Group Blog
 
All blogs
 

มหันตภัย...ไวรัสแมว




ตั้งหลักไม่ทันเลยครับ ฟึดฟัดอาทิตย์เดียว แมวก็ค่อยๆร่วงไปทีละตัว นี่ไปแล้ว 3 ตัว พูดไม่ออก บอกไม่ถูก อยู่โรงพยาบาลอีกตัว และกำลังจะพาไปหาหมออีกตัว เพราะตัวที่ตายตัวที่ 3 มันไปแบบสภาพยังดีมากๆ ไม่เหมือนแมวป่วยใดใด เพียงแค่ตอนกลางคืนมีน้ำมูกนิดหน่อย แล้วก็ซึม ไม่ค่อยมีแรง ก็กะว่าตื่นเช้ามาจะพาไปหาหมอ เพราะตอนมีอาการก็ 5 ทุ่มเข้าไปแล้ว
ผมตื่นมา 8 โมงกว่า ลงไปดูใบเตย ว่าจะพาไปหาหมอ แต่ใบเตยก็แข็งไปเรียบร้อยแระ โชคดีนะเจ้าเหมียวๆทั้งหลาย



กาหลง, ถุงเงิน, ใบเตย....




ส้มตำ กะ ม๋อมแม๋ม


ยังน่าเป็นห่วงอยู่โรงพยาบาลอีก 1 คือ ส้มตำ แต่เย็นนี้จะพาม๋อมแม๋มไปรักษากันไว้ก่อน เดี๋ยวจะไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบใบเตยอีกตัว...


ท้อเลย หมดรุ่นนี้จะหยุดเลี้ยงแมวพักใหญ่ๆ แระ





 

Create Date : 20 กันยายน 2551    
Last Update : 20 กันยายน 2551 12:20:14 น.
Counter : 922 Pageviews.  

แด่...กุ๊กไก่ ..อยากให้ทุกคนรู้ ว่าหนูนั้นสู้แค่ไหน เมื่อหยุดหายใจไป 2 ครั้ง

กุ๊กไก่เป็นแมวจรที่โชคร้ายเหมือนแมวอื่นๆ กุ๊กไก่ ถูกหมากัดจนกระดูกสันหลัง หักเป็นสองท่อน ทะลุผิวหนังออกมา แต่กุ๊กไก่ยังโชคดีที่มีคนพาไปหาหมอ และเมื่อคน คนนั้น นำเรื่องกุ๊กไก่มาลงที่นี่

นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้มาอยู่ด้วยกัน

ครั้งแรกที่เจอกุ๊กไก่ มองดูแล้ว คิดว่าแมวตัวนี้ ไม่น่ารอด นอกจาก แผลกลางหลัง ที่สาหัส ร่างกายยังอ่อนแอ และมีการติดเชื้อในกระแสเลือด





แต่แล้วกุ๊กไก่ ก็หายดีรอดมาได้ แผลที่หลังคุณหมอทำการผ่าตัดเย็บดึงหนังขึ้นมาปิดกระดูกสันหลังที่ยื่นโผล่ออกมา ร่างกายที่อ่อนแอก็ได้รับการรักษาจนดีขึ้น ใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลถึง 3 เดือน

วันแรกของกุ๊กไก่ที่บ้านของผม บ้านที่เต็มไปด้วยหมา ทำให้เขามีอาการเครียดอย่างชัดเจน ไม่ยอมให้จับตัว ขู่ตลอดเวลา แต่สภาพตัวเขาดีขึ้นมากๆ ขนขึ้นปิดแผลที่ทำลายชีวิตเขาทั้งชีวิตไปหมดแล้ว ทำให้เขาดูเหมือนเป็นแมวปกติ ตัวหนึ่ง เพียงแค่เดินไม่ได้ก็เท่านั้นเอง









ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ตลอดปีกว่าๆ ก็เข้าโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ ทั้งอึไม่ออก ร้องแง๊วๆ 3 วัน อึไม่ยอมออก ต้องทั้งสวน ทั้งบีบ ให้ยาระบาย ให้ยาคูลท์ เดี๋ยวก็เป็นแผลฉี่กัด ก็รักษากันไปเป็นๆ หายๆ เรื่อยมา

ล่าสุดก็รักษาแผลฉี่กัด ใกล้จะหายดีแล้ว วงแผลเริ่มเล็กลง เขาก็เริ่มเชื่องขึ้น ไม่ดิ้นไม่ขู่ ทำแต่หน้าเอ๋อๆ แทน เลี้ยงๆ ดูแลกันไป ความผูกพันกันมันก็มี มากขึ้น และคิดไว้ว่า พอแผลหายจะทำกรงให้ใหม่ ใหญ่กว่าเดิม และจะพาไปทำล้อรถ เพื่อให้เขาได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

************************************

แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เตรียมของทำแผลให้เขาตามปกติ ระหว่างที่เอื้อมมือจะไปจับตัวออกมาจากกรงเพื่อมาทำแผล กุ๊กไก่นอนหันหลังให้ ก็เห็นมีมดเดินบนตัว จึงปัดออก แต่เมื่อแหวกขนลงไปดู เห็นมดมาจากไหนไม่รู้เพียบเลย ละได้ยินเสียงกุ๊กไก่ครางเบาๆ จึงรีบดึงเค้าออกมาเพื่อที่จะปัดมดออก จับตัวออกมาวาง สภาพเค้าตัวเย็นและเริ่มจะแข็ง ผิวหนังแห้งขาดน้ำ

พยายามเรียกชื่อ กุ๊กไก่ แล้วกุ๊กไก่ก็หันมาแง๊วให้ สองทีเบาๆ ก็ตาค้างและนิ่งไป เลยคว้าตะกร้า พาตัวเขาทั้งแข็งๆตาเบิกโพลง ไปหาหมอโดยทันที ระหว่างทางก็พยายามคลึงตัวเค้า จับเขย่าๆเป็นระยะๆ อยากให้เขาตอบสนองกลับมาบ้าง แต่ก็เงียบ ตอนนั้นเริ่มถอดใจ จะหันรถกลับแล้ว ตัวเค้ายังนิ่งๆ แต่ปากเขาพยายามจะขยับ ก็เลยไปกันต่อ

ถึงโรงพยาบาลผมหิ้วปีกเขาเลยด้วยความรีบ ผู้ช่วยหมอ มาคว้าตัวต่อจากผมไป พาเข้าห้องงฉุกเฉิน ระดมกันต่อท่อออกซิเจน สายน้ำเกลือ และปั๊มหัวใจเขาทันที ปั๊มซักพักนึง หมอเรียกไปคุย

หมอบอกว่า ตอนเอาเข้ามา เขาหยุดหายใจไปแล้ว หมอให้ออกซิเจนแล้วให้ยากระตุ้น ตอนนี้เขากลับมาหายใจได้อีกครั้ง แต่ทว่า พอยาหมดฤทธิ์หัวใจเขาก็เริ่มจะช้าลง อาการตอบสนองทางร่างกายก็ไม่มี ถามผมว่าจะเอายังไง ถ้าจะปล่อยเขาไปก็หยุดยา แต่ถ้าจะให้ยาต่อก็ได้ แต่ก็ไม่รับรอง ก็ต้องดูกันไป

ผมตัดสินใจบอกหมอว่า ให้ยาต่อเถอะ ในใจผมหวังว่า ถ้าหัวใจเขายังเต้น รอเวลาให้ร่างกายเขาฟื้นดีกว่านี้ เขาน่าจะดีขึ้น

