มัลดีฟ บินเดี่ยวเปรี้ยวกว่าเยอะ

แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเกิดจากความไม่ตั้งใจ และปลายทางก็ไม่ใช่ดินแดนในฝันของดิฉันมาก่อนก็ตาม แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นความทรงจำอันแสนหวาน ให้ได้เก็บไว้นึกถึงเกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้ที่ "มัลดีฟ"


หลังจากอกหักจากปารีส ดินแดนที่ดิฉันใฝ่ฝันที่จะได้เดินทางไปเพื่อชม Museum แหล่งรวบรวมงานศิลปะชิ้นสำคัญๆของโลกไว้หลายแขนง และหลายศิลปินระดับโลก สาเหตุเพราะวีซ่าไม่ผ่าน อาการอกหักนี้จึงต้องหาวิธีเยียวยาที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องวีซ่าไม่ผ่านให้เจ็บใจอีก นั่นก็คือไปเที่ยวประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า



อีกเหตุผลนึงที่ดิฉันชอบการไปเที่ยวทะเล คือการจัดกระเป๋าและการเตรียมตัวแทบไม่มีอะไรยุ่งยากเลย มีแค่ Sun tan, After Sunบิกินนี่ 4 ตัว ผ้านุ่งแห้งเร็ว แว่นกันแดด แว่นว่ายน้ำ กล้องถ่ายรูป กระเป๋าไม่หนักแถมมีพื้นที่พอจะใส่พู่กัน หลอดสีน้ำมัน กระดานแต้มสี แต่กระเป๋าที่มีใบนี้ไม่ใหญ่พอจะใส่เฟรมผ้าใบเข้าไปด้วย ดิฉันจึงต้องตัดใจจากกิจกรรมหลักที่ตั้งใจอยากจะทำออกไปและรอกลับมาวาดภาพสีน้ำมันจากภาพถ่ายแทน


สำหรับทริปต่างประเทศสำคัญที่สุดคือ Passport ส่วนเรื่องวีซ่าหากเป็นคนไทยด้วยแล้วไปมัลดีฟไม่ต้องใช้ค่ะ การผจญภัยได้เริ่มขึ้น.... ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เห็นคนอื่นเขาก็ปั้มประทับตราPassport และผ่านเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงคิวตัวเอง พนักงานผู้ชายมองหน้าและก้มมองดูตั๋ว ดิฉันนึกสงสัยในใจฉันทำอะไรผิดเหรอ? เกิดคำถามเปล่งเสียงออกมา.....

ไปมัลดีฟเหรอ? ตอบ"ค่ะ!”
มันอยู่ประเทศอะไร? "อยู่ศรีลังกาค่ะ! ลงสนามบินมาเล่ เมืองหลวงของศรีลังกาน่ะค่ะ"
ไปคนเดียว???? "ค่ะ”!!!!
.....เออ ผมเห็นในทีวีน่ะสวยมากเลยนะ ไม่รู้ของจริงจะสวยแบบในทีวีหรือเปล่า ถ่ายรูปมาฝากเยอะๆนะครับ
ดิฉันยิ้มหวานและตอบกลับไปทันที "แล้วจะถ่ายรูป กลับมาให้ดูเยอะๆนะคะ"





เที่ยวบิน....บินตรงสู่เมืองมาเล่ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา เมื่อไปถึงสนามบิน เข้าคิวตรวจเอกสารคนเข้าเมืองที่สนามบินนานาชาติมาเล่เรียบร้อย พนักงานชาวอินเดียจากClub Med Kaniชูป้ายต้อนรับพาเราลง Speed Boat อีก30 นาที เข้าสู่ Club Med ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะมัลดีฟ ด้วยพื้นที่ทางภูมิศาสตร์หมู่เกาะมัลดีฟประกอบไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อย เป็นพันๆเกาะ แต่ละเกาะจะมีเพียงพื้นที่เล็กๆเพื่อสร้างรีสอร์ทได้เพียงรีสอร์ทเดียวและมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก เราจึงมักเห็นห้องพักที่ต้องสร้างยื่นออกไปในทะเล กลายเป็นเอกลักษณ์รูปแบบรีสอร์ทของหมู่เกาะมัลดีฟ ใครที่เคยไปมัลดีฟอาจจะได้พักคนละเกาะกัน แต่ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่แห่งหมู่เกาะมัลดีฟเดียวกัน


การเดินทางใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจากเมืองไทย เวลาที่มาเล่ต่างกับกรุงเทพ 2ชั่วโมง ดิฉันปรับเวลาในมือถือ เพื่อให้ทราบเวลารับประทานอาหารแต่ละมื้อ ที่ีนี่มีพนักงานต้อนรับหลากหลายสัญชาติทั้ง จีน ญี่ปุ่น ไทย สเปน ฝรั่งเศสฯ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หากคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่ต้องกังวลนะคะ มาเที่ยวมัลดีฟสบายใจได้ แต่สำหรับดิฉันแล้วไม่มีใครคิดว่าเป็นคนไทยเลย ...ก็ด้วยหน้าตาหมวยๆ ผิวขาว แถมเที่ยวคนเดียวอีก ทำให้ต้องกลายเป็นสาวญี่ปุ่นไปโดยปริยาย





กิจกรรมแรกในการเที่ยวของดิฉันคือการเดินค่ะ เดินไปทั่วๆ สำรวจพื้นที่รอบๆเกาะใช้เวลาทั้งหมดเพียง 15-20 นาทีเท่านั้นเอง พื้นที่เกาะเล็กมากแถมสะอาดปลอดภัย มีพนักงานใจดีพูดคุยทักทายตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนรับประทานอาหารแต่ละมื้อจะมีพนักงานที่นี่กลัวว่าเราจะเหงา ขอเข้ามานั่งทานอาหารเป็นเพื่อน พอเริ่มคุยกันสนิทมากขึ้น เร่ิมกล้าถามข้อสงสัยในใจ "ทำไมมาเที่ยวคนเดียวล่ะ อกหักเหรอ?" บ้างล่ะ "ทำไมไม่มากับแฟนล่ะ?” บ้างล่ะ คำตอบที่ทุกคนได้ไปเหมือนกันนั่นก็คือ...

"ชอบเที่ยวค่ะ /ชอบเที่ยวคนเดียวค่ะ/ รักอิสระชอบสันโดษค่ะ" (ไปๆมาๆพนักงานเขาคงจะประชุมกัน และลงความเห็นว่าอย่าไปกวนใจแม่สาวญี่ปุ่นนางนี้เลย เธอคงอยากอยู่คนเดียวจริงๆ) ทุกคนพร้อมหน้ากันหายไปหมดเลยค่ะ ปล่อยให้ดิฉันได้อยู่อย่างสงบสมใจอยาก





แต่ถึงกระนั้นแล้วก็ตาม...ช่วงเวลาอาหารค่ำของค่ำคืนที่สอง หลังจากที่ฉันเหนื่อยล้าจากการเล่นกีฬาทางน้ำ กว่าจะมาถึงห้องอาหารก็ใกล้ถึงเวลาปิดซะแล้ว ด้วยความหิวและเหนื่อย จึงตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารจนไม่ได้สังเกตว่า มีหนุ่มตาน้ำข้าว ผิวสีแทน ผมหยักโศก รูปร่างสันทัดคนนึง กำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารที่ฉันนั่งอยู่เพียงลำพัง และเอ่ยขึ้นว่า

"ผมมองหาคุณไปทั่วห้องอาหารตั้งแต่ตอนเย็น ถามพนักงานก็ไม่มีใครเห็นคุณ....
จนผมนึกว่าคุณจะไม่มาทานมื้อเย็นซะแล้ว"
ฉันได้แต่เงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัยว่าเรารู้จักกันเหรอ? แล้วก็นึกขึ้นได้! ฉันเห็นเขาแว๊บๆตอนไปหัดเล่นเรือใบ ฉันเชิญให้เขานั่งลง ต่างคนก็แนะนำชื่อของตัวเองและพูดคุยกันเรื่องทั่วๆไป แน่นอนเขาคิดว่าฉันเป็นสาวญี่ปุ่น คืนนั้นหลังมื้อเย็นฉันไม่ได้ไปนั่งฟังเพลงต่อที่ Barตามคำชวนเพราะความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าด้วยส่วนนึง เพราะไว้เชิงด้วยก็ส่วนนึง มีแอบเสียดายความหล่อบ้าง นิด นิด และคิดว่า...มันก็คงผ่านไปเพราะเราไม่มีข้อมูลหรืออะไรสามารถใช้ติดต่อกันได้เลยบนเกาะ แต่ ....ดิฉันคิดผิด!






