• 2024 coffee & everything in between
• 2023 sip coffee in my own mug
• 2022 just live my life
• 2021 got to let grow
• 2020 blossom in its own time
• 2019 delicate jottings
• 2018 at a time i was sure
• 2017 to live life completely
• 2016 wrapped around petals
• 2015 a little bit bitter
• 2014 keep flowers bloom!
• 2013 cup of coffee on table
• 2012 beginning of next level

flower can't grow without water มันก็ไม่ใช่ทุกวัน ที่จะมีข่าวดี ๆ ในสังคมให้เราได้เลือกเสพ อย่างที่เจอข่าวเศร้าแรก ที่แม้จะเสียชีวิตในเช้าวันพฤหัสที่ 31 ธันวาคมตามเวลาแอลเอ แต่ก็ย่างเข้าปีใหม่บ้านเราแล้ว ถือเป็น "ข่าวเศร้า"ข่าวแรกของปีเลยทีเดียว หลับให้สบายนะคะ เจอกันใหม่ในลมหายใจหน้า  ... ดูข่าวที่ครอบครัวให้สัมภาษณ์ว่า เธอ "ตาย"ไปพร้อมศักดิ์ศรี คงจะเจ็บปวดและเหนื่อยจากอาการป่วย ทั้งโรคตับและโรคไตมากแล้วแหละ และก็คงอยากจะไปนั่งร้องเพลงกับ "พ่อ"ข้างบนนู้นนนนนน .. ดังนั้น การจากไป ก็น่าจะ "สุขที่สุด" ของเธอแล้ว เพียงแต่การจากไปในวันสุดท้ายของปี ก็จะสร้างแผลรุนแรงยาวนานไว้ในความรู้สึกของคนอยู่ เหมือนที่ข่าวทีวีช่อง cbs สัมภาษณ์กลุ่มคนที่ชัดเจนว่า "ปีใหม่" ไม่มีความหมายน่ายินดีในชีวิตพวกเขาอีกต่อไปแล้ว สาเหตุแทบจะ 100 ทั้ง 100 ก็เพราะสูญเสียคนในครอบครัว ช่วงเทศกาลวันปีใหม่นี่แหละ คนอยู่ ทรมานกว่าคนจากไปจริง ๆ ด้วย โดยเฉพาะครอบครัวของชายหนุ่ม 4 คน + 1 เด็กน้อย ที่เกิดอุบัติเหตุในคืนวันที่ 31 เพราะรถที่เด็กนั่งไป หลุดการควบคุม ผู้หญิงคนขับวัย 51 จะ exit ตรงฟรีเวย์ 10 แถวเมือง ontario แล้วเพราะอะไรสักอย่าง รถกลับพุ่งชน "รถอีกคัน" ที่จอดรอเลี้ยวอยู่ ชายหนุ่มวัย 29, 29, 30, 37 ปี จำนวน 4 คน เสียชีวิตทันที หญิงคนขับรถที่พุ่งไปชน รอด และเด็กวัยรุ่นอีก 2 คนในรถเธอ ก็รอด แต่น่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลนานแหละ คาดว่า ส่วนเด็กชายวัย 7 ขวบในรถของเธอ เสียชีวิต ในข่าวไม่ได้บอกนะว่า เด็ก ๆ ทั้ง 3 เป็นญาติฝ่ายไหนกับเธอ ไม่อยากเดาว่า เธอเป็นคุณยายคุณย่านะ สรุป จุดเดียว เสียชีวิตพร้อมกัน 5 ศพในไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะปีใหม่ สลดใจมาก เพราะ.. เมื่อคืนก็ว่าจะไปสวดมนต์ที่วัดแถวนั้นแหละ โชคดีที่รู้สึกแปลก ๆ เหมือนไม่สบายกายไม่สบายใจ เลยไม่ได้ออกไปสวดมนต์ที่วัดตามตั้งใจ ถ้าไปก็คงจะรถติดจนไปไม่ทันเวลา เพราะเท่าที่เห็นสภาพที่เกิดเหตุแล้ว