เที่ยวฮอกไกโด....แช่ออนเซนNoboribetsu ชิวๆSapporo ชมดอกไม้Furano เที่ยวโอตารุแสนโรแมนติก ตอน2


 กระทู้ที่แล้ว ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางตั้งแต่เตรียมเอกสาร    

จัดการแผนท่องเที่ยว รวมทั้งพาไปเที่ยว Noboribetsu กันมา


 คราวนี้เราจะเข้าเมืองกันบ้างค่ะ

Day 3 (June25)        
ตามตารางที่แพลนไว้
8.00 น.    Breakfast at NOBORIBETSU MAHOROBA HOTEL            
9.45 น.    Check out จาก NOBORIBETSU MAHOROBA HOTELขึ้นรถบัสของโรงแรมรอบ 10.00 น.
ซึ่งบริการพาแขกที่พักค้างคืนไปส่งที่ Sapporo ถึงประมาณ 11.30 น.        

หลังจาก Shuttle Bus รร.มาปล่อยที่ Odori
เราก้อเริ่มหัดใช้บริการรถไฟใต้ดินค่ะเพื่อจะไปฝากสัมภาระที่รร.

ก่อนออกไปเที่ยว Ishiya Chocolate factory และ ไปเมือง Otaruค่ะ

ก่อนอื่นเรามาดูแผนที่สถานีรถไฟใน Sapporo กันก่อนะคะ
ขออนุญาติยืมภาพจาก เวป Hokkaidothai นะคะ


รถไฟใต้ดิน (Subway)  วิ่งตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเที่ยงคืน มีให้บริการอยู่ 3 สาย คือ
1.สายสีเขียว Nambuku Line วิ่งจากชานเมืองทางด้านทิศเหนือ ผ่านสถานีซัปโปโร โอโตริ ซูซูกิโนะ  ไปสิ้นสุดที่ชานเมืองด้านทิศใต้ มีสถานีทั้งสิ้น 16 สถานี
2.สายสีฟ้า Toho Line วิ่งจากชานเมืองด้านทิศเหนือขนานกับสายสีเขียว ผ่านใจกลางเมืองที่สถานีซัปโปโร โอโดริ แล้วไปสิ้นสุดที่สถานี Fukuzumi ทางด้านใต้ของเมืองใกล้ ๆ กับ Sapporo Dome มีจำนวนสถานีทั้งหมด 14 สถานี
3.สายสีส้ม Tozai Line วิ่งจากทางตะวันตก ผ่านใจกลางเมืองขนานไปกับสวนโอโดริ แล้ววิ่งไปทางตะวันออก เชื่อมต่อกับรถไฟเจอาร์ที่สถานี Shin-Sapporo มีสถานีทั้งหมด 19 สถานีคะ

สำหรับตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดิน แนะนำให้ซื้อตั๋ว ONE DAY PASSนะคะ 
 เพราะนักท่องเที่ยวอย่างเราเดินทางกันทั้งวัน ใช้คุ้มแน่นอนค่ะ
แต่ก้อแล้วแต่แผนเที่ยวของแต่ละคนด้วยนะคะ
ลองเช็คตารางคร่าวๆ พร้อมค่าใช้จ่าย จากเวปนี้ดูคะ
//www.hyperdia.com/en/


ส่วนวิธีการเลือกซื้อตั๋วนั้นไม่ว่าจะเป็น ONE DAY PASS หรือตั๋วปกติ
เราจะซื้อจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัติโนมัติ ค่ะ
วิธีใช้ก้อไม่ยากจ้า



1.อันดับแรกเราเลือกภาษา เป็น English ก่อนนะคะ ยกเว้นใครอ่านญี่ปุ่นออกก้อจัดไปค่ะ
2.ถ้าต้องการ ONE DAY PASS ก้อเลือก ONE DAY CARD ค่ะ แต่ถ้าเลือกที่จะใช้ตั๋วธรรมดาให้เลือก Subway Only นะคะ
ซึ่งจะได้หน้าตามภาพข้างบนค่ะ

ปล.ด้านล่างนี้เป็นตารางค่าโดยสารที่ Odori Station ค่ะ


3.ถ้าค่าโดยสาร 200 เราก้อกดที่ปุ่ม 200 หลังจากนั้น เครื่องจะให้เราใส่เงินลงไปค่ะ



เหรียญ 10/50/100/500 ใส่ช่องหยอดเหรียญ
แบงก์ 1000/5000/10000 วางลงช่องใส่แบงก์ค่ะ
ไม่ต้องห่วงนะคะ เครื่องจะทอนเงินให้
และเด้งตั๋วออกมาค่ะ

