เที่ยวสวิส ง่ายนิดเดียว-วันที่3ขึ้น1ในรถรางGoldenpass-Les Avants-Interlaken-Unterseen-Rugenpark ตอน2
มาต่อกัน จากตอนที่1 ค่ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=naughtyp&month=28-04-2014&group=1&gblog=10

จากตัวรร. เดินมาถึงประตูทางเข้า
เข้าไปด้านในจะเจอจุดต้อนรับแบบนี้คะ


พอมาถึง เราจะเจอUrsula หรือ Chris ออกมาต้อนรับด้วยWelcome Drinkค่ะ
พร้อมกับสอบถามเรื่องplanของเรา และเค้าจะแนะนำให้ค่ะ ว่าโอเคป่าว
นอกจากนี้จะให้แผนที่กับตารางเดินรถบัส



และ Interlaken Visitor's Cardไว้สำหรับเดินทางใน Interlakenฟรีค่ะ


ก่อนจะช่วยยกของขึ้นห้องเค้าจะเขียนรหัส wifi ของที่นีให้ด้วยค่ะ

ปล. เช้าๆUrsulaจะคอยเช็คอากาศตอนเช้าให้ว่าเหมาะกับจะไปขึ้นเขารึป่าว 

ด้านในทางซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่น กับครัวค่ะ
พอดีมีคนใช้บริการตลอดเลยไม่ได้ถ่ายไว้อะค่ะ

ของอนุญาติเอารูปจากเวปtripadvisorมาให้ดูละกันค่ะ
อันนี้ห้องครัว
อุปกรณ์ทำอาหารพร้อมค่ะ หม้อ กะทะ ชาม จาน ช้อน ส้อม มีด
มีไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อน  สะดวกมากๆค่ะ
ซอสต่างๆ น้ำปลาก้อมีคะ


ห้องนั่งเล่นจะมีชุดโซฟาอยู่นั่งได้ประมาณ4-5คนค่ะ
ตรงข้ามจะมีโต๊ะกับคอม 1ตัวตามภาพค่ะ

สามารถเล่นได้ฟรี แต่ส่วนใหญ่คนจะใช้wifiที่รร.ให้เล่นบนห้องตัวเองมากกว่าอะค่ะ
เลยจะเห็นคอมว่างบ่อยๆ

ส่วนห้องอาหารที่เราจะมาทานอาหารเช้า
จะอยู่ด้านขวา ตรงข้ามทางเข้าห้องนั่งเล่นกับครัวค่ะ
เราถ่ายมาได้ประมาณนี้ค่ะ
มีที่นั่งด้านในกับด้านนอกดูวิวค่ะ





Create Date : 28 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 16:17:49 น.
Counter : 967 Pageviews.

0 comment
เที่ยวสวิส ง่ายนิดเดียว-วันที่3ขึ้น1ในรถรางGoldenpass-Les Avants-Interlaken-Unterseen-Rugenpark ตอน1


หลังจากเราจัดหนักไปในวันที่สองที่สวิสเซอร์แลนด์ 
เราเลยเที่ยวชิวๆในวันที่สามค่ะ
"วันนี้เราจะไปขึ้น 1 ในรถราง Goldenpass ที่ Les Avants 
กลับมาเก็บตก Montreux ไปนอน Interlaken แวะเที่ยว Unterseen รีวิว Rugenpark B&B” กันค่ะ

เช้านี้เราต้อง บาย บาย รร. Golf-Hotel Rene Capt Montreux กันละค่ะ  
Check out ออกจาก รร. โดยฝากสัมภาระไว้ก่อน
เราจะไปขึ้น GOLDENPASS CLASSIC ที่สถานี Montreux เพื่อไปขึ้นรถราง Goldenpass ที่ Les Avants จ้า

ไปรอบนี้จ้า


รายละเอียดป้ายที่จอดแต่ละป้ายค่ะ



เหมือนเดิมค่ะ
ออกจากรร.“Golf Hotel Rene Capt”
ข้ามฝั่งมาขึ้นรถบัส 201 ตรงข้าม รร. ค่ะ
ตามภาพนะคะ


ตารางการเดินรถของบัส 201 ป้ายนี้ค่ะ

รถไฟ GOLDENPASS CLASSIC มารอละค่ะ

ลองเข้ามาดูด้านในกันนะคะ
เราเลือกนั่งส่วนที่เป็นโต๊ะแแบบนี้เพราะนั่งไปไม่ไกล ได้บรรยากาศอีกแบบ
และเราจะได้หม่ำของได้ง่ายๆอะค่ะ


ใช้เวลาเดินทางจาก Montreux ไป สถานี Les Avantsประมาณ 21 นาที
9.05 ถึงสถานี Les Avants ค่ะ

