ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ไอโฟน 6 อัพเดท สเปค และ ราคา


ไอโฟน 6 อัพเดท สเปค และ ราคา

สำหรับมือถือที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดของปีนี้ก็คือตัวของ iPhone 6 ที่จะเป็น iPhone ประจำปี 2014 จาก Apple ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกระแสข่าวออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่เป็นระยะๆ เรามาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

ราคา iPhone 6
คาดการณ์กันว่า ราคา iPhone 6 น่าจะยังคงเปิดมาในระดับเดียวกับ iPhone 5s คือเริ่มต้นที่ 23,900 บาท (iPhone 6 ความจุ 16 GB) ส่วนถ้ามีการเปิดตัว iPhone 6 หน้าจอ 5.5″ ขึ้นมาจริงๆ ราคาเริ่มต้นก็น่าจะสูงกว่า iPhone 6 หน้าจอ 4.7″ ราวๆ 2,000 – 3,000 บาท โดยน่าจะมีให้เลือกสามสีคือสีดำ, สีเงินและสีทองเหมือนกับ iPhone 5s


กำหนดการเปิดตัว iPhone 6
เราน่าจะได้เห็น Apple เปิดตัว iPhone 6 ในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ตามกำหนดการเปิดตัว iPhone ปกติที่เป็นมาในช่วงหลังๆ


CPU และแรมของ iPhone 6
สำหรับเรื่องสเปคของ iPhone 6 นั้น ได้รับการคาดหมายว่าน่าจะมีการปรับเปลี่ยนแค่บางส่วน โดยจุดที่ค่อนข้างชัวร์ว่าจะได้รับการเปลี่ยนแปลงก็คือชิปประมวลผล เปลี่ยนจากชิป Apple A7 ที่ใช้ใน iPhone 5s ไปใช้เป็น Apple A8 แทน ซึ่งตัวของชิป A8 นั้น แน่นอนว่าจะต้องรองรับการประมวลผลระดับ 64 บิท ที่ช่วยให้การทำงานโดยรวมของระบบเร็วขึ้น ด้านของแรมก็อาจจะยังคงใช้ความจุแค่ 1 GB เท่าเดิม ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วๆ ไปแล้ว แต่ถ้าพิจารณาจากมือถือรุ่นท็อปในตลาดที่ใช้แรมความจุ 2 GB กันหมดแล้ว ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็น iPhone 6 มาพร้อมกับแรม 2 GB ด้วยก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้ระบบทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ที่น่าสนใจก็คือแรม เนื่องจากมีข่าวว่าสินค้า Apple ในปีนี้จะเปลี่ยนมาใช้แรมแบบ LPDDR4 ซึ่งมีข้อดีคือความซับซ้อนของชิปแรมมีน้อยลง ทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย กินพลังงานต่ำกว่าแรม LPDDR3 ในปัจจุบัน ซึ่งถ้า Apple นำแรมแบบ LPDDR4 มาใช้ใน iPhone 6 จริง อัตราการกินพลังงานระหว่างใช้เครื่องก็น่าจะต่ำลง และทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

ด้านของชิปประมวลผลรองก็น่าจะยังมีติดตั้งมาให้เช่นเดียวกับตัวของชิป M7 ใน iPhone 5s ที่ออกแบบมาให้จัดการประมวลผลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว (Motion) ของผู้ใช้งานและตัวเครื่องโดยตรง เพื่อลดการทำงานของชิป CPU หลักลงไป และทำให้ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น


หน้าจอ iPhone 6
ประเด็นของหน้าจอ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดว่าสุดท้ายแล้ว Apple จะยอมเพิ่มขนาดหน้าจอตามความต้องการของผู้ใช้งานส่วนใหญ่หรือไม่ เนื่องจากหน้าจอ iPhone 5s ในปัจจุบันที่มีขนาดเพียงแค่ 4 นิ้ว ที่ถือว่าเล็กเกินไปแล้วสำหรับมือถือระดับเรือธง ยิ่งเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้หน้าจอแทบจะระดับ 5 นิ้วขึ้นไปกันแทบทั้งนั้น ทำให้เราคงต้องลุ้นกันว่า Apple iPhone 6 จะมาพร้อมขนาดหน้าจอเท่าไรกันแน่