พอดีไม่ได้ถ่ายรูปตั๋วปกติไว้ มีแต่รูป ONE DAY PASS ตามภาพด้านล่างจ้า



แต่้ถ้ายืนอยู่หน้าเครื่องจำหน่ายตั๋วแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ
สามารถถามพนักงานรถไฟได้เลยคะ
ในเมืองท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ใจดีกันแทบทุกคนอยู่แล้ว
หลังจาก รู้วิธีซื้อตั๋วแล้ว
เราก้อลงใต้ดินไปฝากกระเป๋ากันก่อนค่ะ
2 คืนใน Sapporo เราพัก Mercure Hotel Sapporo (25-27/6/2013) สนนราคาตกคืนละ 2721.61 บาทค่ะ ไม่รวม Breakfast
รร.อยู่ย่าน Susukinoค่ะ
ย่านนี้คึกคักมีชีวิตชีวาที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในเวลาค่ำคืนที่บรรดาป้ายไฟโฆษณาบนตึกต่าง ๆ เปิดไฟสลับสีแข่งขันประชันสินค้ากัน รอบ ๆ บริเวณนี้มีร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรี ทั้งไนต์คลับ บาร์ คาราโอเกะ มากมายตั้งอยู่ในตรอกซอกซอย บางร้านก็ซ่อนอยู่ในตึกต้องขึ้นลิฟต์ไป แต่ก็มีพนักงานออกมาเรียกแขกเสนอเมนูและบริการของร้านตนเองอยู่ริมถนนเต็มไปหมดค่ะ


เดินทางไปไม่ลำบากเท่าไรค่ะ.....ไปฝากของที่รร.กันค่ะ
ลงใต้ดิน Odori Station ขึ้น Subway Nanboku Line ที่ปลายทาง Makoemanai มาลง Susukino Station (N08) และ ออกทาง Exit 4ถ้าจำไม่ผิดนะคะแล้ว เดินไปที่รร.
ปล.ไม่ต้องกังวลเรื่องรถใต้ดินนะคะ เพราะมีรถออกทุกๆ 5 นาทีค่ะ

ด้วยความที่ไปถึงเร็วยัง Check in ไม่ได้เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อนคะ
 เดี๋ยวค่อยกลับมาชมห้องกันนะคะ
ไปเที่ยวกันก่อนดีกว่า..................

ลงรถไฟจาก Susukino Station ไป Odori Station เพื่อไป Ishiya Chocolate factory --Shiroikoibito Park สถานที่ตั้งโรงงานช็อกโกแลตยี่ห้ออิชิยาของซัปโปโรกันค่ะ
วิธีเดินทาง
-ขึ้นรถไฟ  Subway Tozai Line สายสีส้ม ไปลง MIYANOSAWA Station (T01)
(ใช้เวลาประมาณ 16 นาที) ค่ะ
-ถึง MIYANOSAWA Station ออกช่องทางออกที่ 5 ขึ้นบันไดเลื่อนมาค่ะ......ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้าน Lea Lea Bentoss
เจอร้านนี้ให้ไปทางซ้ายตรงไปจนถึงแยก ให้เลี้ยวซ้ายอีกที เดินตรงไปจนเห็นถนน
พอมาถึงตรงนี้จะเห็นป้ายชื่อโรงงานชัดแจ๋วอยู่ขวามือค่ะ ข้ามถนนละเดินไปจุดหมายกันเลยค่ะ   



ปล. กะว่าจะ แวะกินBuffet เค้กชั้นล่างชั้นล่างสักหน่อยเห็นว่า หัวละ 1500 เยน แต่ปรากฎว่าเค้าบอกไม่มีแล้วอะคะ
สำหรับคนที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปดูที่เวปนี้เลยจ้า
//www.shiroikoibitopark.jp/english/index.html    
ถ้าชมสวนเฉยๆไม่เสียเงินค่าเข้านะคะ
แต่ถ้าเข้าไปดูการผลิตต้องเสียค่าเข้าชม :600 yenค่ะ
เข้าไปด้านในสวนชมวิวสวยๆกันค่ะ


ต่อจากด้านนอก เข้ามาด้านในบ้างนะคะ



แวะชิมเค๊กอร่อยๆ ที่ Factory Walk ชั้น 4 พร้อมวิวสวยๆ
ดูพร้อมClock Tower ที่จะมี Carnival หมุนออกมาเดินพาเหรดทุกชม.กันค่ะ

ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อของฝากช็อกโกแลตอันเลื่องชื่ออย่าง Shiroi Koibito คุ้กกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต ที่ทำจากนมโคจากฮอกไกโดที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นกันนะคะ