เราต้องเดินไปสถานีรถราง ซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ
ตามภาพเลยค่ะ

ถึงหน้าสถานีรถรางละคะ
เดินมานิดเดียว

หาข้อมูลของ Les Avants เพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
//www.goldenpass.ch/goldenpass_funiculaire_les_avants_sonloup

ส่วนอันนี้ ลองเข้าไปดูรูปเล่นๆค่ะ
//www.lesavantsfuni.ch/

ตอนเช็คราคาจากเวป goldenpass
Ticket : Les Avants - Sonloup (2nd class) 10CHF/Pax
แต่วันที่ไป หรือเพราะเป็นวันเสาร์ ......เงียบมากอะค่ะ
สถานีเหมือนปิด แต่รถรางจอดอยู่ ไม่มีคนเก็บตั๋ว
เราเลยลองขึ้นไปนั่งรอดู

เนื่องจากดูเวลาจากเวป Sbb มาล่วงหน้าเลยทราบว่ารถรางออกทุกๆ 20 นาทีค่ะ


พอถึงเวลา รถรางขยับออกอัตโนมัติอะค่ะ 


อันนี้เป็นในรถรางค่ะ
อันนี้เป็นวิวระหว่างทางจ้า
พร้อมหน้าตารถที่พาเราขึ้นมาค่ะ

ขึ้นมาถึงด้านบนละคร๊าาาา
เราชอบที่นี่นะคะ เป็นส่วนตัวดี ตรงที่ไม่มีคนเดินวุ่นวาย
แถมมีจุดชมวิวให้เราหม่ำอาหารเช้ากันแบบชิวๆ

มาเดินดูรอบๆสักนิดค่ะ
เดินขึ้นไปนิด เจอหิมะกองโต เลยเข้าไปย่ำเล่นสักหน่อย

ด้วยความว่าฝั่งนี้ในวันนั้นหิมะปกคลุมทำให้เดินไปไหนไม่ได้อะค่ะ

เราเลยเดินกลับมานั่งชิวชมวิว หม่ำๆค่ะ
เหลือบไปเห็น คนที่นี่เอาน้องหมาออกมาฝึกค่ะ
เก่งมากเลย วิ่งไปเก็บของบนพื้นชันๆ

ลองถ่ายแบบPanoramaเล่นๆ

หลังจากอิ่มท้อง
เราลงไปเดินรอรถไฟกลับMontreuxที่Les Avantsกันค่ะ

เมืองเงียบมากๆค่ะ แต่บ้านเรือนน่ารักดีคะ
หน้าสถานีมีร้านอาหารอยู่ร้านนึง แต่วันนั้นปิดอะค่ะ

10.47 ขึ้นรถไฟกลับMontreuxจ้า

จอดแต่ละสถานีตามนี้นะคะ


11.13 ถึงสถานีMontreux

แวะเดินเล่นเก็บตกกันอีกนิดค่ะ
เราเริ่มเดินเล่นตั้งแต่จากสถานีข้ามมาป้ายMontreux, Escaliers de la Gare
ละเดินเลียบทะเลสาปไปจนถึงโรงแรมค่ะ

วิวหน้ารร.Grand Hotel Suisse ริมทะเลสาปค่ะ
มีคู่รักมานั่งSweet เลยติดในภาพด้วย อิอิ ทำให้ภาพดูมีชีวิต ชีวาขึ้นเลยค่ะ

เดินไปอีกหน่อยจะเห็นท่าเรือค่ะ

ชัดๆค่ะ

ที่นี่น่ารักอะ่คะ จัดแต่งต้นไม้เป็นTheme "Smurf"


เดินไปถึงรูปปั้นของ Freddie Mercury ที่อยู่ใกล้กับ Place du March ลานกลางเมือง Montreux มีระเบียงวงกลมยื่นไปกลางน้ำไว้นั่งเล่น ชมวิวค่ะ

คุณ Freddie Mercury เท่ห์มากเลยอะค่ะ
เดินขึ้นไปอีกนิด จะเจอ Migros กับ McDonaldนะคะ
แวะฝากท้องกันได้จ้า

เดินมาสักพักจะเจอ Casino


ตลอดทางเจอวิวทะเลสาปงามๆ
บรรยากาศโรแมนติกมากๆเลยค่ะ

ในที่สุดก้อมาถึงด้านหลังของรร.Golf Hotel Reneละคะ


หลังจากเอาสัมภาระที่ฝากไว้
เราก้อลากกระเป๋ามารอรถบัส201ฝั่งตรงข้ามรร.เหมือนเดิมค่ะ 

ไปถึงสถานีMontreux
เพื่อขึ้นรถไฟGoldenpass Classicไปลง Zweisimmenก่อน แล้วค่อยไปเปลี่ยนขบวนต่อไปInterlaken Westค่ะ

