Group Blog
 
All blogs
 

is a choice you make


ชุดชา 5 ชนิดในกล่องหนังสือ คือของขวัญคริสต์มาสสำหรับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกลุ่มแรก



เมื่อวาน มีข่าวซีเรียส แต่ฮา..หลายข่าว ให้อ่านแล้ว 'อมยิ้ม'
โดยเฉพาะที่เมือง CORONA
ซึ่งหัวขโมย "พัสดุ" ในช่วงเทศกาลจะชุกชุมมากกกกกก

ปีนี้ชาวเมืองเลยจัดการสั่งสอนหัวขโมยด้วยการ
จัดการ 'ปลอมพัสดุ' แล้ววางไว้แถวระเบียงหน้าบ้านบ้าง ริมประตูนอกบ้านบ้าง

คือทำเหมือนที่ปกติไปรษณีย์ หรือว่า UPS มักชอบท
นั่นคือ เวลามาส่งของ แล้วพบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน ก็จะวางพัสดุไว้หน้าบ้าน
(ยกเว้น FedEx ที่ไม่ทำอย่างนั้น (เท่าที่เจอมาส่วนตัวนะ))


ทีนี้ ชาวเมืองคนหนึ่งก็จัดการ "สั่งสอน" เลย
ด้วยการเอากล่องพัสดุจากไปรษณีย์ มา
จัดการใส่ 'ขี้หมา' แถมไดเปอร์ที่ใช้แล้วของลูกชายวัย 2 ขวบ
แบบอัดแน่นลงในกล่อง

แล้วทำป้ายชื่อผู้รับผู้ส่งติดไว้ แบบปลอมป้ายส่งของได้เนียนมาก

มีขโมยมาติดกับจริง ๆ
และตำรวจก็จับได้จริง ๆ 3 คนแน่ะ (เพราะติดกล้องดักจับไว้)

ผลคือ เป็นข่าวดังเลย 'Package of Poop on the Porch Week'
ติดคุกนานแน่

เพราะการขโมยพัสดุ หรือจดหมายของคนอื่นในอเมริกา
ถือเป็นคดีอาญา ติดคุกสถานเดียว

ก็หวังว่า เมื่อข่าวนี้ออกไป จะทำให้พวกที่ดักขโมย 'พัสดุของขวัญคริสต์มาส'
..ลดน้อยลงจนหมด

...

เมื่อวานอีกเช่นกัน ที่ Obama มาแอลเอ
แว่วว่า เป็นจุดแวะเติมน้ำมันเครื่องบิน
ระหว่างทางบิน พาครอบครัวไปพักหนาวที่ฮาวาย
แล้วเลยแวะเยี่ยม 14 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงศูนย์ช่วยเหลือคนพิการในซานเบิร์นฯ

โดยให้แต่ละครอบครัว นั่งกันคนละโต๊ะในงานเลี้ยง
แล้วโอบาม่าก็เดินแวะไปคุยด้วยตามแต่ละโต๊ะ
ใช้เวลาคุยโต๊ะละ 10 นาที
ครบ 2 ชั่วโมงที่ประธานาธิบดีมีเวลาว่างพอดี

อ่านข่าวแล้วเจอว่ามีคน "ด่าตรึม" เลยว่า..ทำไม
ประธานาธิบดีถึงไม่ไปเยี่ยมคนที่รอดชีวิตด้วยล่ะ

อืมมมม โน คอมเม้นท์ดีกว่า
เพราะแค่เห็นรถโอบาม่าประมาณ 10 กว่าคันในขบวน แล่นผ่าน
ก็แสบแก้วหูแล้ว เนื่องจากเสียงไซเรนดังมากกกกกก

(บังเอิญอยู่บนฟรีเวย์อีกฝั่งตอนจะไปซื้อของขวัญคริสต์มาสน่ะ)


พูดถึงคริสต์มาส ถึงจะยังไม่ทันเริ่ม
แต่ LA County ก็ประกาศแคมเปญ the Winter Holiday DUI แล้วว่า
ปีนี้จะทำตลอด 17 วัน
โดยจะมี 38 จุดตรวจ และ 54 หน่วยลาดตระเวน

ด้วยเหตุผลเดียว
เพื่อว่าจะทำให้คนรักการดื่ม ได้ "คิด" ว่า เมาแล้วต้องไม่ขับ

เพราะกฎหมาย DUI มันรุนแรงมากก็จริง
แต่การป้องกันก่อน ก็ดีกว่าปล่อยให้มีคนเจ็บและตายจากพวกเมาแล้วขับ

...จำได้ว่า ปีก่อนเคยผ่านจุดตรวจแบบนี้ตอน 2 ทุ่มนิด ๆ
พบว่า ก็ดีนะ ตรวจละเอียดดี แต่รถติดชะมัดยาดเลย
คนไม่ชอบจะออกไปเมา พอเจอรถติดยาวเหยียด ก็เลยอยู่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่




 

Create Date : 20 ธันวาคม 2558    
Last Update : 20 ธันวาคม 2558 9:30:12 น.
Counter : 640 Pageviews.  

but it wasn't enough


สถาบัน Le Cordon Bleu จำนวน 16 สาขาในอเมริกา
ปิดตัวลงพร้อมกัน ในวันที่ 4 มกราคม 2016
เพราะรัฐบาล "งด" ให้เงินสนับสนุน เนื่องจากไม่ใช่เป็น องค์กรที่ไม่หวังผลกำไร
เพื่อนส่งข้อความมาถาม เพราะฉันเคยถูกบังคับไปเรียน
ประมาณ 3-4 ครั้ง
เนื่องจากบางเชฟคนไทยที่ได้รับเชิญมาสอน
ไม่มีคนสมัครไปเรียน

..ก็ไม่แปลกใจนะ เพราะคิดค่าเรียนแพง

แต่เจ้าหน้าที่สถาบันนี้ จะทำงานต่อเนื่องไปอีก 21 เดือน
เพื่อจะสะสางเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยังอิรุงตุงนัง
รวมถึงเรื่องฟ้องร้อง ที่นักเรียนฟ้องโรงเรียนที่ระบุว่า "การันตีจ๊อบ"
แล้วปรากฏว่า ว่างงาน หรือไม่ได้งานที่ดี

สถาบันนี้เปิดตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส เมื่อปี 1895
แต่ที่อเมริกา เปิดเมื่อไหร่ ขี้เกียจหา

เอาว่า อ่านข่าวนี้แล้วก็เฉย ๆ นะ
โดยเฉพาะในสาขา pasadena ... เพราะมันก็ไม่ค่อยเวิร์ค
(ความคิดเห็นส่วนตัวนะ)

เงินภาษีที่เคยสนับสนุนสถาบันนี้ จะได้เอาไปทำอย่างอื่น
ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม "จริงจัง" มากกว่านี้

เช่น...ที่จนบัดนี้ งบช่วยคนจรจัด 18,000 คน บนท้องถนนแอลเอ
ก็ยังไม่ออก
ทั้งที่ El Niño กำลังจ่อคิวพาพายุฝนเข้ามาแล้ว

แต่ก็ยังดี ที่มีการเปิดโบสถ์บางแห่งในเมืองใหญ่ ๆ 
เพื่อให้คนจรจัดเข้าไปนอนหลบหนาว
เพราะเหตุว่า ช่วงนี้ อากาศหนาวมากกกกกก

ในข่าวบอกว่า ปีนี้ แอลเอหนาวกว่าทุกปีในรอบประวัติศาสตร์
ก็ไม่แปลกใจนะ
ขนาดที่บ้านยังต้องเปิดฮีทเตอร์ เพราะอย่างเมื่อคืน
ลงไปถึง 4 องศาเซลเซียส 

