พล่ามเกี่ยวกับ TVXQ : drama ลากยาว

จขบ.รู้จักดงบังชินกิตั้งแต่เวทีแรกที่ดงบังชินกิขึ้นแสดงเลยทีเดียว (ซึ่งก็คือเวที BoA-Britney concert เนื่องมาจากจขบ.เป็นแฟนตัวยงของโบอา ตามดูทุกรายการทุกโชว์ที่ไปออก) แต่มาชอบดงบังชินกิจริง ๆ จัง ๆ ก็ตั้งแต่ออกผลงานในนามโทโฮชินกิ เพลง ballad ญี่ปุ่นเพราะมาก ๆ หลายเพลงจริง ๆ ฟังตั้งแต่ร้องสำเนียงเพี้ยน ๆ จนไม่มีสำเนียงแล้ว (หรือมีน้อยมาก ๆ)

ถึงจขบ.จะไม่เรียกตัวเองว่า cassie แต่ก็ทำทุกอย่างตามที่แฟนคลับทั่วไปจะพึงกระทำ ได้แก่ ดาวน์โหลดเพลงมาฟัง (อุ้ย... มีการอุดหนุนเล็กน้อยพองามนะคะ), ตามดูรายการทีวีที่ไปออก, ไปดูคอนเสิร์ต, ตามดูคลิปต่าง ๆ ใน youtube จนตาบวม (ช่วง active 5 คนนี้ออกทีวีเยอะมากจนตามดูแทบไม่ทัน)

สิ่งที่ทำให้จขบ.ชอบดงบังชินกิก็คงจะเหมือนแฟน ๆ ดงบังชินกิทั่ว ๆ ไป ก็คือ ความสามารถทั้งการร้องและเต้น หน้าตา บุคลิก รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในวง

เวลาเห็นนักร้องกลุ่มที่เราชอบสนิทกัน แสดงความรักต่อกัน แฟน ๆ ก็มีความสุขไปด้วย นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเป็นแฟน boy group/girl group

(และนับเป็นสิ่งที่แห้งแล้งสำหรับแฟนของศิลปินเดี่ยว T-T)

member ที่จขบ.ชอบเป็นพิเศษคือ ยูชอน ตามด้วยจุนซูและเจจุง(ชอบเท่า ๆ กัน), ตามด้วยชางมิน และชอบน้อยที่สุดคือยุนโฮ (มะค่อยคลิกเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไร แต่ชอบเวลายุนโฮใจดีกับเจจุงนะ)

และแน่นอนคู่ที่ชอบที่สุดก็หนีไม่พ้น ยูชอนและจุนซู เวลาเห็นสองคนนี้แล้วรู้สึกว่าถึงยูชอนจะนิสัยไม่ค่อยดี(ก๊าก) แต่ก็ชอบจุนซูจริง ๆ เลยน้า :)

และถัดมาก็คือคู่ยูชอนและเจจุง (อันนี้รู้สึกว่าเจจุงชอบยูชอนมากกว่ายูชอนชอบเจจุง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะโดยลักษณะนิสัยแล้ว เจจุงมีความเป็นผู้ให้มากกว่ายูชอน)

จะเห็นได้ว่าจขบ.ได้ทำทุกอย่างเท่าที่แฟน hardcore คนหนึ่งจะทำยกเว้นวาด fanart และอ่าน/เขียน fanfic (ก๊ากๆ)

จากการตาม activity ของดงบังชินกิ ทำให้เห็นได้ว่าพวกนี้ทำงานหนักมาก!! น่าทึ่งมาก ๆ ที่ทนได้ขนาดนี้ จะว่าไปแล้ว การที่ดงบังชินกิดังในญี่ปุ่นมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะการทำงานหนักนั่นเอง (คนญี่ปุ่นชอบคนขยัน)

แต่เนื่องจากจขบ.เป็นแฟนโบอามาก่อน ทำให้เคยชินกับการที่เห็นนักร้องทำงานหนัก ช่วงที่พีคมาก ๆ ของโบอา เธอออกอัลบั้มปีละสามชุด! (ยิ่งกว่าดงบังอีก)