รถไฟออก 13.44
เราเอาแพลนที่เราทำไว้มาให้ดูค่ะ



คราวนี้เรานั่งตู้นี้ค่ะ
เพราะจะนั่งแบบสบายๆบ้าง


วิวระหว่างทางค่ะ
สวยสมกับเป็นGoldenpass Lineจริงๆ
ช่วงที่ไป เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนฤดู เลยได้2บรรยากาศอะค่ะ...หิมะยังไม่หมด กับทุ่งยังแห้ง ไม่เขียวสวย

15.32  ลงเปลี่ยนขบวนที่  Zweisimmenกันค่ะ
รถไฟสองคันมาจอดใกล้กันเลย เดินลงแล้วขึ้นขบวนถัดไปได้เลยคะ

หน้าตาขบวนที่เราจะขึ้นจ้า

15.38  รถออกจาก Zweisimmenเพื่อไป Interlaken West



พยายามหาที่นั่งฝั่งซ้ายของทางที่รถไฟวิ่งนะคะจะได้เห็นวิวทะเลสาป
วิวประมาณนี้คะ

16.43  ถึง Interlaken West ละค่ะ

เราจะเข้าไปเก็บของที่รร . กันก่อนออกมาเที่ยวค่ะ

มาดูวิธีเดินทางไปรร.Hotel Rugenpark B&B ที่เราเตรียมไปก่อนนะคะ

อันนี้ภาพประกอบจริงๆค่ะ

ออกมาจากสถานีรถไฟเลี้ยวขวา
เดินตรงไปยังไม่ต้องข้ามฝั่งก้อได้ค่ะ
จนเลยMigros


ตรงนี้เป็นภาพบริเวณวงเวียนค่ะ
เดินตรงผ่านวงเวียนไป ตามรถในภาพไปค่ะ ละค่อยข้ามฝั่ง

พอข้ามถนนมา มองย้อนกลับไปจะเห็นภาพนี้จ้า

เดินตรงไปเรื่อยๆค่ะจะเจอภาพด้านล่างตามลำดับค่ะ


ภาพที่4 คือHotel Rugenpark B&B ค่ะ 





Create Date : 28 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 15:43:34 น.
Counter : 389 Pageviews.

0 comment
เที่ยวสวิส ง่ายนิดเดียว--วันที่2 Gruyeres ชมยอดเขาLe Moleson แวะปราสาทChillonเที่ยวVevey-ตอน3
ต่อจาก ตอนที่2 นะคะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=naughtyp&month=27-04-2014&group=1&gblog=9


เราจะไปเที่ยวMount Pelerin หนึ่งในเส้นทาง Goldenpass โดยรถราง ที่อยู่Vevey กันก่อนไปเดินเล่นในเมืองค่ะ
เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ดังนั้นเราเลยต้องต่อรถไฟไปลง Vevey-Funi กันก่อนจ้า
16.09  ขึ้นรถไฟ จาก Vevey ไปลง Vevey-Funi 

16.10  ถึงVevey-Funi

พอถึงป้ายVevey-Funi  เรางงๆว่าจะไปขึ้นรถรางที่ไหนหว่า
นั่งงงอยู่พักนึง หันหลังให้รางรถไฟเหลือบไปเห็นรางวิ่งรถรางที่อยู่ตรงข้าม
เหลือบตาไปทางขวาเจอป้ายติดตรงกำแพงว่าเป็นสถานีรถราง
ด้วยความที่มัวแต่วิ่งข้ามถนนเลยไม่ทันถ่ายรูปอะคะ

เดินเข้าไปจะเจอเจ้ารถรางจอดอยู่ค่ะ

Swiss Pass ขึ้นฟรีค่ะ

ตอนเราไป ต้นไม้ ใบหญ้า ยังแห้งอยู่

ดังนั้น เจ้าวิวต้นองุ่น2ข้างทางเลยยังไม่สวยเลยอะค่ะ
ถ้าเพื่อนๆมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นองุ่นจะงาม วิวคงสวยมากๆ

ถึงด้านบนละค่ะ

คนที่ขึ้นมาด้วยกันส่วนใหญ่เห็นเดินเข้าร้านอาหารนี้ออกจากสถานีรถรางมาเจอเลยค่ะ
สงสัยจะมาทานข้าวดูวิวพระอาทิตย์ตกกัน

เพราะเค้ามีส่วนที่เป็นopen air วิวประมาณนี้อะค่ะ

เดินดูรอบๆค่ะ

ที่นี่มีเลี้ยงกวางด้วยค่ะโดยจะขังไว้บนเนินตามรูปอะค่ะ
หลังจากเดินเล่นบน Mont Pelerin เสร็จแล้วก้อเดินกลับมาที่สถานีรถราง Vevey-Funi
เราจะลงไปเที่ยวในเมืองกันละค่ะ

