ตอนไปก็ซื้อทัวร์ 5 วันไปค่ะ
ตอนไปก็มีคนไทยไปกันเยอะค่ะ สนุกดี
จุดขึ้นรถมี สามที่ค่ะ ต้องเลือกตั้งแต่ตอนจองเลย
Sheraton hotel
Renaissance Newark
Chinatown (Manhattan NYC)
โมเลือกหน้าเชอเรตันค่ะเพราะไปนอนแถวนั้น
ที่นั่งก็นั่งตามใจฉันค่ะ แต่วันหลังๆเค้าจะกำหนดให้ แต่ก็นั่งด้วยกันอยู่ดีค่ะ
วันนี้ไปเอมไพร์สเตรทค่ะ เสียค่าตั๋วต่างหากน่ะค่ะ แต่เลือกที่จะไม่เข้าได้ค่ะ
ตอนเข้าไปจะมีถ่ายรูปของที่นั่นด้วย เก็บไว้เป้นที่ระลึกได้แต่ต้องเสียเงินค่ารูปน่ะค่ะ ใครไม่เอาก็ไม่ต้องไปจ่ายค่ะ
แต่โมเอามา เก็บไว้เป็นที่ระทึก
ถัดไปก็มาที่ Sea-Air-Space Museum โชว์พวกเครื่องบิน ส่วนตัวไม่ชอบเลยไม่เข้าค่ะ
และต่อมาก็ Metropolitan Museum of Arts อันนี้ก็ไม่ได้เข้าค่ะ ไม่ได้สนใจ ไม่อยากเสียค่าตั๋ว
the Statute of Liberty อ้นนี้น่าสนใจค่ะ แต่มันไม่วนให้เข้าไปน่ะสิ แค่ดูรอบนอกเฉยๆ เซงมากกกกก
Liberty Bell ไปดูระฆังประวัติศาสตร์ค่ะ เฉยๆ
the Capitol Hill and the White House ไปดูไวท์เฮ้าส์ระยะไกลค่ะ มีตำรวจมาอยู่รอบๆเท่จัง
National Air and Space Museum head to the Lincoln, and Jefferson Memorials, The Vietnam Memorial
วันนี้น่าเบื่อมากกกค่ะ ให้ไปดูประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยจะสนใจอยู่แล้ว แต่ได้ไปดูลินคอนก็คุ้มอยู๋ค่ะ
วันนี้เหนื่อยมาก เพราะต้องลงรถบ่อยมาก บ่อยจนเหนื่อยเลย
ไปเที่ยวโรงงานเฮอร์ชีย์ค่ะ ชอบมากกก น่ารักมากจิง ตอนเข้าไปดูขั้นตอนการทำเป็นรถน่ารักมากเลย
แล้วก็ได้ช็อปปิ้งช็อคโกแล็ตน่ารักๆกลับไปเพียบเลยค่ะ แบบที่ไม่เคยเห็นเยอะเลย แต่ไม่กล้าซื้อไปมาก
กลัวมันละลายตอนเอาขึ้นเครื่องบิน
จากนั้นไปโรงงานทำแก้วค่ะ ส่วนตัวไม่เสียบัตรเข้าไปชมน่ะ ก็แค่ทำแก้วอ่ะ ไม่ได้ชอบอะไร
แต่เดินไปช็อปปิ้งข้างล่างสนุกกว่าซื้อกระดานหมากรุกแบบแก้วมาด้วย (แบบในหนัง X-MEN) ซื้อกลับมาฝากผู้ใหญ่
ถูกมากก อันเล็ก 10 เหรียญเองงง
ต่อไปก็ชมวิวไนแองการ่าตอนกลางคืนค่ะ เค้าเปิดไฟสวยมากเลยยยย เห็นแคนนาดาด้วยย อยากข้ามไปคาสิโนจัง
วันนี้ไปไนแองการ่าอีกรอบแค่ะ แต่เป็นแบบ นั่งเรือเข้าไปดูใกล้ๆเลย ต้องใช้เสื้อกันฝนด้วย หนาวจัง แต่สวยมากก
สุดท้ายมาบอสตันค่ะ มาเดินเที่ยวตลาด ชอบจังมาทานล็อบเตอร์ คนละตัว เป็นบุฟเฟ่ต์น่ะค่ะ แต่ทานไม่อิ่วเท่าไหร่ บริการช้า
