โฉมหน้าที่แท้จริงของพระจันทร์
วันนี้ ณ บ้านหลังหนึ่งในเมืองไทย เวลาประมาณ 18.30 น. ..... ขณะที่ฉันเตรียมงานอยู่ เสียงหนึ่งดังแว่วมา " เร็วๆ มาดูพระจันทร์ยิ้ม " ฉันคิดในใจ " ฉันเคยเห็นแล้ว ออกบ่อยไป " แต่ก็โผล่หน้าไปดูซะหน่อย เพื่อไม่ให้เสียกำลังใจกัน ... ... ฉันตกใจเล็กน้อย วันนี้ พระจันทร์มี ดวงตา 2 ข้างด้วย  ใบหน้าเธอยังเป็นเด็กเล็กนัก ยังโตไม่เต็มที่เลย  ขอดูใบหน้าใกล้ๆ หน่อยซิ  ที่ภาพสั่น เพราะเธอขยับหน้าหยุกหยิก .. งั้นไปทำงานต่อดีกว่า ........ ... ... ........ เวลาประมาณ 21.30 น. เสียงโทรทัศน์ดังแว่วเข้าหูอีกรอบ "ขณะนี้ที่เมืองไทย ผู้คนได้เห็นพระจันทร์ยิ้มแล้วนะคะ" .. ไหนขอไปดูหน้าจันทร์เจ้าอีกรอบซิ .... ฉันประหลาดใจอีกครั้ง ณ เวลานี้ เธอโตเต็มที่แล้ว... กลายเป็นสาวสวย  เธอแอบโผล่หน้าที่ข้างตึก .. จันทร์เจ้าขา ข้าเจ้าขอถ่ายรูปหน้างามๆ ชัดๆ อีกทีได้มั้ยจ๊ะ พระจันทร์ตอบว่า ...  " ได้จิ " ปล.วันนี้พระจันทร์สวยจัง ว่างๆ แวะมาเที่ยวใหม่นะจ๊ะ
เสียงรำพึง................จากเกาะสมุย >>>>> ถึงเมืองจันทบุรี
. . . ช่วงนี้ทำงานเยอะไปหน่อย ทำให้เซ็งๆ อยากจะเหาะไปเที่ยวทะเลจริงๆ  แต่ก็เป็นไปไม่ได้... เพราะว่าเรามีภาระเยอะแยะ(แต่คงน้อยกว่าคนอื่น) ก็เลยได้แต่เปิดภาพเก่าๆ ในโฟลเดอร์ขึ้นมาดู เห็นแล้วก็พอช่วยได้นิสสนึง  ทำให้สดชื่นเหมือนกับลงไปแช่น้ำใสๆ ของทะเลกลางอ่าวไทย  แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปอีกเนี่ย อยากให้ถึง summer เร็วๆ จัง แต่มันยังอีกนานเลยนะ . . . เปิดไปดูรูปทะเลที่บ้านแหลมสิงห์  แล้วนึกน้ำลายไหล   อยากกลับไปปิ้งปลาหมึกแดดเดียวกินที่บ้าน . . . . .  ตกลง! งั้นเข้าพรรษานี้ไปทำบุญที่วัดริมทะเลแถวบ้านก็ได้เน้อะ  ซะงั้น!!! แสงสลัวในหัวลำโพง
แสงสีเหลืองสลัวๆ ลอดผ่าน ตกกระทบพื้นในยามเช้า  ชื่อเธอคือ "หัวลำโพง" สถาปัตยกรรมโดมโค้งครึ่งวงกลม ศิลปะแบบเรอเนซองซ์ ลักษณะคล้ายกับสถานีรถไฟฟรังค์ฟูร์ท ประเทศเยอรมนี  อายุ อานาม เธอก็มากโข.................  ก่อสร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2459 รวมใช้เวลาสร้างประมาณ 6 ปี . . จากวันนั้นจนถึงวันนี้อายุกว่า 92 ปีแล้วล่ะ   มาส่งที่ชานชาลา เมื่อถึงเวลาพร้อมจะไป มุ่งสู่จุดหมายที่ปลายฟ้ากว้าง  นาฬิกาเรือนใหญ่ บอกเวลา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร พร้อมด้วยประติมากรรมสาวงามสยายผมนูนสูง แบบนีโอคลาสิค และ ประดับด้วยเสาสวยๆ แบบไอโอนิค   โครงสร้างเหล็ก ช่วงกว้าง 50 เมตร  รอคอยนักเดินทางที่เดินผ่านมาแล้วก็ผ่านไป  . . แม้ทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลง แต่ราคาไม่เคยเปลี่ยนไป ... ปล.เห็นหลายคนบ่นเรื่องค่าน้ำมันแพง เลยนึกถึง รถไฟ ถ้าพูดถึงรถไฟ ก็จะนึกถึงสโลแกนที่ว่า "รถไฟ ปลอดภัย ประหยัด" และขอให้นึกต่อไปอีก ด้วยคำคมที่ว่า "ช้า ช้า ได้พร้าเล่มงาม" (แลกกันได้มั้ย!!)  ข้อมูลอ้างอิง : วิกิพีเดีย ศิวิไลเซชั่น ณ พระบรมธาตุไชยา.........