แต่ถ้าขี้เกียจหิ้วก้อสามารถหาซื้อเจ้า Shiroi Koibito ได้ที่ แหล่ง shopping อื่นๆ หรือจะเก็บตกที่สนามบินก้อยังได้นะคะ

ส่วนเรืองราคานั้น ลองกลับมาเช็คbillดูได้ประมาณนี้อะคะ



เหมือนราคา12ชิ้น ในห้างใต้สถานีOdoriจะเท่ากับAirportเลย
เพิ่งสังเกตอะคะ

ส่วนด้านล่างเป็นราคาทีโรงงานนะคะถ่ายไว้เลยเอามาฝากเผื่อการตัดสินใจจ้า

บ่ายสองกว่าแล้ว.....ได้เวลาออกเดินทางไป Otaru กันละคะ

โดยกลับมาลง MIYANOSAWA Station เพื่อขึ้นรถไฟ  Subway Tozai Line สีส้ม ไปลง Odori Station
เพื่อเปลี่ยนรถไปขึ้น Subway Nanboku Line ไปลง SAPPORO(SUBWAY) และเดินไปขึ้น JR  SAPPORO กันค่ะ



ดูตารางออกรถ และเลือก JR ที่สะดวกกับแผนของเราและ
เพื่อกันพลาด....อย่าลืมเช็คกับ พนักงานที่สถานีอีกทีนะคะว่าขึ้นที่ Track เบอร์อะไร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ถึง OTARU ค่ะ



ลืมบอกไปนิด ถ้าเป็นไปได้ พยายามนั่งฝั่งขวามือนะคะ จะได้มองเห็นวิวทะเล

นั่งไปเพลินๆ สบายตาอะค่ะ

ก่อนออกสถานี ไม่ลืมที่จะหยิบแผนที่เพื่อช่วยในการเดินทาง ชมเมืองนะคะ
แต่ลองอ่านคร่าวๆจากเอกสารที่เก็บมาฝากกันก่อนก้อได้ค่ะ




ออกมาหน้าสถานีจะเจอท่ารถบัส ""Otaru Sansaku""

เราสามารถซื้อตั๋วรถบัสไปตามจุดเที่ยวชม ได้คะ
มี 3 เส้นทางค่ะ ลองอ่านข้อมูลจากภาพด้านล่างดูนะคะ



เราเลือกเส้นทางMarine Course เพราะรถกำลังจะออกละคะ ไม่อยากเสียเวลากลัวจะค่ำอะคะ
ราคารอบละ 210 เยนจ้า

สำหรับเส้นทางรถวิ่งลองดูตาม Map ด้านล่างนะคะ



“โอตารุ” เป็นเมืองชายทะเล ฤดูร้อนแบบนี้อากาศจะปลอดโปร่งโล่งสบาย มีลมทะเลเอื่อยๆ กับแดดอุ่นๆ
ให้รู้สึกอยากเดินชมวิวไปเรื่อยๆได้สบายอารมณ์ค่ะ

เรานั่งรถไปรอบเมืองตามเส้นทาง Marine Course พอรถวนกลับมาเราก้อลงรถในจุดที่ใกล้ นาฬิกาไอน้ำ กับ  ร้านขายกล่องดนตรีโบราณ ชื่อ Otaru Orugorudo Honkan (เปิด9.00 ถึง 18.00) ค่ะ
ร้านตั้งอยู่สุดถนนช๊อปปิ้ง หากหาไม่เจอให้สังเกตุตึกรูปโดม และเดินมุ่งหน้าไปยังตึกรูปโดมนั้น ก็จะเห็นตึกอยู่สุดริมถนนค่ะ
ด้านหน้าร้านมี Steam Clock ซึ่งเป็นนาฬิกาไอน้ำที่เมืองแวนคูเวอร์มอบให้เป็นที่ระลึกแก่เมืองโอตารุค่ะ
ปล. นาฬิกาไอน้ำนี้จะพ่นไอน้ำออกมาทุกสิบห้านาทีนะคะ



เดินย้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จะเจอร้าน LeTAO Cheese Cake ซึ่งที่นี่มีให้เลือกประมาณ 3-4 ร้านเลยค่ะ ไม่รู้จะเปิดทำไมติดๆกันน้อ
ไหนๆมาแล้วต้องลองชิมสักหน่อย
วันนั้นเราชิม Double Fromage ค่ะ เป็น Cheesecakeที่ อร่อยมากค่ะ หอมชีส  เนื้อนุ่มละมุนลิ้น