ผ่านไปอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง หมอเรียกเข้าไปดูอีก ตอนนี้รู้สึกว่าหมอเองก็เริ่มถอดใจ หมอบอกว่าเขาคงไม่ไหวจริงๆ เพราะพอให้ยาหัวใจก็เต้น พอยาเริ่มหมดฤทธิ์ หัวใจก็เบาลง หมอขอถอดออกซิเจนนะ ผมดูแล้วเขานิ่งไปแล้วจริงๆ ก็เลยไม่อยากฝืนก็ตอบโอเคหมอไป และผู้ช่วยก็มาอุ้มเขาไปล้างตัว ทำความสะอาด ในขณะที่วางตัวเขาบนโต๊ะ และเจ้าหน้าที่เตรียมของ เพื่อจะทำความสะอาดตัว กุ๊กไก่ ก็กลับมาหายใจอีกครั้ง คราวนี้ท้องกระเพื่อมด้วย ผู้ช่วยตะโกนบอกหมอ หมอมาดู ก็บอกว่า หนูใจสู้นะลูก และ ก็อุ้มกุ๊กไก่ไปใส่สายออกซิเจน ให้น้ำเกลือ ให้ยากันใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งเอาน้ำอุ่นมาประคบ เอาผ้ามาห่ม

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เสียงเครื่องวัดชีพจรดังปี๊บบ..........เว้นระยะห่าง แล้วปี๊บบ อย่างช้าๆ เวลาผ่านไป ผมยิ่งคิด ว่าเราควรจะปล่อยเขาไปดีไม๊ เพราะเห็นหมอให้ยาอยู่เรื่อยๆ มันหมายความว่า เขาหายใจอยู่ได้เพราะยารึเปล่า

ซักพักหมอเรียกเข้าไปคุยอีกรอบ หมอบอกว่าสุดๆแล้ว เขาเองไม่ดีขึ้นเลย ตาก็ไม่ตอบสนอง อุณหภูมิก้อไม่ดีขึ้น และเมื่อผมพยักหน้า ชีวิตของกุ๊กไก่ก็จบลง

ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น มันบอกไม่ถูก มันมักจะเกิดความรู้สึกโทษตัวเอง ที่เรามีเวลาให้เขาได้ไม่เยอะพอ ช่วงแรกๆมาอยู่กันใหม่ๆ ไม่ค่อยมีเวลา พักหลังเริ่มสงสารพยายามให้เวลาเขามากขึ้น

ในขณะที่เราคิดว่า เราพยายามแล้ว แต่เราคงพยายามน้อยไป ทุกวันมองหน้าเขา สงสารเขา เห็นเขาพิการ อยากให้เขามีความสุข ว่างๆก็ดึงออกมาเล่นจี้เอา เกาพุง เกาคาง โครงการจะสร้างกรงใหญ่ๆให้หนูไถตัวเล่นก็พับไป จะพาไปทำล้อก็จบไปหมด



แต่หนูอาจจะมีความสุข กว่าตอนที่หนูมีชีวิตอยู่ ก็ได้ เพราะหนู ก็ไม่ต้องเป็นแมวพิการ คราวนี้ หนูอยากไปไหนมาไหนตามนิสัยของแมว หนูก็ทำได้แล้ว อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวหมา ไม่ต้องอดอยาก อีกต่อไปแล้ว

ขอให้โชคดีนะ กุ๊กไก่ และจะระลึกถึง อยู่เสมอว่า ว่าครั้งนึงเราเคยได้ดูแลกันมา....และหนูก็เกือบทำให้เชื่อว่า แมวมี 9 ชีวิตจริงๆ




 

Create Date : 29 มกราคม 2550    
Last Update : 29 มกราคม 2550 9:29:48 น.
Counter : 498 Pageviews.  