สวัสดีค่ะ นี่คือรายงานไม่สดหลังจากเดินทางไปล่องใต้มาในช่วง summer...ที่ผ่านไปค่ะ ลงใต้ตอนนั้นแหล่งที่เที่ยวของเราก็จะมี 2 ประเภทใหญ่คือ เที่ยวทะเล กับเที่ยววัด วันนี้เพิ่งมีโอกาสนำมาลงบล็อคซะที...อิอิ แล้วก็จัดเข้าในกลุ่มใหม่เพราะว่า คาดว่าบล็อคหน้านี้จะมีสาระค่ะ  . . บนถนนเพชรเกษมขากลับ ทางผ่านก่อนขึ้นกรุงเทพฯ ที่มักจะเป็นทางผ่านไปเฉยๆ ก็คือ วัดพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฏร์ธานี คนส่วนมากที่จอดรถแวะแถวไชยา ก็จะมีประเด็นใหญ่ประเด็นเดียวคือ แวะซื้อไข่เค็ม (ซึ่งเราเองนี่แหละเคยทำบ่อย)  วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 50 ถนนรักษ์นรกิจ หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุไชยาเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในสามของ โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ ได้แก่ เจดีย์พระมหาธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำคูหาภิมุขบริเวณวัดคูหาภิมุข จังหวัดยะลา วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดพระบรมธาตุไชยา โรงเรียนสงฆ์ และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอำเภอไชยา ที่มา: วิกิพีเดีย บางคนเชื่อว่าที่นี่เคยเป็นราชธานีของอาณาจักรศรีวิชัย เพราะมีการขุดค้นพบโบราณวัตถุและสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยมีอยู่มากที่อำเภอนี้  วันนี้วันดีเราชวนครอบครัวเล็กๆ ของเรามาไหว้พระธาตุไชยา เราเองอยากยลของจริง ภาพในเน็ตของที่นี่ค่อนข้างมีน้อย เลยขอมาถ่ายภาพด้วยตัวเองซะ! เอ๊ะ!!! นั่นใครกันเห็นหลังไวๆ ใส่ชุดแมงมุม(ไม่ยอมถอด)   เข้ามาจากประตูด้านข้าง ก็พบพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ 3 องค์ เป็นพระพุทธรูปศิลาแลงสมัยศรีวิชัย ประดิษฐานกลางลานโล่งด้านซ้ายมือของตัวโบสถ์ สวยงามค่ะ เห็นแล้วอิ่มใจ  หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด  วันนี้ฟ้าใสมาก แดดเปรี้ยงๆ เหมาะแก่การถ่ายภาพพระธาตุมาก...เราว่าพระธาตุสีขาวเหมาะกับฟ้าใสๆ ไร้เมฆ..แดดจัดๆ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นโบราณสถาน รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็ก 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน พระบรมธาตุไชยา เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และนี่ก็อีกด้านหนึ่ง เจดีย์พระบรมธาตุมีความสูงจากฐานใต้ดินถึงยอด 24 เมตร สมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ยอดเจดีย์ที่เดิมหักลงมาถึงคอระฆัง ที่มา: วิกิพีเดีย  จากนกยูงที่เห็นตัวเป็นๆ ก็พบว่าเป็นภาพปูนปั้นตกแต่งประดับบนพระธาตุด้วย ช่างสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาจาก วัดร่อนนา จ.นครศรีธรรมราช  ถ่ายภาพจนเพลินจนลืมครอบครัว ครอบครัวก็ลืมเราเช่นกัน ปล่อยเราชื่นชมและดื่มด่ำอยู่คนเดียว ช่างเป็นห่วงเรากันจริงๆ . . . เราได้สติดังนั้น จึงเข้าเกียร์ต่ำเดินไปตามหา 2 หนุ่มนั่น   ภาพก่อนกลับ.... สวยงามได้กลิ่นอายของอดีตอยู่เนืองๆ งามแบบนี้ชอบจริงๆ ที่นี่บริเวณวัดไม่ใหญ่ถ้าเทียบกับวัดพระธาตุ ที่ จ.นครศรีธรรมราชจะเล็กอย่างเห็นได้ชัด ยุคสมัยที่ผ่านมากับเวลาที่ผ่านไป..... . . สิ่งที่เห็นอยู่เป็นที่ซึ่งบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานได้เห็นถึงความศิวิไลซ์ในครั้งที่ผ่านพ้น ทำนุบำรุงเหลือไว้เป็นหลักฐานให้เราได้ทราบว่าครั้งหนึ่งเคยมีความรุ่งเรืองเช่นนี้มาก่อนปรากฏอยู่บนผืนแผ่นดินไทย...  จบการรายงานข่าวล่า(ช้า).........สวัสดีค่ะ |
Neilnuch_T
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ภาพทั้งหมด เป็นของ TRio Monalisa ค่ะ :) .. ขอสงวนไว้ ณ ที่นี้ค่ะ :X Group Blog All Blog Link MY VIP Friend                                                   |
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