ห้องอาหารคนจีน
วันสุดท้ายเดินทางกลับค่ะ ตอนเช้าไปเที่ยวฮาวาร์ดกับ MIT มหาลัยในฝันของใครหลายคน
มีปัญญากไปเหยียบแต่ไม่มีปัญญาไปเรียน (ฮา)
ตอนลงก็เลือกลงได้ค่ะ จะที่เชอเรตัน หรือไชน่าทาวน์ก็ได้
อันนี้เป็นค่าตั๋วที่ต้องเสียเพิ่มค่ะ ถ้าไม่เข้าก็ไม่เสียค่า พนักงานทัวร์จะเป็นคนเก็บค่ะ โดยเก็บรวดเดียวก่อนเข้า
Optional Admission Fees:
แล้วก็มีค่าไกด์ 6$ ต่อวัน ด้วยค่ จ่ายวันสุดท้าย ก่อนเข้าที่พัก
อยากไปดูละครเวที แต่ไม่มีตังค์ ตั๋วหลายร้อยอยู่ เสียดายจัง
พอเรา work เสร็จ ก็ต้องมา Travel สิน่ะ
เริ่มจากคิดว่าโอกาสคงไม่ได้หาง่ายๆ ที่จะมา USA ฉะนั้นเงินไม่สนใจที่จะหอบกลับบ้าน
แต่เราไปเที่ยวหาประสบการณ์สนุกๆดีกว่า
จึงจัดการจองทัวร์ไปทาง //www.taketours.com/
เป็นทัวร์จีนค่ะ (คนจีนเป็นไกด์) มันมีโปร 394 แบบซื้อ 2 แถม 2 ตอนนั้นไปกะเพื่อนรวม7 คน
ซึ่งเป็นเพื่อนที่มาด้วยกัน 2 คน และเพื่อนที่ได้จากการไป Workและได้แฟนมาด้วยค่า(คนไทยที่ไป workนี่แหละ)
บอกตามตรงว่าตอนแรกไม่คิดจะเที่ยวเลย อยากเก็บเงินไปถลุงที่ไทย แต่น่ะ โอกาสเราทั้งที อยากเที่ยวด้วย
เลยจัดการจอง Amtrak หรือรถไฟไป NY ราคาก็ไม่แพงค่ะ เหลือ66 กว่าๆ ใช้บัตรISICที่ทำมาจากไทย ลดเอา
ลดได้ประมาณ10%มั้งน่ะ
วันที่ออกเดินทางคือ 1 มิ.ย. 54 ค่ะ แอบออกก่อนตามวีซ่า1วันซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ วันนั้นขอลาหยุด และก็คุยกะManager
เซ็นต์เอกสารโน่นนี่นั่น ก็ออกได้อย่างสบายใจแล้ว
พอนั่งรถไฟมาถึงNY ก็มืดแล้ว Amtrak นี่ช้าโคดๆ ค่ะ (เด๋วจะเล่าประสบการณ์แย่ๆให้ฟังต่อ) เลทไปตั้ง3ชั่วโมงค่ะ
มันเกิดอะไรก็ไม่รู้มีหยุดรถกลางทางด้วย แต่ที่นั่งหรูและสบายมากๆ พอๆกะ VIP รถทัวร์บ้านเอาเลย คนตัวใหญ่ไม่ต้องกังวลค่ะ
พอมาถึงเราก็ลองขึ้น Subway เป็นคร้งแรก ซึ่งรถไฟใต้ดินที่นั่นบรรยากาศต่างกะไทยลิบลับเลย ดูแบบไม่น่าขึ้นอ่ะ
ดูสกปรก แคบๆ อึดอัด ด้วย แต่รถไฟเค้าเยอะจริงๆ
วันแรกจองโรงแรมที่ Flushing Hotel ย่านควีนส์ เพราะจะไปขึ้นรถทัวร์ตอนเช้าที่นั่น
ผ่านเวป Booking (แนะนำว่าจะไปไหนในดูโรงแรมไว้ก่อน)
ซึ่งต้องจองผ่านบัตรเครดิตค่ะ แนะนำว่าให้พกไปด้วย เป็นการดีที่สุด
พอขึ้นสถานนีรถไฟมา พระเจ้านึกว่ามาผิดประเทศ นึกว่าอยู่ฮ่องกง มันคือย่าน Chinatown ย่านหนึ่งนั่นเอง
พอมาถึงโรงแรมก็ยื่นใบจองที่ปริ้นมาให้เขาค่ะ ฟร้อนเป็นคนจีนค่ะ ใครอยากฝึกปรือเชิญค่ะ
หน้าโรงแรมต้องสังเกตดีๆน่ะค่ะ มันเล็กมากๆ จนไม่มั่นใจว่าโรงแรมจริงเหรอ มันคือตึกแถวคูหาเดียว แต่ลึกมาก
ส่วนตัวชอบโรงแรมมาก เตียงนุ่มสบาย เป็นเตียงคู่สองเตียง นอนกัน เตียงละสองคน จองไว้สองห้อง รวมแล้วประมาณ 252$
ทริปเราเป็นทริปอยู่สบายๆพอสมควรค่ะ ไม่เลือกโรงแรมที่มันโลว์จนเกินไปประเภทเสียงดัง และสกปรก เอาแบบพอดีๆไม่แพงมาก
ที่นี่มีบริการเก็บของด้วยค่ะ ฝากกระเป๋าไว้ได้ คิดใบละ$10 เองมั้ง จำไม่ได้
พอรุ่งเช้าเราก็ไปขึ้นรถทัวร์ค่ะ โดยปริ้นใบจองไปด้วย
เอาล่ะ เตรียมเที่ยวกันเถอะ เย้
จากประสบการณ์ทำงานมาเกือบจะจบแล้วขอบอกเลยว่างานนี้เป็นงานที่น่าเบื่อแต่ก็สบายค่ะ
รายได้ไม่เยอะนักเมื่อเทียบกะ Housekeeping แต่ทางนั้นงานเค้าหนักมากจริงๆ หนักจนท้อลาออกไปก็มี
แต่ไลฟ์การ์ดนั้น จะเป็นเป็นโซนๆ 4 โซนด้วยกัน แต่โซนก็จะแตกต่างกันออกไป
บางโซนก็สแกนคนเฉยๆ บางโซนก็ทำพวกเครื่องเล่น ยกห่วงยางให้แขกนั่ง คุมเครื่องเล่นบ้าง เบื่อบ้าง หนักบ้าง สบายบ้าง
คละกันไป ทำงานร่วมกับฝรั่ง ก็ได้ทั้งฝึกภาษาและเพื่อน บางคนอายจนไม่กล้าพูด ก็ไม่ได้อะไร
ฝรั่งก็นินทาเราบ้างบางที เพราะเค้าคิดว่าเราฟังไม่ออก(มันก็ฟังออก แต่ไม่หมดแค่นั้นเอง)
บางทีมีแขกมาถามก็ต้องพยายามทำความเข้าใจนิดนึง พยายามตอบเขาให้ได้ เจอปัญหาก็ต้องเรียกเฮดการ์ด
พยายามคุมสถานการณ์ เจอคนจมน้ำทุกวัน ใครโดนโซนนั้นก็หนักหน่อย
บางทีเจอคนที่มาเล่นพูดจาทำนองลามก หยาบคาย บ้างก็มี
บางทีโดนเพื่อนฝรั่งด้วยกันชวนไปปาร์ตี้บ้างอะไรบ้างก็มี
ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน
ไปเที่ยวกลับบ้านดึก ไปหาอะไรกินแปลกๆ ต้องประหยัดแบบสุดๆบ้าง ควบคุมเงินให้เป็น
ช็อปให้เป็น เดินเล่นในบรรยากาศใหม่ๆ อยู่ร่วมกับคนที่ไม่รู้จักจนสนิทกัน สนุกกับชีวิตในอีกมุม
ได้รู้อะไรในหลายๆแบบ สนุกดีเหมือนกัน
เงินเดือนได้เป็นรายสองอาทิตย์ โอนเข้าบัตรของคาลาฮารีเลย อยากใช้ก็รูดเอา หรือเบิกแบบ Cash Back ก็ได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม
แต่ถ้าถอนจากตู้เลยจะเสียเหรียญกว่าๆ
กำไรไม่ต้องพูดถึง เกลี้ยงค่ะ จะไดกำไรกรณีเดียวคือไม่เที่ยวและไม่ซื้อของฝาก
แต่มาทั้งทีไม่เที่ยว และช็อปได้อย่างไร.....