วันรุ่งขึ้นดิฉันตื่นสายตามปกติ แถมยังสั่ง Break fast มาทานที่ห้องพักอีกต่างหาก กว่าจะขยับตัวทำกิจวัตรประจำวันก็เกือบๆเที่ยงวัน ที่นี่แดดแรงมาก แต่ลมก็แรงด้วยเช่นกัน ช่วยให้อากาศโดยรวมไม่ร้อน แต่อาจจะได้สัมผัสกับคำว่า "แก่แดด-แก่ลม" ได้ง่ายๆ วันแรกๆดิฉันใช้เวลาทั้งวันไปกับการดำผิวน้ำ เขามีเรือบริการพาเที่ยวรอบๆนอกของตัวเกาะ มีเรือออกวันละสองรอบคือช่วงเช้าและช่วงบ่าย (การดำน้ำที่นี่เหมาะกับการดำน้ำลึกเพื่อชมปลาใหญ่ กระเบนราหูฯ มากกว่าการดำผิวน้ำ) กิจกรรมช่วงวันที่สองวันที่สามดิฉันติดใจการล่องเรือใบลำเล็กมาก ยิ่งได้ขับเองยิ่งสนุก ที่นี่เขามีกีฬาทางน้ำให้เลือกเล่นทั้งพายเรือแคนนู เรือใบ วินเซริฟ เซริฟบอร์ด แต่ช่วงนั้นไม่มีครูสอนวินเซริฟดิฉันเลยอดเล่น ทุกอย่างฟรีค่ะ ฟรีตั้งแต่กิจกรรมทางน้ำทุกชนิด อาหารบุฟเฟ่นานาชาติทุกมื้อ เครื่องดื่มค็อกเทลที่บาร์ช่วงกลางคืน กาแฟน้ำส้มที่บาร์ริมหาดช่วงกลางวัน หากนำ้ดื่มที่มีให้บริการในห้องพักหมดก็ออกมาเติมได้ตามจุดบริการน้ำดื่ม เที่ยวได้สบายใจดีค่ะ เวลาที่เหลือหลังจากกิจกรรมทางน้ำของแต่ละวัน ดิฉันจะนอนอาบแดด เสียบหูฟังเพลงอ่านหนังสือ อยู่ตรงมุมสงบท้ายเกาะ


อ้อ! มาเล่าถึงหนุ่มตาน้ำข้าวกันต่อดีกว่านะคะ ดิฉันออกจากห้องพักเดินมุ่งตรงไปเพื่อเล่นเรือใบเหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่วันนี้ฉันเห็นเขายืนเท้าสะเอวมองหน้าฉันมาแต่ไกลเชียว แถมพอเดินเข้าไปใกล้ๆเขาก็เริ่มเอ่ยปากบ่น

"ผมมารอคุณที่นี่ตั้งนาน...และเมื่อคืนผมก็นั่งรอคุณที่ Barจนปิด แต่คุณก็ไม่มา"
ฉันทำหน้ามึน งง นึกในใจฉันผิดเหรอ? เรานัดกันเหรอเนี่ย? แถมต่อว่าฉันอีกว่า

"ถ้าคุณจะไม่ไปตามนัด คุณควรจะบอกผมนะ"
เอ๊ย! เป็นเรื่องใหญ่เหรอเนี่ย? ฉันแปลกใจมากและตอบกลับไปว่า "ขอโทษค่ะ เมื่อวานฉันเหนื่อยมากก็เลยเผลอหลับไป"

หลังจากนั้นเราสองคนก็ติดกันเป็นปาท่องโก้ เขาอ้างว่ากลัวฉันจะหายตัวไปอีก ไม่อยากให้ฉันเดินไปไหนมาไหนคนเดียว เราสองคนใช้เวลาส่วนใหญ่ในการล่องเรือใบเล่น นอนอาบแดด เดินเล่นรอบเกาะบ้าง และนั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันทุกวัน บรรยากาศที่นี่โรแมนติกขึ้นมาไม่เบาเชียวค่ะ