ตารางรถเราเผื่อให้ดูหลายๆรอบจ้า
แต่เราเลือกลงเวลา17.06 ถึง ด้านล่าง 17.17 เพื่อนั่ง รถบัส กลับ สถานี รถไฟ Vevey แล้วไปเดินเล่นในเมืองค่ะ
สถานีรถบัส201ที่จะเข้าไปเที่ยวในเมือง พอลงมาจากรถรางจะเจออยู่ด้านหน้าเลยค่ะ
ถ่ายไม่ทันอะค่ะ รถบัสมาพอดี ต้องรีบกระโดดขึ้น

เราขึ้นรอบ17.20 
ถึง สถานี Vevey,Gare 17.24 ค่ะ
ถึงแย้ววววค่ะ
ตอนแรกว่าจะไปตามจุดที่markไว้ ตามภาพ

ตามแพลนด้านล่าง

แต่ในที่สุดก้อไปไม่ตรงเท่าไหร่ค่ะ อิอิ
เราดันเดินไปตามคลองแทนอะค่ะ จุดที่เป็นรูปดาว
วิวตอนเย็นๆ เดินเลียบคลองเพือไปทะเลสาป สวยใช้ได้เลยค่ะ


เย้ๆ ถึงทะเลสาปแล้ววววคร๊า
เดินเลียบทะเลสาปไปเรื่อยๆ จะเจอภาพตามเรียงลำดับตัวเลขค่ะ


เราเดินไปถึงเจ้าส้อมยักษ์สูง 8 เมตรที่อยู่ในทะเลสาป
ที่ตรงข้ามเป็นสำนักงานใหญ่บริษัทเนสเลต์ ยักษใหญ่แห่งวงการอาหารAlimentarium: Musée de l’alimentation 
และรูปปั้นนักแสดงตลกชื่อก้องโลก “Charlie Chaplin” 
แล้วก้อหมดแรงอะค่ะ พระอาทิตย์เริ่มตกแล้วด้วย
กลับMontreuxกันดีกว่าค่ะ
เดินทะลุถนนข้างๆสำนักงานใหญ่บริษัทเนสเลต์ Alimentarium
ออกไปจะเจอป้าย Hôtel de Ville ค่ะ


อันนี้เป็นตารางเดินรถค่ะ


เราไปลงป้าย Montreux, Casino เพื่อจะแวะซื้อของที่Coopตรงบริเวณป้ายค่ะ


อันนี้เป็นเวลาเปิด-ปิดค่ะ


สรุปที่Montreuxเท่าที่เห็นมีร้าน Coop อยู่2ที่นะคะ
คือ ที่ใกล้ๆสถานีรถไฟ ซึ่งอันนี้จะเล็กหน่อย
และบริเวณป้าย Montreux, Casino ตรงนี้จะใหญ่ค่ะ

ส่วนMigros และ McDonald จะอยู่ริมทะเลสาปใกล้ๆกับรูปปั้นของ Freddie Mercury ค่ะ

สำหรับ Casino (มีทุกเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลยค่ะ)
ที่นีไม่เสียค่าเข้าค่ะ แต่ต้องพกPassportไปด้วยนะ ที่สำคัญห้ามใส่หมวกนะคะ
ปล.การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะคะ แค่เข้าไปดูเป็นประสบการณ์ อิอิ

หลังจากซื้อของเสร็จก้อเดินกลับรร.ค่ะไม่ไกลเลย
ชมวิวเรียบทะเลสาปไป หรือจะเดินด้านบนถนนก้อได้ค่ะ
จบทริปของวันนี้ละค่ะ  



Create Date : 28 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 11:44:29 น.
Counter : 916 Pageviews.

0 comment
เที่ยวสวิส ง่ายนิดเดียว--วันที่2 Gruyeres ชมยอดเขาLe Moleson แวะปราสาทChillonเที่ยวVevey-ตอน 2
ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ เพราะเนื้อที่เขียนไม่พอจ้า
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=naughtyp&month=10-04-2014&group=1&gblog=6
เสียดายที่เรามีเวลาจำกัด เพราะกะจะทำตามแพลนที่วางไว้ ยังต้องไปอีกหลายที่อะค่ะ
เลยพลาดโอกาสชิม fondue ของที่นี่แหล่งผลิตชีสชื่อดัง แอบมองร้าน Le Chalet กับ Jerrasse du Chaletไว้ แต่ก้ออด