น่ากลัวมาก รถ toyota ทั้ง 2 คัน ยับเยินแบบรุ่งริ่งไม่เหลือสภาพ .. ข้อคิดเตือนตัวเองวันนี้ไม่พ้น โลกนี้ไม่มีแต่ข่าวดีให้เลือกอ่านได้ทุกวันหรอกนะ อ่านข่าวร้ายบ้าง ได้ฝึกใจให้เข้มแข็งขึ้นบ้าง เป็นระยะ ระยะ.. ใครจะอ่านข่าว หรือดูรูปรถก็ขอเชิญนะคะ ไม่น่ากลัว ไม่มีภาพศพแม้แต่นิดเดียว เพราะการนำเสนอข่าวในประเทศนี้ "นักข่าว" มีจรรยาบรรณในการนำเสนอ เรียกว่าให้เกียรติผู้ตาย และคิดถึงจิตใจคนอ่านมากมาย คลิกที่นี่ค่ะ ถ้าสนใจ   Create Date : 02 มกราคม 2559     Last Update : 2 มกราคม 2559 12:03:02 น. Counter : 805 Pageviews.   Share Tweet

real simple สรุป ไม่ได้ไปสวดมนต์ที่วัด และไม่ได้ไปค้างที่บ้านป้าศรี ข้างวัดด้วย รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว เลยคิดว่าอยู่บ้านดีกว่า ใกล้ยา ใกล้หมอ อยู่บ้านก็นั่งทำงานปิดท้ายปี แล้วก็เก็บผ้าปูที่นอนผ้าห่มลงกล่อง จะเอาไปแจก homeless เพราะอีก 2-3 วัน ฝนจะเริ่มตกแล้ว นั่งไปนั่งมา กินชาเขียวไป 2 แก้ว แล้วเลยเขียน new year resolution .. ขำ ๆ แต่ว่า "ตั้งใจ" นะ! ปีก่อนก็ทำได้นะ คือ ไม่ใช่เงินแบงค์ 10 เหรียญ ใส่กล่องไว้ได้เยอะจนตกใจ กับไม่ซื้อแก้วกาแฟ ไม่ซื้อสมุดบันทึก เพิ่ม ปีนี้ เอาใหม่ ซื้ออะไร 1 อย่าง ต้องบริจาคออกไปจำนวนเท่ากัน ส่วนเรื่องเดินออกกำลังกาย ปีที่ผ่านมา เดิน 4 วัน ปีนี้ เริ่มที่เดินทุกวัน .. ลองดู น่าจะได้แหละ ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้ ฮึ่บ! ฮึ่บ!   Create Date : 01 มกราคม 2559     Last Update : 1 มกราคม 2559 14:53:54 น. Counter : 594 Pageviews.   Share Tweet

with the borrowed seat ปกติไม่ชอบอ่านหรือดูข่าว ไม่ว่าจะไทยหรือเทศ เพราะไม่อยากเครียด  แต่หลังจากเริ่ม "มองเห็น" บางข่าวที่ซุกซ่อนอยู่ ก็พบว่า ท่ามกลางความเลวร้ายในสังคม ก็มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นควบคู่กันไป ทุกวัน! อย่างวันนี้ มีข่าวของครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย สามี ภรรยา ลูก 3 และแกรนด์มา รวมกันเป็น 6 ชีวิต ครอบครัวนี้ ขับรถจากรัฐโอเรกอน มาเที่ยวแอลเอ โดยแวะไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ตามธรรมเนียม และลงทุนยอมเสียเงินแพง (กว่าปกติ) เพื่อจะได้จอดรถในเขตโรงแรมแล้วด้วยนะ คนร้ายก็ยังดอดไปทุบกระจกหลัง แล้วขโมย "เก้าอี้แถวสุดท้าย" ในรถไปซะงั้น บ้ารึเปล่า ... ขโมยสำนักไหนไม่รู้! ตัวสามีเป็นอดีตทหารผ่านศึก