Review hostel St Christopher's Hammersmith@London ที่พักราคาถูกสำหรับแบคแพ็คแบกเป้เที่ยว สวัสดีคะ ปกติจะอยู่ที่ห้องแป้ง วันนี้หมีหมัดเมาขอข้ามห้องมาทักทายพี่ๆน้องชาวบูลนะคะ ปกติเวลาจะไปเที่ยวก็แอบมาเก็บข้อมูลที่พี่น้องชาวบลูมารีวิวไว้ คราวนี้ก็เลยจะมาตอบแทนแบ่งปันข้อมูลบ้างคะ ได้มีโอกาสไปเที่ยวลอนดอนเมื่อวันที่24สิงหา ถึงวันที่ 6 กันยา แต่ด้วยงบจำกัดเลยต้องใช้ชีวิตแบบประหยัดกันไป เริ่มจากที่พักที่ราคาไม่แพงเผื่อจะเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจนะคะ ที่หมีไปพักที่แรกเป็นโฮเทลคือที่ St Christopher's Hammersmith‏ หมีพักที่นี่คืนวันที่24-27 สิงหา รวม4คืน ที่นี้เป็นห้องพักรวมคะ ห้องพักที่จองไปเป็นห้องแบบ6เตียง ราคา 196 ปอนด์ / 2คน (24.5ปอนด์/คืน/คน) จองทางอินเตอร์เน็ตไป เวปที่แนะนำคือเวป //www.booking.com คะ เพราะจองแล้วสามารถยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม บางเวปหากยกเลิกจะต้องเสียค่าธรรมเนียมต้องอ่านรายละเอียดดูก่อนนะคะ พอไปถึงที่พักปรากฎว่าห้องพักที่จองแบบ6เตียงเต็มคะ เค้าเลยให้เราไปพักห้อง 18 เตียงแทน แต่ราคาลดลงไปเหลือ 134.40ปอนด์/4คืน/2คน (สรุปค่าที่พักเหลือคนละ 16.8ปอนด์/คน/คืนคะ) ราคาเรทณ.ตอนนั้นก็ประมาณ49-50บาท=1ปอนด์คะ ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วย ที่พักที่นี้ทำเลค่อนข้างสะดวกสบายในการเดินทางเลยทีเดียว คือนั่งมาลงรถไฟใต้ดิน (tube) ที่สถานี Hammersmith‏ ถ้าจากสนามบินฮีทโทรนั่งยาวไม่ต้องเปลี่ยนสายขบวนเลยคะ สะดวกตรงที่เวลาแบกกระเป๋าไม่ต้องขนย้ายข้ามขบวน สถานีHammersmithเป็นสถานีใหญ่‏จะมีทางออกหลายทางคะ ให้ออกทางที่มีรูปปั้นนี้นะคะ ถึงทางออกแล้วมองไปตรงข้ามจะเจอตึกที่พักเลยคะ ข้ามถนนเป็นทางสามแยก ที่สถานนีนี้จะมีร้านขายของเพียบเลยคะ เหมือนแหล่งช๊อปปิ้งเล็กๆเลยก็ว่าได้ มีร้านทำผม มีซุปเปอร์มาเก็ตโลตัส และยังมีร้านอาหารหลายร้านในสถานีนี้ด้วยคะ มันค่อนข้างสะดวกในการหาของกิน และผู้คนก็พลุกพล่าน กลางคืนไม่ต้องกลัวไม่ปลอดภัยเลย หน้าทางเข้าที่พัก ด้านล่่างเป็นผับขายอาหารเช้า และก็เป็นที่สังสรรค์นั่งกินดื่มฟังเพลงสำหรับเหยี่ยวราตรีทั้งหลาย ส่วนด้านบนเป็นหอพัก มีคืนนึงตำรวจมาตรวหน้าผับ กลับมาก็ดึกตำรวจก็ขอตรวจบัตรเราด้วย เลยบอกว่าพักที่นี้แล้วก็ยืนบัตรคีย์การ์ดให้เค้าเพื่อยืนยันว่าพักจริงๆนะ เข้าประตูมาจะเจอโต๊ะรีเซฟชั่นเลยคะ ติดต่อยื่นใบที่จองผ่านเวปที่ปริ้นมา ให้เจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันเพราะจ่ายค่าที่พักผ่านบัตรเครดิตทางเวปที่จองไปแล้วคะ แล้วเค้าก็จะให้คีย์การ์ดมา 2ใบเพราะไป2คน ประตูทางเข้าอยู่ฝั่งขวามือสุดของร้าน ด่านแรกจะมีช่องเสียบเป็นคีย์การ์ด ส่วนในรูปเป็นประตูชั้นที่2 แล้วก็จะเจอบันไดคะ ตามกำแพงก็มีรูปติดตกแต่งเก๋ๆ บันไดทางขึ้นคะ คนที่ลากกระเป๋าค่อนข้างลำบากนิดนะคะ เพราะบันไดสูงและค่อนข้างชันเลยทีเดียว เหนื่อยหอบ ขึ้นมาก็จะเจอตู้ฝากกระเป๋าแบบหยอดเหรียญ 1ปอนด์/2ชั่วโมง 2ปอนด์/4ชั่วโมง ข้อเสียคือถ้าหากบินเย็นแล้วต้องเช็คเอาท์ จะไม่มีที่ฝากกระเป๋าฟรีที่เคาท์เตอร์ต้องเสียเงินอย่างเดียวคะ ติดกับตู้ล็อคเกอร์ฝั่งซ้ายเป็นบันไดทางงขึ้นห้องน้ำด้านนอก ฝั่งขวามือของตู้ล็อคเกอร์เป็นห้องพักแบบ 18 เตียงคะ ส่วนตรงข้ามตู้ล๊อคเกอร์จะมีทางเข้าห้องอื่นๆด้วยคะ ซึ่งไม่ได้เข้าไปสำรวจเพราะต้องใช้คีย์การ์ดก่อนเข้าห้อง ข้อดีก็คือก็ปลอดภัยต่อทรัพย์สินคะ ข้อเสียตรงคีย์การ์ดบางทีก็ใช้งานไม่ได้ คือ เสียบไปแล้วประตูไม่เปิด ต้องลงไปให้เจ้าหน้าที่ปรับคีย์การ์ดให้ใหม่และเป็นบ่อยมากคะ เกือบทุกวันเลย บางทีก็เป็นใบเดียว บางทีก็เป็นทั้ง2ใบเลยคะ เสียเวลาต้องวิ่งลงไปข้างล่าง มาดึกๆเดินมาทั้งวันก็เหนื่อยแล้วนะ ง่วงด้วย ขอบ่นนิด ที่พักรวมคนเยอะ ก็ค่อนข้างไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่ ไม่เหมือนพักห้องเดี่ยว หรือ ห้องส่วนตัว ก็จะมีคนวางของไว้ข้างทางเกะกะบาง เวลาพักแบบนี้ก็ต้องเตรียมของเหมือนเราไปเข้าค่าย เตรียมเองทุกสิ่งอย่าง ไม่มีผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ ไม่มีสบู่หรือครีมอาบน้ำในห้องน้ำ รองเท้าแตะ อย่าลืมเอาไปด้วย ต้องทำใจกับที่พักราคาประหยัดนะคะ แต่ส่วนตัวแล้ว ชิวๆ คนที่ลุยๆก็ไม่น่าจะมีปัญหา ณ.จุดนี้อยู่แล้วเนอะ ที่เตียงก็จะมีป้ายบอกเลขที่เตียงคะ และก็จะมีผ้าม่านปิด ตรงนี้ดีนะคะ รู้สึกว่าเวลาจะนอนก้ปิดม่านแสงก็ไม่เข้า ทำให้หลับง่ายขึ้นคะ เพราะถ้าไม่ถึงตี1-2ไฟทางเดินในห้องก็ยังไม่ปิดคะ เตียงก็ไม่ได้เปลี่ยนผ้าปู ปลอกหมอนทุกวัน คนรักความสะอาดมากแจ้งไว้ให้ทราบก่อนนะคะ หมอนที่นี้แบนมากถึงมากที่สุด ผ้าห่มอุ่นดีเลยคะ อากาศกลางคืนค่อนข้างหนาว เวลาที่เปิดประตูข้างหน้าต่างทิ้งไว้ แต่ถ้าปิดก็จะไม่ค่อยมีที่ระบายอากาศคะ มาดูส่วนที่หัวเตียงนอนนะคะ จะมีไฟไว้ให้และที่เสียบปลั๊กอย่าลืมเตรียมที่เปลี่ยนหัวปลั๊กไปนะคะ ใต้ที่นอนจะมีกรงเก็บกระเป๋า อย่าลืมเอากุญแจไปนะคะ เพราะต้องล็อคมันไม่มีกุญแจให้คะ ถ้าไม่ได้เตรียมไปก็มีให้เช่าด้วยคะ ขนาดค่อนข้างใหญ่เลย ใส่เป้เดินทาง กระเป๋าลากใบกลางได้เลยคะ ก็รู้สึกปลอดภัยในการเก็บสัมภาระมากขึ้น ตรงประตูที่มีป้ายสีเหลือง จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องรวมนี้คะ จะมีห้องส้วม 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 3 ห้อง และอ่างล้างมืออีก4อ่าง ซึ่งปกติเวลที่เราอาบน้ำจะไม่ชนกับพวกชาวต่างชาติคนอื่นๆเลยคะ รู้สึกส่วนตัวมาก หรือเพราะฝรั่งไม่อาบน้ำกันหรือเปล่าไม่รู้ ฮ่าๆ เรากลับมาดึกๆ 11-เที่ยงคืน ก็อาบน้ำ เช้าตืนมา6-7โมงก็ยังไม่มีคนใช้ห้องน้ำเลยคะ ปล.