ก็เลยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์โคตร dramatic เกิดขึ้นแบบที่เกิดในเดือนก.ค.ปี 2009... คือการที่เจชอนซูฟ้องบริษัทตัวเอง SM Entertainment โทษฐานที่ให้พวกเขาเซ็นสัญญาทาส

แวบแรกก็รู้สึกแปลก ๆ ว่าเล่นอะไรเนี่ย? ทำอะไรเนี่ย? ตอนนั้นดงบังชินกิพีคสุด ๆ ในญี่ปุ่นและมีโอกาสที่จะดังขึ้นไปกว่านั้นเรื่อย ๆ อีก อยู่ ๆ ทำไมทุบหม้อข้าวตัวเอง?

ตอนนั้น จขบ.มองโลกในแง่ดีมาก คิดว่ายังไง SME คงต้องพยายามยอมความเพราะคงไม่อยากเสียอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของตัวเองไป TVXQ คือ product อันดับหนึ่งของบริษัท เอาไปที่ไหนก็ไม่อายใคร เพราะมีความสามารถพร้อมหน้าตาจริง ๆ

(แต่อีกใจหนึ่งแอบสะใจเล็ก ๆ ที่ SME โดนซะบ้าง เพราะมันโหดเหี้ยมจริง ๆ คิดถึงตอนที่มันใช้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างโบอา ทำงานช่วงปี 2001-2002 แล้ว เฮ้อ...)

ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะสู้กันจนตาย ลากกันยาวถึงป่านนี้!

ตอนที่ข่าวออกมาใหม่ ๆ ทุกคนก็คงจะสงสัยเหมือน ๆ กันว่าทำไม โฮมินไม่ออกมาสู้ด้วยกัน? หลายคนรวมทั้งจขบ.มองโลกในแง่ดีด้วยการคิดว่าคงเพราะติดงานละคร heading to the ground กับ paradise ranch ก็เลยมาฟ้อง SME ด้วยไม่ได้ละมั้ง?

(จขบ.แอบคิดอีกเหตุผลด้วยว่า โฮมินไม่กล้าเพราะไม่มั่นใจในฝีมือและ popularity ของตัวเอง อย่าว่างั้นงี้เลย มันเห็นได้ชัดว่าเจชอนซู popular กว่า)

มาถึงตอนนี้ คงไม่มีใครคิดว่าที่สองคนนั้นไม่ออกมาด้วยเป็นเพราะติดละครแล้วมั้ง?

แน่นอน ตอนนั้นหลายคน(รวมทั้งจขบ.)ยังเชื่อยัง always keep the faith ว่าคงมีสักวันที่เรื่องนี้จะจบได้สวยงาม TVXQ คงได้กลับมามี 5 คนเหมือนเดิม ตอนนั้นภาพในหัวคนส่วนใหญ่คือสงครามนี้สู้กันระหว่าง เจชอนซู vs. SME ไม่ใช่ เจชอนซู vs. โฮมิน

แต่หลังจาก TVXQ(Homin) comeback ด้วย Keep your head down ซึ่งมีเนื้อเพลงแบบนั้น! และจาก tweet ของจุนซู (เนื้อความตัดพ้อต่อว่ายุนโฮ) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา... ความหวังไม่เหลือแล้ว... จบสิ้นกันทีการรอคอย (ดีเหมือนกัน รอจนเหนื่อย)

ถึงตอนนี้ก็สนุกกันใหญ่ cassie แตกเป็นสามก๊ก
1. ก๊กสนับสนุน JYJ
2. ก๊กสนับสนุน โฮมินในนาม TVXQ
3. ก๊กสนับสนุนทั้งสองกรุ๊ป

(จริง ๆ แอบมีอีกก๊กหนึ่งที่เลิกเป็น cassie ไปเลยด้วยความเหนื่อยใจ คนเราเป็นแฟนศิลปินเพราะต้องการความบันเทิงใจเป็นหลัก ไม่ใช่เหนื่อยกับปัญหาในโลกความจริงยังไม่พอ ยังต้องมาเพลียใจกับ drama ของกรุ๊ปที่ชอบอีก)

