บินเดี่ยวเที่ยวเสียมราฐ 3 วัน (วันที่สาม)
..กว่าจะได้เขียนบันทึกการเดินทางภาคต่อ วันที่สาม (6 ธันวาคม 2557) ก็ข้ามปีกันเลยทีเดียว อิอิ ใกล้จะครบรอบ 1 ปีที่ไปเมืองเสียมราฐ จึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขียนยังไม่จบทริปนี่นา มาต่อกันเลยคร่า...
การเดินทางไปกัมพูชาช่วงฤดูหนาว เอ่อ อ อ คำนี้ดูไกลความจริง ขอใช้แค่ช่วงเดือนธันวาคม หรือช่วงอากาศเย็นจะเหมาะกว่าคำว่า ฤดูหนาวค่ะ อากาศที่นี่ร้อนระเบิดค่ะ หากมาช่วงเดือนอื่นๆไม่แนะนำนะคะ เพราะอากาศจะร้อนแบบที่เราจะนึกไม่ออกเลยล่ะค่ะ ส่ิงที่ตามของอากาศร้อนคือ เราจะเหนื่อยง่าย เที่ยวได้แค่ครึ่งวัน ก็อาจต้องรีบกลับไปนอนพักตากแอร์เย็นๆที่โรงแรม
วันนี้เริ่มต้นชีวิตเช้ากว่าวันอื่นๆ เพื่อมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัตด้วย และเหตุผลที่ต้องตื่นตี 4 ก็เพื่อมาจองพื้นที่ให้ได้ภาพช่วงพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัต มันคือความใฝ่ฝันของหลายๆคนค่ะ ภาพจึงออกมาเป็นเช่นนี้ ฮ่าๆๆๆๆ
อากาศช่วงเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้ามันช่างสดชื่นซะจริงๆ ดิฉันเดินเล่นเพื่อหาทำเลเหมาะๆ นั่งกินแซนวิชที่เตรียมไว้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศของนครวัตยามเช้าตรู่ไปด้วยเลย พูดได้คำเดียวว่า "ชิล"
ช่วงสัก 8-9 โมงเช้า เดินทางต่อไปที่ "นครธม" อันเป็นที่ตั้งของปราสาทบายน ซึ่งห่างออกมาจากนครวัต แค่ 1-2 กิโลเมตรได้ค่ะ ขอเล่าประวัติของ นครธม ซึ่งเล่าไปแล้วในบันทึกการเดินทางวันแรก
พ.ศ. 1724-1780 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ขับไล่พวกจามและสร้างเมืองพระนครหลวงขึ้นมาใหม่ ชื่อ "นครธม"แปลว่าเมืองหลวง โดยมีปราสาทบายนเป็นศูนย์กลาง ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธนิกายมหายาน ซึ่งนิกายมหายานเชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว แต่ไม่ยอมนิพพานเพราะเป็นห่วงมนุษย์โลก จึงมีการอวตารมาอยู่บนโลกมนุษย์หลายต่อหลายภาคเพื่อคุ้มครองปลดทุกข์ให้มนุษย์ ดังจะเห็นที่ปราสาทบายน หินสลักรูปพระพุทธเจ้าทั้งสี่ทิศสี่หน้ามองมายังมนุษย์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น อาจเปรียบดั่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เองที่ปกครองอาณาจักรด้วยธรรมะ จนพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สวรรคตอาณาจักรขอมเริ่มเสื่อมลง อาณาจักรสุโขทัยก็เริ่มมีอำนาจในปีพ.ศ. 1781/
นอกจากบรรยากาศของปราสาทตาพรหม (ที่มีต้นไม้ใหญ่หุ้มตัวปราสาทโดยรอบ ในการเดินทางวันที่ 2) ที่น่าประทับใจยิ่งนัก สำหรับดิฉันแล้ว ปราสาทบายน ในนครธมแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ที่ดิฉันชอบมากๆ บวกกับอากาศเช้านี้สดชื่นมาก ท้องฟ้าแจ่มใส การเดินเที่ยวที่นี่จึงสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ในบริเวณ นครธม ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทอื่นๆ(จำชื่อไม่ได้)และลานแสดงช้าง เราสามารถเดินได้เรื่อยๆรอบๆค่ะ พื้นที่อาณาบริเวณ กว้างขวางพอดู มีต้นไม้ร่มรื่นมากด้วยค่ะ ดิฉันใช้เวลาเดินเล่นที่นี่ก็พาเข้าไปเกือบเที่ยงวัน