ที่สภาพจิตใจหวาดผวาตลอดเวลา เลยไม่สามารถรับมือกับเรื่องที่เกิดได้ ว่าง่าย ๆ คือ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้เลย สรุปก็มีการแจ้งตำรวจตามปกติ ตำรวจก็มาทันทีเลยแหละ หลังคุยนั่นนี่นู่นเกี่ยวกับคดีแล้ว  บวกกับตำรวจเห็นจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่โดยสารมากับรถ และเห็นสภาพเก้าอี้ที่ถูกขโมยถอดออกไป ตำรวจคนในภาพนี้ก็เข้าใจจับจิตเชียวว่า มันยากที่จะขับรถต่อไปได้ คือ ครอบครัวนี้ยังมีที่อื่นที่จะต้องไปต่ออีก และยังจะต้องขับรถคันนี้กลับบ้านที่รัฐโอเรกอนอีก ตอนแรก ก็คิดว่าจะเอารถไปติดตั้งเก้าอี้ใหม่ ก็ปรากฏว่าทำไม่ได้ เพราะช่วงนั้นคือ thanksgiving วันหยุดยาวววววว บรรดาอู่ หรือดีลเลอร์ศูนย์ซ่อมรถทั้งหลาย ปิดหมด! เพราะปิดกันทุกแห่ง ตำรวจบอกว่า "เขาเข้าใจดีว่า การมาเที่ยวแบบนี้ต้องมีการเตรียมวางแผนกันแค่ไหน" แล้วยิ่งมากันหลายคน และมาไกล ค่าใช้จ่ายก็เยอะอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้ "ความสุข" ของทริปนี้จะต้องหมดสิ้นไป เพียงเพราะโดนขโมยเก้าอี้แถวหลังสุดของรถ อาจจะเพราะตำรวจคนนี้ก็มีลูก ๆ เช่นเดียวกับครอบครัวนี้ เลยแสนจะเข้าใจสถานการณ์ บวกกับตำรวจเองก็ "ยกย่อง" ทหารผ่านศึกอยู่แล้ว ว่าเสียสละเพื่อชาติมามากมายแค่ไหน เหนือความคาดหมายของทุกคน หลังทำหน้าที่ในเครื่องแบบเสร็จสรรพ ตำรวจไปจัดการถอดเก้าอี้จากรถของเขาเอง มาให้กับครอบครัวนี้ "ยืมใช้" เพราะถ้าไม่มีเก้าอี้ให้ทุกคนนั่ง ก็ผิดกฎหมายที่จะขับไป จะให้นั่งเบียดกันไปแบบบ้านเรา ก็ไม่ได้ เพราะ..กฎหมายที่นี่ แรง! ครอบครัวนี้ก็เลยได้ใช้เก้าอี้ที่ตำรวจให้ยืมมา ใส่ไปแทนเก้าอี้ที่ถูกขโมย แล้วก็ขับเดินทางต่อไปเยี่ยมญาติพี่น้อง กับ ขับกลับบ้านที่โอเรกอน เมื่อถึงโอเรกอนแล้ว ก็จัดการถอดเก้าอี้แล้วส่งเป็นพัสดุกลับมาคืนตำรวจ ตำรวจคนนี้ไม่ได้เล่าให้ใครที่ทำงานฟังว่า เขาได้ทำอะไรลงไป เรียกว่าปิดปากเงียบ แบบปิดทองหลังพระนั่นแหละ จนกระทั่ง วันนี้แหละ เจ้านายเรียกไปถาม เพราะครอบครัวนี้ เขียนจดหมายมาชื่นชมตำรวจนายนี้ แบบส่งตรงมาถึงบิ๊กบอสเลยทีเดียว  เรื่องของเรื่องก็เลยเป็นข่าว ... ออกทีวี ... น่ารักดี แม้จะหงุดหงิดกับ "หัวขโมยงี่เง่า"  แต่ก็ถือเป็นข่าวส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ "ดี๊ดี" เลยละ   Create Date : 31 ธันวาคม 2558     Last Update : 31 ธันวาคม 2558 15:08:03 น. Counter : 587 Pageviews.   Share Tweet