แน่นอน เรื่องแบบนี้มันพูดยากว่าใครผิด มันอาจจะไม่ได้มีใครผิดเลย หรือมันอาจจะผิดทุกฝ่ายก็ได้? เรื่องแบบนี้มันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน (เช่นเดียวกับที่เราทะเลาะกับชาวบ้าน เราก็มองว่าเขาผิด เขาก็มองว่าเราผิด)

ขอพิจารณาการที่ JYJ ออกผลงานที่ญี่ปุ่นกับ AVEX (ซึ่งแปลกมากที่ AVEX ตัดสินใจอะไรแบบคิดสั้นขนาดนี้ เห็นแก่เงินจนไม่คิดให้รอบด้าน ยอมมีรอยร้าวกับ SME จน SNSD&SHINee หลุดลอยไปเซ็นกับบริษัทอื่นในญี่ปุ่นแทน ฮา)

รวมไปถึงการออกอัลบั้มอินเตอร์ The Beginning ด้วย สำหรับจขบ.เองแล้ว จขบ.ไม่แน่ใจว่ามันผิดไหมเพราะไม่รู้เบื้องลึก แต่ถ้าถามความคิดเห็น ต้องบอกว่าไม่อยากให้ทำ

ระหว่างที่เรื่องราวในศาลยังไม่สิ้นสุด อนาคตของ TVXQ ยังไม่แน่นอน จขบ.เห็นว่าเจชอนซูควรทำแต่งานเดี่ยวเท่านั้น จะเล่นละคร เล่นหนัง เล่น musical อะไร เล่นไปเลย จะออก photo album ออกงาน featuring ชาวบ้านอะไร ก็ทำไป แต่ไม่ควรออกผลงานกลุ่มเด็ดขาด

เพราะอะไร? เพราะด้วยวัฒนธรรมของ K-pop แฟน ๆ ส่วนใหญ่จะผูกพันเว่อกับศิลปิน เราไม่ได้แค่ฟังเพลงที่ชอบแล้วจบกัน เราชอบที่ตัวตน เราชอบที่ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มด้วย (สำหรับบางคนนี่ถือเป็นปัจจัยหลัก เรื่องเพลงเพราะไม่เพราะถือเป็นของแถม)

พอแตกแยกกันแบบนี้ก็จบกัน เสน่ห์ของกรุ๊ปหายไปแล้ว คนเราอาจจะชอบดูคนอื่นทะเลาะกัน แต่ไม่มีใครอยากเห็นคนที่เราชอบที่เราแคร์ทะเลาะกันหรอก

จขบ.ขอบอกได้เลยว่าไม่สนใจงานเพลงของ JYJ ไม่โหลดมาฟัง (แต่แอบดู mv บ้างไรบ้างด้วยความอยากรู้อยากเห็นเฉย ๆ) ถ้า JYJ ประสบความสำเร็จในอเมริกาก็จะดีใจด้วย แต่ความอยากเอาใจช่วย คอยเชียร์ตลอดเหมือนตอนที่ดงบังชินกิพยายามเจาะตลาดญี่ปุ่นนั้นไม่มีแล้ว

แน่ใจว่าตอนที่โฮมินเห็น JYJ ออกผลงานเพลง ต้องมีเจ็บบ้างล่ะ

แต่ก็ต้องยอมรับว่าแปลกใจมากที่เห็นโฮมิน comeback ด้วยเนื้อเพลงแบบนั้น ไม่อยากจะเชื่อว่า boy band ของ SME จะทำอะไรแบบนี้ได้ (ถ้าเป็น YGE จะไม่แปลกใจ)

คราวนี้ก็ถึงคราวที่ฝั่ง JYJ จะต้องเจ็บบ้างแล้ว

แน่นอน คราวนี้ก็เหมือนเดิม จขบ.ก็จะไม่ตามโฮมิน ไม่โหลดเพลงมาฟัง (แต่แอบดู mv บ้างไรบ้าง) ยุติธรรมดีมั้ย? ก๊าก

มองย้อนกลับไป ทุกอย่างมันเริ่มพังทลายตั้งแต่ที่เจชอนซูออกมาสู้คดีแค่ 3 คน ไม่ว่าจะยังไง ถึงจะโชคดีกลับมารวมกันได้ในเวลาอันรวดเร็ว อารมณ์คงไม่มีทางเหมือนเดิมแล้ว ยังไงก็กลายเป็นกรุ๊ปที่มีรอยร้าวแล้ว ไม่ใช่กรุ๊ปที่สู้ทุกอย่างไปด้วยกันเหมือน image ที่สร้างมาอย่างดีด้วยหยาดเหงื่อแรงงานหลายปี

ไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจชอนซูเสียใจไหมที่ไม่ทู่ซี้เกลี้ยกล่อมโฮมินให้ออกมาด้วย ไม่ยอมกัดไม่ปล่อย ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่เดือนกี่ปีก็น่าจะพยายามชักชวนเกลี้ยกล่อมต่อไป และเช่นเดียวกันกับโฮมินที่อาจจะเสียใจที่ตอนนั้นไม่พยายามรั้งสามคนนี้ไว้สุดชีวิต

สำหรับคนห้าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลายิ่งกว่าอยู่กับครอบครัว แน่นอนต้องมีการทะเลาะกัน แอบอิจฉากันบ้าง แอบหมั่นไส้กันบ้าง แอบเกลียดขี้หน้าบ้างเป็นครั้งคราว แต่การที่ทั้งห้าคนทำงานหนักด้วยกัน ฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน แถมยังสู้ที่ต่างบ้านต่างเมือง เหงาก็เหงาด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน จนกระทั่งประสบความสำเร็จด้วยกัน ความผูกพันมันต้องมากจนบรรยายไม่จบไม่สิ้นอยู่แล้ว

อะไรที่ทำให้ห้าคนนี้ยอมเสี่ยงสูญเสียมันไป แถมรู้ทั้งรู้ว่าทำให้แฟนเพลงเสียใจแค่ไหน ก็ยังทำ?! มีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องรีบออกอัลบั้มใหม่ในปีสองปีนี้? มีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องออกเป็นกรุ๊ป 3 vs. 2?

...
...
...

แต่น่าขำ

พอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ อะไร ๆ มันมากเข้า ๆ จขบ.ก็เริ่มเว้นระยะห่างตัวเองออกมา แล้วก็เริ่มเอ็นจอยสถานการณ์ เริ่มรู้สึกว่าสนุกดี เหมือนดูหนังที่เล่นในชีวิตจริง
ยิ่งมี tweet ตำหนิจุนซูจากเจวอน (dancer, choreographer ของ SME) แถมด้วยการ retweet เจวอนจากโบอา(เฮ้อ...) แล้วแฟน ๆ ก็ด่ากันไปด่ากันมา ฯลฯ เรื่องยิ่ง dramatic เข้มข้นขึ้นไปอีก

ถ้าเป็นไปได้ หลังจากที่ทุกอย่างจบแล้วสงบแล้ว อยากให้เกาหลีทำหนังเกี่ยวกับกรณีนี้ขึ้นมา จะเป็นในรูปแบบหนัง fiction ที่ based on/ inspired by true story ก็ได้ เป็น documentary ก็ได้ น่าจะสนุกดี นี่ยังไม่นับการโชว์สาวไส้ให้กากินที่อาจจะมีให้ดูในอนาคตจากหลาย ๆ ฝ่ายก็ได้อีกด้วย

ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็อยากให้ตอนจบของหนังมี twist ว่าในที่สุดแล้ว 5 คนนี้กลับมารวมกลุ่มในนาม TVXQ แล้วรักกันเหมือนเดิม ประมาณว่าห้าคนนี้จริง ๆ แล้วไม่ได้ทะเลาะกันเลย แค่แสดงละครตามบทที่วางไว้ตั้งแต่แรกเฉย ๆ (เพื่อสู้กับ SME แบบแยบยล)

คงไม่มีทางเป็นไปได้เนอะ? :P

Create Date : 07 มกราคม 2554 Last Update : 7 มกราคม 2554 23:25:58 น. Counter : 2379 Pageviews.		1 comments
Share Tweet