ท้องเริ่มร้องหิว ว ว ว คิดถึงอาหารบนถนน Pub street ขึ้นมา เลยขอให้ Suk ขับรถกลับมาที่บริเวณที่พักก็คือถนน Pub street เพื่อหาร้านกินข้าวชิลๆ เจอร้านชื่อ Amok เปิดเมนูมาทันที ลองสั่งอาหารชื่อเดียวกับชื่อร้าน Amok ก็คล้ายๆห่อหมกบ้านเราค่ะ
ต่อด้วยนอนกลางวัน ZZzzzzzz
..แล้วเย็นๆค่อยให้ Suk มารับไป ปราสาทพนมบาเค็ง เพื่อดูพระอาทิตย์ตก
หลายๆที่ในเสียมราฐ มันทำให้เราอดนึกภาพความยิ่งใหญ่ ความรุ่งเรืองของอาณาจักรขอมไม่ได้จริงๆ ที่สำคัญคือ มนุษย์ทำได้อย่างไร? สร้างได้อย่างไร? หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้น เชื่อว่าต้องมีความศรัทธาในส่ิงที่ทำ "ปราสาทพนมบาเค็ง" ตั้งอยู่บนยอดเขาและต้องเดิน เดิน และเดินค่ะ ดังนั้นมาก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกสัก 1-2 ชั่วโมงก็จะดี (นักท่องเที่ยวเยอะมาก!)
ขออนุญาตเล่าประวัติย่อ.....ปราสาทนี้สร้างขึ้นสมัยพระเจ้ายโสวรมันที่ 1 (พ.ศ. 1432-1453) อยู่ในเขตเมืองหลวงสมัยนั้นคือ "ยโสธรปุระ" เป็นศาสนาสถานฮินดูถวายแด่พระศิวะ คือพระเจ้ายโสวรมันที่ 1 มีพราหมณ์ชื่อ"วามะศิวะ" ซึ่งได้ประดิษฐานศิวะลึงค์ไว้บนยอดเขา "ศรียะโสธาระคีรี" เปรียบเหมือนเขาพระสุเมรอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สถิตของเหล่าทวยเทพ ในที่นี้ศิวะลึงค์เป็นสัญลักษณ์ของการปกครองโดยระบอบกษัตริย์สมมุติเทพ ซึ่งริเริ่มโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรขอม เมื่อปีพ.ศ. 1346 นั่นเอง (จะเห็นได้ว่าศาสนาพุทธและฮินดูมีอิทธิพลกับอาณาจักรขอม)
จบวันนี้ด้วยภาพความประทับใจ พระอาทิตย์ตกดินจากยอดเขาสูง อำลาทริปเสียมราฐแต่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯซะแล้ว
ปล.อาหารเช้าแบบตะวันตกอร่อยๆ หาได้่ง่ายบนถนน Pub street ส่วนตัวชอบร้านนี้ค่ะ
เสียมราฐเป็นเมืองที่น่าเที่ยวและปลอดภัยเมืองนึงเลยค่ะ ผู้หญิงเดินทางคนเดียวได้สบายใจ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงเยอะขนาดนี้ คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นส่วนใหญ่
อ้อ ใครสนใจทริปเที่ยวง่ายๆสบายๆแบบนี้ ลองดูนะคะ การเที่ยวคนเดียวสนุกกว่าที่คิดนะคะ ไม่ต้องกลัวจะเหงาเลย แค่เดินถ่ายรูป อ่านแผนที่ อ่านประวัติศาสตร์ของแต่ละสถานที่ ก็ไม่มีเวลาเหงาแล้วค่ะ
ดูเหมือนคนขับรถตุ๊กๆของดิฉันจะ hot มากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ติดต่อเขาได้ค่ะทาง facebook: "Sok Paul" รับรองความสุภาพ เรียบร้อย ตรงเวลา และซื่อสัตย์
<<<<<<< ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ >>>>>>>>>>>
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2558 |
| |
|
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2558 11:06:25 น. |
| |
Counter : 580 Pageviews. |
| |
|
|