Group Blog All Blog
|
มื้อเช้า เพิ่มพลังกับ แซนวิช Roast Beef
มื้อเพิ่มพลังงานที่ดีที่สุด คือ มื้อเช้าค่ะ เพราะเมื่อเราตื่นขึ้นมาอาหารที่เราทานไปเมื่อคืนคงย่อยหมดแล้ว และถ้าเราไม่ทานมื้อเช้าให้หนักท้อง ดื่มเพียง นม หรือ กาแฟ เราก็จะไม่มีสมาธิในการทำงานที่ต้องใช้แรงกาย และสมอง จนถึงเที่ยงเชียวนะคะ ดังนั้นเราต้องจัดหนักในมื้อเช้าค่ะ สำหรับคนตื่นสายแบบมิกัง มิกังก็ให้ความสำคัญกับมื้อเช้า ก่อนออกไปทำกิจกรรมอื่นนะคะ ถึงแม้ว่า อาจไม่ใหญ่มาก เพราะกระเพาะมิกังเล็กนิดเดียว แต่ก็อิ่มท้องจนเที่ยงเลยล่ะค่ะ มื้อเช้าของวันนี้ มิกังเลือกทาน แซนวิช Roast Beef ซึ่่งนำเอา Roast Beef ที่เหลือจากเมื่อวานมาแปรรูปเป็นแซนวิชแบบง่าย คือ มิกังใช้ขนมปังโรลของยามาซากิ ผ่ากลาง ทาเนื้อ อุ่นในไมโครเวฟ นำRoast Beef มาสไลด์เป็นชิ้นบาง ๆ แล้วเอาผักสลัดวางบนขนมปัง ราดเกรวี่ เสร็จแล้วทานได้เลย เร็วดีไหมคะ   ท้องมิกังเล็กจริง ๆนะคะ แค่แซนวิชอันแค่นี้ กับ น้ำส้ม นม 1 แก้ว ผลไม้นิดหน่อย อิ่มแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากให้อิ่มท้องกว่านี้ ควรมีสลัด กับซุปอีกสักถ้วย ก็จะอิ่มท้องดีนะคะ ส่วนสูตร Roast Beef กับน้ำเกรวี่ ช่วยไปดูใน เรื่อง Easy Roast Beef นะคะ Easy Roast Beef
สืบเนื่องจากหลายวันก่อน ไปสอย เนื้อมัดก้อน สำหรับทำ Roast Beef มาจาก villa super market พอมีเวลาว่างจากการออกงานสังคม (อุ้ยๆ ออกงานสังคม ฟังดูไฮโซ ๆ นะ อิ..อิ.. นอกเรื่องอีกแล้ว ) ก็ได้เวลาเอาเนื้อมัดก้อนที่ซื้อมาออกมาจากช่องแช่แข็ง และทิ้งไว้ให้คลายตัว และเริ่มปรุงเลย สูตรค่ะ เนื้อก้อนมัด หนักประมาณ250-300 กรัม 1 ก้อน โรสแมรี่ ประมาณ 4 ก้าน เกลือป่น พริกไทยดำป่น เอาโรสแมรี่รูดก้านออก เอาแต่ใบ เกลือ พริกไทยดำป่น คลุกกับเนื้อ ห่อฟลอย นำเข้าเตาอบ ไฟ 200 องศา อบประมาณ 30 นาที จะได้ Roast Beef ที่ความสุกประมาณ medium  พอเปิดฟลอยออกมา จะมีน้ำที่ออกมาจากเนื้อ เรียกว่า juice ออกมา( น้ำตรงนี้จะมีรสชาติเค็ม ตามปริมาณเกลือที่เราใส่ไป เพราะฉะนั้นใส่แต่พอควรนะคะ อย่าเยอะไป หรือน้อยไป ) juice ที่ได้นี่ มิกังจะนำมาทำ เกรวี่ไว้ราด Roast Beef ค่ะ ส่วนวิธีทำเกรวี่ก็ง่าย ๆ ใช้ juice ที่ได้จากเนื้อ มาเคี่ยวกับ มาดิกราซอส แบบก้อน ( ลักษณะจะเหมือน กับผง กระหรี่ที่ทำ แกงกระหรี่แบบญี่ปุ่นค่ะ มิกังซื้อ มาดิกราซอสนี่ ที่ อิเซตัน ซุปเปอร์ค่ะ ) ก็จะได้น้ำเกรวี่รสชาติอร่อยไว้ราด Roast Beef แล้วค่ะ  เวลาทานก็ค่อยแล่ชิ้นเนื้อออกมาบาง ๆ ราดน้ำเกรวี่ทานคู่กับสลัด Yum มากค่ะ เนื้อห่อใบองุ่นกับซอสบาบีคิวญี่ปุ่น