ฮะเหมียว ถูกรถเหยียบ





ชื่อเรียกยากจริงๆ กับลูกแมว ตาแป๋ว ทำตาโต นั่งเซื่องซึมอยู่ใต้โต๊ะม้าหิน หน้าร้านขายของชำในซอยบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เขามาสบตาผม รึผมไปสบตาเขากันแน่ พอได้เห็นสายตาอันแสนละห้อย อ่อนแรง ก็เดินเข้าไปดู เพราะเขานั่งเฉยๆ ท้องก็บวมเป่ง




เมื่อเจ้าของร้านขายของชำเหลือบมาเห็นผมเดินเข้าไปเล่นกะแมว แกก็บอกว่า มันถูกรถทับมาหลายวันแล้ว ขี้เยี่ยวก็ไม่ออกเนี่ย ผมเลยเอื้อมไปหยิบเค้าขึ้นมาดู เจ้าเหมียวส่งเสียงร้องครางเบาๆ และแล้วภารกิจกู้โลกก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ใส่ตะกร้าพาไปหาหมอ แจ้งชื่อใบ้รับประทานเลย พักหลังมุกตั้งชื่อ หมาแมว มันตัน ไม่รู้จะตั้งไรแล้ว ถ้ามาสีขาวก็ขาว ดำก็ดำ เขียวก็เขียว แต่เจ้านี่ตัวลาย ลายบ้านเราก็มีแล้ว สุดท้ายให้ผู้ช่วยหมอตั้ง น้องผู้ช่วยก็วิจิตร ครีเอทอักษรเหลือเกิน ตั้งชื่อว่า “ฟรีนัส” ถามว่าชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา น้องก็ยิ้มเขินๆ (แหมทำอย่างกะเราไปขอเบอร์โทรศัพท์ ยังไง อย่างงั้นเลย) แต่ก็ไม่ตอบว่ะ อ่ะไม่เป็นไร ข้ามซีนไปเมื่อหมอมา




หมอจับตรวจเอ๊กซเรย์ พลิกซ้าย พลิกขวา จุดหลักเล็งไปที่ท้องบวมเป่ง และก็เชิงกราน ซึ่ง ฟรีนัสเดินถ่างขา ในส่วนของเชิงกราน หมอบอกว่าแมวเด็ก เดี๋ยวเชิงกรานมันก็เชื่อมติดกันเอง ไม่จำเป็นต้องผ่า จากนั้นมาดูท้อง จากฟิล์มเอ๊กซเรย์ หมอมองเหมือนว่ามันมีน้ำในช่องท้อง หมอสันนิษฐานว่า FIP แน่ หมอจึงทำการเจาะ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดสำหรับลูกแมวตัวน้อยตัวนี้มากๆ กับการถูกเจาะท้อง แต่ก็ต้องยอมล่ะนะเจ้าหนู ไม่มีทางเลือก ซึ่งหมอก็เจาะออกมาได้เพียงนิดหน่อยเนื่องจากฟรีนัสดิ้นพราด หมอเอาน้ำมาดม ก็เกิดอาการไม่แน่ใจว่ามันจะ FIP รึเปล่าหว่า สีน้ำก็ไม่เหลือง ไม่ขุ่น เพราะโรค FIP สีน้ำจะขุ่นๆมีกลิ่นตุตุๆ




พอหมอดมก็ไม่แน่ใจ ก็มีสันนิษฐานที่สองว่ากระเพาะฉี่ช้ำแตกรึเปล่า เนื่องจากที่เอามารักษาเนี่ย มันถูกรถเหยียบมา ซึ่งดูจากฟิล์มก็บอกยาก เพราะเป็นแค่ลูกแมว มันเล็กไปหมด หมอมองไม่ออก แต่หมอก็พยายามหาว่าไอ้ที่มันทำให้ท้องบวมเบ่งอยู่เนี่ย มันคืออะไร อีกทางหมอก็เลยลองอัลตร้าซาวด์ดู ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจน แต่ก็พอมองออกได้ว่า ไอ้ที่ทำให้ท้องค้างบวมเป่งอยู่นั่น มันคือ “ขี้”



หมอเลยให้กลับบ้านมาดูอาการซักสองวัน ถ้ายังไม่อึ ไม่ฉี่ ก็พามาดูกันอีกที หมอไม่จ่ายยานะ หมอให้ชื่อยาแล้วเรามาซื้อเอาเอง คือ ช่วยกันสุดๆแล้ว เนื่องจากหมอรู้ว่าแมว หมาที่เราเอาไปรักษาเนี่ย เราไปเก็บมารักษา เค้าก็เลยช่วยๆกัน ตรงไหนพอลดได้ก็ลดค่าใช้จ่ายลง



พากลับมาบ้าน ข้ามตัดตอน ผ่านไป สองวัน ยังไม่ดีขึ้นแฮะ แต่ยังกินข้าวได้ดี แต่ไม่ฉี่ ไม่ขี้ นี่ดิ มีขี้มานิดนึงเท่าปลายนิ้วก้อย ฉี่อีก 2 หยด ดูแระ ไม่ได้การล่ะ ปล่อยไว้ ตายแหงม เลยพาไปหาหมออีกครั้ง แต่เนื่องจากว่าเรามองแล้วว่าหมอเดิมคงทำไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะที่ตรวจไป คือถ้าเค้าทำไรได้มากกว่านี้เค้าคงทำไปตั้งแต่สองวันก่อนแล้วนะ ก็เลยพาไปหาหมออีกท่านหนึ่ง ซึ่งเราก็ไว้ใจเหมือนกัน และเคยวางยาผ่าตัดแมวเด็กให้เรามาแล้ว ก็เลยไว้ใจหมอ

เมื่อไปถึงหมอมองฟิล์ม หมอบอกเลยว่า “ขี้” ที่อยู่ในท้อง ส่วนเชิงกรานหมอว่า มันเชื่อมติดกันแล้ว ต่อแต่นี้ไปล่ะ การอึฉี่ มันจะมีปัญหาแล้วล่ะ เพราะมันไปบีบปากถ้ำซะเหลือนิดเดียว โตไปมีปัญหาแน่นอน ฟันธงป้าบๆ แต่ ณ ขณะนั้น มันเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือ ท้องที่ยังบวมเป่ง เห็นเป็นเส้นเลือด และการถ่ายไม่ออก เป็นเรื่องหลักที่หมอจะแก้ไข ขนาดหมอบีบฉี่ ยังไม่ค่อยจะออกเลย สุดท้ายก็ขอฝากหมอไว้ เพราะว่าเอากลับบ้านดูท่าจะไม่ไหว อยู่กับหมอดีกว่า น่าจะรุ่งกว่า

ผ่านไปสองวัน โทรถามอาการยังไม่ดีขึ้น ยังทรงๆ แต่ยังกินเก่งเหมือนเดิม ผ่านไปอีกสองวัน รวมเป็นสี่วัน ตอนเช้าหมอโทรมาบอกว่า ฟรีนัสไปแล้ว ไปบ้านเก่า ในตอนเช้า ไปอย่างเงียบๆ เพราะก่อนหน้าก็ยังไม่มีอาการไรที่ทรุดลง หนำซ้ำอาการยังดีขึ้นด้วยซะอีก เพราะเริ่มสามารถฉี่ได้เป็นสายแล้ว ไม่เป็นหยดๆ อย่างที่ที่น่าเป็นห่วง แต่สุดท้ายเค้าก็ไป หมอสันนิษฐานว่าคงช้ำใน จากการถูกรถเหยียบนั่นแหล่ะ และคงโดนมาเป็นอาทิตย์แล้ว ก่อนเราไปเจอ....




โชคดีนะแมวน้อย......




 

Create Date : 23 มกราคม 2550    
Last Update : 23 มกราคม 2550 11:13:54 น.
Counter : 602 Pageviews.  

แตงกวาน่ารัก คึกคักเวลาเดินเล่น...

เป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ลุ้นแทบแย่ ใน ช่วงอาทิตย์แรก หลังจากที่พาไปหาหมอ เพราะแตงกวาถูกมอเตอร์ไซค์ชนมา ลองนึกภาพลูกแมวตัวน้อยๆ ถูกมอเตอร์ไซค์กระแทกหน้ามานะครับ



วันที่ไปเจอเค้า คือวันที่ไปส่งแมววัดกลุ่มหนึ่ง กลับวัด ณ วัดแห่งหนึ่ง แถวพระราม 2 ซึ่งมีพี่กุ้ง [แม่ไมโล]...(ล๊อกอินในพันทิพ) โดยพี่กุ้งจะเข้ามาดูแลแมวที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ และเมื่อผมกับ ประธานชมรมแมววัดมะกอกแห่งประทศไทย นำแมวไปลงได้ซักครู่ พี่กุ้งก็เรียกไป ดูอาการ เจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ที่หลวงตาอุ้มมาให้ดู โดยหลวงตาบอกว่าถูกรถชนมาตั้งแต่เมื่อวาน สภาพก็เป็นอย่างนี้



มีคนเห็นว่าเค้าถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวที่หน้าอย่างจัง ตอนนี้ก็เอาแต่นอน ลุกไม่ขึ้น

เมื่อจับตัวเค้าอุ้มขึ้น ก็ดูเหมือนจะไม่ไหว แวบแรกผมคิดว่าไม่รอดแน่ คอตก ตัวลีบขนาดนี้ แต่ตามระเบียบกู้โลก ก็ต้องพาไปหาหมอก่อน ดีกว่าคิดว่าไม่รอดแล้วปล่อยทิ้งไว้ ถ้าคอไม่ขาด ยังไงก็จะพาไปหาหมอล่ะนะ แต่จะพาหาหมอไหนดี คิดอยู่ตั้งนาน สรุปก็พามาปากเกร็ด ข้ามจากพระราม 2 มาปากเกร็ดเลย

เจ้าเหมียวนอนนิ่ง ไม่ไหวติง อาการถ้าจะแย่มากๆ ระหว่างทางต้องคอยสะกิดมาตลอด

มาถึงโรงพยาบาลแรก (มีโรงพยาบาล 1 โรงพยาบาล 2 ด้วย อิอิ) ตั้งใจจะเอามา x-ray เพราะไม่รู้ว่า กระดูก แตกหักอะไรบ้างรึเปล่า ลูกแมวตัวบางๆ กระจ้อยริด แต่หมอไม่ยอม x ได้เพียงจับๆ ดู ก็บอกว่ากระดูกไม่แตกไม่หัก มีเพียงสมองบวม

ผมกับประธานแมววัดมะกอก ตกลงกันไว้อยู่แล้วว่าจะเอาไปรักษาอีกที ที่นี่แค่มา x แต่หมอไม่ x ก็เลยบอกหมอว่าจะเอาไปรักษาใกล้บ้าน (แต่จริงๆ โรงบาลอยู่ใกล้กัน เพียงแต่อีกที่เขาไม่มีเครื่อง x)

ไปถึงโรงพยาบาล 2 หมอเช็คเหมือนโรงพยาบาล 1 แต่ให้น้ำเกลือ ให้ยาลดบวมของสมองเพิ่มด้วย จากนั้นก็ฝากตัวไว้โรงพยาบาล ท่านประธานแมววัดมะกอก ก็เป็นผู้คอยติดต่อ และติดตามข่าวอาการของ แตงกวาอยู่อย่างสม่ำเสมอ มาดูมาเยี่ยมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง



อาทิตย์ 1 ผ่านไป


ส่วนตัวแตงกวาก็หลังจากผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง ก็ดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ลุกขึ้นเดินได้ปร๋อเลย แต่พออาทิตย์ต่อมาก็ซึมเป็นไข้ ติดเชื้อ เป็นพยาธิเม็ดเลือดซะงั้น คุณหมอก็ดูแลรักษาเอาใจใส่เป็นอย่างดี รวมถึงผู้ช่วยหมอที่นี่ ถึงขนาดกับพาไปนอนด้วย นอนเฝ้าดูอาการกัน



จนในที่สุด แตงกว่าน้อยก็กลายเป็นแมวร่าเริงแข็งแรง ได้ภายในเวลา 1 เดือน พร้อมกับมีพี่ใจดีท่านหนึ่งได้รับแตงกวาไปเลี้ยงดู ไม่ต้องกลายเป็นแมววัด แมวจรจัดอีกต่อไปแล้ว

..........................................................................