...บ้าไปแล้ว

และไม่แปลกใจอีกแหละ
ที่มีพวกนักเดินป่า ปีนเขา ติดอยู่กลางป่าจนเกือบหนาวตาย

อย่างล่าสุด เจอ 2 คน ที่ไปเดินแถว San Bernardino Mountains
ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตแคลิฟอร์เนียใต้
แล้วเพราะพระอาทิตย์ตกเร็ว และตกวูบทันที
สองคนเลยติดอยู่บนจุดที่อากาศต่ำกว่า ศูนย์

กว่าจะมีคนขึ้นไปช่วยลงมาได้
เขาบอกว่า hypothermia was setting in.
ฟังแล้วสยองนะ กับอาการที่ร่างกายค่อยชา ชา ชา 
จนไม่รู้สึก

ขนาดฉันนั่งในบ้าน แล้วลืมใส่รองเท้าคัททชูแบบขนปุกปุยในบ้าน
แค่สวมถุงเท้าหนา ๆ ปุย ๆ ก็ยังต้านความเย็นที่ทะลุพื้นขึ้นมา
..ไม่อยู่
รู้สึกเลยว่า นั่ง ๆ ไป เท้าก็เริ่มชา ๆ จนต้องคว้าผ้าห่มไฟฟ้ามาพันขา
รอให้ขาอุ่นก่อน แล้วค่อยลุกเดินไปหารองเท้าแตะ
กับเปิดฮีทเตอร์

แล้วนั่น ... ขึ้นไปติดอยู่บนเทือกเขาสูง
รอดตายมาได้ ก็ต้องนอนโรงพยาบาลกันอีกหลายวันเลยล่ะ

...

แต่จะว่าไปก็อยากรู้นะ
ระหว่าง หนาวตาย กับ ร้อนตาย
ไม่รู้อันไหน "ทรมาน" กว่ากัน

ที่แน่ ๆ ปีนี้ เข้าใจคำว่า "หมีจำศีล" จับใจเลยล่ะ
ว่าแล้วก็ลุกไปเติมชา ถือออกไปนั่งจิบกลางแดดดีกว่า




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2558    
Last Update : 19 ธันวาคม 2558 1:58:18 น.
Counter : 684 Pageviews.  

1,355 people left unclaimed


พฤหัสคือวันว่าง ๆ
เลยต้มกาแฟพลาง อ่านหนังสือพิมพ์เป็นเล่ม ๆ ไปพลาง

ข่าวที่แว่บเข้าม่านตาข่าวแรก คือ
เด็กชายวัย 4 ขวบ อยู่โดดเดี่ยวมา 2 วัน
ด้วยนม และน้ำหวาน

เด็กชาวนิวยอร์กคนนี้ อาจจะต้องอยู่นานกว่านี้ ถ้าไม่มีคนเฉลียวใจ
คือ คนที่บริษัทเช่ารถโทรติดต่อแม่ของเด็กชาย

2 วัน ก่อนหน้า พนักงานบริษัทเช่ารถโทรหาแม่เด็กเรื่องเช่ารถอะไรนี่แหละ
เรียกว่าฝากข้อความไว้ 2 วันแล้ว แต่แม่ของเด็กก็ยังไม่โทรกลับ
จนเช้าวันที่ 3 เขาก็โทรอีก
คราวนี้ เด็กชายรับสาย และบอกว่า

"พยายามปลุกแม่แล้วครับ แต่แม่ไม่ตื่น!"

เท่านั้นแหละ หนุ่มที่บริษัทรถเช่าก็ให้เพื่อนช่วยถือสายคุยกะเด็กไปเรื่อย ๆ
ตัวเขากระโดดผลุงไปบ้านเด็กแล้ว
..และโทร 911

ผลคือ แม่เด็กเสียชีวิตเมื่อ 2 วันก่อน

ในข่าวมีประโยคนึงที่เศร้ามาก เขียนว่า
เด็กไม่รู้หรอกว่า ความตายคืออะไร
เขาได้แค่ช่วยประทังหิวด้วยการดื่มนมและน้ำหวาน
แล้วก็ปลุกแม่
..
..