เพื่อนๆคนไหน มีโอกาศชิมมาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ

ต้องทำเวลากันน่าดูอะคะ ประเมินเวลามาผิด 1 ชม.ไม่พอจริงๆ แทบจะกลายเป็นชะโงกทัวร์
เพราะเราต้องไปขึ้นรถไฟให้ทันรอบ12.59อะค่ะ

เดินกลับมาขึ้นรถบัสที่จอด ป้ายที่เราลงมา ตรงGruyères, ville ค่ะ
เอารูปอีกที กันลืมนะ

ส่วนนี่เป็นตารางเวลาออกรถบัส 263

รถบัสออกเวลา12.51 ถึงGruyères, Gare12.54ค่ะ      
ด้วยเวลาจำกัดสิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่าง คือไม่ได้แวะ
La Maison du Gruyère โรงงานผลิตเนยแข็งชื่อดังของที่นี่ค่ะ
ออกมาหน้าสถานีรถไฟก็เห็นโรงงานเลย เป็นร้านาอาหารด้วยนะคะ


หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ //www.lamaisondugruyere.ch
รถไฟมาแย้ววววค่ะ


12.59 รถไฟออกจาก Gruyères คะ 
13.20 ถึง Montbovon เพื่อเปลี่ยน ขบวน กลับไป Montreux ค่ะ
13:28 รถไฟ D 2119 GOLDENPASS PANORAMIC ออกจาก Montbovonค่ะ
ด้วยความที่จะมี2ขบวนมาไล่ๆกัน
เราไม่แน่ใจว่าต้องขึ้นPlatformไหน เพื่อความปลอดภัยจะได้ไม่ผิดขบวน
ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าค่ะ

14.13 รถไฟถึง Montreux แวะซื้อเสบียงที่ Coopกันสักหน่อยคะ
เพื่อเตรียมตัวไปชม Chateau de Chillonกันค่ะ

เราจะเดินทางด้วยรถบัส No. 201 ที่ป้าย Escaliers de la Gare ค่ะ
อย่างที่เคยบอก....ออกจากสถานีรถไฟ  ต้องเดินข้ามถนนลงบันไดไปจะเจอป้ายค่ะ
โดยป้ายนี้รถบัส 201 จะมาจากรร.เพื่อมาขึ้นสถานีรถไฟ

แต่ถ้าจะไป Chateau de Chillon จะอยู่ตรงข้ามป้ายนี้ก้อเรียก Escaliers de la Gare เหมือนกันค่ะ โดยเราต้องข้ามถนนอีกที

ส่วนใหญ่ป้ายชื่อเดียวกันจะมี2ป้าย ซึ่งจะอยู่ตรงข้าม เยื้องๆกันค่ะ
แบบว่ารถบัสวิ่งวนรอบเมืองอะค่ะ

เอาตารางการเดินรถบัส 201 ของป้ายนี้มาฝากกันค่ะ
ก่อนจะขึ้นรถบัส เรามาเล่าสู่กันฟังเรื่องข้อควรระวังก่อนนะคะ
พอดีมีเพื่อนที่อยู่สวิสเตือนว่า
อย่าชะล่าใจนะ เพราะเวลาขึ้นบัส อาจไม่เห็นต้องโชว์บัตรให้คนขับ
เพราะส่วนใหญ่เราจะขึ้นกลาง หรือ ท้ายรถ
แต่จะมีพนักงานใส่ชุดเที่ยวแบบเราๆ ปะปนอยู่กับผู้โดยสาร
ถ้าขอตรวจแล้วพบว่าแอบขึ้นฟรี หรือ ซื้อบัตรผิด มีค่าปรับนะคะ

โชคดีว่าเราพกSwiss Passติดตัวก้อไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ค่ะ
14.34 ขึ้นรถเมล์สาย 201 ไปลงที่ป้าย Chillon ด้านหน้าของ Chateau de Chillon ใช้เวลาประมาณ 9นาทีค่ะ
เดินเข้าไปชมรอบๆกันค่ะ

                   มีสวนอยู่ด้านหน้าอะค่ะ       
มาดูปราสาทเคียงคู่ทะเลสาปบ้างค่ะ
เสียดายอีกแล้วที่ไม่ได้เข้าไปเดินด้านในอะค่ะ
เพราะคุณแฟนไม่อยากเข้า เราเลยได้แต่ถ่ายรูปแค่ด้านนอก ชิวๆไปค่ะ
Swiss Pass เข้าฟรี
แต่สำหรับคนที่ไม่มีราคา CHF12.5 ค่ะ

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า

หลังจากเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปกันจนหน่ำใจเราจะไปขึ้นรถไฟไปเมือง Vevey กันค่ะ
เดินออกมาที่ทางเข้าแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอป้ายนี้ค่ะ