ฝรั่งเที่ยวกลับมาดึกๆ ตื่นสายๆกันคะ ทางเข้าห้องน้ำในห้องพัก ประตูค่อนข้างหนัก เวลาเปิดปิดเสียงจะดังคะ ก็ต้องเกรียงใจคนที่นอนเตียงข้างๆทางเดินเข้าห้องน้ำด้วย ปิดปิดกันที่แทบไม่ได้นอนเลย แฟนได้นอนตรงนั้นพอดีเลย ข้อเสียอีกอย่างก็คือเราจะได้กลิ่นควันบุหรี่จากด้านล่างลอยขึ้นมา เพราะข้างล่างเป็นผับคนจะมาสูบบุหรี่ข้างนอกก็เลยจะได้กลิ่น แต่แฟนเราบอกว่าไม่รู้สึก แต่เราจมูกไวคะ อีกอย่างคือตอนผับเลิกก็จะมีคนมายนคุยเฮฮาหน้าร้านกันถ้าคนหลับง่าย หลับสนิทก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เวลาฝรั่งมันกลับมานอนกันก็เสียงดัง คืนแรกๆก็รำคาญ คืนต่อๆมาเดินเยอะเหนื่อยหลับไม่รู้สึกอะไร แต่แฟนบอกว่าเสียดังทำไมไม่รู้เรื่องอะไรเลย 55+ ห้องอาบน้ำ ฝักบัวไม่สามารถขยับได้ แต่น้ำอุ่นและแรงดีคะ ไม่มีปัญหาอะไร ขอบคุณเครดิตรูปจากกูเกิล จริงๆแล้วถ่ายมาแต่เห็นไม่ครบเลยขอยืมรูปมาประกอบการรีวิวคะ อ่างล้างหน้ากว้างดี มีสบู่ล้างมือให้ด้วยนะคะ ก๊อกน้ำแยกน้ำอุ่นและน้ำเย็น ทำไมมันไม่ทำมาแบบหัวเดียวเวลาใช้ต้องมาเปิด2ก๊อกผสมกันอีก ไอ้ก๊อกที่ร้อนก็ร้อนมาก ไอ้ก๊อกเย็นก็หนาวเกิน ห้องส้วมก็สะอาดดีถ้าไม่มีฝรั่งขี้เมามาอ้วกใส่โถส้วม เพราะมันจะเลอะกระจาย ติดโถสกปรกมากเลยคะ อิชั้นทนไม่ได้เลยเอาที่ขัดส้วมมากดสบู่ล้างมือไปขัดคะ อาหารเช้าของที่พัก ทาได้ไม่อั้นคะ จะมีนม ขนมปัง เนย แยม ซีเรียล อาหารเช้าแบบฝรั่งเค้าก็ไม่ค่อยมากเท่าที่เมืองไทยกินกัน เค้าก็กินกันเบาๆ แต่ถ้าทานอาหารเช้าของที่พักแบบเสียเงินจะได้ส่วนลดในราคาถูกลงด้วยคะ อย่างพวกเซท ไข่กวน แฮม ถั่วกระป่อง ตามสไตล์ฝรั่งอ่ะคะ ราคาเริ่มต้นในเมนูก็ประมาณ 3ปอนด์ ลดแล้วก็เหลือ 2ปอนด์นิดๆ (ลด10%คะ) ข้อดีที่ที่พักมีอาหารเช้าให้ฟรี ข้อที่1 ช่วยประหยัดได้ไปคนละเกือบมื้อละ2-5ปอนด์เลย หลายๆมื้อก็เป็นเงินช๊อปปิ้งได้เลยนะคะ ข้อที่ 2 ทำให้สะดวกไม่ต้องไปหาอะไรทานที่อื่น กินเสร็จก็ไปเที่ยวได้เลย สะดวกดีคะ ส่วนนี้เป็นอาหารเย็นที่กินที่ผับใต้ที่พัก คนเยอะเลยคะร้านนี้ เยอะตลอดเลย ถ้าพักที่นี้ก็จะได้ส่วนลดค่าอาหาร 10% เมนูนี้เป็นสลัด ใส่ไ่ก่ เบคอน อโวคาโด้ ก็อร่อยดี แต่เบคอนเค็มมาก จานใหญ่เลยคะ เกือบทานไม่หมด จานนี้ของคุณแฟน เป็นซี่โครงย่างราดซอสแบบครึ่งแต่มาแล้วใหญ่โคตรๆ อร่อยดีคะ ราคาสองจานรวมแล้วประมาณ 14-15 ปอนด์ หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์ในการเลือกที่พักนะคะ หากมีข้อสงสัยก็สอบถามได้นะคะ ไว้จะมารีวิวที่พักอีกที่ในลอนดอนเป็นห้องพักแบบ2คนราคาประหยัดเช่นเดิมคะ   Create Date : 12 ตุลาคม 2554     Last Update : 12 ตุลาคม 2554 15:30:05 น. Counter : 4485 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ทััวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.6 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ --------------------------------------------------------------------------- วันพุธที่ 16 เมษายน 2551 เก็บตกช๊อปปิ้งแหล่งที่ไม่ได้ไป 13:00 น. : ถึงสนามบินเช็คแล๊ปก๊อกเข้า เช็คอิน 15:50 น. : มุ่งหน้าสู่ กรุงเทพ 17:30 น. : ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิ์ภาพ เป็นวันสุดท้ายที่อยู่ฮ่องกงค่ะ เรามากินอาหารมื้อเช้าที่นี้ค่ะ YUNG KEE RESTAURANG อยู่ที่ 32-40 WELLINGTON SREET, CENRAL เปิด11.00-23.30 ติ๋มซำเสริฟ์14.00-17.00น. (ปิด3วันแรกของตรุษจีน) การเดินทาง MTR สถานีCENTRAL ทางออกD1 หรือ D2 ดูห่านที่เรียงโชว์อยู่หน้ากระจกร้านซิค่ะ น่ากินมั้ยเอ่ย ร้านนี้เป็นภัตตาคารที่ติดอัน3ของโลก (เค้าบอกมาค่ะ) เข้าไปกินกันเลยดีกว่า ตามมาเลยค่ะ เริ่มต้นเสริฟ์ด้วยไข่เยี่ยวม้า เป็นของว่างที่ทางร้านจัดมาให้ เราไม่ได้สั่งค่ะ รสชาติของไข่เยี่ยวม้านี้กลิ่นไม่ฉุนเลยค่ะ มีความมันของไข่แดง ส่วนไข่ขาวก็เหมือนวุ้นเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบกินไข่เหยียวม้าอยู่แล้วคง ถือว่าเด็ดเลยค่ะ ส่วนหมีไม่เคยกินเลย แต่ของลองหน่อยไหนๆๆมาทั้งทีแล้ว ก็รสชาติที่ได้สัมผัสก็ตามที่บอกไปค่ะ ส่วนขิงเครื่องเคียงของร้านนี้แม่บอกว่าอร่อยมากๆๆๆ หวานด้วย หอมด้วย รสชาติกำลังดีไม่ฉุน อาหารจานแรกมาแล้วค่ะ ห่านย่างครึ่งตัวค่ะ รสชาติอร่อยมากๆๆ แบบว่าสุดยอดของบรรดาเป็ดห่านที่เคยกินมาเลยค่ะ แม่เจ้า ของชั้น1เป็นอย่างนี้นี่เอง หอมมัน เวลาเคี้ยวในปากชุ่มไปด้วยน้ำที่ไหลออมาจากเนื้อห่านเลยค่ะ รสชาติติดลิ้น จนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ ซุปเนื้อเอ็นกรอบน้ำใส เนื้อนุ่ม เอ็นกรุบกรอบ อร่อยมากเลย จานนนี้กินกันอยู่2คน คนอื่นกินเนื้อไม่ได้ (เห็นแล้วอยากกินบ้างจัง) อยากกลับไปลิ้มลองอีกครั้ง แล้วซื้อกลับมาฝากคนที่บ้านเลยง่ะ ผักผัดน้ำมันหอม อร่อยแบบต้องบอกต่อเลยค่ะ ผักกรอบและสดมาก ก้านใหญ่เบิ่ม ไก่ผัดเต้าซี่ อร่อยมากๆๆเลย สุดยอดจริงๆๆเลยค่ะ ร้านนี้ เจ๋งมาก อันนี้ต้องสั่งมากิน ห้ามพลาดเด็ดขาด ของขึ้นชื่อเลยก็ว่าได้ค่ะ เต้าหู้ผัดกับเห็ด เห็นโต๊ะข้างๆๆสั่งเลยชี้บอกพนักงานให้จัดมา1 อันนี้เฉยๆๆค่ะ แต่ถ้ากินคู่กับซอสบ๊วยที่วางบนโต๊ะ มันอร่อยขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างดีเลย ซอสบ๊วยที่ร้านนนั้นอร่อยมากๆๆค่ะ ติดใจเลย จากนั้นเราก็เดินไปย่านSOHO ผ่านทางเลื่อนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Central Mid-Level Escalator) ทางขึ้นสะพานนี้เริ่มจากถนน Des Voeux Road Central ผ่านถนน Hollywood สิ้นสุดที่ Conduit Road บนเชิงเขา ระหว่างนั้น 6.00-10.00 สะพานจะเลื่อนลง หลังจากขั้นจะเลื่อนขึ้นอย่างเดียวจนถึงเที่ยงคืน เราเดินไปห้างIFC MALL เพื่อทะลุไป ซิตี้ซุปเปอร์(ซุปเปอร์คล้ายๆในห้างพารากอน) มันมีสาขาหลายที่เหมือนกันค่ะ (ที่ห้างไทม์สแคว ชั้นใต้ดินก็มีค่ะ-มีร้านขายของกินเพียบเลยด้วย) ของในนั้นตื่นตาตื่นใจ แถมราคาก็น่าตื่นตาไปด้วย แพงค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลยค่ะ จากนั้นเราเดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อแวะตลาดสดแถวSOHO มีขายพวกเห็ดหอม อาหารสด ร้านขายของชำที่นั่น ขายของถูกค่ะ อย่างขนมหรือน้ำ ขากลับมารถไฟฟ้าเพื่อกลับไปเดินเก็บตกย่านที่พักต่อ ก็ได้เห็นอีกอาชีพที่ถือว่าหายากนั้นคือ อาชีพรับจ้างขัดรองเท้า หาดูได้ยากเลยถ่ายรูปมาค่ะ วิถีชีวิตคนพื้นเมือง จากนั้นเราก็เดินเล่นย่านที่พัก เพื่อเก็บตกของที่เช็คราคามาแล้วยังไม่ได้ซื้อ และก็ไม่ได้ทานอาหารเลย นอกจากขนมรังผึ้งและ ของจุกจิกตามรายทาง จากนั้นเราก็ไปที่โรงแรมเพื่อเอาของที่เช็คอินตอนเช้า นั่งรถของโรงแรมที่จองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มุ่งสู่สนามบินและกลับประเทศไทยโดยสวัสดิ์ภาพ วิวภาพสุดท้ายที่เก็บมาจากตอนนั่งรถไปยังสนามบินเช็คแล๊ปก๊อกค่ะ พระอาทิตย์ยามเย็น กำลังจะลาลับขอบฟ้า เหมือนเป็นสัญญาณว่าลาก่อน ฮ่องกงแล้วพบกันใหม่ (ถ้ามีโอกาส) ขอบคุณข้อมูลต่างๆก่อนไปท่องเที่ยวจาก หนังสือใครๆๆก็ไปเที่ยวฮ่องกง, หนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตลุย มาเก๊า ฮ่องกง เซิ่นเจิ่น ขอบคุณข้อมูลในเวปกูเกิล, เวปพันทิพย์, กระทู้ต่างๆๆในอินเตอร์เน็ต ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้มาโดยตลอด แล้วพบกันใหม่ค่ะ กับกระทู้โดยMEE_VINGT   Create Date : 17 สิงหาคม 2553     Last Update : 17 สิงหาคม 2553 20:16:43 น. Counter : 912 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ทััวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.5 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ --------------------------------------------------------------------------- วันอังคารที่ 15 เมษายน 2551 ไป Hongkok Disneyland เที่ยวตามสบาย ถ้าใครต้องไปเที่ยวตาแบบหมีหมี ก็ติดตามดูที่รูปได้เลยจ้า เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าของ ร้านนี้ค่ะ CAFE DE CORAL เป็นร้านฟาสต์ฟู๊ดส์ที่มีอยู่ทั่วเกาะฮ่องกง ถึง125สาขา เป็นร้านที่ในหนังสือแนะนำของกินลงเอาไว้ ที่อยู่ SHOP 2307, LEVEL2 GATEWAY ,HARBOUR CITY, TSIM SHA TSUI เปิด 7.00-21.30 น. การเดินทาง MTR 1. TSIM SHA TSUI ทางออก G 2. เดินลอดอุโมงค์ใต้ดินมายัง สถานี KOWLOON-CANON 3. สถานีEAST TSIM SHA TSUI ทางออกP2 เดินต่อ5นาที ใครสะดวกสาขาไหนก็ไปเลยค่ะ อาหารไม่ด้ถ่ายรูปมาให้ดูมั่วแต่กินเพลิน แต่รสชาติค่อนข้างธรรมดาค่ะ อาจเป็นเพราะเป็นเฟรนชายส์ด้วยมั้งค่ะ คนพื้นเมืองทานกันเยอะค่ะ ขออนุญาตินำรูปมาจาก ขอบคุณค่ะ //ilovetomuse.blogspot.com/2007/12/land-of-shopping-part-1.html ขาไปลงรถไฟใต้ดินเดินผ่าน สองตายายคู่นี้แก ช่วยกันพยุงกันเดิน เค้าเดินกันแบบว่าเหมือนจะเดินกันไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ใครพยุงใครกันแน่ ค่อยๆๆก้าวไปพร้อมกัน เห็นแล้วแบบว่าเป็นภาพที่น่ารักมาก อยากมีคู่ชีวิตที่ดีแบบนี้จังเลย (น้ำตาคล้อเบ้า) เห็นแล้วรีบควักกล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน ขอเก็บภาพความรู้สึกดีๆๆมาแบ่งปันค่ะ เด็กน่ารักมากเลยค่ะ อดใจไม่ไหว ขออนุญาติถ่ายรูปกับน้องเค้ามาลงโชว์ซะหน่อย เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ CAWAII มั้ย?? เจอที่MRT ตอนเปลี่ยนสถานีค่ะ กำลังรอรถไฟสายสีชมพูเพื่อไปลงสถานี Disney จากนั้นเราก็เดินทางสู่ Hongkok Disneyland ดินแดนในฝันของพวกเด็กๆๆ (รวม ผู้ใหญ่หัวใจเด็ก และ ผู้ใหญ่หน้าเด็กด้วย อิอิ ดีมั้ย??) ด้วยขบวนรถไฟสายสีชมพูลงสถานีDisney อย่างที่รู้ๆๆกันอยู่ ว่ารถไฟสายนนี้ขบวนรถจะตกแต่งเป็นมิกกี้เมาท์และผ่องเพื่อน หน้าต่างจะเป็นรูปมิกกี้ด้วยค่ะ ข้างในรถเบานั่งนุ่มสบายเลยค่ะ รูปข้างในรถไฟค่ะ อิอิ ถึงชานชลาแล้ว ยังเป็นรูปมิกกี้เลยค่ะ ขนาดรั้วก็ยังเป็นมิกกี้ค่ะ ชะแช๋ว...ววว ถึงแล้วค่ะ ประตูทางเข้าขอไปซื้อตั๋วก่อนนะค่ะ วันนี้อากาศแจ่มใส แดดดีค่ะ วันธรรมดา ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 295HK วันหยุดหรือวันพิเศษ ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 350HK วันธรรมดา ตั๋วเด็กราคา 210HK วันหยุดหรือวันพิเศษ ตั๋วเด็กราคา 250HK วันธรรมดา ตั๋วผู้สูงอายุ ราคา 170HK วันหยุดหรือวันพิเศษ ตั๋วผู้สูงอายุราคา 200HK ได้ตั๋มาแล้วค่ะ น่ารักมั้ย เป็ฯรูปการ์ตูนมิกกี้อีกแล้วค่ะ ตอนเข้าไปเจ้าหน้าที่จตรวจกระเป๋า ห้ามนำของกินเข้าไปเด็ดขาด จะโดนทิ้งค่ะ บางทีถ้ากระเป๋าใบใหญ่มากๆๆจะให้ฝากไว้ที่จุดรับฝากของ ผ่านประตูไปแล้ว อย่าลืมหยิบแผนที่และตารางโชว์นะค่ะ จะได้วางแผนถูก (สำคัญมาก) ก่อนอื่นเราก็นั่งรถไฟไปดูรอบๆๆก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจตรงไหน วันที่ไปเป็นวันธรรมดา และ ไปเช้าด้วยค่ะ คนเลยยังไม่เยอะเท่าไหร่ คิวรถไฟไม่ยาวค่ะ ตื่นเต้นดี ขอเอารูปบนรถไฟมาฝากค่ะ เป็นมุมมองแบบเก๋ๆๆ แทนรูปรถไฟนะค่ะ ทางเข้าไปจะมีร้านขายของที่ระลึกต่างๆๆ ถ้าชะซื้อก็ให้ซื้อตอนก่อนกลับก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องถือไปมา แต่ของแพงทุกอย่างเลยค่ะ แค่พวงกุญแจธรรมดาก็2ร้อยกว่าบาทแล้ว เสื้อยืดโปโลพันกว่า แพงมักๆๆ ที่นี่หมีน้อยไม่กล้าช๊อปเลยง่า...