ปกติช่วงเช้า ๆ จะอ่านข่าว USA Today
เพราะจะมีข่าวที่ไม่ค่อยดึงจิตให้ตก ด้วยเหตุเลวร้าย
และเช้าวันก่อนโน้นก็เจอข่าวนี้
ข่าวของแม่ลูกอ่อนที่ไปซื้อของที่ตลาดเทรดเดอร์โจส์
เป็นตลาดประมาณขายสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ในปริมาณขนาดพอใช้
ซึ่งในช่วงเทศกาล แถวจ่ายเงินก็จะยาวเหยียดกว่าปกตินิดหน่อย
ยิ่งในช่วงเลิกงานด้วยแล้ว ประสบการณ์ส่วนตัวคือ แถวยาวนั่นแหละ
แต่ก็บริการรวดเร็ว สมกับชั่วโมงเร่งด่วน
ในข่าวก็คือ แม่ลูกอ่อนอยู่ในแถวจ่ายเงิน
แล้ววันนั้น เครดิตการ์ดของเธอชาร์จไม่ผ่านค่ะ
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ยิ่งในช่วงนี้ที่เค้าเปลี่ยนระบบเครดิตการ์ดกันด้วย
ยิ่งเจอปัญหานี้กันพอสมควร เพราะเครื่องรูดการ์ดระบบเก่า
แต่ว่าการ์ดจะเป็นแบบใหม่กัน คือมีชิปฝังอยู่ ประมาณนั้น
นาทีที่เธอกำลังงง ๆ แบบจะควานหามือถือในกระเป๋า
เพื่อจะโทรถามแบงค์ว่า ทำไมบัตรถึงชาร์จไม่ผ่าน
ทันใด ลูกเล็ก ๆ ของเธอก็ร้องไห้จ้าขึ้นมา
ในข่าวเขียนว่า เป็นนาทีที่เธอ want to sink into the floor มาก
อารมณ์ประมาณ อยากมุดหน้าลงดินนั่นละ
คือ เครดิตการ์ดมีปัญหา ลูกก็ร้องไห้อีก
แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มรูปหล่อมาก ๆ วัย 28 ตามในภาพลิ้งค์ข่าว
เสนอตัวว่า เขาจะช่วยจ่ายเงินค่าสินค้าให้นะ!
เธอแบบอึ้ง ... แล้วก็ปฏิเสธน้ำใจนั้นไป
แต่เขาก็บอกแหละว่า ให้รับไว้ แล้วพอมีโอกาสตอบแทน
ก็ค่อย "ช่วยคนอื่น" ต่อไปละกัน
แบบ pay forward ที่นิยมทำกันเพื่อแสดงน้ำใจต่อคนแปลกหน้า
อย่างไม่หวังผลตอบแทนนั่นล่ะ
เอาว่า สรุป เธอก็โอเคนะ
ลงท้ายด้วยการได้ชื่อเขา และได้เบอร์ที่ทำงานมา
เพื่อจะได้โทรไปขอบคุณทีหลังประมาณนี้
ถัดมาไม่กี่วัน (เฮ้ออออออ..) เธอก็โทรไปที่ทำงานเขาเพื่อขอบคุณอีกครั้ง
แล้วคนรับสายก็ปล่อยโฮ บอกเธอว่า
'เขา' เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน
ไม่กี่ชั่วโมงนับจากนาทีที่เขาได้เสนอน้ำใจช่วยเหลือเธอนั่นเอง
โอ๊ยยย อ่านแล้วอึ้ง
แม่ของชายคนนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่ลูกชายจากไปด้วย "ความดี"
เธอคนนั้นหวนไห้ เสียดายชีวิตคนดี
และเธอก็ทำโครงการให้เขานะ น่าสนใจดี
..กะว่าจะไปร่วมด้วยช่วยกันอีกสักแรง
อ่านข่าวนี้แล้ว บอกตัวเองทันทีเลย
อย่าลืมทำดีต่อคนรอบข้าง
เพราะเราไม่รู้เลยว่านาทีข้างหน้า เราจะยังคงหายใจอยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าเรา 'จำต้อง' จากไปกะทันหัน
อย่างน้อย..ก็จะได้เหลือ "ความดี" ไว้ให้คนได้กล่าวถึง!
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [