Group Blog
 
All blogs
 
วิวาห์ลวง บ่วงหัวใจ ตอนที่ 3





เครดิตภาพ : บ้านแฟนคลับ EOE เว็ปบ้านไร่



ตอนที่ 3


แสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของหญิงสาว จิณัฐตาหรี่ตาลงเพื่อปรับดวงตาให้เข้ากับแสงแดดสว่างจ้า ความรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณใบหน้าและลมหายใจของใครคนหนึ่งรดอยู่บริเวณแก้มเนียนใสของหญิงสาว จิณัฐตาออกแรกยกเจ้าตัวการออกไปจากใบหน้า ก่อนจะเช็ดใบหน้าบริเวณที่โดนมันเลีย


“ ทำไมเกี๊ยมอี๋ปากเหม็นจังคะลูก ไปแปรงฟันดีกว่ามะ ๆ ”
ว่าแล้ววิศวกรสาวตกงานก็อุ้มเจ้าตัวเล็กที่แลบลิ้บแพรบ ๆ ออกมาตามแรงหายใจ เข้าห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี โดยไม่รู้ตัวเองเลยสักนิดว่า อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพที่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ 35 กิโลเมตร มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังปรึกษาแผนการร้าย โดยแกนนำของพิลาไลสาวน้อยวัยกระเตาะช่างฝัน


“ ว่าแต่ว่า เราจะเอายังไงกันดีคะหนูไล ลองพ่อพีทเอ่ยปากขนาดนั้น เห็นทีจะอยากรู้จักลูกจีนของน้ามาก ” คุณจิราพรพูดจบ ก็หัวเราะร่วน


“ ใช่ลูกไล เนี่ย ตอนแรกแม่กลัวว่าพี่ชายสุดหล่อของลูกจะเป็นกงเป็นเกย์ไปเสียก่อน ตั้งกะอนุบาลน้องหมี จนสามสิบแล้ว ไม่เค้ยไม่เคยมาปรึกษาความรักกับแม่ หรือน้อง แค่รายงานว่ามีแฟนแล้วนะ แฟนชื่ออะไร พอมารู้ตัวอีกทีก็เลิกกันซะแล้ว แต่มาคราวนี้ล่ะก็เอ่ยปากด้วยตัวเอง เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอยู่นะจ๊ะ แม่ล่ะอยากจะให้สองคนนี้แต่งงานกันเร็ว ๆ ” คุณพิสมัยเล่าด้วยสายตาเยิ้มไปด้วยความสุข


“ ใจเย็นสิคะคุณแม่ คุณน้า เดี๋ยวไลจัดให้ค่ะ ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบสมุดบันทึกสีชมพูหวานแหววออกมากาง ก่อนจะเปิดหาบางสิ่งที่จดรวบรวมเก็บไว้ ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อน ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์


“ แผนการมันเป็นอย่างนี้ค่ะ .....เบสิคแรกของคนที่น่าจะเจอกันง่ายที่สุด เราต้องทำให้เขาคิดว่าเป็นพรหมลิขิตค่ะ โดยการที่.....”


คุณกิตติ บิดาของจิณัฐตา สามีผู้เรียบร้อยของคุณจิราพร ถอนหายใจมองกลุ่มผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยดี ทำอาการที่เรียกว่า “ สุมหัว ” ปรึกษาแผนการให้ลูกของทั้งสองบ้านลงเอยกัน ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่สองสาววัยกลางคนที่เขารู้จักมาตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี จะคอยปรึกษาแผนการที่ทำให้คนโน้นคนนี้รักกัน แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที แต่จะขอร้องเธอสักอย่างได้ไหมจิ....อย่าปลุกผมแต่เช้า เพื่อพาคุณมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ แต่อย่างว่า นั่นก็เป็นแค่เพียงความคิด หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจ และอ่านหนังสือพิมพ์ไปเงียบ ๆ


พิพิทธนลูบหัวเจ้าสุนัขญี่ปุ่นสีขาวล้วนอ้วนกลม ตัวที่เขาเพิ่งจะรักษามันเสร็จเมื่อสักครู่อย่างเอ็นดู หญิงสาวเจ้าของสุนัขมองหน้าหมอหมารูปหล่ออย่างเพ้อฝัน รอยยิ้มที่ฉายชัดบนใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา กับรอยยิ้มเก๋ไก๋ ยิ่งทำให้สัตวแพทย์คนนี้ดูดีอย่างที่สุด


“ ทีนี้คุณก็ไว้ใจได้แล้วนะครับ ว่าเจ้าไอดอลมันจะไม่ป่วยนะ ผมฉีดยาให้มันแล้ว หน้าร้อนอย่างนี้ต้องระวังนะครับ ”


“ ค่ะ ” หญิงสาวยิ้มลอย ๆ พิพิทธนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับท่าทีของลูกค้าสาว


“ โอเคครับ เสร็จแล้ว เดี๋ยวผมเปิดประตูให้นะครับ ”
ชายหนุ่มเปิดประตูและเดินตามร่างบางไปเงียบ ๆ ก่อนจะยกนาฬิกาดูเวลา เพิ่งจะสิบโมงเช้าเอง แต่ทำไมพยาบาลหน้าเค้าท์เตอร์จึงไม่เหลือสักคน ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องคิดเงินด้วยตนเอง
พายัพเดินออกมาจากห้องตรวจอีกห้องพร้อมกับหมาตัวโตท่วมเอวขนสวยพลิ้ว ชายหนุ่มหันไปยักคิ้วให้เพื่อน ก่อนจะพยักพเยิดปากว่าให้คิดเงินแทนเขา แล้วเจ้าตัวก็ผลุบหายเข้าไปในมุมกาแฟ ไม่นานนักพิพิทธนก็เดินตามเข้ามา ก่อนจะเอ่ยกับเพื่อนสนิท


“ พี่แอ๋วกับพี่รจไปไหนเสียล่ะวะ ”


“ เขาขออนุญาตไปดูดาราน่ะ เห็นว่ามาถ่ายทำแถวคลินิก ”


“ อีกแล้วเหรอ....เดี๋ยวจะตัดเงินเสียให้เข็ด ” ชายหนุ่มกล่าว แต่ไม่เคยทำเลยสักครั้ง


“ ช่างป้าแกเถอะ ความสุขช่วงบั้นปลาย ” พายัพบอก ก่อนจะนึกขำเวลาที่พยาบบาลสาวขอนไม้(ใกล้ฝั่ง)ทั้งสองของเขา ที่เวลามีละครมาถ่ายทำหรือดารามาทานข้าวแถวนี้ก็จะรีบขออนุญาตไปตะลุยกองถ่ายทันทีทันควัน
“ เออ ไอ้พลับ เย็นนี้ฉันเลิกเร็วนะ จะไปหาซื้อของขวัญน่ารัก ๆ สักชิ้น ”


“ เดี๋ยวตัดเงินเดือนซะให้เข็ดนะโว้ย ” พายัพล้อเพื่อน


พิลาไลรู้กำหนดการของพี่ชายอยู่แล้ว จึงวางแผนโทรศัพท์ชวนจิณัฐตาให้ไปช่วยเลือกซื้อของและเสื้อผ้าด้วยกัน ถึงแม้วิศวกรสาวจะงงเล็กน้อย ที่อยู่ดี ๆ พิลาไลก็ชวนเธอไปเดินห้างสรรพสินค้าทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน พบกันไม่กี่ครั้ง แต่ด้วยความเกรงใจและเห็นแก่เด็กผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหนาอิเหน่( รึเปล่า )จึงได้ตบปากรับคำไป โดยหารู้ไม่ว่าแทบจะทันทีที่พิลาไลวางสายจากว่าที่พี่สะใภ้ ว่าที่น้องสามีอย่างเธอก็จัดการโทรศัพท์หาพี่ชายของตน และบึ่งรถไปยังจุดหมายทันทีที่วิชาเรียนเพียงวิชาเดียวของวันนี้จบลง


พิพิทธนอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ที่ความสูงที่ถ้าลองให้เจ้าหมียืนด้วยขาของมัน มันก็จะสูงถึงเอวของเขาอย่างหวงแหน ราวกับเด็กหวงของเล่น ใบหน้าขาวยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ตุ๊กตาหมีตัวนี้เป็นตัวใหญ่ตัวสุดท้ายและตัวเดียวในร้านที่เขาพอใจ
พิลาไลเห็นพี่ชายเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาลิบ ๆ จึงยื่นแก้วกาแฟสดให้วิศวกรสาว อ้างว่าเป็นน้ำแห่งมิตรภาพที่ดีของสองสาว ก่อนจะนำหญิงสาวไปในทิศทางที่พี่ชายเดินมา


เมื่อมองไม่เห็นพี่ชายเพราะเริ่มจะเข้ามุมตึก หญิงสาวจึงเสเดินช้าลงเพื่อให้.....
โครม !!!!!!!!


!
“ เฮ้ย !!!!!!!! ”
เสียงอุทานพร้อมกับเสียงพลาสติกกระทบพื้น ทำให้พิลาไลยิ้มสนุกสนาน ก่อนจะหันไปยักคิ้วหลิ่วตากับพี่ชายที่ไม่ได้นัดแนะแผนการไว้ก่อน ให้เข้าไปช่วยเช็ดคราบกาแฟที่กระจายเต็มเสื้อผ้าของหญิงสาว ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกง ช่วยเช็ดตามเสื้อผ้า หากแต่หญิงสาวกลับไว้ตัว ปัดป้องมือของพิพิทธน


“ ฉันเช็ดเองเหมาะกว่าค่ะ ” หญิงสาวบอก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี ทันทีที่เธอเห็นเขา ก็ทำตาโต ยิ้มทักทาย


“ตุ๊กตาเป็นอะไรไหมคะ...กลัวมันเปื้อนกาแฟค่ะ ”


“ อ้อ..ไม่เป็นไรครับ ผมเอามันหลบไปทัน พรหมลิขิตจริง ๆ นะครับ...แต่ผมว่า พระพรหมคงเล็งลูกศรผิดไปนิด เลยทำให้เราเจอกันแต่ละครั้ง ต้องมีเรื่องชวนปวดหัวทุกที ” เขายิ้มจนตาหยี ก่อนจะเหลือบมองข้างตัวของจิณัฐตา


“ อ้าว !! ยัยไล มาได้ไง ” พิพิทธนทัก ราวกับเพิ่งสังเกตเห็นเธอ พิลาไลรับมุก แกล้งทำงอน


“ พี่พีทก็มัวแต่ดีใจที่เจอพี่จีน ไม่เคยสนใจน้องสาวเลย แล้วตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนาดนั้นจะซื้อไปทำไม ซื้อให้ไลเหรอคะ ขอบคุณค่ะ ” หญิงสาวยื่นมือมาหมายจะริบตุ๊กตานั้นไป


“ อะไร พูดอะไรของเธอ พี่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย อีกอย่างตุ๊กตานี่ก็ไม่ใช่ของไล แต่เป็นของจีนต่างหาก ผมซื้อมาให้คุณครับ ” ประโยคหลเขาหันมาบอกกับจิณัฐตา


“ ให้ฉันทำไมคะ....อีกอย่างถึงฉันจะเด็กกว่าคุณเกือบแปดปี แต่ก็ไม่เด็กแล้วนะคะ ที่คุณจะให้ตุ๊กตาแบบนี้ ถ้าจะให้ตุ๊กตา ให้น้องไลดีกว่า ” เธอบอกยิ้ม ๆ ทำเอาพิลาไลค้อนวงใหญ่ เพราะถูกหาว่า ‘เด็ก’


“ ทำเป็นพูดไป พี่จีนแก่กว่าไลแค่สองปีเองนะคะ ตุ๊กตานั่นพี่พีทเขาก็ซื้อให้พี่จีน ไลไม่แย่งหรอกค่ะ “ พิลาไลทำแก้มป่อง เรียกเสียงหัวเราะจากสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี


“ ตุ๊กตาหมีตัวนี้ผมตั้งใจจะซื้อให้จีนเลยนะครับ ผมเป็นคนเลือกของขวัญไม่เก่ง เลยไม่รู้ว่าถ้าจะจีบผู้หญิงเรียบร้อย ๆ น่ารัก ๆ อย่างจีน ผมควรจะทำอย่างไร มันคิดซะว่ามันเป็นความจริงใจของผมแล้วกันนะครับ ”
พิลาไลถึงกับหน้าเหวอ ไม่คิดว่าพิพิทธนจะพูดเจตนารมณ์ของเขากับจิณัฐตาตรง ๆ ส่วน ‘คนถูกจีบ’ เงียบขรึมไปโดยถนัดตา ทำท่าจะปฏิเสธของขวัญจากชายหนุ่ม แต่พิพิทธนรู้ทัน ถือวิสาสะคว้ามือของหญิงสาวให้รับตุ๊กตาหมีไว้


“ รับมันไว้เถอะครับ ” พิพิทธนบอกเสียงอ่อนหวาน “ ผมคิดว่ามันน่ารักดี...เหมือนจีน...มันน่ารักเหมือนคุณครับ ”
เมื่อพูดไปแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าเขาทำสิ่งเหล่านี้ไปได้อย่างไร มันเป็นคำพูดน้ำเน่าที่สุดตั้งแต่เคยพูดมาในชีวิต เขาไม่เข้าใจว่าแม่น้องสาวแสนซนของเขาคิดเรื่องพวกนี้ออกมาได้อย่างไร


“ ค่ะ..ฉันจะรับไว้ ” หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ ซึ่งพิพิทธนก็พอจะดูออก


“ พี่พีทขา....ให้ตุ๊กตาเนี่ย ไม่ได้แปลว่าจะไถ่โทษที่พี่พีททำกาแฟหกใส่พี่จีนนะ เอางี้แล้วกันนะพี่พีท พี่จีน ในฐานะที่พี่พีททำกาแฟของพี่จีนหกเลอะเสื้อผ้า พี่พีทก็ต้องชดใช้ด้วยการพาพี่จีนไปทานข้าว เดินเล่น ดูหนัง แล้วก็ฟังเพลง ตามประสาหนุ่มสาวแล้วกันนะ ”
นี่เป็นแผนปัจจุบันทันด่วนเท่าที่พิลาไลจะคิดออก จึงได้สรุปเรื่องราวอย่างข้าง ๆ คู ๆ
พิลาไลพูดจบก็วิ่งปร๋อหายไปอย่างรวดเร็ว พิพิทธนทำท่าเก้อเขิน มองหญิงสาวด้วยท่าทีเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะผ่อนลมหายใจแรง ๆ และส่งยิ้มให้กับหญิงสาว


“ โปรดให้ผมได้ไถ่โทษคุณด้วยนะครับ ” เขายิ้ม ก่อนจะผายมือเป็นเชิงให้เธอเดินนำ
จิณัฐตามองคนตรงหน้า หญิงสาวรู้สึกลำบากใจที่ต้องไปกับผู้ชายแปลกหน้า แต่เธอก็ตัดสินใจยิ้มรับ ร่างบางก้มลงเก็บแก้วพลาสติกที่กลิ้งอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทิ้งถังขยะ


ภายในร้านอาหารสุดหรู ตกแต่งร้านแบบอิตาลี เปียโนสีขาวตั้งตระหง่านอยู่มุมซ้ายของเวที บรรยากาศในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก เสียงเพลงคลอเบากับอุณหภูมิสบาย ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก พิพิทธนเดินนำหญิงสาวที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศ ไปในส่วนลึกสุดของร้าน ซึ่งจัดไว้เป็นมุมวีไอพี เมื่อถึงโต๊ะอาหารตัวเล็กซึ่งมีแจกันใส่ไม้เลื้อยเล็ก ๆ สีเขียวสดตัดกับผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาด ชายหนุ่มเลือนเก้าอี้ให้จิณัฐตาตามที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ ก่อนจะอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ ดวงตาคมเข้มจ้องมองร่างบางอย่างเจตนา ทำให้จิณัฐตาเริ่มทำอะไรไม่ถูก


“ เอ่อ....คุณพีทคะ หน้าฉันมีอะไรผิดปกติเหรอคะ ” เธอลองเชิง อยากจะรู้นักเขาจะอธิบายสิ่งที่กำลังทำอยู่เช่นไร


“ คุณมีความสวยที่ผิดปกติกว่าคนทั่วไปไงครับ ” เขาตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะปรบมือสองครั้ง บริกรในร้านก็ค่อย ๆ เดินเรียงกันนำอาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ จิณัฐมองอย่างไม่เข้าใจ


“ คุณเหมือนเตรียมการไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ ”หญิงสาวเหล่ตามองอย่างจับผิด พิพิทธนจึงแกล้งทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบไรผมบนหน้าผากของตนเหมือนเขินอาย


“ ถูกจับได้ซะแล้วนะครับ ” หัวเราะแห้ง ๆ “ ความจริงผมกับยัยไลเตี้ยมกันไว้ เพราะผมอยากเจอคุณ อยากทานข้าวกับคุณ อยากอยู่กับคุณ ”


“ ทั้งที่เพิ่งเจอฉันแค่สองครั้งน่ะหรือคะ ” หญิงสาวตัดเสต๊กในจานไป ถามไปอย่างสบาย ๆ ไม่วางตัว


“ ครับ....ความรักมันก็เป็นเรื่องไม่แน่นอน บทจะมาก็มา เราอาจจะไม่เคยรู้จักคนคนนึงเลย พบกันก็เพียงไม่กี่ครั้ง แต่เรากลับรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ” ชายหนุ่มส่งสายตาคมทรงเสน่ห์มายังหญิงสาว จิณัฐตานิ่งงัน หากแต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างบางก็ยิ้มตอบ


“ ทั้ง ๆ ที่คนรักของคุณเพิ่งจะแต่งงานงั้นหรือคะ ”


“ มันไม่สำคัญหรอกครับ ”เขาถือวิสาสะเอื้อมมือมากุมมือนุ่ม ก่อนจะจ้องมองเข้าไปในดวงตาของคนนั่งตรงข้าม


“ งั้นเหรอคะ...ฉันว่า เราทานอาหารกันต่อเถิดค่ะ ” จิณัฐตาดึงมือกลับ ก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่องอย่างสุภาพจนพิพิทธน อดจะทึ่งไม่ได้ ร่างสูงยิ้ม ก่อนจะพยายามใช้ความคิด
ตลอดเวลาที่ทานอาหารร่วมกัน พิพิทธนพยายามจะ ‘จีบ’ หญิงสาวตลอด หากแต่เธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหวั่นไหวหรือหลงเสน่ห์เขาแม้แต่น้อย ชายหนุ่มแอบถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายอยู่หลายครั้งเขาไม่เคยจีบผู้หญิงเสียด้วย เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนเพื่อจะหว่านล้อมเธอได้อีก และจนแล้วจนรอดเขาก็ต้องขับรถมาส่งเธอที่หน้าบ้านก่อนสี่ทุ่ม ตามคำขอร้องของหญิงสาว


“ จะไม่ชวนผมเข้าไปดื่มกาแฟสักหน่อยหรือครับ ” เขาเอ่ยถามขึ้น เมื่อรถจอดสนิทหน้าประตูบ้านและหญิงสาวข้างตัวกำลังปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมจะลงจากรถ


“ อย่าดีกว่าค่ะ ถ้าคนอื่นเห็นเข้ามันจะไม่งาม ” หญิงสาวยิ้มหวาน สู้สายตาคมที่มองมายังเธอเหมือนจงใจโปรยเสน่ห์จนเกินไป


“ ผมไม่รู้จะใช้วิธีไหนจีบคุณแล้วนะครับ ” เขาบอกยิ้ม ๆ


“ วิธีที่ผูกใจของฉันได้ ก็คือความจริงใจและความเป็นธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบในละครที่น้องสาวคุณแนะนำ เพราะฉันไม่ใช่นางเอกละครที่จะชอบอะไรเวอร์ ๆ ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ออกจะแข็งกระด้างด้วยซ้ำ แต่วันนี้...ฉันก็ขอบคุณคุณนะคะ ฉันประทับใจมันพอสมควร คุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิง ทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นแค่คนธรรมดา ” เธอบอก ก่อนจะยกมือขึ้นสวัสดีพิพิทธนแล้วส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ก่อนลงไปจากรถพร้อมเจ้าตุ๊กตาหมีตัวโต


พิพิทธนมองตามร่างบางที่เดินเข้าบ้านไปจนลับตา เขาเค้นหัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่าจะเล่นตัวไปถึงไหน หรือเพราะเขาไม่ใช่สามีคนอื่น เธอถึงไม่สนใจ ขณะที่เขากำลังจะขับรถออกไป รถคันหนึ่งก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน เมื่อเขาเห็นคนขับรถคันนั้นเดินลงมา เขาก็ต้องอารมณ์ขึ้นกว่าเดิม เขาไม่มีทางลืมหน้าของผู้ชายคนนี้ได้......สพล !!!


ที่บอกให้มาส่งก่อนสี่ทุ่ม ก็เพราะนัดสามีของพิมพ์สุจีไว้นั่นเอง !!!
สพลกดกริ่งหน้าบ้านอยู่หลายครั้งจนกว่าจะมีคนมาเปิดประตู และคนที่มาเปิดนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่เขาต้องการพบที่สุดในตอนนี้ต่างหาก เขายิ้มหวานทำให้จิณัฐตาหน้าเหวอ เธอไม่คิดว่าคนที่มากดกริ่งเรียกยามวิกาลจะเป็นสพล หญิงสาวก้าวออกมาจากประตู ก่อนจะผลักอกชายหนุ่มเบา ๆ


“ พลมาที่นี่ทำไม ตอนนี้พลควรอยู่ที่บ้านของพลนะ ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น ถึงเธอจะเข้มแข็งมากเพียงไร แต่เธอก็เป็นผู้หญิง เธอไม่สามารถทำใจได้กับเรื่องแบบนี้


“ พลคิดถึงจีน ” เขาขยับเข้าไปใกล้ หาแต่จิณัฐตายกมือขึ้นปัดป้อง


“ จีนไม่คิดถึงพล ไม่อยากเจอพลด้วย พลกลับไปเถอะ จีนไม่อยากมีปัญหากับพิมพ์สุจีภรรยาของพล ”


“ ช่างพิมพ์เขาประไร คนโกหกแบบนั้น ทำไมต้องใส่ใจด้วย ” สีหน้าของชายหนุ่ม แสดงว่าไม่ใส่ใจภรรยาจริง ๆ


เพี๊ยะ !!!!


“ เห็นแก่ตัว...เห็นแก่ตัวที่สุด ” จิณัฐตาตบชายหนุ่มจนหน้าหัน แก้มขาว ๆ ขึ้นรอยแดง สพลมองเธอด้วยสายตาเจ็บปวด ก่อนจะกระชากเธอมาแนบตัว


“ จะตบพล เตะพลยังไงก็ได้ พลแค่ขอให้พลได้เจอกับจีนเท่านั้นพอ ”
สพลก้มลงจูบซับน้ำตาจิณัฐตาที่ไหลอาบสองแก้ม หญิงสาวเหมือนไร้เรี่ยวแรงอยากจะผลักเขาออกไปจากกายก็ไม่สามารถทำได้ เธอไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้ว วินาทีนี้...เธอขอทำตามใจตัวเองสักครั้ง
หญิงสาวกอดตอบชายหนุ่มแน่น สพลยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นว่าจิณัฐตาเปิดใจให้ตนมากขึ้น เขาค่อย ๆ เช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นดวงตาสวย ก่อนจะค่อย ๆ บรรจงมอบจุมพิตที่อ่อนโยนที่โหยหามานานให้หญิงสาวผู้เป็นที่รัก โดยที่จิณัฐตาเองก็โอนอ่อนผ่อนตามโดยไม่สามารถขัดขืนหัวใจตนเองต่อไปได้


พิพิทธนมองภาพตรงหน้าอย่างโกรธแค้น เขารู้สึกเกลียดชายหญิงสองคนนั้นอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะเกลียดใครได้ขนาดนี้มาก่อน เขาทุบพวงมาลัยรถเพื่อระบายความโกรธ แค่นึกว่าตอนนี้พิมพ์สุจีคงต้องนอนร้องไห้อย่างเดียวดาย เพราะสามีที่เธอรักหายไป เขาก็ไม่สามารถให้อภัยชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ได้ เขาต้องทำอะไรสักอย่าง เขาควรจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อพิมพ์สุจี !!!


เขาคงจะรอให้จิณัฐตารักเขาเองไม่ไหว เพราะกว่าเธอจะรักเขา เธอคงแย่งสามีของพิมพ์สุจีสำเร็จไปก่อนแล้ว เพราะฉะนั้น เขาก็จะต้องทำสิ่งเลวร้ายที่เขาเองไม่คิดจะทำกับผู้หญิงคนไหน มาทำกับผู้หญิงคนนี้ !!!