าา แต่ว่าถ้าใครพลาดไปแล้ว ก็ยังให้อภัยค่ะ เพราะที่สนามบินขากลับมีร้านของDISNEY ให้คุณๆได้เก็บตกกันฮับ ไม่ต้องเสียใจ อิอิ นั่งรถไฟดูรอบๆๆเสร็จแล้วก็อ้อมกลับมาตรงจุดเริ่มต้นใหม่ แต่ใครอยากจะลงตรงโซนไหนเค้าก็มีจุดจอรถให้ลงด้วยค่ะ DISNEYLAND แบ่งออกเป็น4โซนด้วยกัน 1 MAIN STREET - พิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวก่อนสร้างDISNEYLAND , CITY HALL (รับแลกเปลี่ยนเงิน บริการห้องน้ำ ศูนย์ตามของหาย) ,โซนอาหาร , ขายของที่ระลึก 2 ADVENURELAND - จัดแสดงโชว์LING KING , บ้านทาร์ซาน , ล่องเรือผญจภัย 3 FANTASYLAND - ปราสาทเจ้าหญิง . โรงหนัง3มิติ , เครื่องเล่นต่างๆๆ เช่น เครื่องเล่นช้างบินได้, ม้าหมุน,ถ้วยหมุน,หมีพูผจจภัย ,และ โชว์THE GOLDEN MICKEYS, ตรงนี่ลองพยายามหามุมถ่ายรูปคู่กับ เจ้าหญิงและสโนว์ให้ได้นะค่ะ มีโซนอาหารด้วยค่ะ 4 TOMORROWLAND - เครื่องเล่นตื่นเต้นหวาดเสียวสักหน่อย SPACE MOUNTAIN (ผจญภัยในอวกาศ) , ORBIRON (เครื่องเล่นลูกกลมๆหมุนสูงๆขึ้นลง) , BUZZ LIGHTYEAR( ยิงปืนเก็บแต้ม) , มีศูนย์อาหารด้วยค่ะ เราเริ่มต้นเข้าไปในโซน ADVENTURELAND ทางเดินเข้าไป มีคนแต่งตัวแนวชาวป่า เผ่าไหนไม่รู้ ฮ่าๆๆ ตีกลองเคาะจังหวะเสียงดนตรี คึกคักเร้าใจ สนุกดีค่ะ แวะถ่ายรูปซักหน่อย มีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปให้ค่ะ ครื้นเครงดี เราไปนั่งเรือผจญภัยค่ะ สามารถเลือกภาษาได้เป็นภาษจีนหรือว่าอังกฤษก็ต่อคิวได้เลยฮับ คนนี้เป็นไกด์ที่นำเราเดินทางครั้งนี้ค่ะ ภาพได้สนุกมากเลน ขนาดแม่ฟังอังกฤษไม่รู้เรื่องยังขำเลยค่ะ เรือจะผ่านสัตว์ต่างๆๆ เช่น ช้าง ฮิปโป จรเข้ ช้างน้อยมีพ่นน้ำด้วยค่ะ แล้วก็ล่อง ผ่านหมู่บ้านชาวป่า ตรงนี้เงียบๆๆไว้ ระวังชาวป่าให้ดีนะค่ะ เดี๊ยวจะโดนจับตัวไปค่ะ ผ่านภูเขาไประเบิดด้วยค่ะ สนุกมากเลยค่ะ ต่อจากนั้นเราก็ไปเข้าคิวรอชมการแสดง THE LING KING รอนานเหมือนกันค่ะกว่าจะเปิดประตูให้เข้าคิว แต่ผู้ที่มากับคนพิการ รึนั่งรถเข็นจะได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปก่อน เข้าไปคิวหน้าๆๆเลยค่ะ เลยได้เลือกที่นั่งที่ดี นั่งหน้าเลยค่ะ ได้จับมือกันนักแสดงบ่อยมาก เข้าไปที่นั่งที่ดีสุด จากที่สัมผัส คือโซนขวามือ โซนแรกที่ติดกับประตูทางเข้าค่ะ เป็นการแสดงโชว์เหมือนละครเวทีค่ะ ร้องเพลงพร้อมทั้งเต้น เล่าเรื่องราวของซิมบา ร้องเพลงสดเลยค่ะ เสียงแต่ละคนมีพลังมาก น่าทึงงมากๆๆ สุดยอดเลยค่ะ เก่งกันทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครๆๆ ก็ทำให้มีสีสรรค่ะ สนุกมากๆๆเลย เป็นโชว์ที่ประทับใจมากค่ะ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่ามาที่นี่สิ่งที่ห้ามขาดคือการดูโชว์ต่างๆๆ ควรดูให้ครบค่ะ ไม่งั้นไม่คุ้มค่ากับการมาดีสนีย์ ชมเสร็จ เราก็ไปข้ามแพสู่บ้านต้นไม้ของทาร์ซานค่ะ ข้างบนนั้นมีมุมน่ารักๆๆให้ถ่ายรูปเพียบเลย ชอบๆๆ เอารูปเจ้าของบ้านมาฝากด้วยค่ะ เดี๊ยวหาว่าไปบ้านเค้าแล้วไม่แนะนำ คริ..คริ หน้าตามีความสุขของเด็กๆๆ เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะเก็บมาฝาก น่ารักค่ะ อิอิ จริงๆๆแล้วเราต้องไปกินข้าวแล้วเพราะสมาชิกหิว แต่ต้องรอชมการแสดงTHE GOLDEN MICKEYS (ประมาณ20นาที) ถ้าพลาดแล้วจะต้องรอไปหลายชั่วโมงเลย สรุปรอค่ะ ซื้อแซนวิสเย็นๆๆมากินรองท้องก่อน แย่มากๆๆ ห่วยแตกค่ะ ซื้อที่ร้านรถเข็นเป็นซุ้มอ่ะค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าสั่งมานะคะ จะหาว่าไม่เตือน แง้ๆๆ อ๋อ ลืมบอกค่ะ ที่นั่นน้ำดื่มราคาแพงมาก แนะนำให้ซื้อขวดเดียวแล้ว หาจุดเติมน้ำดื่ม ตามหน้าห้องน้ำค่ะ โชว์ THE GOLDEN MICKEYS(ภาษาจีนค่ะ) พิธีกรคนนี้น่ารักดีค่ะ แสดงได้ลื่นไหลดี เป็นการโชว์เรื่องต่างๆๆ ของDISNEY ค่ะ เช่น ทาร์ซาน (หุ่นเฮียแกเฟิร์มมากเลยค่ะ เหวี่ยงตัว หมุนติ้วกลางอากาศ สุดๆๆไปเลยง่ะ) ลีโลสติส มู่หลาน เจ้าชายอสูร ลิตเติ้ลเมเมท และอื่นๆๆ มากมาย ตื่นตาตื่นใจดีค่ะ สนุกเหมือนกัน ห้ามพลาดนะค่ะ ชมเสร็จแล้ว ก็ไปตามคำเรียกร้องของกระเพาะอาหารเถอะค่ะ ชมโชว์จนลืมหิวไปซักพักเลย คิคิ ไปกินอาหารที่โซน FANTASYLAND หน้าตาเมนูมาดูกันเลยว่ามีอะไรบาง แต่ขอบอกว่าจานใหญ่มาก แบ่งกันกินได้2คนเลยค่ะ สำหรับคนกินไม่เยอะ แต่ขอบอกก่อนว่าอาหารแพงหูฉีก แพงกว่าข้างนอก2-3เท่าตัวเลย ข้าวหน้าไก่ค่ะ อันนี้รสเผ็ดนิดหน่อยถูกปากคนไทยอย่างเรา อันนี้ถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ ข้าวหมูแดงค่ะ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ฮับข้าวหมูแดงค่ะ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ฮับ ถ้าเพิ่มผักก็ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ ผักก็ธรรมดา ไม่เหมาะกับราคาเลย ต้องทำใจค่ะ หมี่ราดซอสเห็ด อันนี้ดูน่ากินดี แต่รสชาติธรรมดาค่ะ เติมพลังแล้ว เราก็ไปเล่น หมีพูผจญภัย นั่งโอ่งน้ำผึ้งเข้าไปในบ้านของหมีพูค่ะ ข้างในนั้นน่ารักดี สนุกดีแบบเด็กๆๆค่ะ ชอบเหมือนกัน ข้างในถ่ายรูปมาแต่เบลอทุกรูปเลยค่ะ เลยไม่ได้เอามาลงให้ดูนะค่ะ ทางออกจะทะลุโซนขายของที่ระลึกค่ะ หมีพูเพียบเลย น่ารักขอกอดหน่อย แต่ไม่ได้ขนกลับบ้านเพราะแพงเกิน ของลิขสิทธิ์มันราคาแบบนี้ถึงมีของปลอมนี้เอง ออกจากที่นี่เรากำลังไปดูหนัง3มิติค่ะ โชคดีได้เจอเจ้าหญิงด้วย คนรอคิวถ่ายไม่เยอะเลยขอสักใบ ดีใจจัง เจ้าหญิงบอกว่าชอบเสื้อเรา แฮะๆๆ เข้าไปดูหนังสามมิติกัน ไปเลย...โย่ว สนุกมากเลย มีทั้งลม มั้งน้ำ สมจริงมากๆๆเลยฮับ ต้องลองเข้าไปให้ได้นะ ทางออกจะมีร้านขายของที่ระลึกอีกแล้วค่ะ อยากให้พวกเราเสียเงินกัน แต่เราก็ไม่หลงกล 555 วันนี้ตั้งใจใส่เสื้อตัวนี้ไปDISNEY เลยค่ะ ให้กลมกลืนกับบรรยากาศ จากนั้นไปรอดูชมการเดินขบวนพาเรท หน้าตาของเหล่าเด็กๆๆที่ตั้งหน้าตั้งตารอ ชะเงอมองการ์ตูนที่ตัวเองชื่นชอบ เมื่อไหร่จะมา น่ารักมากๆๆเลยค่ะ ขบวนพาเรทเคลื่อนตัวมาพร้อมเสียงเพลง ที่สนุกสนาน คนเต้นรำนำขบวนมาพร้อมรถที่ตกแต่งอย่างสวยงามคันนี้ค่ะ การ์ตูนทั้งหลายที่บันทึกลงบนแผ่นฟิลม์ ก็ออกมาโลดแล่นร่วมขบวนด้วยค่ะ มิกกี้ขาว-ดำ รุ่นแรกๆๆค่ะ น่ารักมั้ยเอ่ย เหล่าเจ้าหญิงทั้งหลาย และสโนว์มาพร้อมกับคนแคระทั้ง7ค่ะ อันนี้เรื่องอะไร ใครรู้ช่วยบอกที เงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมทมาพร้อมฟองสบู่ค่ะ ทอยสตอรี่มาพร้อมเหล่ากองทัพของเล่น น่ารักมากๆๆเลยค่ะ ทหารเหมือนทหารของเล่นมาก ปิดท้ายพาเรทด้วยมิกกี้และผ่องเพื่อนค่า..