นอกจากร้านนี้ ก้อยังมีร้านขนม Kitakaro ให้เลือกซื้อนะคะ

ที่นี่จะมีร้านค้าอยู่ตลอดสองข้างทางยาวประมาณ หนึ่งกิโลเมตร ร้านเด่นๆจะเป็นร้านขายพวกกล่องดนตรี กับ ร้านขายเครื่องแก้วต่างๆ ร้านขายของที่ระลึกทั่วไป ร้านขายเหล้า ร้านขาย เค้ก เรียกได้ว่า สำหรับสาวๆ แล้วถนนสายนี้ เป็นเหมือนถนนในฝันเลยทีเดียว เพราะมีร้านค้าเล็กๆ มีของน่ารัก ให้ดูเพลิน ๆ และมีเค้กอร่อยๆ ให้กินค่ะ

และที่ขาดไม่ได้"คลองโอตารุ" สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่จะต้องมาถ่ายรูปให้ได้ค่ะ ไม่งั้นมาไม่ถึง โอตารุนะคะ
แบ๊กกราวด์เป็นอาคารอิฐสีแดง ซึ่งในอดีตเป็นโกดังเก็บสินค้าแต่ในปัจุบันได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกค่ะ

หลังจากเดินถ่ายรูปจนหนำใจ
ก้อได้เวลาเดินทางกลับกันค่ะ
อย่ามัวเดินเพลินะคะ เพราะรถรอบสุดท้ายกลับ Sapporo เหมือนจะเป็นรอบ 20.22 นะคะ




เดินกลับมาขึ้นรถไฟที่ Otaru Station นั่ง JR ไปลง SAPPORO (JR) ดูตารางรถกลับด้านบนนะคะ
เดินมาเปลี่ยนรถไฟที่ SAPPORO(SUBWAY)
และขึ้น Subway Nanboku Line ที่ปลายทาง Makomanai ไปลง Susukino Station เพื่อเข้าที่พัก Mercure Hotel Sapporoค่ะ
อันนี้เป็นภายในห้องพักนะคะ
มีอุปกรณ์จำเป็นครบเลยค่ะ



ที่ชอบมากคือ มีอุปกรณ์สำหรับ Charge Iphone ให้ด้วย



ส่วน Wifi มีให้ใช้ฟรีในห้องนะคะ โดยเค้าจะวางรหัสไว้ให้ที่โต๊ะคะ
เก็บตกอีกนิดนะคะ
คืนวันนั้นกว่าจะมาถึง รร.ก้อ 3 ทุ่มแล้ว เลยต้องหาอะไรรองท้องสักหน่อย
เดินมองหาร้านอยู่นาน เห็น ร้าน Sushi Bar เลยแวะหม่ำที่นี่
ได้บรรยากาศอีกแบบนึง......ได้ feel เหมือนพนักงานบจก. ที่เลิกงานละมาสังสรรค์กันอะคะ หัวเราะ



ร้านอยู่ตรงข้ามรร. เยื้องๆกับ Lawson ค่ะ ใต้ตึกสำนักงานอะไรสักอย่าง ด้านหน้ามีขายไอศกรีมค่ะ
........ถ้าคืนนั้นไม่อยากจัดหนัก กับ อาหารพวกปู ที่อยู่ตรงข้าม รร. เหมือนกัน ก้อลองไปดูนะคะ ไม่แพงมาก แถมอิ่มท้องด้วย
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว.......ก้อขอเดินย่อย ดูแสงสีซักเล็กน้อยค่ะ
ตอนค่ำคนเดินพลุกพล่าน แสงสีของป้ายไฟโฆษณาตระการตา เดินบนถนนใหญ่ไม่ค่อยน่ากลัวค่ะ

เดินเพลินๆเข้าไปในซอยถัดจากร้าน Sushi Bar ก้อมาเจอ ร้านตู้เกมส์หนีบตุ๊กตา+เกมส์ตู้+ปาจิงโกะอะคะ
ไหนๆมาแล้วขอแวะเข้าไปดูสักนิด




ปล.ที่นี่เล่นไม่ได้เงินนะคะ เพราะเค้าให้เล่นเอาแก้เซ้งมันส์เฉยๆจ้า
เพื่อนๆอย่าลืมตามมาเที่ยวทุ่งดอกไม้ที่ Furano พร้อมแวะเที่ยวSapporo ชิมราเมงอร่อยๆ และชิวๆยามค่ำที่ Susukino กันที่รีวิวต่อไปกันนะคะ





Create Date : 01 พฤษภาคม 2557
Last Update : 1 พฤษภาคม 2557 14:12:23 น.
Counter : 4014 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NaughtyP
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments
All Blog