เมนูเนื้อห่อใบองุ่นกับซอสบาบีคิวญี่ปุ่นนี้ มิกังคิดขึ้นมาเองเลยค่ะ สาเหตุคือ มิกังไปได้เนื้อสไลด์น่ากินมาก มาจาก Villa Supermarket ตอนแรกคิดว่าจะมาทำยากินิคุ แต่คิดไป คิดมา บ้านเรามีใบองุ่นนี่ ความคิดก็เลยย้อนไปถึงตอนหนีน้ำท่วมไปอยู่ที่เขาใหญ่ และได้ลองชิม เมี่ยงใบองุ่นของไร่ PB. อืม..ไอเดียมันเลยบังเกิดว่า ลองทำเนื้อห่อใบองุ่น ทานกับ ซอสบาบีคิวญี่ปุ่น ดูดีกว่า ส่วนผสม เนื้อวัวสไลด์ 4 ชิ้น ใบองุ่นอ่อน ขนาดกลาง 8 ใบ หน่อไม้ฝรั่ง 4 หน่อ ห่อล่ะ 1หน่อตัดครึ่ง มะกอกดำ 2 ลูก หั่นแบ่งใส่ ห่อละ ครึ่งลูก ซอสบาบีคิวญี่ปุ่น ว่าแล้วก็ลงสวนเก็บใบองุ่น ใบอ่อนๆ แต่ขนาดกลาง มาล้างให้สะอาดจากฝุ่น ใบองุ่นบ้านมิกังปลอดสารเคมีนะคะ เสร็จแล้วก็นำมาวาง 2 ใบ วางเนื้อสไลด์ ใส่ หน่อไม้ฝรั่ง กับมะกอกดำ สองอย่างนี้ มิกังซื้อมาจาก สลัดบาร์ ของ Top supermarket ค่ะ แล้วห่อเข้าด้วยกัน นำไปย่าง พอเนื้อสุก ก็จัดใส่จาน พร้อมเครื่องเคียง มิกังเลือก เห็ดออริจิย่าง สัปรดย่าง ฟักทองย่าง ค่ะ  รสชาติของอาหารจานนี้ ถ้าทานเฉพาะเนื้อห่อจะได้รสชาติของเนื้อวัวตามธรรมชาติ ผสมกับกลิ่นฉุนนิดๆ แต่เบามากของใบองุ่น ถ้าอยากได้รสชาติและกลิ่นที่ชัดเจนของใบองุ่น ไม่ควรนำไปย่าง แต่ทานแนมกับเนื้อย่างจะได้รสชาติอีกแบบนึงที่ ชัดเจนกว่า ส่วนมะกอกดำ จะช่วยเรื่องรสชาดเปรี้ยวเล็กๆ แต่ไม่มาก หน่อไม้ฝรั่งช่วยให้เนื้อห่อใบองุ่นมีเนื้อหนังขึ้นมานิ้ดนึง พอจิ้มกับซอสบาบีคิวญี่ปุ่น มิกังซื้อสำเร็จในซุปเปอร์นะคะ อืม..อร่อย มันจะมีรสเค็มขึ้้นมาอีกนิด ส่วนเครื่องเคียงแต่ละชนิดที่มิกังเลือกก็จะให้รสชาติของอาหารที่แตกต่างกันไป ขอบอกได้อย่าเดียว มันฟินมาก ไข่เจียวปู เนื้ออวบอั๋น
ได้เวลาอาหารเย็นอีกแล้ว วันนี้จ่ายตลาด ได้เนื้อปู เนื้ออวบมากมา เลยคิดว่า ทำไข่เจียวปูดีกว่า และด้วยแรงบันดาลใจจาก ห้องก้นครัวที่ มีคนพาไปดู ไข่เจียวปูร้าน เจ๊ไฝ มา ไข่เจียวของมิกังจานนี้เลยบังเกิดขึ้น สำหรับสูตร ก็เหมือนไข่เจียวทั่วไป แต่ในสูตรนี้มิกังใส่ รากผักชีป่น กับซอยต้นหอมผักชีลงไปด้วย ส่วนที่ใส่รากผักชีป่นนี้ ได้แรงบันดาลใจ ได้มาจากคุณป้าพนอจัน ที่หลายคนอาจรู้จักดี ในห้องก้นครัวค่ะ สูตรของคุณป้าใช้ รากผักชีสดโขลก ( ถ้ามิกังจำไม่ผิด ) ส่วนมิกังเอาสะดวก ใช้แบบสำเร็จเลย ไม่มัวพูดพล่ำทำเพลงต่อแล้ว หลังจากเตรียมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน อันได้แก่ น้ำปลา รากผักชีป่น ต้นหอมผักชีซอย ตีไข่เจียวจนฟู( มิกังใช้เครื่องตีฟองนมแบบที่เป็นตระกร้อ ของไดโซ ค่ะ ) ก็ตั้งน้ำมันให้ร้อน พอน้ำมันร้อนเทไข่ลงไป ตามด้วยเนื้อปู ประมาณ 1 ขีด