|
งานมัสยิด บ้านผักฉีด
หญิงสาววัยรุ่นมุสลิมแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเครื่องแต่งกายที่สวยงาม ในโอกาสที่มีเที่ยวงานมัสยิดมิสตาฮุลมุนีนีน(บ้านผักฉีด)ต.ป่าคลอก อ.เมือง จ.ภูเก็ต เคยเสนอบรรยากาศงานวัดให้ชมกันแล้ว คราวนี้ก็มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศที่น่าประทับใจภายงานมัสยิดมัลฮุลตามุมีนีน หรือ มัสยิดบ้านผักฉีด ต.ป่าคลอก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก็เลยเก็บมาฝากกันอีกเช่นเคย
ภาพผู้ชายนุ่งโสร่ง กับหมวก และ ผู้หญิงที่โพกผ้าสีสันเข้ากับชุดที่สวยงาม เป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นชาวไทยมุสลิม ที่มักจะเห็นได้พร้อมๆกับ การร่วมแรงร่วมใจ ซึ่งเห็นได้จากผู้ที่มาร่วมงานที่หลั่งไหลกันมาร่วมงานซึ่งได้เดินทางจากทั่วทุกพื้นที่ใกล้ไกลภายในจังหวัด
ก็ล้วนนับถือเป็นพี่น้องกันทั้งจากบ้านกมลา ป่าตอง บางเทา เชิงทะเล เกาะแก้ว อ่าวมะขาม ตลิ่งชัน บางคณฑี ฯลฯ แม้สภาพอากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวยซักเท่าไหร่ มีฝนประปรายลงมาบ้างในช่วงหัวค่ำ แต่ก็ทยอยกันมาร่วมงานก็ยังนับจำนวนได้หลายพันคน จนแน่นไปหมดทั้งงาน
แม้ภายในมีเพียงการจำหน่ายสินค้า อาหาร หาได้มี เครื่องเล่น มโหสพ หรือความบันเทิงอื่นใดไปมากกกว่า การแสดงบนเวทีของนักเรียนจากศูนย์การศึกษาและจริยธรรม บ้านผักฉีด ที่มาขับเพลง ที่มีเนื้อร้อง กล่อมเกลาจิตใจให้ยึดถือหลักคำสอน ปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินชีวิตสร้างสันติสุขให้แก่ผู้คนและสังคมที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
กิจกรรมการเสริมสร้างความสามัคคี ส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม หรือแนวทางการดำเนินชีวิตเพื่อสันติสุขของผู้คนและสังคม นี้เอง ที่เชื่อว่าจะเป็นเครื่องปกป้อง หรือ เครื่องต้านทานความชั่วร้าย ที่เข้ามาทำให้สังคมเสื่อมทรามลงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
อยากจะเขียนถึงความรู้สึกที่ผิดหวังของหนุ่มโสดที่ได้ไปร่วมงาน ซึ่งมองหาหญิงสาวสถานภาพเดียวกันในเครื่องแต่งกายที่สวยงามซึ่งนิยมสวมใส่มาเที่ยวงาน แต่หันไปทางไหนก็พบเด็กๆ สาวรุ่นเล็ก และ รุ่นใหญ่ ทำให้เห็นช่องว่างระหว่างวัย โดยส่วนที่ขาดหาย คือ กลุ่มคนวัยรุ่นที่เสื่อมคลายจากกิจกรรมทางศาสนา เหมือนเช่นในวัดวาอาราม ที่มักจะมองเห็นเพียงคนสูงวัย และลูกๆหลานๆ ตัวเล็กๆ ที่ยังไม่โตพอที่จะหลงระเริงไปกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ จนไม่ค่อยใส่ใจในศาสนา
ถ้าหากจะบอกว่า กระแสสังคมที่มาพร้อมกับความเจริญทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเสื่อมคลายจากแนวทางการดำเนินชีวิตที่ยึดถือปฏิบัติ ซึ่งทำให้บังเกิดสันติสุขมาช้านาน และแก้ไขด้วยการหยุดยั้งความเจริญก้าวหน้านั้น ก็คงไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องนัก หากการพัฒนาความเจริญก้าวหน้านั้น ไม่ขัดกับหลักธรรมการปฏิบัติ และยังรักษาความสันติสุขเอาไว้ได้ ก็คงจะไม่เป็นปัญหา
แต่หากบอกว่าการสร้างความเจริญก้าวหน้า คือการเอา น้ำเมา เอาสถานบันเทิงเริงรมณ์ เอาการพนัน สิ่งที่มอมเมาทั้งหลายและค่านิยมแปลกใหม่เข้ามา จนทำให้สภาพจิตใจ และสภาพเศรษฐกิจของผู้คนต้องตกต่ำลงไป แม้จะเป็นที่พอใจของพ่อค้านายทุน และถูกอกถูกใจหลายๆคนที่หลงระเริงกับสิ่งเหล่านั้น แต่ก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่สร้างความเจริญก้าวหน้า
ถ้า ไม่ได้ใช้หลักศาสนาที่ยึดถือกันมาช้านานว่าเป็นแนวทางแห่งสันติสุข มาใช้พิจารณาตัดสินว่า สิ่งไหนควร สิ่งไหนถูกต้อง... ประชาธิปไตย จะกลายเป็นสิ่งที่อันตรายและไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด ก็เป็นได้เพราะเสียงส่วนใหญ่ที่เสื่อมคลายจากศาสนาอาจจะ ยึดถือเอาความถูกใจ มากกว่า ความถูกต้อง ...
ก็พาเข้ามาถึงการเมืองจนได้ แต่ก็คงไม่ปฏิเสธกันว่า การเมืองนั้น มีส่วนทั้งการส่งเสริม และ บั่นทอนทำลายหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนา ถ้าให้เลือกระหว่าง ศาสนา ที่เป็นแนวทางการดำรงชีวิตที่ประสบความสำเร็จมาช้านาน กับ การเมือง ที่เป็นเรื่องการแย่งชิงผลประโยชน์ของกลุ่มคนจนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้คนในสังคม แล้วยังขัดกับความถูกต้องตามหลักศาสนา คงไม่ต้องเฉลยนะครับ ว่าผมจะเลือกฝ่ายไหน....
(ชมภาพเต็มๆ ได้ที่ คนทำข่าวดอทคอม)
Create Date : 13 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 13 มีนาคม 2551 14:10:56 น. |
Counter : 1236 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|