หลังจากที่เรามาฝ่าย HR Kalahari แล้ว เค้าจะถ่ายสำเนาVisa กับ DS เราไว้ แล้วนัดเทรนงานวันเสาร์ รวมทั้งสิ้น 3 วันด้วยกัน
วันที่ 1
นัดมา8โมงเช้า ก่อนอื่นเลย สอบว่ายน้ำ ไปกลับ 8 รอบ รวมแล้วประมาณ200 เมตร
ถัดมาสอบดำน้ำเก็บอิฐ อันนี้ง่าย โดดลงน้ำแล้วดำไปเลย ลึกแค่2เมตรนิดๆ เก็บขึ้นมาโชว์ให้ดู
ต่อมาสอบลอยตัว 2 นาที ลอยแบบยกมือขึ้นเหนือน้ำ แนวดิ่ง อันนี้เกือบตายค่ะ
เสร็จแล้วจะเริ่มเทรนการช่วยชีวิตแบบน้ำตื้น กว่าจะเสร็จใช้เวลาช่วงเช้าไปหมด ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเรียนกับหนังสือ ประหนึ่งว่าเรากำลังนั่งเรียนในห้องเรียนอย่างนั้นเลย
เรื่องที่เรียนจะเป็นการช่วยชีวิต พวกCBR ประมาณนี่ เรียนแล้วง่วงสุดๆ แทบวูปไปหลายครั้ง กว่าจะจบก็6 โมงเย็นซะแล้ว แถมมีการบ้าน ให้ไปอ่านอีก 4 บท รวมถึงสรุปมาด้วย
เหนื่อยสุดๆ แบบว่าอยากเลิกไปทำเลยทีเดียว
วันที่ 2
8 โมงเช้า มาว่ายน้ำอีกแหละ คราวนี้เป็นการช่วยชีวิตแบบน้ำลึก ไปสระลึก แล้วก็การช่วยคนกรณีที่ขยับไม่ได้โดยใช้ backboard ใช้เวลาเกือบบ่ายโมง เสร็จแล้วก็เข้าห้องเรียนต่อ เหมือนเดิม สอนตามหนังสือ lifeguard จนจบ พร้อมสั่งให้ไปอ่านบทต่อไป รวมถึงสรุปมาด้วย
เลิกเท่าเดิม 6 โมงกว่าๆ
วันที่ 3
กลับมาสอบว่ายน้ำ ดำน้ำ และลอยตัวอีกรอบ ทำเอาแทบตาย ใครทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ผ่านจะได้เป็น SHALLOW Guard แต่ะสอบ
ดำน้ำเก็บอิฐแบบดำแบบรวดเดียวลงไปประมาณ5 เมตร แล้วค่อยเก็บขึ้นมา อันนี้ง่าย โมได้ทำเพราะไม่ผ่านว่ายน้ำค่ะ แขนไม่มีแรง
ตอนนี้เลยได้ทำการ์ดน้ำตื้นแทน ข้อเสียเปรียบคนอื่นก็คือ น้ำตื้นจะได้ทำงานที่ไม่หลากหลายเท่าน้ำลึก (Deep Guard) นอกเหนือจากนั้นไม่มีค่ะ
พอเสร็จก็จะมาทีการเรียนต่อ ทวนๆๆ รวมทั้งเรื่องที่ควรรู้ พวกรหัสการเป่านกหวีด เสร็จแล้วจะเริ่มสอบข้อเขียน
50 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 10 ก็ต้องอ่านน่ะ ไม่อ่านก็ทำไม่ได้หรอก โมผ่านไปอย่างเฉีนดฉิวด้วยคะแนน41 คะแนน
จากนั้นกลับมาที่เปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ มาสอบ ปฏิบัติ การช่วยชีวิต อันนี้ก็ง่ายๆ ถ้าตั้งใจเรียนก็ทำได้อยู่แล้ว
ถัดมาเมื่อสอบเสร็จ ก็จะให้เซ็นเอกสารการทำงาน ข้อตกลงต่างๆ แล้วจะมี กระเป๋า ขวดน้ำ นกหวีด ชุดว่ายน้ำ ป้ายชื่อ กางเกง
คือเราต้องซื้อเอาแต่เขาจะหักจากเงินเดือนแทน ไม่ต้องจ่ายสด จากนั้นก็ให้เปลี่ยนชุดนั้นเลย
แล้วจะพาไปลองทำงานติดตามเป็น shadow ของไลฟ์การ์ดรุ่นพี่ก่อน เขาจะสอนงานให้ ได้ไปทำประมาณครึ่งชั่วโมงได้
แต่ละคนได้ทำที่ต่างๆกัน ของโมสบาย แค่ไปดูความเรียบร้อยของสระ wave เฉยๆ แตเพื่อนบางคนได้ลงน้ำจริงๆเลย
ต่อมากลัมาที่ห้องเรียน คราวนี้จะแจกตารางงานให้แล้ว แต่ละคนก็ได้ต่างกันไป มากน้อย สุ่มไปเรื่อย ของโมได้ชั่วโมงน้อยจนน่าเจ็บใจ
วันนี้จบออกมาเกือบๆ 5 ทุ่ม ฟ้าหลังฝนมันสดใสอย่างนี้นี่เอง เราได้เป็น Lifeguard แล้วโว้ยยยย