• ขอบคุณบัญชีรักษ์แมว ที่ได้ช่วยเหลือในเรื่องค่ารักษา
• ขอบคุณคุณหมอและผู้ช่วยทุกคน ที่โรงพยาบาลสัตว์ย่านปากเกร็ด
• ขอบคุณพี่ดีดี้ small ที่ได้รับแตงกวาน้อยไปอุปการะ
• ขอบคุณคนบนโลกที่ยังให้โอกาสชีวิตน้อยๆเหล่านี้อยู่




ปล.เคสนี้ได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจาก บัญชีรักษ์แมว ของพี่รักษ์ แต่ผมคิดถึงเค้า เค้าเป็นแมวที่น่าร๊ากกมากๆ เลยขอนำมาเขียนเก็บไว้ให้ระลึกถึง




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 20 ธันวาคม 2549 8:41:20 น.
Counter : 248 Pageviews.  

น้องอาย สุดซ่าส์ ตาเดียว

ณ วันหนึ่ง ไปตระเวณจับแมวทำหมัน กับ ประธานชมรมแมววัดมะกอกแห่งประเทศไทย พบแมวตาเจ็บ อักเสบ ขี้ตาเยอะ ก็หลายตัวเลย แต่ก็ไม่เท่าเจ้า แมวน้อยตัวนี้ หมอบตัวสงบนิ่ง อยู่ตรงบันไดทางขึ้นศาลา เป็นลูกแมว สามสี อายุน่าจะซัก 2 เดือน สภาพ อย่างที่เห็นล่ะคับ ตาทะลักออกมานอกเบ้า ข้างนึง ซึ่งน่าจะเกิดจากการอักเสบจากเชื้อไวรัส (ซึ่งหาได้ตามแมววัดทั่วไป)



ปกติถ้าประมาณมีขี้ตาเยอะๆเฉยๆ ก็จะเอายาป้ายตาไปป้าย และเช็ดตาเท่านั้น ที่เหลือก็ฝากยาเอาไว้ให้แม่ชี ดูแลต่อ แต่นู๋แมวตัวนี้อาการหนักเกิน เห็นสภาพแล้วรูสึกได้ว่า มันคงปวดมากอ่ะนะ (คิดแทนแมวอีกแล้วตรู...แต่ผมคิดว่าคนอื่นก็คงคิดเหมือนผมนะ ถ้าไม่คิดต้องลองตาปูดทะลักออกมาดู)

เมื่อสรุปกะ ท่านประธานชมรมแมววัดมะกอกแห่งประเทศไทยได้ จึงได้พาเจ้าเหมียวน้อยสามสี ที่ผมตั้งชื่อให้ว่า น้อยอาย ไปพบสัตวแพทย์ทันที ซึ่งหลังจากคุณหมอได้ตรวจแล้ว ก็สรุปได้ว่า ควรควักตาออกแล้วเย็บตาปิดซะเถิด ญาติโยม ... ช่วงนี้ก็บำรุงให้สภาพดีกว่านี้ก่อน เพราะเอาไปนี่ ผอมดีเหลือเกิน ผมเลยฝากหมอไว้ก่อนดีกว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็เก็บ แบบนี้มาตัว (ไม่รู้ตัวเดียวกันกลับชาติมาเกิดรึเปล่า) แบบว่าพาไปหาหมอแล้วหมอบอกควรควักตา แต่เอาไปดูแลให้แข็งแรงและโตกว่านี้หน่อย ค่อยวางยา วางตอนนี้มันเสี่ยง ก็รับกลับบ้าน แต่อยู่ได้ไม่นานก็นอนตายไปซะงั้น เจ้าน้องอายนี่เลย ให้อยู่กับหมอดีกว่า น่าจะอุ่นใจ สบายใจกว่ากันเยอะเลย

*************************************
10 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก จันทโครพ หยิบผอบขึ้นมาดูรอบที่ 135 แต่ยังไม่กล้าเปิด......