เอามาให้ดูชัดๆค่ะ
เราจะไปขึ้นรถไฟที่สถานี Veytaux-Chillonห่างจากปราสาท 300 เมตร ค่ะ
นอกจากรถไฟจะไปโดยเดินไปขึ้น Bus 201 ที่ Veytaux, Gare ก้อได้นะคะ
แต่ถ้านั่งบัสไปใช้เวลา33นาที เราเลยเลือกนั่งรถไฟเพราะแค่13นาทีอะค่ะ


เดินไปตามทางเดินเลียบทะเลสาปและเลียบทางรถไฟค่ะ
สักพักจะเจอป้ายSortie ทางเข้า (เราใส่รูปดาวสีฟ้าไว้ให้ค่ะ)
เงยหน้าขึ้นจะเจอสถานีVeytaux-Chillonอยู่ข้างบนค่ะ






Create Date : 27 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 11:44:09 น.
Counter : 624 Pageviews.

0 comment
พาไปชิม Lunch Buffet ที่ Flavors @ Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel กันค่ะ

สวัสดีคะเพื่อนๆ
หลังจากคราวที่แล้ว
เราพาไปชิม Dinner Buffet at Latest Recipe @ Le Méridien Bangkok มา
//pantip.com/topic/31930299

วันนี้เราจะพาไป Lunch Buffet กันที่ Renaissance กันบ้างค่ะ
ปล.วันที่ไปทาน คือ 26/4/2014 จ้า

ด้วยความที่จะนัดสังสรรกับเพือนๆที่ไม่ได้เจอกันนาน
หลังจาก Vote กันอยู่นานว่าจะไปหม่ำ Buffet ที่ไหนดี ก้อมาลงตัวที่นี่
แล้วเราก้อเริ่ม check โปรโมชั่นกันค่ะ

1.เริ่มจาก Ensogo



ราคา 769 บาท สำหรับบุฟเฟต์นานาชาติมื้อกลางวัน(ไม่รวมเครื่องดื่ม) สำหรับ 1 ท่าน วันจันทร์–เสาร์: 11.30 น.–14.30 น. (มูลค่า 1,283 บาท)
ราคา 1,119 บาท สำหรับบุฟเฟต์ดินเนอร์นานาชาติ พร้อมน้ำดื่ม ชา และกาแฟ 1 ท่าน วันอาทิตย์–พฤหัสฯ:18.00 น.–22.30 น. (มูลค่า 1,872 บาท)
ไม่สามารถใช้ Sunday Brunch และ Dinner ศุกร์-เสาร์ค่ะ


2.โทรเช็คร้าน Flavors ที่โรงแรม ว่ามีโปรโมชั่นอะไรบ้าง
ได้ความว่า
มีโปรร่วมกับบัตรเครดิตกรุงศรีทุกประเภท รวมCentral Credit Card กับ บัตร SCB Platinum ค่ะ
สำหรับ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อกลางวันและมื้อค่ำ วันจันทร์ – อาทิตย์ (ยกเว้น ซันเดย์ บรั๊นช์)
มา 2 จ่าย 1 หรือ มา 2 ท่าน ลด 50% สำหรับบุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อกลางวันและมื้อค่ำ


หมดเขตประมาณเดือน มิถุนายน 57
สรุปง่ายๆตามนี้นะคะ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อกลางวัน (วันจันทร์ – เสาร์)
ราคาเต็ม1283 บาท ลด50% เหลือ641.50บาท
ไม่รวมเครื่องดื่ม ฟรีแค่ชา กาแฟนะคะ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อกลางวัน (วันอา.) Sunday Brunch
ราคาเต็ม1987บาท ลด50% เหลือ993.50บาท
ไม่รวมเครื่องดื่ม ฟรีแค่ชา กาแฟนะคะ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อค่ำ (วันศุกร์ – เสาร์)
ราคาเต็ม 2225บาท ลด50% เหลือ1112.50บาท
รวมน้ำ ชา กาแฟฟรีนะคะ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติ มื้อค่ำ (วันอา.-พฤหัส)
ราคาเต็ม 1872บาท ลด50% เหลือ936บาท
รวมน้ำ ชา กาแฟฟรีนะคะ
หลังจากพิจารณากันแล้ว
เราเลยเลือกใช้โปรบัตรเครดิตกันคะ

ปล.ลืมบอกกรณีมีเด็กๆไปด้วย
ถ้าต่ำกว่า 4ขวบ ฟรีค่ะ แต่ถ้ามากกว่าจ่าย50% จากราคาปกตินะคะ
ก่อนจะเข้าไปทานอาหาร
เรามาทราบรายละเอียดของร้านสักนิดนะคะ

Location:



ร้านFlavors อยู่ชั้น M
Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel
518/8 ถ.เพลินจิต กรุงเทพฯ 10330
โทร: 02-125-5010
อีเมล: bkkbr.fb.sales.mgr@renaissancehotels.com

เวลาเปิด-ปิด
Lunch buffet
Daily from 11.30 am. - 14.30 pm.