าา ถูกใจเจ๊จิงๆๆ ชมขบวนพาเรทเสร็จเราไปโซนTOMORROWLAND กันต่อค่ะ อันนี้เราจะไปเล่น BUZZ LIGHTYEAR เป็นการนั่งเครื่องบินจำลองหมุน360องศา เข้าไปในอวกาศ เพื่อยิงปืนเก็บแต้ม ถ้ายิงหัวหน้าใหญ่จะได้คะแนนเยอะเลยค่ะ มาวัดกันดูว่าได้คนละเท่าไหร่ เราได้ตั้ง2แสนกว่าแหนะ แก้ข่าวข้างบนค่ะ ได้แสนกว่าๆๆ อิอิ พิมพ์ผิดค่ะ ขอกระโดดแก้ตัว ก่อนเข้าไปเล่น SPACE MOUNTAIN (ผจญภัยในอวกาศ) เหมือนนั่งรถไฟเหาะ เร็วสุดชีวิต แต่ว่าท่องไปยังอวกาศ ตื่นเต้นมากๆๆเลยค่ะ ออกมาเหนื่อยมาก กรี๊ดจนหมดแรง พ่อแม่เกือบตายออกมาอยากจะอ้วกกันค่ะ ขอหาที่พักแถวนั้นนอนเอาแรงก่อน ขอแจมหน่อยค่ะ จากนั้นเราก็ไปชมทอลก์โชว์สติ๊ล สนุกดีค่ะ ลองแวะเข้าไปดูนะค่ะ ใช้เวลาจนเย็นแล้ว ต้องไปรอดูพุลที่หน้าปราสาทกันดีกว่า หามุมดีๆๆนะค่ะ คนเยอะมากมาย แต่คุ้มค่าที่ได้รูปสวยๆๆมาฝากกันค่ะ อีกสักรูป สู้ตายค่ะ วันนี้เป็นวันที่สนุกสุดๆๆไปเลยอีกวัน ขอตัวกลับก่อนนะค่ะ บายบายดีสนีย์ กลับที่พักโดยMTR ไปกินราเมงAjisen Ramen แถวที่พัก ร้านนี้เป็นร้านเฟรนชายส์ รสชาติก็ดี แบบธรรมดาค่ะ แล้วเราก็ไปที่พักนั่งพักสักหน่อย อาบน้ำแล้วลงมาเดินแถวเลดี้มาเก็ต ซื้อผ้าขนหนูของคิดดตี้3ผืน 55HK ค่ะ แล้วก็ไปเดินตึกของเล่นกับแฟน แต่ปิดไปเยอะแล้วค่ะ พรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว คิดถึงเมืองไทยเหมือนกันนะเนี้ย คืนนี้ขอไปนอนก่อนนะค่ะ อ๋อ ลืมบอก พวกเราช๊อปปิ้งกันจนเพลินได้ของมาเยอะมากเลย คิดว่าขากลับจะแบกของกันไปยังไงดี โชคดีที่ไปถามตรงเคาท์เตอร์โรงแรม มีให้เช่ารถรับส่งไปสนามบินเที่ยวละ 2400บาท ก็เลยจองไว้ค่ะพรุ่งนี้4โมงเย็น (คุ้มกว่านั่งรถไฟAIRPORT EXPRESS ไม่ต้องเดินด้วยค่ะ ไม่งั้นแย่เลย)   Create Date : 17 สิงหาคม 2553     Last Update : 17 สิงหาคม 2553 19:11:56 น. Counter : 1732 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ทััวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.4 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ --------------------------------------------------------------------------- โปรแกรมที่วางไว้ก่อนไปฮ่องกงค่ะ มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย ติดตามได้ที่รูปนะค่ะ วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2551 7.3o-8.00 น. : ออกจากที่พัก นั่งรถไฟใต้ดินไปย่าน Tsim Sha Tsui ทานอาหารเช้า 10:00 น. : เดินทางสู่ HK Museum of History พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง เล่าเรื่องราวความเป็นมาของฮ่องกงตั้งแต่ยุตหินไล่มาจนปัจจุบันเลย เปิด 10.00-18.00น. ค่าเข้า10HKS หยุดวันอังคาร การเดินทางไป HK Museum of History : นั่ง MRT ไปสถานี Tsim Sha Tsui เดินตามถนน Granville ประมาณ 10 นาที 12:00 น. : หาอาหารกลางวันทาน และช๊อปปิ้งย่าน Tsim Sha Tsui ตามถนน NATHAN/ หรือ นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Central ไปย่านSoho เดินตลาดสดและหาของกิน แถวนั้นมีห้างซิตี้ซุปเปอร์(คล้ายพารากอน) มีขายเห็ดหอม,เครื่องเทศจีน ช๊อปปิ้งย่านHollywood มีทางเลื่อนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Central Mid-Level Escalator) ทางขึ้นสะพานเริ่มจากถนน Des Voeux Road Central ผ่านถนน Hollywood สิ้นสุดที่ Conduit Road บนเชิงเขา ระหว่างนั้น 6.00-10.00 สะพานจะเลื่อนลง หลังจากขั้นจะเลื่อนขึ้นอย่างเดียวจนถึงเที่ยงคืน ช่วงเย็น : ไปเที่ยวห้าง ย่าน Causeway Bay เป็นที่รู้จักกันว่า ลิตเติ้ลเจแปน ศูนย์รวมของห้างญี่ปุ่นต่างๆมากมาย มีศูนย์อาหาร เป็นแหล่งวัยรุ่นฮ่องกง เปิดถึง4ทุ่ม เที่ยวตามอัธยาศัย หาของกินให้อิ่มกลับที่พัก พักผ่อน ราตรีสวัสดิ์ ช่วงดึก : ถ้าหากเดินไหว ไปเดินย่านที่พักต่อ อิอิ ตื่นมาเราก็ไปกินติ๋มซำที่ตึกเดิม แก้ตัวกับร้านที่ไปผิดค่ะ ตึกSILVERCORD บนถนน CANTON เพื่อทานติ๋มซำ ร้านอยู่ชั้น3 (ไม่รวมชั้นG - ที่ฮ่องกงเค้าจะไม่นับเหมือนเราค่ะ สรุปคือชั้น4 นั่นเอง) ร้านนี้อยู่ในซอกหลีบต้องเดินเข้าไปอีกด้านทะลุทางเดินช่องแคบๆๆไปค่ะ เปิดเช้า 7.00น. เข้าไปมีอาแปะ-อาซิ้มมากินเต็มร้านเลยค่ะ ขนาดเช้าๆๆนะค่ะ ไม่มีรูปหน้าร้านให้ดู เอารูปบรรยากาศที่อยู่ในร้านมาให้แทนค่ะ ฟองเต้าหู้ทอดไส้กุ้ง อันนี้อร่อยค่ะ กรอบ หอมอร่อย ใส้ข้างในก็อร่อยค่ะ เยี่ยมๆๆ อันนี้ไม่ไมีชื่อร้านนะค่ะ จำไม่ได้ ต้องขออภัยด้วย อิบอิบ อันนี้เป็นของทอดเหมือนกันไส้เผือก สอดไส้แครอท แครอทอร่อยดีค่ะ กลิ่นมันแบบว่าเฉพาะตัวไม่เหมือนกลิ่นแครอทที่เมืองไทยเลย อันนี้ต้องลองค่ะ ขอย้ำผักที่ฮ่องกงอร่อยค่ะ สดดี เปาะเปี๊ยทอดไส้วุ้นเส้น ก็รอ่ยดีค่ะ อันนี้อาจเป็นเพราะแป้งกรอบ ก็เลยอร่อยค่ะ ส่วนใหญ่ของที่ทอดเสร็จใหม่ๆๆ มันจะกรอบๆๆ เวลาเคี้ยวแล้วมันจะอร่อยค่ะ อันนี้เป็นเหมือนขนมโซวเกี้ยวใส่เผือก อันนี้ธรรมดาค่ะ หากินได้ทั่วไป เกี๊ยวกุ้งทอด อันนี้อร่อยดีค่ะ ทำรูปคล้ายๆๆดอกกุหลาบ มีน้ำจิ๋มหวานมาด้วย ช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีค่ะ ไช้เถ้าอันนี้ ธรรมดาค่ะ แต่รสชาติดีกว่าร้านสวีทไดนัสตี้ อันนี้ฮะเก๋า อร่อยดีค่ะ เนือ้กุ้งเต็มคำ อันนี้คล้ายๆๆฮะเก๋า แต่ว่าอร่อยกว่า อีกขั้นหนึ่งเลยค่ะ เต้าหู้ไข่ วางกุ้ง กับ ไข่กุ้งอยู่ข้างบน น้ำซุปที่ราดมาอร่อยดีค่ะ ก๋วยเตี๋ยวหลอด สั่งผิดค่ะ อันนี้ไม่มีไส้ ไม่อร่อยเลยค่ะ เป็นความผิดพลาดอย่างแรง พนักงานรับออเดอร์แนะนำด้วยว่าอร่อย มันมีแบบมีไส้4-5อย่าง แต่พลาดไปแล้วฮับ กระดูกหมูอบเต้าซี่ มีขาเป็ดมาด้วย อันนี้อร่อยดีค่ะ ขนมจีบกุ้ง อันนี้อร่อยๆๆค่ะ เม็ดใหญ่กว่าที่เมืองไทยเยอะเลยค่ะ กินทีเต็มปากเลย ที่โน้นติ๋มซำจะเม็ดใหญ่ เกือบทุกร้านเลยค่ะ ซาลาเปา อันนี้ก็อร่อยดีค่ะ ถ้าไม่ชอบทานหวานก็ไม่ต้องสั่งค่ะ ค่อนข้างหวานนิดส์ เนื้อแป้งอร่อยค่ะ อาหารมื้อนี้ราคาตก2พันกว่าบาทค่ะ กินกันเสร็จก็ออกเดินทางไป HK Museum of History พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง โดยเดินทางจากถนนCANON ไปถนน HAIPONG สู่ถนน CAMERON แล้วข้ามสะพานลอยไปก็ถึงแล้วค่ะ ใช้เวลาเดินทางแบบเรื่อยๆๆ 20นาทีเอง เป็นการออกกำลังกายไปในตัวค่ะ รูปนี้คือถ่ายบนสะพานลอยที่ข้ามไปค่ะ ถึงแล้วค่ะ HK Museum of History เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง เล่าเรื่องราวความเป็นมาของฮ่องกงตั้งแต่ยุตหินไล่มาจนปัจจุบันเลย เปิด 10.00-18.00น. ค่าเข้า10HKS ปิดวันอังคาร เข้าไปข้างในกันค่ะ จำลองชีวิตยุคหินว่าหากินยังไง แล้วก็มีเสียงประกอบด้วย เช่น เสียงคลื่นลม ฯลฯ มีการขุดค้นพบ อาวุธต่างๆๆ เครื่องใช้ โอ่ง แจกัน ก็นำมาจัดแสดงด้วย ที่นี้แบบเป็นโซนต่างๆๆ และมีหลายชั้นด้วยค่ะ ใช้เวลาที่นี้ชั่วโมงกว่าค่ะ มีสิ่งน่าสนใจเยอะดีค่ะ เป็นการขุนค้นพบถ้ำของมนุษย์ยุคก่อน การจำลองถ้ำที่ขุดพบ คนสมัยก่อนเก่งจริงๆๆ ขุดเข้าไปในภูเขาเลย รถตักดินก็ไม่มี รถไถก็ไม่มีแต่ทำได้งั้ยเนี้ย บ้านจำลองฮ่องกงยุคสมัยแรกๆๆ แสดงวัฒนธรรมต่างๆๆ ตั้งแต่ชีวิตบนเรือดุกหลิง(เรือสำเภาโบราณ) มีหุ่นผู้หญิงนั่งร้องเพลงพร้อมกับกำลังเย็บผ้า ไปจนถึง การแต่งงาน นี่เป็นเกี้ยวของเจ้าสาวค่ะ เหมือนในหนังจีนเลย มีการจัดแสดงหุ่นจำลองมหรสพแบบต่างๆๆ เช่นงิ้ว หุ่นเชิด และอื่นๆๆ หุ่นเชิดบนเวที วันที่ไปมีเด็กนักเรียนน่าจะเป็นชั้นอนุบาล มาทัศนศึกษา น่ารักมากเลยค่ะ ถานโน้นนี่กับคุณครู แม่ฟังภาษจีนออกบางเล็กน้อยแปลให้ฟัง ขำดีค่ะ มีร้านค้าต่างๆๆ ในยุคปัจจุบัน เช่นร้านขายยาจีน ร้านของชำ ร้านขายน้ำขม จำลองในบ้านของคนสมัยก่อนซึ่งมันแคบมากค่ะ และมีโรงหนังยุคก่อน มีโชว์ตั๋วหนังยุคต่างๆๆด้วยค่ะ รวมไปถึงมีการจัดฉายสไลด์ให้ดูถึงยุคล่าอาณานิคม การเข้ามาของยุคล่าอาณานิคม ซึ่งทำให้ฮ่องกงต้องลงสัญญาเช่า100ปี ให้กับประเทศอังกฤษ วันที่ 1 กรกฎาคม 2540 อังกฤษ และ จีน ร่วมลงนาม ณ กรุงปักกิ่ง ในการส่งมอบอาณานิคม ฮ่องกง คืนให้จีน มีรถรางที่อังกฤษได้นำเข้ามาใช้ในการคมนาคม มีใช้อยู่จนถึงปัจจุบันด้วยค่ะ และมีสิ่งน่าสนใจหลายอย่างเลย แนะนำให้ใช้เวลาไปศึกษาวัฒนธรรมของฮ่องกงนอกจากการช๊อปปิ้งอย่างเดียวก็ดีค่ะ ปล.อาจได้เจอของเล่นสมัยก่อนของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้นะค่ะ จบจากการท่องเที่ยวที่นี่แล้ว ทำให้รูสึกถึงความน่ากลัวของสงคราม รวมถึงการตกเป็นเมืองขึ้ยของต่างชาติ ขอบคุณบรรพบุรุตของไทยที่ปกป้องผืนแผ่นดินไว้ ไม่งั้นลูกหลานไทยคงแย่น่าดู แต่ก็ทำให้ได้เห็นถึงความเจริญที่ตะวันตกนำเข้ามาให้ ทำให้เมืองดูเป็นระเบียบมากขึ้น ปล.ที่นั่นมีโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีที่มาปกครองฮ่องกงคนแรกด้วย รวมถึงสำเนาของการลงนามเช่าเกาะด้วยค่ะ เสร็จจากที่นี้ก็บ่ายแล้ว จากนั้นเราก็นั่งรถไฟMTR ไปลงสถานี Causeway Bay ไปห้าง TIME SQUARE ย่านนี้เป็นที่รู้จักกันว่า ลิตเติ้ลเจแปน ศูนย์รวมของห้างญี่ปุ่นต่างๆมากมาย มีศูนย์อาหาร เป็นแหล่งวัยรุ่นฮ่องกง เปิดถึง4ทุ่ม ซึ่งงตอนนี้เหล่าสมาชิกหิวมากมาย ก็เลยไปหาของกินก่อน ที่ชั้น17,18 มั้ง จำไม่ได้ค่ะ เป็น แหล่งรวมอาหาร มีอาหารไทยด้วยค่ะ พ่ออยากกินพอดีเลยเข้าไป ชื่อร้านจำไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย เหนื่อยแล้วหิวด้วยค่ะ แต่เข้าร้านแล้วพนักงานมีตีระนาดเพื่อส่งสัญญาณว่ามีแขกเข้ามา พนักงานทุกคนจะต้อนรับด้วยคำว่า สวัสดี อาหารที่สั่งไป มีแกงเขียวหวานหมู กับ ผัดผักแขนง ข้าวเปล่า2จาน น้ำเปล่า ราคาแพงมาก 8ร้อยกว่าบาทค่ะ พอดีเพื่อนฝากซื้อกล้องLOMO FISH EYE2 ก็เลยแวะไปซื้อห้างนี้ ราคาตัวละ500HK กับ กรอบกันน้ำด้วย 500HK เช่นกันค่ะ ถูกกว่าเมืองไทยเกือบพันบาท จากนั้นเราก็ถูกหลอกให้เดินจากตึกTIME SQUARE ไปยังถนนSUGAR STREER เพื่อซื้อหนังสืออะนิเมของแฟน เป็นPHOTO BOOK ของการ์ตูนเรื่อง ARIA ถ้าเดินไปถนน GLOUCESTER ก็จะมีร้าน IKEA ซึ่งเป็นร้านขายของแต่งบ้าน บางอย่างราคาถูก และยังแอบเก๋ด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ไปเพราะเหนื่อยมากแล้ว ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เนื่องจากเพลีย และ ง่วงด้วย ทริปนี้เดินกันโหด เนื่องจากไม่อยากเสียดายเวลาที่มี ใช้อย่างคุ้มค่ากันเลยทีเดียว ตื่นเช้า นอนดึกตี1-ตี2 กันทุกวัน แต่ว่าจะเล่าเรื่องว่าทำอะไรบ้างนะค่ะ อย่าเพิ่งไปไหนค่ะ มาฟังกันก่อน จากนั้นเรากลับมาที่พักโดยนั่งรถรางมาต่อรถไฟใต้ดิน 1สถานี เป็นอีกบรรยากาศนึงในการเดินทาง สนุกดีค่ะ เพราะเหนื่อยแล้วขี้เกียจเดิน 555 กลับมางีบนเอาแรงกันก่อน สัก1ชม. แล้วก็ไปเดินต่อแถวย่านที่พักไปตึกCTMA กับ ตึกSINO ขายของเล่น พวกโมเดลต่างๆๆ ที่ถนน SAI YEUNG CHOI STREET แถวนี้จะเรียกว่า ย่านTOYMART ตึก111 บนถนน ARGYLE ได้ของร้านนี้มาหลายอย่างเหมือนกัน ร้านนี้อยู่ชั้น1 แต่ว่าบางอย่าถูก บางอย่างแพง ทางทีดี ต้องเดินศึกษาราคาก่อน ค่อยเดินกลับมาซื้อ จำราคาดีๆๆนะค่ะอย่าสับสน ไม่งั้นโดนโขกราคาแน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่จะราคาถูกกว่าไทยอยู่แล้วค่ะ บางอย่างก็ไม่มีที่ไทยค่ะ CREDIT : ADMIN ของ GUNDAMSITI7 และเพื่อนในเวปที่แฟนสิงสถิตอยู่ ขอบคุณที่ให้รายละเอียดในแผนที่นี้ (ข้อมูลที่เวปนั้นหายไปหมดแล้สนะค่า)   Create Date : 17 สิงหาคม 2553     Last Update : 17 สิงหาคม 2553 18:39:51 น. Counter : 2059 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ทััวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.3 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ --------------------------------------------------------------------------- วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2551 เช้า-บ่าย3 : นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Tung Chung ไปห้าง Citygate ซึ่ง outlet แบรนด์ดังทั้งห้าง เช่น เอสปรี ซาซ่า(ขายน้ำหอมเครื่องสำอาง) บอสซินี่ ลีวาย จีออร์ดาโน อาดิดาส ไนกี้ อื่นๆ ปิด2ทุ่ม หรือ ไปย่าน ถนน Wan Chai ตรอกสปริง การ์เดนท์ เลน แหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าราคาถูกมากกว่าที่อื่น เพราะขายสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพ และติดอยู่กับตลาดสด-จำหน่ายของแห้ง ตั้งอยู่ระหว่างถนนควีนส์ตะวันออกกับถนนจอห์นส์ตัน 16:00 น. : ช๊อปปิ้งตามสบายของพี่เก็ตย่าน Mong Kok หาของกินให้อิ่มกลับที่พัก เปิดกระทู้ด้วยหน้า ร้าน LAW FU KEE เป็นร้านขายโจ๊ก ในหลังสือแนะนำให้ไปกินค่ะ เปิด8.00-20.00น. อยู่ที่G/F, 50 LYNDHURST TERRACE, CENRAL การเดินทาง MTR สถานี CENTRAL ทางออก D1 หรือ D2 ร้านนี้มีบะหมี่ จะเริ่มขาย หลัง11.00น. ปิด7วันแรกของเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง วันที่ไปฝนตกเล็กน้อย แต่เพื่อของกินเราตลุยฝนไปเลยค่ะ ปล.ทริปข้างบนเป็นทริปที่วางไว้ก่อนไปเที่ยว อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ติดตามดูที่รูปเลยค่า..าา ร้านนี้โจ๊กเค้าอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สุดยอดไปเลย มีรสชาติเฉาพะตัว หอมสุดๆๆเลย เวลากินเข้าไปในปาก มันละมุนลิ้นมากๆๆค่ะ ใครไปแนะนำเลยค่ะ มีโจ๊กลูกชิ้นปลาอร่อยค่ะ มันจะหนึบมาก แล้วมีเปลือกส้มผสมเล็กน้อย คาดว่า เพื่อดับกลิ่นคาวปลา ลูกชิ้นหมูก็อร่อยมากค่ะ ลืมถ่ายรูปมาให้ดู รูปนี้เป็นรูปโจ๊กเครื่องในหมูค่ะ ถึงเป็นร้านที่เก่าๆๆ เล็กๆๆ แต่ว่ามีเทคโนโลยีที่ไฮเทคมากค่ะ พนักงานรับออเดอร์ มีเครื่องจิ๋มๆๆแบบMKค่ะ ส่งข้อมูลไปหน้าจอคนทำอาหาร ตอนเที่ยงคนคงเยอะน่าดู ร้านนี้มี2ชั้น ชั้น2 เป็นครัวที่ทำของทอด และ ห้องน้ำซึ้งมันแคบมากค่ะ แทบปิดประตูไม่ไหว ไม่มีที่ยืนเลย งุงิ ร้านนี้บะหมี่ กับพวก ลูกชิ้นปลาทอดกรอบ มันจะขายตอน11โมงไปแล้ว ซึ่งเราก็รอกินค่ะ คนขายคงเห็นใจเห็นถามบ่อย ว่าเมื่อไหร่จะขาย เลยรีบทำมาให้ก่อน ขอบคุณมากเลยนะค่ะเฮีย อันนี้เป็นเกี๊ยวน้ำ กุ้งเต็มๆๆค่ำเลยค่ะ น้ำซุปก็หอมหวาน อร่อยค่ะ อันนี้เป็น ลูกชิ้นปลาทอดกรอบ เป็นลูกชิ้นเดียวกันกับที่ใส่ในโจ๊ก ก็อร่อยค่ะ เหนียวหนึบมาก มีกลิ่นเปลือกส้มแห้งด้วย แต่รู้สึกอิ่มแล้ว ก็เลยเฉยๆๆ กินไม่ค่อยลง แค่ชิมนิดหน่อย 555+ ตรงกันข้ามร้านโจ๊กมีร้านขาย ทาร์ตไข่ ชื่อ TAI CHEONG BAKERY ซึ่งหนังสือแนะนำอาหารฮ่องกงได้ลงไว้ว่า ทาร์ตไข่ของร้านนี้เป็นที่ชื่นชอบ ของ คริส แพทเทิน อดีตผู้ว่าการคนสุดท้ายของฮ่องกง ตั้งอยู่ G/F 35 LYNDHURST TERRACE, CENTRAL เปิด 7.30น.-20.30น. (ปิด2วันแรกของเทศกาลตรุษจีน) การเดินทาง MTR สถานี CENTRAL ทางออกD1 หรือ D2 ทาร์ตไข่ ราคา 3.50HKs ไส้คัสตาร์ดที่นุ่มลิ้นเคล้ากลิ่นไข่ และแป้งที่ร่วนหอมกลิ่นเนย อร่อยมากค่ะ ร้านนี้ยังมีขนมปังอื่นๆๆอีกด้วย แวไปลองชิมกันนะค่ะ แป้งพายของทาร์ตไข่ที่นี่อร่อยกว่าทุกร้านเลยค่ะ จากนั้น ก็เดินกลับมาทางเดิม ขึ้นรถไฟฟ้าไป ห้าง Citygate ลงที่สถานีTung Chung เดินออกมาก็มีทางเชื่อมเข้าห้างเลย เข้าห้างแล้วไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ ขออภัยด้วยที่ช๊อปปิ้งเพลิน ขออนุญาติรูปมาจากเวปนี้ค่ะ //upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/80/Citygate.JPG/800px-Citygate.JPG ห้าง Citygate ซึ่งเป็น outlet แบรนด์ดังทั้งห้าง เช่น เอสปรี ทิมเบอร์แลนด์ บอสซินี่ ลีวาย จีออร์ดาโน อาดิดาส ไนกี้ บอดี้ช๊อป อื่นๆ ปิดเวลา2ทุ่มค่ะ ช่วงที่ไปในเมืองไม่มีลดราคาค่ะ แต่ไปที่นี่คุ้มจิงๆๆ ได้เสื้อผ้ามาเยอะเลยค่ะ แบรนด์นอกถูกกว่าเมืองไทยเยอะเลยค่ะ อย่างเสื้อยืดเอสปรี ที่ซื้อมาตัวละ300-400บาทเอง เนื้อผ้าดีค่ะ ได้มา5-6ตัวเลยค่ะ กางเกงก็สวย ช่วงที่ไปมีเอาเสื้อหนาวมาลดซื้อไว้2ตัว น่ารักค่ะ ขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่เค้าจะเอาของตกรุ่น หลุดฤดูแล้วมาขาย แต่ว่าเทรนใหม่กว่าบ้านเราแน่ๆค่ะ ซื้อมาใส่ไม่เอาท์ชัวร์ เก๋กู๊ด แฟนได้กางเกงขายาวมาเพียบเลย เยอะกว่าของเค้าอีก แหะๆๆ ช๊อปกันเพลินมากเลยทีเดียว ช๊อปจนลืมเวลาไปเลยค่ะ ไม่ได้กินข้าวกลางวันกันเลยค่ะ กว่าจะออกจากที่นั่นบ่ายสามกว่าแล้วค่ะ แต่ละคนถือถุงใบใหญ่หลายใบ เลยต้องขอเอาของกลับไปเก็บที่โรงแรมก่อน แล้วก็ไปกินข้าวร้าน โยชิโนยะ ใกล้ๆๆโรงแรมค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปอีกแล้วค่ะ เหนื่อยกันเหลือเกิน ขออภัยด้วย ต้องขอนุญาตินำรูปมาจากเวปนี้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ //www.jnto.go.jp/eng/indepth/featuredarticles/JN/expat/images/Yoshinoya.gif ร้านนี้เป็นเฟรนชายส์จากญี่ปุ่น ร้านนี้จะดัง ข้าวหน้าเนื้อ อร่อยมากค่ะ ส่วนข้าวหน้าหมูก็อร่อยไม่แพ้กัน น้ำซอสที่ราดมาก็หอม เนื้อหมูที่ย่างได้กินหอมแบบบอกไม่ถูก เนื้อนุ่ม เหมาะแก่การเคี้ยว อร่อยขอยกนิ้วให้อีกร้านเลยค่ะ ต้องไปกินให้ได้นะค่ะ บนถนน SOY STREET ขอนำรูปมาจากเวปนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ //www.geocities.com/ayn_dj/BeverlyPages/yoshinoya.jpg หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ไปชมการแสดงแสงสีเสียง Symphony of light ที่อ่าว Victoria ฝั่งเกาลูน ไปถึงก่อนก็เลยแวะไปเก็บรูปที่ Avenue of star อีกรอบ การแสดงสวยงามดีค่ะ ตึกแต่ละตึกรวมใจกันเปิดไฟสลับไปมา สามารถสร้างให้เป็นจุดที่น่าสนใจได้ เหมาะสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆๆ ไว้จะมาเล่าเรื่องฮวงจุ้ยเกี่ยวกับตึกให้ฟังนะค่ะ ขอนอกเรื่องเล่าสู่กันฟัง