พอข่าวออกว่า แม่เด็กกำลังซื้อผ่อนรถจักรยานให้ลูกชาย
เป็นของขวัญคริสต์มาส
ผู้คนที่ได้ยินข่าวก็พากันส่งของขวัญไปให้เด็ก
รวมถึงเหล่าตำรวจที่บัพฟาโล่ นิวยอร์ก สถานที่เกิดเหตุ
ก็รวบรวมเงินกันซื้อของให้เด็ก

ทุกคน..ต้องการให้เด็กชายผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปให้ได้
และต่างก็หวังว่า เขาจะโตขึ้นเป็น "คนดีมีน้ำใจ"

ตอนนี้เด็กยังอยู่บ้านเด็กกำพร้า
แต่แว่วข่าวว่า ลุงของเด็กจะมารับไปอยู่ด้วยนะ

...

อ่านข่าวเด็กจบลงก็เจอข่าวในแอลเอเอง
ศพไร้ญาติกว่า 1300 ศพ ถูกซิตี้ประกาศเผา
เหล่านี้เป็นศพที่ไม่มีคนมาติดต่อขอรับร่างไปประกอบพิธี
เรียกว่า ญาติไม่ดูดำดูดีนั่นแหละ
เพราะส่วนใหญ่คือศพคนแก่ ที่เสียชีวิตเดียวดายในบ้านตัวเอง
อีกส่วนก็เสียชีวิตในบ้านพักคนชรา
และก็รวมถึงที่เสียชีวิตในโรงพยาบาล
แน่นอนว่า มีศพที่ไม่รู้ชื่อที่พบตามที่สาธารณะ
แต่ส่วนใหญ่ ดูจากรายงานข่าว มีชื่อเสียงเรียงนามนะ

แปลกใจจังว่า ทำไมไม่มีญาติมาติดต่อขอรับศพ

อ่านข่าวแล้วสลดใจ
..เดี๋ยวไปทำบุญให้ดีกว่า

ในข่าวเศร้า มีข่าวน่าอิจฉาด้วยนะ
บริษัทในรัฐเท็กซัส แจกโบนัสเป็นของขวัญคริสต์มาส
ให้กับพนักงานเกือบ 1200 คน เป็น "เงินสด" คนละ 1 แสนเหรียญ!!

ย้ำ!! ของขวัญคริสต์มาส เป็นเงินสดคนละ 1 แสนเหรียญ!!!

.
.
.
วางแก้วกาแฟ ลุกไปเก็บของแพร๊พพพพพพพพพพพ
จะย้ายไปอยู่เท็กซัสแระ




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2558    
Last Update : 18 ธันวาคม 2558 3:12:04 น.
Counter : 572 Pageviews.  

กลางฝูงแกะ [และทางข้าม]


เมื่อเช้าวาน ตื่นมาเจอข่าว "ปิดโรงเรียนทั่วเขตแอลเอ 900 กว่าโรงเรียน"
เพราะเหตุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับ 'อีเมล์ขู่' จะวางระเบิด บุกยิง
และอีกสารพัดที่เข้าข่ายเตรียมก่อการร้ายในโรงเรียน

(มีการตรวจสอบ IP Address พบว่า อีเมล์ส่งจากเยอรมันโน่นแน่ะ

..ซึ่งก็สะพรึงอยู่พอสมควร

ช่วงบ่ายก็มีข่าวออกมาว่า ตรวจไม่พบวัสดุหรือเหตุน่าสงสัยอันใด

แม้จะโล่งใจไปเปลาะนึงแต่ก็ยังประมาทไม่ได้
เพราะถึงจะมีเหตุ 'เลี้ยงแกะ' ให้หวั่นหวาดเปล่า ๆ แบบนี้อีกกี่สิบครั้ง
ก็ต้องอดทน