Dinner buffet
Daily from 18.00 – 22.30 hrs.
ห้องอาหารอยู่ชั้น M ค่ะ สามารถขึ้นลิฟท์
หรือเดินขึ้นบันไดทาง Lobby ได้เลยค่ะ

ถึงละคะ
Flavors
สำหรับที่นั่ง
ห้องอาหารมีการจัดโซนที่นั่งหลายสไตล์ค่ะ
พอดีกะจะรีบถ่ายรูปอาหาร เพราะคนเริ่มเยอะเลยไม่มีรูปที่นั่งชัดๆมาให้อะคะ

ถ้ามากันหลายๆคนก้อมีโต๊ะยาวให้นั่งได้ 8-10คน
ถ้ามาเป็นคู่ก็สามารถนั่งโต๊ะเล็กได้ค่ะ
ตามเข้ามานั่งที่โต๊ะกันค่ะ
อันนี้จะเป็น Set up โต๊ะนะคะ

มาดูที่ไลน์อาหารกันบ้างค่ะ
โซนอาหารมีหลายโซนให้เลือกทาน และอาหารหลากหลายทีเดียว

เริ่มจากหน้าประตู ซึ่งเป็นโซนโปรดสุดๆ ของเราค่ะ

โซน ของหวาน


ที่นี่มีขนมน้ำของไทยเช่น ทับทิมกรอบ สลิ่ม ฟักทองแกงบวด เป็นต้น
ผลไม้สดให้เลือกมากมาย


และHilight คือข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ


ส่วนพวกเค้กต่างๆ ก็มากมาย อลังการ


ไม่ว่าจะเป็นมูสช็อกโกแลต กาแฟ สตอรเบอรี่
เค้กช็อกโกแลต เค้กมะม่วง เค้กชาเขียว เค้กผลไม้
ทารต์ผลไม้ หน้าต่างๆอีกหลายอย่าง
ดูจากภาพเลยดีกว่าค่ะ มากมายดีจริง......สวรรค์ของคนชอบของหวานกันเลยทีเดียว!!!!

ถัดมามีโซนไอศกรีม ซึ่งมีด้วยกัน4 รส Chocolate /Vanilla/ส้ม/มะนาวพร้อมท็อปปิ้งเยอะแยะ




นอกจากนี้ยังมีซอสราดหลากหลายรสให้เลือกแต่งแต้มไอศกรีมของเราให้น่าหม่ำมากขึ้นด้วยนะคะ


ถ้าใครไม่อยากใส่ถ้วย มีแบบโคนให้เลือกด้วยนะคะ



อันนี้ถ้วยไอศกรีมของเราค่ะ


ความเห็นส่วนตัว:

เค้กรสชาติดี ไม่หวานเกินไป ทำให้ไม่เลี่ยน ทานได้เรื่อยๆ
ไอศกรีมโดยเฉพาะ Sorbet ไม่เปรี้ยวปรี๊ด กำลังดี เสียดายน่าจะมีไอศกรีมหลากหลายกว่านี้สักนิดค่ะ
ข้าวเหนียวมะม่วง โอเคเลยค่ะ มะม่วง หวาน หอม อร่อยจิง
เสียอย่างเดียว ทับทิมกรอบ ไม่กรอบสมชื่อ กับน้ำกะทิไม่เข้มข้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะวันนี้รึป่าวนะคะ

มาดูกันชัดๆค่ะ ว่าน่าทานขนาดไหน
ถัดจากโซนของหวานมาจะเป็นโซน
โซนสลัดต่างๆ


มีผักให้เลือกหลากหลาย เช่น Red /Green Oak,Red/Green Coral,Rocket ,Cos

เลือกผักเสร็จเราก้อเอามาใส่ลงในชามไม้ใบใหญ่ตามภาพ


เลือกน้ำสลัดที่ชอบจะเป็น Thousand Dressing/French Dressing/Sesame Dressing
ใส่ลงไปคลุกให้เข้ากันตักใส่จานเรา ไปทานที่โต๊ะจ้า

ตรงจุดนี้ยังมีสลัดฝรั่งที่ปรุงไว้แล้วประมาณ6 อย่างทำไว้ให้ชิม
รสชาติดีทีเดียวเลยค่ะ



ดูจากในภาพ ในจานหมดเกลี้ยงเลยอะคะ
ถัดมาเป็นโซนซูชิ, ซาชิมิ ค่ะ


ข้าวปั้นหลากหลายหน้า ปลาหมึก ปลาดิบสดดีคะ มีเครืองเขียงหลายชนิดเหมือนกัน
ข้างๆเป็น
โซนอาหารทะเล