make a realistic plan เมื่อวานเจอข่าวพิตบูล 4 ตัว หลุดรั้วออกมา "กินเด็กน้อย" อนุบาล ที่แม่กำลังจูงเดินไปโรงเรียน พอเย็น เจอข่าวพิตบูล กระโดดรับคมมีดขโมย แทนเจ้านาย จนตัวมันเองตาย สลดใจ .. ต้องเบรคตัวเองจากข่าวต่าง ๆ ไม่รู้สิ เหมือนหายใจไม่ออก บวกกับอากาศหนาวด้วย เลยกินยาแล้วนอนดู "ทวิภพ" ตั้ว-สิเรียม ทั้งวัน (เกี่ยวมั้ย ไม่เกี่ยวหรอก แต่พอช่วยให้อมยิ้มได้) เช้านี้ อากาศก็ยังหนาว บ่ายนี้ เจอข่าวกว่า 1,900 เที่ยวบิน ยกเลิกตอน 4.00pm เหตุก็เพราะสภาพอากาศเลวร้าย แค่ที่ชิคาโก้เองก็ 1,000 เที่ยวบินแล้ว 400 เที่ยวบินที่เท็กซัส ที่เหลืออีก 500 เที่ยวก็แบ่ง ๆ กันไประหว่างที่นั่นนี่นู่น และถึงว่า เพื่อนรุ่นพี่ที่เท็กซัสบ่นมาพร้อมการ์ดคริสต์มาส ว่าปีนี้หนาวจัดกว่าทุกปี และพี่เค้าเลยอยากกลับเมืองไทยแล้ว ติดแค่ลูกกับสามีพี่เค้าไม่อยากไปเจอร้อน เลยอด! ปกติ ช่วงข้ามปี จะไปดูหนังรอบสุดท้ายของปีนั้น 1 เรื่อง เลือกเรื่องที่ฉายดึกที่สุดในจำนวน 14 โรง นั่งดูหนังข้ามปี เดินออกมาก็ปีใหม่แล้ว ทำอย่างนี้มากี่ปีแล้วไม่รู้ แต่ปีนี้ เพื่อนสาวสนิทไปท่องเชียงตุง คุณนายบอกมาว่า กลับมาไม่ทัน ฉันก็ อืมมม ไม่เป็นไร เลยชวนลูกสาวพี่ที่วัดไปดูหนังวันนี้ แทน บอกหลานสาวว่า เลี้ยงที่สมัครเข้ายูที่ portland ได้ แต่คงไม่ไปดูดึก กะจะไปดูเที่ยง แต่คลิกจองตั๋วได้รอบ 6.40pm แน่ะ จริง ๆ เลยไม่อยากไปแล้ว มันมืด 555+ แต่รับปากแล้วก็ต้องไป และเพิ่งรู้ว่า ค่าตั๋วหนังขึ้นราคาเยอะมาก 2 คน ราคา 38 เหรียญแน่ะ แพงสุด ๆ แต่เอาเหอะ ..  พอดูหนังวันนี้แล้ว เลยคิดว่าสิ้นปีจะไม่ดูหนังแล้ว ยกเลิกประเพณีไปโดยปริยาย บวกกับป้าบอกว่า ไปสวดมนต์ข้ามปีและถือศีลกัน ก็เลยตกลงว่าจะไปกับป้าตั้งแต่ 10 โมงเช้า วันที่ 31 รับศีล แล้วรอสวดมนต์ข้ามปี  จากนั้นก็ไปนอนบ้านเพื่อนป้าที่อยู่ติดกับวัด เพื่อตื่นมาหุงข้าวใส่บาตรซะเลย ..มาดูกันว่า จะอยู่ได้ไหม เพราะอากาศคงหนาวมากเลยแหละ แต่คิดว่า เขาคงให้ใส่ชุดกันหนาวได้ตามสบาย เรียกว่า มัวมาคิดว่าต้องใส่ชุดขาว งานนี้ก็คงไม่ไหวละมั้ง . . . วันนี้ มีข่าวน่าสังเกต คือข่าวที่แปะไว้ในรูป ว่า สินค้าของผู้หญิง แพงกว่าสินค้าของผู้ชาย ถึง 47% โดยเฉลี่ย นักข่าวเค้ายกตัวอย่างว่า สินค้าของเด็กชายขาย 29 เหรียญ แต่สินค้าชิ้นเดียวกัน แต่ทำสีชมพู ว่านี่คือของเด็กหญิง ขายติด ๆ กัน 48 เหรียญ หรือมีดโกนของผู้ชาย สีน้ำเงิน ขายแพ็คนึงไม่ถึง 5 เหรียญ แต่มีดโกนยี่ห้อเดียวกัน