คอยจนอีกด้านเหลือง ค่อยๆ พับตลบ เข้าหากัน ทิ้งไว้สักพัก ก็ดับไฟ เอาน้ำมันออก จัดใส่จาน เตรียม กินโลดเลยค่ะ  แตน... แต้น.... หน้าตาสวยงาม ดั่งสาวอเมริกาใต้ ( เพราะสีออกแทนไปหน่อย 555 ) วันนี้ มิกังทาน ไข่เจียวปู กับ ผัดผักคะน้ากุ้งสด และ แกงส้มไหลบัวกุ้ง อร่อยสุดยอดไปเลย    " คะน้าฮ่องกงผัดไก่น้ำพริกเผา " สูตรง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มิกังไปเจอรูปภาพประกอบสูตรอาหารอันงดงาม บนหน้าปกนิตยสารเกี่ยวกับการทำอาหารเล่มหนึ่ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมนูอาหารที่มิกัง ได้มาจากการหลงรักรูปประกอบอันงดงาม ก็กลายมาเป็น อาหารประจำครัวของมิกังตลอดมา อ้าว..ระลึกถึงกันมานาน ลืมบอกชื่อเมนูอาหารนั้น คือ กุ้งผัดพริกเผา ใส่เห็ดหอม เจ้าค่ะ 555 แต่เมนูที่ว่านี้มิกังได้นำมาดัดแปลงเปลี่ยน เนื้อสัตว์ที่ใช้เป็น กุ้งบ้าง หมูสันในบ้าง สะโพกไก่บ้างแล้วแต่วันนั้น ในครัวมิกังจะมีอะไรเหลืออยู่บ้าง หรือพบเจอมาบ้าง และเห็ดหอม ก็เปลี่ยนเป็นคะน้าฮ่องกง ซะส่วนใหญ่ มันก็เลยกลายมาเป็น คะน้าฮ่องกงผัดไก่ น้ำพริกเผา ด้วยประการฉะนี้  คราวนี้ ตอนไปจ่ายตลาด มิกัง ไปตกหลุกรักกับ คะน้าฮ่องกง ต้นอวบ เลยซื้อมา 2ต้น เอามาทำเมนูวันนี้ หนึ่งต้น อีกต้น เอาไว้ผัดซีอิ้ว สำหรับมื้อต่อไป เอาล่ะ...เลิก พูดพร่ำทำเพลงดีกว่า มาเริ่ม แปลงร่าง คะน้าฮ่องกงต้นอวบ กับ สะโพกไก่ ที่มิกังไปสอยมาจาก ตลาดวันนี้ กันเลยดีกว่า อันดับแรก ก็ล้างคะน้าฮ่องกง ให้สะอาด หั่นให้ออกมาขาดพอดี ไม่ท่อนเล็ก หรือ ใหญ่เกินไป ต่อมาก็ ทุบและสับกระเทียม หนึ่งกีบ ใส่จาน เดียวกับ คะน้าฮ่องกง แยกไว้ ตามด้วย ล้างสะโพกไก่ให้สะอาด หั่นตกแต่งให้ดู น่ากิน สะโพกไก่นั้น มิกังเลาะ กระดูกออก เอาไปทำน้ำซุป ส่วนเนื้อเอามาหั้น เป็นก้อนๆ ได้ ประมาณ 6 ชิ้น เตรียม น้ำมัน น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำพริกเผา ตั้งไว้ใกล้ ๆมือ ตั้งกะทะ ให้ร้อน ใส่น้ำมันนิดหน่อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่ กระเทียมบุ พอกระเทียม เริ่มเหลือง ใส่ไก่ลงไปผัด เติมน้ำมันหอย น้ำพริกเผา น้ำตาล ประมาณ 1 ชต. ซีอิ้วขาวนิดหน่อย ถ้าดูแห้งไป เติมน้ำไปอีกนิด เสร็จแล้วใส่ คะน้าฮ่องกงลงไปผัด จนสุก ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย  อาหารจานนี้รสชาด จะออกหวาน เค็ม เผ็ดนิดหน่อย แต่ถ้าใคร ไม่ชอบหวาน ให้ลดน้ำตาลลงได้ แต่สำหรับมิกัง ทานรสค่อนข้างจัด เลย ใส่เต็ม ๆ ตามสูตร สูตรนี้มือใหม่ทำได้สบายค่ะ
|
hikarugenchi
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
Life never stop .