กุ้งแกะเปลือกเรียบร้อยวางเรียงบนน้ำแข็ง ง่ายต่อการหม่ำมากๆ
พร้อมหอยแมลงภู่ และซอสซีฟู๊ดรสแซ่บ



เสียดายอาหารทะเลไม่ค่อยอลังการ....ไม่มีปูอะค่ะ
ไม่รู้เพราะเป็นLunch Buffet รึป่าวนะ

มาดูกันใกล้ๆกับอาหารในจานของเราค่ะ

โซนอาหารอินเดีย

สำหรับคนที่รักเส้น ก็ต้องไม่พลาด
โซนพาสต้า


โดยจะมีเส้นให้เราเลือกประมาณ 3ตัวค่ะ
เลือกเส้นเสร็จเราก้อบอกให้เชฟทำซอสที่ต้องการค่ะ
ปล.มีที่ทำเตรียมไว้2ถาด รสชาติอร่อยดีค่ะ ชอบตัว คาโบนาราจัง

ของเราสั่งเพนเน่พริกกระเทียมค่ะ
หน้าตาแบบนี้



ความเห็นส่วนตัว: เพนเน่พริกกระเทียมเหมือนจะติดหวานไปนิด
ละรสชาติยังไม่ค่อยเข้าเนื้ออะค่ะ
มาถึง โซนเส้น พวกก๋วยเตี๋ยว


โซนนี้เราสามารถเลือกส่วนผสมเอง  ซึ่งมีทั้งผักต่างๆ ลูกชิ้น หมู
และเลือกเส้นที่ต้องการ เช่นเส้นเล็ก เส้นหมี่ บะหมี่
พนักงานจะทำการลวกเส้น ลวกผัก เนื้อต่างๆให้
แล้วพอเสร็จเราก็ตักน้ำซุปด้านหน้าใส่ชามเองค่ะ
มีซุบต้มยำ กะ ซุปน้ำใสให้เลือกจ้า

เครื่องต่างๆที่มีให้เลือกจ้า

ต่อมาเป็น
โซนสเต็ก



จะมีเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ทำสุกสไลด์บางๆ พร้อมเครื่องเคียง เช่น มันฝรั่ง แครอทสุก
พร้อมซอสให้เลือกราด
นอกจากนี้จุดนี้ยังมีซุปข้นผัก อีก 1หม้อให้เราเลือกตักเองค่ะ

หน้าตาซุปข้นผักค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
โซนอาหารไทย

ตรงนี้จะมีข้าวสวย และ อาหารจานเดียว อีก 3 ถาด
รวมทั้งพวกน้ำพริก ยำ ส้มตำ ค่ะ

"โซนขนมปัง-Cheese-ซาลามี่ แฮม สไลด์"




ส่วนอีกด้านจะ มีชีสหลายประเภทจัดเรียงไว้ และพวกซาลามี่ แฮม สไลด์ บางๆวางบนจาน ตามภาพค่ะ


😊 ความเห็นส่วนตัวนะคะ😊

บรรยากาศ :บรรยากาศดีค่ะ ห้องโปร่งโล่ง มีโซนให้เลือกนั่งหลายแบบคะ

บริการ: น้องๆพนักงานบริการดี ตามมารตฐานของรร. แต่เชฟไม่ค่อยยิ้มแย้มสักเท่าไร สงสัยเพราะยุ่งมากๆ

อาหาร: ชอบของหวานที่นี่มากๆ อลังการดีจริงๆ รสชาติก้อดี ไม่หวานเลี่ยนมาก
เสียดายที่มื้อกลางวันอาหารทะเลแลดูน้อยไปสักนิด แต่ความหลากหลายของอาหารใช้ได้เลยค่ะ

ราคา:ในความรู้สึกคิดว่าคุ้มค่าเม็ดเงินที่เสียไปนะคะ
ถ้าจ่ายด้วยโปรบัตรราคาเต็ม1283 บาท
ลด50% เหลือ641.50บาท
ราคาไม่รวมเครื่องดื่ม ดังนั้นจะมีจ่ายเพิ่มตรงน้ำเปล่าค่ะ
สนนราคาอยู่ที่ 40 บาทต่อขวดยังไม่รวมvat7%กับService Charge10%ค่ะ


จบรีวิวสำหรับ Flavors @ Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังอยากจะหาBuffetอร่อยๆทานนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ



Create Date : 27 เมษายน 2557
Last Update : 27 เมษายน 2557 22:51:01 น.
Counter : 1649 Pageviews.

2 comment
1  2  3  

NaughtyP
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments
All Blog