แบบเดียวกัน แค่สีชมพูแค่เนี๊ยะ ขายเกือบ 10 เหรียญ เสื้อผ้าก็เหมือนกันด้วย ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ของใช้ส่วนตัวจำพวก สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม แบบในข่าวที่ยกตัวอย่างชัดเจน เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นจะจะ ราคาต่างกันเยอะเลย พอข่าวออกมาแบบนี้ บรรดาห้างร้านออกมา "ดิ้น" แก้ต่างว่า เกิดจากระบบผิดพลาด แหม แหม .. ข่าวนี้ แม้จะอ่านเอาฮา แต่เชื่อว่า นับจากนี้ไป หลายคนคงจะเดินเปรียบเทียบราคาสินค้าแน่นอน คาดว่าฉันละ..คนหนึ่งในนั้น   Create Date : 29 ธันวาคม 2558     Last Update : 29 ธันวาคม 2558 7:56:56 น. Counter : 635 Pageviews.   Share Tweet

journey with him wasn't over หลายร้อยคนในแอลเอ เลือกปั่นจักรยานไปไหนต่อไหน แม้ในหน้าหนาว แต่อีกหลายสิบร้อยคน ไม่มีทางเลือกอย่างนั้น ตอน 9.45pm ที่หนาวเหน็บ สองสามีภรรยาเห็นชายคนหนึ่งเดินถือกล่องอาหารเที่ยง ไหล่ลู่เพราะลมหนาว เขาเดินอยู่ริมถนน ... ที่อากาศหนาวเหน็บ สองสามีภรรยาเลยหยุดรถ "จอดรับ" ชายคนนั้นบอกว่าทำงานที่โรงเรียน และพลาดรถบัส เลยต้องเดินมาเรื่อย ๆ เขาบอกว่า ทุกเช้าต้องนั่งรถบัส 2.30 ชั่วโมงไปทำงาน ขากลับก็นั่งอีก 2.30 ชั่วโมง ถึงบ้าน แต่วันนี้ ตกรถ สองสามีภรรยาไปส่งเขาถึงบ้าน และ .. เมื่อกลับถึงบ้าน ทั้งคู่ก็คิดตรงกัน จึงเริ่มต้น "เรี่ยไร" เงินเพื่อซื้อรถและประกันให้ชายคนนั้น เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง และคนแปลกหน้าก็ช่วยกัน ในวันที่รับรถ ชายคนนั้นบอกว่า "I'm a total stranger and they did thisfor me. It blows my mind, If it wasn’t for them, I’d be stillriding the bus, I owe them a lot, and I’m going to domy best to help somebody else.” .. เป็นการ pay it forward ที่ยิ่งใหญ่มาก คลิกที่นี่ถ้าสนใจข่าวละเอียดนะคะ ข่าวนี้ ทำให้คิดถึงข่าวทีวีเมื่อวาน ที่พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งมีลูกค้ามากินสั่งอาหาร 1 มื้อ 45 เหรียญ แล้วให้ทิป 1,000 เหรียญ! พร้อมข้อความ God bless you! .. พนักงานเสิร์ฟคนนั้นก็ pay it forward ด้วยการจ่ายค่าอาหารให้แขกอีกคน .. สังคมน่ารัก เพราะการแบ่งปัน ต่อ ๆ กันไปเช่นนี้แหละ   Create Date : 26 ธันวาคม 2558     Last Update : 26 ธันวาคม 2558 12:29:17 น. Counter : 667 Pageviews.   Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com