โดยในช่วงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า Apple น่าจะเปิดตัว iPhone 6 ออกมาเป็นสองรุ่นย่อยคือรุ่นที่มีหน้าจอ 4.7 นิ้วกับ 5.5 นิ้วให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามขนาดเครื่องที่ต้องการ (และตามงบประมาณที่มี) สำหรับข้อมูลปัจจุบันของจอ iPhone 6 แต่ละขนาดมีดังนี้

iPhone 6 จอ 4.7″ จะมีความละเอียดหน้าจอ 1334 x 750 (326 ppi)
iPhone 6 จอ 5.5″ จะมีความละเอียดหน้าจอ 1920 x 1080 (401 ppi)
iPhone 6 ทั้งสองขนาดจะใช้พาเนลจอแบบ LTPS
และด้วยการเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น ก็เป็นที่คาดเดาว่า Apple น่าจะออกแบบ iPhone 6 ให้มีขอบจอบางลงกว่าเดิม 10% – 20% เพื่อทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป และยังสามารถใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียวเหมือนกับ iPhone 5s

ส่วนของกระจกหน้าจอ ก็คาดว่าน่าจะยังคงใช้กระจก Gorilla Glass เช่นเดิม แต่ก็มีข่าวลือว่าอาจจะมีเฉพาะ iPhone 6 หน้าจอ 5.5″ ความจุ 64 GB เท่านั้นที่เปลี่ยนไปใช้กระจก sapphire เป็นกระจกหน้าจอโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็น่าจะเป็นแค่การทดสอบการผลิตและนำออกมาใช้งานจริงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนนำไปใช้งานจริง 100% ใน iPhone รุ่นต่อๆ ไป เช่น iPhone 6s หรือ iPhone 7 ไปเลย


iPhone 6 จะใช้จอโค้งงอมั้ย ?
ประเด็นนี้ก็พอมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง เมื่อดูจากสิทธิบัตรที่ Apple จดทะเบียนไปหลายๆ ใบ ได้มีการกล่าวถึงการนำจอโค้งงอมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงก่อนหน้าที่จอโค้งเป็นที่ฮือฮาในวงการมือถือ เมื่อมี Samsung Galaxy Round และ LG G Flex เปิดตัวออกมา ก็มีข่าวว่า iPhone 6 จะใช้จอโค้งด้วย แต่พอผ่านไปซักระยะข่าวก็เงียบหายไป อีกทั้งจอโค้งก็ยังไม่สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับการใช้งานจริงได้มากนัก เราจึงน่าจะยังไม่เห็น Apple นำจอโค้งงอมาใช้กับ iPhone 6 แน่นอน


กล้อง iPhone 6
ใน iPhone 6 น่าจะยังคงใช้กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 เช่นเดียวกับ iPhone 5s แต่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางจุดเพื่อให้ภาพถ่ายออกมามีคุณภาพดีขึ้น พร้อมทั้งระบบกันสั่น OIS ในระดับฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาได้ดี อาการภาพสั่นไหวน้อยลง ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในกล้อง iPhone ก็จะยังคงอยู่ครบถ้วน โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชัน (Slo-mo) 120 fps


iPhone 6 จะมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ ความดันและความชื้นในตัว
ข้อนี้ก็เป็นหนึ่งในข้อสันนิษฐานคุณสมบัติ iPhone 6 ที่มีในช่วงนี้ ซึ่งจุดประสงค์หลักก็คือใช้ตรวจสภาพอากาศรอบๆ ตัวผู้ใช้งานซะมากกว่านำมาใช้ตรวจสุขภาพให้ผู้ใช้งาน เพราะในจุดนี้น่าจะมี iWatch ทำหน้าที่ของมันอยู่แล้ว



การเชื่อมต่อของ iPhone 6
สำหรับช่องทางการเชื่อมต่อของ iPhone 6 นั้นพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก อย่างแรกเลยคือเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับชาร์จไฟและซิงค์ข้อมูล จุดนี้ก็เชื่อได้ 100% เลยว่าจะยังคงใช้เป็นพอร์ต Lightning อยู่เช่นเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร ถ้าจะมีเปลี่ยนก็น่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นเล็กน้อย และยังสามารถใช้งานสาย/อุปกรณ์เสริมที่ใช้พอร์ต Lightning ร่วมกับผลิตภัณฑ์ของ Apple รุ่นอื่นๆ ได้เช่นเดิม

ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สาย อันดับแรกคือการเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ แน่นอนว่าจะต้องรองรับการใช้งาน 4G LTE ที่เริ่มมีการเปิดใช้งานมากขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่ปีนี้น่าจะได้เห็นความชัดเจนของ 4G LTE กันมากขึ้น การเชื่อมต่อ 3G ก็สามารถใช้งานได้ครบถ้วนเช่นเดิมเหมือน iPhone รุ่นที่ผ่านๆ มา ส่วนการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็น่าจะรองรับได้ถึงมาตรฐาน 802.11ac ที่เป็นมาตรฐานล่าสุดสำหรับการใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน เหมือนกับใน MacBook/iMac รุ่นใหม่ของปี 2013 ที่รองรับ 802.11ac กันแล้ว โดยตัวของ Wi-Fi 802.11ac มีข้อดีคือความเร็วในการรับส่งที่สูงมากเป็นหลัก ด้านของ Bluetooth ก็ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก



และการเชื่อมต่ออีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับการจับตามองและเดากันมาเป็นปีๆ แล้วว่า Apple น่าจะใส่มาเสียที ก็คือตัวของ NFC ที่เราได้เห็นมือถือ Android และ Windows Phone หลายรุ่นใส่มาให้เรียบร้อยแล้ว และเราก็น่าจะได้เห็น NFC มาอยู่ใน iPhone 6 เสียที สำหรับข้อดีของ NFC ก็คือทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ NFC อื่นๆ ในระยะใกล้ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เอาหลังเครื่องมาชนกัน (แล้วก็ส่งข้อมูลผ่านทาง Bluetooth) ซึ่งถ้า iPhone 6 มี NFC จริงๆ เราก็น่าจะได้เห็นการเติบโตของการใช้งาน NFC ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น เช่นการจ่ายเงินซื้อของผ่าน NFC ด้วยการแตะหลังเครื่องไปบนแท่น NFC ในร้านค้า รวมไปถึงแอพ Passbook ที่มีมาตั้งแต่ iPhone 5 ก็น่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานจริงจังมากขึ้นใน iPhone 6 นี่เอง


iOS 8 บน iPhone 6
ตามปกติแล้ว ทุกๆ ปี Apple จะเริ่มเปิดให้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS รุ่นใหม่พร้อมๆ กับการวางขาย iPhone รุ่นประจำปีนั้นเป็นครั้งแรกอยู่เสมอ ทำให้ในปีนี้เราน่าจะได้ใช้งาน iOS 8 อย่างเป็นทางการครั้งแรกกันก็ช่วงเริ่มวางขาย iPhone 6 เลย โดยตัวของ iOS 8 ก็น่าจะยังคงใช้หน้าตาแบบเดียวกับ iOS 7 ต่อไป แต่อาจจะมีการปรับแก้บางจุดเพื่อให้ลงตัวและใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็น่าจะเป็นด้านของแอพพลิเคชันที่เกี่ยวกับสุขภาพ อย่างเช่น HealthBook ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแอพที่ช่วยเก็บข้อมูลและประเมินสุขภาพผู้ใช้งาน โดยอาศัยข้อมูลจากเซ็นเซอร์รับข้อมูลต่างๆ และน่าจะทำงานร่วมกับ iWatch ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

รวมถึงส่วนของ Touch ID ใน iPhone 6 ที่น่าจะได้รับการเสริมฟีเจอร์ใหม่มากขึ้น ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายกว่าในปัจจุบัน แต่คาดว่าก็น่าจะยังไม่เปิดให้นักพัฒนาแอพทั่วไปสามารถใช้งานได้อยู่ดี เหตุเนื่องมาจากความปลอดภัย ที่อาจเกิดความเสี่ยงขึ้น ถ้าให้นักพัฒนาแอพสามารถเข้าถึงข้อมูลลายนิ้วมือของผู้ใช้ได้


ตัวเครื่อง iPhone 6
สำหรับบอดี้ iPhone 6 นั้น เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าไปบ้างจากใน iPhone 5s โดยที่เห็นได้ชัดเลยก็คือหน้าจอที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ขอบจอบางลงเพื่อให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ใหญ่มากไป ที่ตามมาก็คือเรื่องของความหนาที่อาจลดลงมาเหลือเพียงบางสุด 6.5 มิลลิเมตร (ปัจจุบัน iPhone 5s หนา 7.6 มิลลิเมตร)

สำหรับดีไซน์หน้าตา ในช่วงนี้ก็มีการเรนเดอร์ภาพจำลองออกมาให้ได้ชมกันหลายรูปแบบทีเดียว เรามาดูตัวอย่างบางภาพที่น่าสนใจกันครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก //specphone.com/iphone-6/



Create Date : 16 พฤษภาคม 2557
Last Update : 16 พฤษภาคม 2557 8:24:14 น. 0 comments
Counter : 853 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]