เพราะถ้าปล่อยให้ถึงจุดที่เหมือนในนิทานเด็กเลี้ยงแกะ
แล้วทีนี้ดันเกิดเหตุขึ้นจริง จะโทษใครล่ะ
ถ้าไม่ใช่เพราะเรา “ตายใจ”

แต่ที่มาพร้อมข่าวโล่งใจ
คือข่าวเศร้าที่เกี่ยวเนื่องจากการสั่งปิดโรงเรียน

นั่นคือข่าวเด็กนักเรียนชายวัย 17 ถูกรถบรรทุกของซิตี้แอลเอ
ชน 'เสียชีวิต' คาจุดที่เขาเดินข้ามถนน
ตรงAvenue 60 ตัดกับFigueroa Street


ในข่าวระบุว่าเด็กคงเดินไปโรงเรียน
และเมื่อไปถึงหน้าโรงเรียนหรืออาจจะได้ข่าวกลางทาง
ว่า
ทุกโรงเรียนสั่งปิดการเรียนการสอนวันนี้
เพราะมีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน
เด็กก็เลยเดินกลับบ้าน!

จนมาพบจุดจบ

(จุดที่คนขับรถบรรทุกบอกว่าเขามองไม่เห็นว่ามีเด็กเดินข้ามถนนจริง ๆ)

พูดไม่ออก
รู้แต่เศร้าสลดใจจริงๆ

ไปสู่สุคตินะน้องนะ




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2558    
Last Update : 17 ธันวาคม 2558 4:07:06 น.
Counter : 1027 Pageviews.  

เหรียญมี 2 ด้าน [เสมอแหละ]



ปกติวันไหนถ้าไปทำงานเช้า
ช่วงขับรถ 7.30-8.00 จะเปิดวิทยุคลื่น FM 106.7 ฟัง
ตอนแรกฟังเพราะคลื่นนี้ชอบเปิดเพลงอินดี้
ตอนหลังคลื่นนี้เปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบเล่าข่าว

แล้วในรายการนี้ จะมีช่วงนึงที่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังโทรไป "วัดใจ' คู่ของตน

ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นสาว ๆ แหละที่จะโทรไปบอกเบอร์โทร และชื่อแฟนของตน
เพื่อให้ดีเจโทรไปบอกคนรับสายว่า

'คุณได้รับโชคดีมีสิทธิ์รับช่อดอกไม้ฟรี
คุณอยากส่งดอกไม้ไปหาใครก็ได้ทั่วอเมริกา
แค่บอกชื่อผู้รับ และจะให้เขียนการ์ดว่าอะไร'

ประมาณนั้น

หนุ่มบางคนรับสายปุ๊บรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เอ่ยชื่อแฟนทันที
เล่นเอาแฟนสาวที่อยู่ในสาย แอบกรี๊ดไปพร้อมเสียงเฮของดีเจ

หนุ่มบางคนที่ (น่าจะ) คบหลายคน
จะสังเกตได้ว่า มัก
เลือกส่งดอกไม้ให้แม่ ให้พี่ ให้น้องแทน
สาวที่โทรเข้ามาในรายการก็แห้วไปอาจจะมีงอนนอกสาย
ว่ากันไปตามจริง

แต่รายล่าสุดที่ฟังเมื่อเช้า สาวที่โทรเข้ารายการ เป็นสาวเสียงเครียดๆ

เธอบอกดีเจว่า เธอกับแฟนรักกันมาก
แต่พอเธอท้อง แฟนก็เงียบหายไป เธอโทรติดต่อก็ไม่รับสาย
แบบหลบเลี่ยงหนีหน้าตลอด

ดีเจในรายการนี้ซึ่งมีกัน
3-4 คน ก็ช่วยกันต่อว่าผู้ชายใหญ่เลย
ประมาณว่า เฮ้ยยย ใจร้ายอะ ทำงี้ได้ไง