ท้องทะเลใต้ถุนห้องพัก เป็นดั่งสระว่ายน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ น้ำใสแจ๋วเห็นทะลุถึงพื้นทรายใต้ทะเล และสามารถเห็นกระเบนราหูว่ายผ่านไปผ่านมาได้อย่างง่ายดาย บางคู่ที่มาฮันนีมูนกันใช้เวลาอยู่แต่ในห้องพักเล่าให้ฟังว่าเห็นกระเบนราหูว่ายผ่านตั้ง 8 ตัว แต่ดิฉันเห็นแค่ 2 ตัวเอง คงเพราะมัวแต่เอาเวลาไปเดินเที่ยวเล่นนอนอาบแดดอยู่อีกมุมนึงของเกาะ


เมื่อถึงวันที่ต้องกลับเมืองไทย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราทั้งคู่จะเป็นยังไง เขานั่งเรือเร็วมาส่งฉันที่สนามบินมาเล่ เรารำ่ลากันอย่างอ้อยอิ่ง ถามตัวเองว่าฉันจะละทิ้งความทรงจำดีดี ไว้ที่มัลดีฟหรือ?


คราวหน้าก็ไม่ต้องรอมีคนรัก ถึงจะเที่ยวมัลดีฟหรอกนะคะ ใครจะรู้....คู่ของคุณอาจจะรออยู่ที่นี่ก็ได้/.








-------------------------------------


Create Date : 16 มีนาคม 2554
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2558 11:27:57 น. 28 comments
Counter : 1242 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่านไปยิ้มไป น่ารักดีนะคะ
 
 

โดย: WINDAJUNG IP: 58.10.124.57 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:11:52:04 น.  

 
 
 
พอดีเพิ่งหัดเขียน Blog น่ะค่ะ
หากใครมีวิธีจัดหน้า-จัดรูปรบกวนแนะนำด้วยนะคะ,
เพราะดูๆ blog มันรกๆ ใช่ไหมคะ?
 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:12:04:23 น.  

 
 
 
เก่งจังเลยแฮะไปมัลดีฟคนเดียว สุดยอดมาก ๆ

อยากไปเหมือนกัน แต่ภาษาอังกฤษเราไม่แข็งแรง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ เผื่อจะเกิดแรงบันดาลใจ เหอ ๆ ๆ
 
 

โดย: blueblood@มาทุกวัน!!!! ^o^ วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:12:10:45 น.  

 
 
 
ขาขาวจังครับ
 
 

โดย: :) IP: 125.25.111.124 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:12:14:21 น.  

 
 
 
ภาพสวย เรื่องน่ารัก โรแมนติคจังต่ะ แต่ข้อความมันยาว
อ่านแล้วเมื่อยสายตา ถ้าตัดให้สั้นลงแต่ละบรรทัด และเว้นบรรทัดสักสองเคาะเวลาขึ้นหัวข้อใหม่ จะดีมากเลยค่ะ
ขอโทษนะคะ..ที่แนะนำ เพราะเห็นว่าเขียนได้น่าอ่านเพียงแต่ปรับปรุงนิดเดียวเท่านั้เองค่ะ
 
 

โดย: Maeboon วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:12:17:25 น.  

 
 
 
-ขอบคุณมากมากค่ะคุณ Maeboon จะรีบแก้ไขนะคะสงสารคนอ่านจัง! อิอิ

-คุณ blueblood ไปมัลดีฟไม่ต้องกลัวค่ะ
ภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้มากนักถ้าเค้ารู้่ว่าเราเป็นคนไทย ก็จะมีพนักงานมาประกบดูแลเราตลอดทริปค่ะ

ค่าใช้จ่ายไปคู่จะเซฟกว่าไปเดี่ยวตกประมาณคนละ 4 หมื่น(อันนี้ของ ClubMedนะคะ) ที่อื่นๆก็มีให้เราเลือกหลายเกรดค่ะ ถูกกว่านี้หรือแพงกว่านี้ก็มีอย่างที่ SixSense ก็สวยนะคะ ลองดูค่ะ
 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:12:47:59 น.  

 
 
 
วิธีจัดรูปให้เคาะเว้นบรรทัด นึง น่าจะทำใรปสวยกว่านี้นะครับ ไม่ติดกันเกินไป

ส่วนเรื่องราวโรแมนติคมากครับ อยากไปแบบเจ้าของบล็อกจัง แต่ค่าใช้จ่ายมันต่อห้องใช่รึเปล่าครับ กลัวเสียดายเงินอะครับ ไปคนเดียวอิสระดีครับ ชอบ
 
 

โดย: jiwyeefun วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:02:13 น.  

 
 
 
ชอบๆๆๆๆ
 
 

โดย: อวบ IP: 182.52.196.112 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:11:11 น.  

 
 
 
อ่านแล้วน่ารักจังค่ะ จนอยากอ่านตอนต่อไป
ขอให้ความรู้สึกดีๆ พัฒนาขึ้นอย่างสวยงามนะคะ

ดิฉันเองไปมาเมื่อปีที่แล้ว 5 วัน 4 คืน ราคา 34,700 บาท
ชอบทุกอย่างที่นั้น ปลอดภัยและสนุกกับกิจกรรมมากๆ
แถมการที่ได้บินกับ UL ทำให้ได้รู้ว่าสนามบินศรีลังกาของถูกมากมาย
ตอนรอต่อเครื่องยังได้รับมิตรภาพจากเจ้าของร้านหนังสือในสนามบิน จนตอนนี้เป็นเพื่อนกันไปแล้วค่ะ

แล้วจะรอติดตามอ่านข้อความดีๆเรื่องน่าอ่านในทริปต่อไปนะคะ ^-^
 
 

โดย: Paper Sand IP: 58.137.46.57 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:12:25 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะคุณ Paper Sand
พอดีเพ่ิงหัดทำ Blog น่ะค่ะจะพยายามพัฒนาต่อไปนะคะ

มีบทความเรื่องราวของจ.สตูล อีกอันนึงลองอ่านเล่นดูนะคะ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=maldive&date=16-03-2011&group=2&gblog=2
 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:23:49 น.  

 
 
 
ดีใจที่ได้แวะเวียนเข้ามา อ่านไปยิ้มไปอย่างคห.แรกว่าไว้จริงๆ

^_^ แอบเห็นอีกบทความแล้ว คุณงาดำ หน้าตาน่ารักจังเลยค่ะ
 
 

โดย: okk IP: 58.9.52.221 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:36:06 น.  

 
 
 
อยากไปเหมือนกันครับ

แก้ไขข้อมูลหน่อยนะครับ มัลดีฟเป็นประเทศนะครับ

มาเล ก็เป็นเมืองหลวงของมัลดีฟ

ส่วนศรีลังก คนละประเทศครับ แต่อยู่ไม่ไกลจากกัน

เมืองหลวงชื่อโคลอมโบ
 
 

โดย: นายไข่ วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:54:31 น.  

 
 
 
-นายไข่> ว๊ายยย! จิงเหรอคะ? ขอโทษค่ะแย่จัง!!!!!!!

-okk> ขอบคุณค่ะ เขิลลลลลค่ะ^^
 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:13:57:28 น.  

 
 
 
น่ารักจังค่ะ...อ่านแล้วก้ออยากไปฮันนีมูนจังน้า~~~~
 
 

โดย: กระติกใส่น้ำแข็ง วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:18:01:45 น.  

 
 
 
แกต้องจัดหน้าใหม่จริงๆด้วยอ่ะ
แต่ชั้นก็ทำไม่เป็นเหมือนกัน
 
 

โดย: ติ้ง IP: 203.155.122.1 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:8:53:46 น.  

 
 
 
ติ้ง: ขอบคุณมากที่แกตามหาฉันเจอ ซึ้งใจน้ำตาไหลพราก รักนะ จุ๊บๆ
 
 

โดย: ฺBlack Sesame IP: 180.210.216.74 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:11:16:05 น.  

 
 
 
แกต้องเอารูปมาลงเยอะๆดิ ชั้นเป็นพวกชอบบริโภครูปถ่าย
 
 

โดย: บ๊วยเค็ม IP: 203.155.122.1 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:11:51:47 น.  

 
 
 
ลงรูปเพิ่ม...มาตามคำเรียกร้องนะคะ

สำหรับท่านที่ชอบการบริโภครูปอย่างเดียว
งาดำ Create Blog> Photo Only! ไว้ให้โดยเฉพาะด้วยค่ะ

 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:12:40:51 น.  

 
 
 
5555 ก็ไปเจิมให้แล้วนิคะ ห้อง Photo Only นั่นน่ะ เจิมตั้งแต่ตอนเช้าแระนะ
 
 

โดย: บ๊วยเค็ม IP: 203.155.122.1 วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:14:32:53 น.  

 
 
 
ภาพสวยมากเลยแก น่าไปมาก วิวดีจริงๆ ทำให้น่าอ่านขึ้นตั้งเยอะ
 
 

โดย: บ๊วยเค็ม IP: 203.155.122.1 วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:14:34:13 น.  

 
 
 
เพิ่มเติมบทความอีกเหรอ อิอิ หนุ่มตาน้ำข้าว?
 
 

โดย: บ๊วยเค็ม IP: 203.155.122.1 วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:14:40:53 น.  

 
 
 
มัลดีฟ เกาะในฝันเลย... ถ้ามีโอกาสก็อยากไปด้วยสักครั้งค่ะ^^
 
 

โดย: namfaseefoon วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:19:14:28 น.  

 
 
 
สวยจังค่ะ อยากไปมากกกกกกก แต่ว่ายน้ำไม่เป็นอ่ะ
 
 

โดย: bulldoggirl วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:19:53:24 น.  

 
 
 


หวัดดีค่ะเก่งจังค่ะไปเที่ยวคนเดียว
ทำบล๊อกไม่ยากค่ะเดี๋ยวเขียนไปๆมาๆ
ก็เก่งค่ะเรื่องของคุณBlack Sesame
ก็น่าสนใจอยู่แล้วด้วย อ่านคอมเม้น
เพื่อนๆของคุณแล้วแอบขำค่ะที่บอกว่า
เป็นพวกชอบบริโภครูปน่ะค่ะ....
 
 

โดย: แก้วศกุลตลา วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:19:15:33 น.  

 
 
 
สวยมากๆๆๆ ครับ
 
 

โดย: kujeng IP: 220.157.166.73 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:53:56 น.  

 
 
 
สวยจังเลยค่ะ เห็นแล้วอยากไปมั่ง
 
 

โดย: Sugar lip วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:6:00:46 น.  

 
 
 
ปารีฮัท เกาะสีชัง ใกล้กรุงเทพฯที่สุด เพียง 117 กม.คุ้มที่สุด จากฉากในภาพยนตร์เรื่องปืนใหญ่โจรสลัด เเละละครดังช่อง 3 เกมร้าย เกมรักซึึึ่งมีพระเอกนางเอกคู่ขวัญสุดฮิด ณเดชน์กับญาญ่า ไปเที่ยวที่ปารี ฮัทเเล้วจะประทับใจกับอาหารทะเลซีฟุ๊ดสุดอร่อยเเละกระท่อมริมผา มีน้ำทะเลกับฟ้าเป็นเพื่อน ติดต่อ จองด่วนเบอร์โทรศัพท์ 087-903-4300 เว็บไซต์ //www.pareehut.com
หรือใน facebook ทาง //www.facebook.com/pareehutresort
 
 

โดย: Padoungkiet Punjakhun IP: 58.64.107.220 วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:31:14 น.  

 
 
 
แต่ Blog นี้เป็นเรื่องมัลดีฟ มิช่ายเหรอคะ? --'
 
 

โดย: Black Sesame วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:11:59 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Black Sesame
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




บางครั้ง...สถานที่..ที่เดียวกัน ของ..ของสิ่งเดียวกัน
สำหรับบางคนอาจสร้างความประทับใจได้มากมายมหาศาล
แต่สำหรับบางคน...กลับไม่มีความหมายอะไรเลย

บาง Blog เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าประทับใจ น่าจดจำ อยากเขียนถึง
บาง Blog มีเพียงภาพถ่าย ไม่มีเรื่องราวใดๆจะเขียนถึงด้วยซ้ำ

แต่....ความประทับใจมากมายมหาศาลทั้งหมดเหล่านั้น
ก็เป็นเพียงเรื่องที่่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่อาจสำคัญมากไปกว่า...ปัจจุบันที่ดำรงอยู่ Instagram
[Add Black Sesame's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com