ไม่จริง ผ่านไป แค่สองอาทิตย์ คุณหมอจัดการควักตาที่ปูดเน่าของน้องอายออกเรียบร้อย เอาลูกตาไปใส่บนหัวแหวนเพชร เรียบร้อย... และนี่คือสภาพหลังผ่าตัดใหม่ๆ



เริ่มยืน เริ่มเดิน ปีนป่ายไปเรื่อย ดูเค้าร่าเริงขึ้นมากๆ ผิดกับตอนแรกที่เก็บมา ราวฟ้ากับดินเลย

เมื่อการดูแลรักษา ดูเหมือนจะเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปของการกู้โลก ก็คือ การหาบ้านนั่นเอง หาบ้านจริงๆผมไม่ค่อยถนัด แต่ หาเรื่องนี่ถนัดนัก

คิดดูสิคับ แมวดีดี ยังหาบ้าน กว่าจะหาได้ เจ๊ดันทั้งหลายเลือดตาแทบทะลัก แล้วนี่ มีของแถม คือแถมพิเศษ ถอดตาออกให้ข้างนึง นี่ถ้าเป็นไปได้ ผมจะให้หมอย้ายตาน้องอายอีกข้างนึง มาไว้ตรงกลางซะ จะได้ดู balance กันหน่อย เสียดายทำไม่ได้

หาในเน็ต รอบแรก ก็ยังไม่ได้

ไปนอกเน็ต ดูๆๆ น้องอาย พยายาม present ตัวเอง อย่างสุดชีวิต โชว์ว่านู๋ สนุกสนาน ร่าเริง เฮฮาปาจิงโกะ มากมาย เวลามีคนมาอุ้ม น้องอายจะทำเชื่อง ออดอ้อนน่าดู แต่ก็ยังไม่ต้องตาใครสักเท่าไหร่



เลยต้องวกกลับมาในเน็ตอีกรอบ คราวนี้ ราศีจับ เพราะยิ่งโต ยิ่งสวย ตาหวาน แม้จะมีตาเดียว ในที่สุดก็ได้บ้าน เย้ๆ ลุ้นอยู่ ร่วม 2 เดือนได้มั๊ง ระหว่างหาบ้าน ก็ไปพักอยู่ที่บ้านประธานชมรมแมววัดมะกอกแห่งประเทศไทย ก็ช่วยกันลุ้น แต่พอน้องอายไปล่ะเศร้ากันทั้งคู่ เพราะน้องอายน่ารักมาก ซน ขี้อ้อน ขี้ประจบ แต่เราเองก็ไม่สามารถจะเลี้ยงได้ ตอนนี้น้องอายได้กลายไปเป็นแมวสาวเหนือ อยู่ที่ลำพูนไปซะแล้ว ว่างๆจะไปเยี่ยม ก็ไม่รู้ว่า จะร้อง เมี๊ยวๆ เจ้า ไม๊นี่






 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2549 9:55:06 น.
Counter : 893 Pageviews.  

1  2  

มีนะ กะ กาโม่
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ช่วยกันคนละนิดละหน่อยแล้วปัญหามันก็จะหมดไป

ใครรักหมาก็ถือว่าช่วยหมา
ใครไม่รักหมาก็ถือว่าช่วยคนก็ได้นะคับ

*****************************
Friends' blogs
[Add มีนะ กะ กาโม่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.