สักพัก ดีเจสาวก็โทรหาหนุ่มคนนั้นโดยไม่บอกว่ากำลังออกอากาศอยู่

หนุ่มคนนั้นก็ปฏิเสธไม่รับรางวัล
ยืนยันว่า เขาไม่มีใครที่เขาอยากจะส่งดอกไม้ให้เลย

ดีเจพยายามบิ้วท์ แบบ “แฟนล่ะ”คนนั้นคนนี้ล่ะ
อยากง้อใครมั้ยอยากแสดงความยินดีกับใครมั้ย
อยากส่งดอกไม้ช่อนี้ ที่ “ฟรี” ทุกอย่างนี้ ไปขอโทษใครมั้ย

เขาก็ยังยืนยันว่าไม่มีใครที่เขาอยากส่งดอกไม้ให้

คุยกันนานเลยเคสนี้
ที่สุด ดูท่าไม่ได้การแล้ว ดีเจก็เลยเปิดเผยความจริงว่า
เนี่ย แฟนสาวของยูที่กำลังท้อง ฟังอยู่อีกสายนึงนะ
เรากำลังออกอากาศนะ

หนุ่มก็อึ้ง คุยไปคุยมา ก็ปรับคุยกันทุกสาย
หนุ่มก็บอกสาวว่า
'ยูไม่น่าทำอย่างนี้ เอาเรื่องนี้มาออกอากาศทำไม'

แฟนสาวก็ดันยืนยันว่า พูดมาเลยสิว่า
ทำไมยูถึงหนีหน้า
ทำไมยูไม่รับผิดชอบตอนไอบอกว่าท้อง

คำตอบที่หงายเงิบกันทุกคนรวมทั้งคนฟังคนนี้ด้วยคือ
ผู้ชายมั่นใจว่า เด็กในท้องไม่ใช่ลูกของตน

555+

ผู้หญิงก็เถียงใหญ่เลยดีเจน่ะเงิบไปแล้วค่ะ

ผู้หญิงก็เถียงเสียงสั่นเชียว จนที่สุดหลังการซักไปซักมา
ผู้หญิงและกลุ่มดีเจก็ต้อนจนผู้ชายต้องพูดชัดเจนแล้วละ

พอพูดเท่านั้นแหละ หงายเงิบกันหมด
เพราะผู้ชายมีพยานและเวลาที่ยืนยันได้ว่า
ผู้หญิงกลับไปนอนกับแฟนเก่า ก่อนมาบอกว่าท้องไม่นานเอ๊งงงง

เอาล่ะเฮ้ยยยย

ดีเจที่เริ่มจะตั้งสติ หันกลับมาช่วยกันซักถามผู้หญิงแทน
ไป ๆ มา ๆ เธอก็พูดอ้ำอึ้ง พูดไม่เคลียร์ และคราวนี้เสียงไม่เต็มปากเต็มคำ
เรียกว่า ช่วงเวลาที่อ้างมาตอนต้น เริ่มไม่ตรงกับที่บอกเหล่าดีเจแต่แรกแล้ว

เรียกว่าสาวตอบ 'วกวน' เวียนไปวนมาจนเป็นหนังคนละม้วน
และก็ "เอวัง" ด้วยการวางสายไปอย่าง 'ขว้างงูไม่พ้นคอตัวเอง'

...ที่ฟังแล้วขำ คือ เหล่าดีเจที่เสียงออกอาการอึ้งถ้วนหน้า
ชนิดตัดเบรคเข้าเพลงไม่ทันกันเลยเชียว

ที่เล่าก็ไม่มีอะไรหรอก
นอกจากในโลกโซเชียล ที่ทุกอย่างสามารถจะตอบโต้ได้
'ทันทีทันควัน'
จะดู จะฟัง จะเชื่ออะไร ก็อย่าเพิ่งออกตัวเร็ว
เดี๋ยวจะ "เงิบออกอากาศ" จนดริฟท์ไม่ทัน
แบบดีเจกลุ่มนี้ละ




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2558    
Last Update : 16 ธันวาคม 2558 2:09:43 น.
Counter : 721 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.