เรื่องเกร็ดเล็กน้อยของฮวงจุ้ย อ่านเจอในหนังสือค่ะ ตึกสูงที่สุดในรูปที่คุณเห็นอยู่ เป็นตึก ifc2(TWO INTERNATION FINANCE CENRE) ที่สูงที่สุดในฮ่องกงและเป็นตึกที่สูงอันดับที่5ของโลกเลยทีเดียวค่ะ ตึกใกล้ๆๆๆกันที่รูปทรงคล้ายกันเป็นตึก ifc1 ตึกรูปดาบไขว้กันเป็นเลข8 คือ ตึกธนาคาร BANK OF CHAINA ตามหลักฮวงจุ้ยรูปดาบนี่เป็ฯการข่มคู้แข่งให้ดอยกว่าและทำให้ตนเองเจริญ รุ่งเรือง ตึกนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ ในช่วงที่ยุคเศรษฐกิจแย่ ธนาคารอื่นก็ยุบลงบางที่ก็ปิดไป แต่กสิกรก็ยังเจริญได้ถึงปัจจุบัน ส่วน ตึกHSBC ที่ตั้งอยู่คู่กับ ตึกBANK OF CHAINA เห็นความรุ่งเรืองก็เลยทำเครนรูปปืนใหญ่หันหน้าไปยังตึกดังกล่าวจนมีการฟ้อง ร้องกัน โดยทาง HSBC อ้างว่าเพื่อทำความสะอาดกระจกรอบๆอาคารแค่นั้นเอง อีกตึกที่เคยลงรูปให้ดูไปแล้วคือตึกที่มีรูตรงกลางตอนที่ไป Stanlay Market (ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย) พื้นที่ตรงนั้นติดทะเลและมีลมแรง จึงออกแบบฮวงจุ้ยให้สัมพันธ์กับอาณาบริเวณนั้น รูปทรงตึกจึงเป็นรูปคล้ายคลื่นทะเล และมีรูตรงกลางตึกเพื่อให้ปลาได้ว่ายเข้าผ่านรูนั้น (คล้ายๆๆของเล่นที่ว่างไว้ในอ่างเลี้ยงปลา อ่ะค่ะนึกภาพออกมั้ย) ปลาในความหมายภาษาจีนมีความหมายว่าเงินทอง ผู้ที่อาศัยอยู่ที่ตึกนั้นหรือทำกิจการใดๆก็จะได้มีความเจริญรุ่งเรืองเงิน ทองไหลมาเทมา ดูการแสดงจบ เราก็เดินไปตึกSILVERCORD บนถนน CANTON เพื่อทานติ๋มซำ ร้านอยู่ชั้น3 (ไม่รวมชั้นG - ที่ฮ่องกงเค้าจะไม่นับเหมือนเราค่ะ สรุปคือชั้น4 นั่นเอง) จริงๆๆแล้ว เราจะไปกินติ๋มซำที่คนมารีวิวไว้แต่ไปผิดร้าน แต่ร้านนี้คนเข้าคิวยาวมาก ไหนๆๆก็จองคิวไปแล้วก็เลยเข้าไปกินกันค่ะ ชื่อร้าน DIN TAI FUNG รูปหน้าร้านฮับ เวลาทำการค่ะ เนื่องจากคิวยาวมาก พนักงานเลยเอาใบสั่งอาหารมาให้จดก่อน เราก็สั่งก่อนเข้าไปค่ะ แต่มันเป็นภาษาจีนเลยใช้ดูรูปแล้วสั่งเอาค่ะ หน้าตาหน้ากินหลายอย่างเลย โต๊ที่เรานั่งเป็นส่วนตัวค่ะ สงสัยเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติ นี่รูปอาวุธของมื้อนี้ค่ะ อันนี้เป็นเสี่ยวหลงเปา เป็นหมูสับปรุงรส ข้างในกัดแล้วมีน้ำซุปออกมา แต่ระวังร้อนค่ะ อาหารที่ฮ่องกงกินกันร้อนมาก ถ้าไม่ร้อนไม่อร่อยค่ะ แป้งนุ่มเหนียว อร่อยมากค่ะ พอเคี้ยวกับใส้แล้วยิ่งอร่อยค่ะ หากินแบบนี้ไม่ได้ที่เมืองไทยแน่นอน อร่อยมากกกกก อันนี้คล้ายๆๆอับเสี่ยวหลงเปา ข้างในมีน้ำซุปเยอะกว่า มีใส้หมูปรุงรส ข้างบนมีกุ้งเป็นตัววางไว้ อันนี้อร่อยมากๆๆๆ ค่ะ แต่ไม่เข้าใจเลยว่าน้ำซุปยังอยู่ได้งัยเพียงแค่เอากุ้งมาวางหน้า ต่างกับเสี่ยวหลงเปาซึ่งปิดมิดชิด เลยไม่แปลกใจ งงงง กุ๊กทำอาหารเค้าเป็นห้องกระจกให้เห็นตอนทำเลยค่ะ ว่ากำลังปั้นกันอยู่ เห็นกันสดๆๆ อันนี้เป็นใส้ผักกุ้ยฉ่าย อร่อยมากอีกแล้วค่ะ ร้านนี้สุดยอดจริงๆๆ กินแล้วอยากกลับไปกินใหม่เลยค่ะ ประทับใจมาก ทั้งรสชาติของอาหาร และพนักงานเสริฟ์ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งมาก แค่มองออกไปมองวิวรอบๆๆร้าน พนักงานเห็นเราสบตารีบเดินมาบริการเลยค่ะ ลูกค้าเยอะแต่บริการได้เต็มที่ทุกโต๊ะเลยค่ะ ตอนจ่ายเงินแฟนทริปให้เป็นพิเศษด้วย ซาลาเปาก็อร่อย ทั้งแป้ง และใส้รสชาติกำลังพอดี เป็นใส้งาดำกับกับใส้หวาน ชอบงาดำมากค่ะ อร่อยๆๆๆ อิอิ ร้านนี้มีแต่ของอร่อย คิดถูกจริงๆๆที่รอคอย ติดใจพนักงานเสริฟ์ ว่างั้น!! ข้าวผัดหอมอร่อย ข้าวดูเหมือนท่าจะมัน แต่เม็ดข้าวไข่จับเกือบทุกเม็ด ขอเข้าลิ้นแล้ว อืม นี่แหละที่หามานาน หากินที่ไทยไม่ได้แน่นอน แม่ชอบมากเลยค่ะ สุดยอด เนื้อกุ้งเ ด้งดึ้งเลยคร่า...าา ซุปไก่ตุ๋น อร่อยมากๆๆๆเลย มีคลุกเคล้ากินเหล้าเล็กน้อย น้ำซุปหวานกระดูกไก่ หอมอร่อยจริงๆๆ เป็นอีกเมนูที่พลาดไม่ได้ รู้สึกจะมีกลิ่นขิงน้อยๆๆ อ่าเล่าแล้วอยากกลับไปกินอีกเลยค่ะ น้ำลายจะไหล แง้ๆๆ ซุปเต้าหู้ ใส่วุ้นเส้น อันนี้เฉยๆๆค่ะ สามารถหากินได้ทั่วไป ไก่แช่เหล้า ก็อร่อยแบบธรรมดา ใช้ได้ในระดับหนึ่ง ปรกติแม่กินแล้วตื่นมาจะปวดหัว แต่นี้ไม่เป็นเลยค่ะ อันนี้เป็นของหวาน ข้างในเป็นใส้ถั่วแดง แป้งเหนียวแบบแปลกๆๆ แป้งดูแล้วน่าจะร่วน แต่ดันเหนียวหนึบ ติดฟันเวลาเคี้ยว หากินไม่ได้ที่เมืองไทยแน่นอน อร่อยดีค่ะ แปลกดี น่าลองมาสั่งกินดู หลังจากกินเสร็จก็นั่งMRT มาลงสถานี MONGKOK เดินเล่นแถวที่พักค่ะ ไปตึกCTMA ขายของเล่น พวกโมเดลต่างๆๆ ที่ถนน SAI YEUNG CHOI STREET SOUTH แต่ว่าดึกแล้ว ร้านในตึกปิดไปเยอะเหมือนกัน หมีน้อยได้เสื้อมา1ตัว แล้วก็หาของจุกจิกกินรายทาง ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะเหนื่อยมากแล้ว คืนนี้ขอไปนอนพักผ่อนก่อนนะค่ะ เจออกันพรุ่งนี้ค่ะ บาย..   Create Date : 16 สิงหาคม 2553     Last Update : 16 สิงหาคม 2553 23:02:17 น. Counter : 1883 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ENGLISH VERSION BY GOOGLE

JAPANESE VERSION BY GOOGLE

CHAINESE VERSION BY GOOGLE

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• SALE ขายหลายสิ่ง

• กระต่ายลอยคอ
• alekay
• A Princess
• giftza54
• chadalaem
• KiRaRi
• หนีแม่มาอาร์ซีเอ
• mhunoiii
• งูเขียวค่ะ
• jejeejajar
• Groof&Jeab
• PopMizi
• bemynails
• orangery
• chictuary
• kj2428
• CinnamonGal
• Hachisu
• wannee2w
• ouise
• RosesAreRed
• Webmaster - BlogGang

• chictopia
• lookbook
• dictionary
• โต๊ะเครื่องแป้ง
• streetpeeper
• tokyo street
• PIC
• เวปบอกส่วนผสมเครื่องสำอางค์
• styleinsider
• ring
• ssense
• fashionsnap
• style-arena
• fashion style
• millionlooks
• japanese hair style 1
• japanese hair style 2
• japanese magazine1
• japanese magazine2
• japanese magazine3
• dresses
• BlogGang.com