิงชาวไทย อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมอง พ่อแม่ของน้องไอนส์ ตัดสินนำร่างลูกสาวแช่แข็ง เพื่อให้ศึกษาร่างกาย และหวังว่าอนาคตจะมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ที่จะสามารถชุบชีวิตลูกสาวคืนมาได้อีกครัง

น้องไอนส์ ลูกสาวคนเดียวในบรรดาพี่น้องสี่คนของ ดร.สหธรณ และ ดร.นารีรัตน์ เนาวรัตน์พงษ์ กรณีของน้องไอนส์ เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อในอดีต ย้อนหลังกลับไป 12 ปี ก่อนไอนส์จะเกิด คุณแม่ของไอนส์ได้รับการผ่าตัดมดลูกออกเพื่อรักษาชีวิตจากการตกเลือดในการคลอดลูกชายคนแรก ทำให้ครอบครัวไม่สามารถมีบุตรได้

อีก 12 ปีต่อมา น้องไอนส์ จึงเกิดขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ โดยการใช้ไข่และสเปิร์มจากพ่อแม่ที่แท้จริงปลูกถ่ายลงในมดลูกของแม่อุ้มบุญ ตลอดช่วงเวลาการตั้งครรภ์ครอบครัวได้ดูแลแม่อุ้มบุญเป็นอย่างดี รวมถึงการตรวจโรคต่างๆ ด้วยความระมัดระวังดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีการแพทย์ที่จัดหาได้ในประเทศ

ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ที่โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ น้องไอนส์ คลอดออกมามีน้ำหนักแรกคลอดมากถึง 3,800 กรัม มีลักษณะที่สมบูรณ์สุขภาพดีทุกประการตามที่คาดหวังจากผลอัลตราซาวด์

น้องไอนส์ มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวคือดวงตากลมโตและมีรอยยิ้มอยู่เสมอเธอนำพาความสุขและความอบอุ่นมาให้กับครอบครัวสมกับที่รอคอยมานานถึง 12 ปี

น้องไอนส์ เติบโตขึ้นมาด้วยพัฒนาการที่ปกติแข็งแรง สามารถเต้นรำร้องเพลง วิ่งเล่น หัวเราะ และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างปกติ น้องไอนส์ยังแสดงถึงการรู้จักความรักกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะการหอมแก้มน้องชาย ที่รักเป็นพิเศษ

เช้าวันที่ 19 เมษายน 2557 น้องไอนส์ อายุ 2 ขวบ 1 เดือน มีอาการปลุกไม่ตื่น จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการขาดน้ำจึงให้น้ำเกลือปริมาณสูงในการรักษาเบื้องต้น แต่น้องไอนส์ก็เข้าสู่อาการโคม่าอย่างรวดเร็วภายใน 20 นาที จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเอ็กซเรย์สมองด่วน พบก้อนเนื้อขนาด 11 เซนติเมตรในสมองด้านซ้าย แทบจะไม่ต้องรอวินิจฉัยชิ้นเนื้อ ครอบครัวทราบทันทีว่าน่าจะเป็นมะเร็ง

ในวันนั้น น้องไอนส์ได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ เพื่อลดความดันในสมองและตัดชิ้นมะเร็งออกได้ประมาณ 50% แพทย์ได้ประเมินว่า น้องไอนส์แทบไม่มีโอกาสจะฟื้นคืนสติ

ผลการวินิจฉัยชิ้นเนื้อพบว่าเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงที่หายากชื่อว่า ependymoblastoma ครอบครัวได้รับคำแนะนำว่า ให้ปล่อย น้องไอนส์ เสียชีวิตไป เพราะไม่มีวิธีการใดๆ ในการรักษา และไม่มีโอกาสในการฟื้นคืนสติ แต่แล้วเพียงสัปดาห์หลังจากนั้น น้องไอนส์ก็ลืมตาและเริ่มฟื้นคืนสติ เริ่มร้องไห้และแสดงอาการตอบสนองต่างๆ สร้างความแปลกใจให้กับทุกคน น้องไอนส์แสดงถึงความต่อสู้ที่จะมีชีวิต

ทางครอบครัวตัดสินใจที่จะต่อสู้กับมะเร็งให้ถึงที่สุด อาจจะไม่ชนะมะเร็ง แต่ให้น้องไอนส์ได้เป็นบันไดก้าวหนึ่งของมนุษย์ที่จะเอาชนะมะเร็งในอนาคต

หลังจาก น้องไอนส์ เริ่มฟื้นคืนสติ กับการผ่าตัดอีกหลายครั้ง ครอบครัวต้องทำใจยอมรับว่า น้องไอนส์ได้สูญเสียสมองซีกซ้ายไปมากถึง 80% แต่ไม่เสียชีวิต ซึ่งหมายถึงว่าเธอจะไม่สามารถขยับร่างกาย ซีกขวาและยังสูญเสียความสามารถอื่นๆ เช่น การมองเห็นการได้ยินและการพูด แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดหรืออาจจะเป็น เพราะ น้องไอนส์ มีอายุเพียง 2 ปี เธอได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่รวดเร็ว และตอบสนองการรักษาเป็นอย่างดี