พิมพ์สุจียืนพิงกรอบหน้าต่างอยู่ในห้องเงียบ ๆ คนเดียว หญิงสาวใคร่ครวญสิ่งที่เธอทำไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการที่เธอแย่งสพลด้วยมารยาหญิงมาจากจิณัฐตา หรือการก้าวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่ร่ำรวยเงินทองเพื่อเอาชนะจิณัฐตาที่มีฐานะมาตั้งแต่เกิด ในขณะที่เธอเองกลับไม่มีอะไรเลย อยู่อย่างยากลำบากตลอดมา เธอต้องทำงานไปด้วยเรียนหนังสือไปด้วย สอบชิงทุนนักเรียนเรียนดีจากต่างจังหวัดเพื่อเข้าโควต้าของมหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อให้ยกระดับตนมาเป็นคนระดับปัญญาชน และวันนี้เธอก็มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอใฝ่ฝันไว้...หากแต่มันกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด เธอต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน บ้านหลังใหญ่ไม่ได้ให้ความอบอุ่นกับเธอสักเพียงนิด และตอนนั้นเอง เสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอเดินไปหยิบมาเปิดอ่านอย่างไม่ใส่ใจ หากแต่ข้อความที่ปรกฏบนหน้าจอสว่างจ้า ทำให้หัวใจเธออบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด


ผมรู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะ แต่ผมก็ยังอยากจะบอกพิมพ์ว่า พิมพ์ไม่ได้อยู่คนเดียว ผมอยู่ข้างพิมพ์เสมอ


อย่าร้องไห้นะครับ..ฝันดีครับ


                                                                                     จาก....พีท


น้ำตาอุ่น ๆ ของพิมพ์สุจีไหลอาบสองข้ามแก้มทันทีที่อ่านข้อความจบ หญิงสาวสะอื้นเบา ๆ ถ้าคนที่เธอแต่งงานด้วยเป็นผู้ชายแสนอบอุ่นคนนี้ เธอก็คงจะไม่ต้องเดียวดาย หากเธอสามารถลบปมและความแค้นในใจที่มีได้เธอก็คงไม่ต้องเจ็บปวดเช่นนี้ แสงไฟสว่างวาบจากรถคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดในที่จอดรถ พิมพ์สุจีสะดุ้งรีบปิดม่านและกระโดดขึ้นเตียงแกล้งทำเหมือนหลับทันที


สพลเดินเข้ามาในห้องของตน ซึ่งบัดนี้ถูกยึดครองโดยภรรยาสาวของเขาไปแล้ว ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องท่ามกลางความมืดมิดอย่างคุ้นเคย ก่อนจะตรงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวโดยไม่ใส่ใจจะเดินมาดูว่าคนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มหนาบนเตียงนุ่มนั้นหลับจริงหรือไม่ เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ก่อนที่กลิ่นสบู่หอมกรุ่นจะลอยมาเตะจมูกคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเงียบ เธอเองก็แอบคิดว่าเขาอาจจะย่องมาทำอะไรเธอยามวิกาลก็เป็นได้ หากแต่เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงประตูปิดลงเบา ๆ เธอก็แน่ใจว่า เธอคงจะคิดไปเอง


แม่คะ....บอกพิมพ์ทีสิ ว่าพิมพ์ควรจะทนต่อไปหรือไม่ พิมพ์ไม่อยากทนอยู่แบบนี้ พิมพ์ไม่ได้รักเขา เขาไม่รักไม่สนใจพิมพ์ เขาไม่สนใจพิมพ์เลยสักนิด เขาคงไปพบจิณัฐตามาแน่ ๆ พิมพ์ไม่สามารถแยกเขาสองคนออกจากกัน พิมพ์ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเสียใจไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนพ่อแม่มัน ที่ไม่เคยละอายใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปสักนิด !!







Free TextEditor




Create Date : 20 เมษายน 2553
Last Update : 20 เมษายน 2553 6:34:55 น. 2 comments
Counter : 372 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:6:49:09 น.  

 
ทักทายค่า ^^


โดย: kibosi วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:18:51:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kibosi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kibosi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.