ตลอดช่วงเวลาของการรักษา น้องไอนส์ ค่อยๆ กลับมามองเห็นและได้ยินเสียง รับรู้คำสั่งและแสดงความต้องการของตัวเอง จนกระทั่งสามารถขยับร่างกายซีกขวาได้อีกครั้ง จากการทำกายภาพบำบัดประจำ สังเกตเห็นถึงพลังต่อสู้ในแววตาที่กลมโตของน้องไอนส์

จนวันหนึ่ง น้องไอนส์ ก็สามารถยืนขึ้นได้ และเริ่มฝึกเดิน มองด้วยตา 2 ข้างพร้อมกันเหมือนปกติ เหมือนกับว่าถ้าเขารอดจากโรคมะเร็ง แม้จะมีสมองเพียงซีกเดียว เขาก็น่าจะกลับไปวิ่งและพูดได้แต่เกือบเหมือนเด็กปกติอีกครั้ง
ต่อมาเรื่องราวของน้องไอนส์และการต่อสู้โรคมะเร็ง ถูกนำไปเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยเป็นอีกจำนวนมาก น้องไอนส์ยังอยู่รอดมาถึงวันนี้ด้วยพลังที่น่าประทับใจ เธอยังคงแสดงถึงรอยยิ้มและความรักมากมายเหมือนที่เธอเป็นแต่เกิด

น้องไอนส์ผ่านการผ่าตัดสมองและการผ่าตัดอื่นๆ รวมแล้ว 12 ครั้ง คีโม 20 ครั้ง และทำรังสีบำบัด 20 ครั้ง ในช่วงเวลานั้นก็ได้เห็นเพื่อนร่วมทุกข์มากมายที่เป็นมะเร็ง ส่วนใหญ่เสียชีวิตลงคนแล้วคนเล่า ทั้งที่พวกเขายังเป็นเด็ก เหมือนการต่อสู้ที่จะยังไม่สิ้นสุดของมนุษย์ ทางครอบครัวจึงพยายามผลักดันให้เกิดการจัดตั้งกองทุนถอดรหัสพันธุกรรมคือการต่อสู้มะเร็งในเด็ก โดยให้การต่อสู้ของน้องไอนส์เป็นจุดเริ่มต้น

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 เราตรวจพบว่ามะเร็งหลายแพร่กระจายไปตามส่วนต่างๆ ของสมอง น้องไอนส์เริ่มมีอาการอัมพาตบนใบหน้าและกล้ามเนื้อบางส่วน ครอบครัวรู้ว่าเวลาสุดท้ายใกล้มาถึง สุดเอื้อมของมนุษย์ สุดเอื้อมที่เทคโนโลยีปัจจุบันจะอำนวยให้ ครอบครัวต้องเตรียมใจอำลาแล้ว

วันที่ 8 มกราคม 2558 ด้วยความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ น้องไอนส์ได้กลับบ้านเป็นครั้งสุดท้ายอย่างมีสติสมบูรณ์ ท่ามกลางครอบครัวและหมู่ญาติ เราได้คุยได้เล่นกันครั้งสุดท้าย ก่อนเราจะปิดระบบพยุงชีพ เพื่อปลดปล่อยภาระที่แสนหนักจากบ่าเล็กๆ ในเวลา 18.18 น.

เซลล์มะเร็งและเซลล์จากส่วนต่างๆ ของร่างกายน้องไอนส์ถูกเก็บตัวอย่างรักษาไว้เพื่อการศึกษา ร่างกายของน้องไอนส์ถูกเก็บรักษาในสภาพมีชีวิตภายใต้อุญหภูมิเย็นจัด (Cryopreservation) ในรัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา เพื่อรอเทคโนโลยีการซ่อมร่างกายที่เหมาะสมกับน้องไอนส์ในอนาคต

Cryopreservation จะทำให้เกิดธนาคารอวัยวะแช่เย็นในอนาคตอันใกล้ เป็นความหวังให้แก่ผู้ป่วยรอเปลี่ยนถ่ายอวัยวะอีกมากมาย

ชีวิตของน้องไอนส์ทั้งหมดได้อุทิศให้กับความรักสุดหัวใจและวิทยาศาสตร์เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตของมนุษย์และจะอยู่คู่มนุษย์ตลอดไป


ที่มา  //news.sanook.com/1782210/



Create Date : 19 เมษายน 2558
Last Update : 19 เมษายน 2558 13:41:16 น. 0 comments
Counter : 1800 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]