| All Blog
|
รีวิว เครื่องสำอางเซเลอร์มูน ( Creer Beaute sailor moon cosmetics)
สวัสดีจ้าทุกคน สำหรับบลอคนี้ เราจะขอมารีวิว ปนเห่อ เครื่องสำอางเซเลอร์มูน ใครเป็นสาวกเซเลอร์มูนเช่นเรา ห้ามพลาดโดยประการทั้งปวง นี้ก็จะขอมารีวิวเท่าที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ยังมีไม่ครบนะ เค้ายังมีไอเท็มอื่นๆอีกที่เรายังไม่มีตรงนี้ เเต่เดี๋ยวขอเก็บตังค์เพิ่ม แล้วตามเก็บให้ครบก่อนน๊ะแจ๊ะ  ซึ่งเครื่องสำอางเหล่านี้ ก็จะเป็นเครื่องสำอางในแบรนด์ Creer Beaute ซึ่งเค้าได้รับลิกขสิทธิ์จากทาง Bandai ที่เป็นลิกขสิทธิ์เซเลอร์มูน มาอย่างถูกต้องในการทำเครื่องสำอางเหล่านี้ ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เหล่านี้มีขายในเมืองไทยบ้านเราแล้วน๊ะจ๊ะ ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่ออกใหม่ๆ อาจจะต้องไปหิ้วมาจากญี่ปุ่น ฮ่องกง ฝากเพื่อนซื้อบ้างไรบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วจ้า เค้ามีขายหลายที่ จากที่ไปสืบมาในบ้านเรา มีที่ watsons . beautrium , betrend , loft . stradust . matsumoto kitoshi , robinson , beauty market . zeenzone , lashes , sango store , eveandboy , beauty club , tops supermarket เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้ว ตัวแทนเเห่งดวงจันทร์ทั้งหลาย เรามาเริ่มลงทัณฑ์เครื่องสำอางเหล่านี้กันเลยดีกว่า ตัวแรกที่จะรีวิวคือว๊าวสุดๆนั่นก็คือ ตลับแป้งแปลงร่าง 3 รุ่น ซึ่งราคาก็ไม่ธรรมดา เเต่สาวกเซเลอร์มูนอย่างเรา ต้องไม่หวั่น กับราคาขายในเมืองไทยชิ้นละ 2,100 บาท ซึ่งสองรุ่นแรก เราซื้อมาจากฮ่องกง ราคาจะถูกกว่าบ้านเราแค่ประมาณไม่เกิน 300 บาท เอาจริงๆ ก็ไม่แพงกว่ามาก ซื้อที่บ้านเราก็ได้ ไม่ต้องถ่อไปถึงนู๊น  วิธีการเลือกซื้อเจ้าสามตัวนี้ เลือกดีดีน๊ะจ๊ะ เพราะดูจากกล่องภายนอกอาจจะงง งง ได้ หยิบผิดหยิบถูก นี่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว ตอนนั้นเพื่อนไปฮ่องกง เซฟรูปแล้วส่งรูปตัวอย่างให้เพื่อนไป ฝากเพื่อนซื้อรุ่นที่ 2 แต่แล้วก็ได้รุ่นที่ 1 มา เพราะคนขาย(คนฮ่องกง) บอกว่าอันนี้คือรุ่นที่ 2 (คนขายยังงงเองเลย ดูสิ) ฉันเลยต้องบินไปฮ่องกงเอง แล้วไปซื้อรุ่นที่ 2 มา -*- วิธีสังเกตุคือ ให้ดูที่โบว์ ตรงกล่อง จะมีรูปเข็มกลัดเล็กๆ นั่นเเหล่ะ จะได้รู้ว่ากล่องไหน เป็นรุ่นไหน  พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว สวยงามมาก โอ๊ยย ละลาย  Creer Beaute Miracle Romance MakeUp Powder ตัวนี้เป็นตลับแป้งแปลงร่าง เหมือนกับในการ์ตูนเซเลอร์มูน ภาคกำเนิดเซเลอร์มูน  ลวดลายหน้าตลับ อาจจะดูเยอะเกินแบบในการ์ตูนไปหน่อยน๊ะจ๊ะตรงนี้  เปิดมาด้นในก็จะเจอพัฟฟรุ้งฟริ้งน่ารักดังรูป และตรงหน้าแป้ง จะมีพลาสติกใส ทำลวดลาย  เปิดมาข้างในจะพบกับประจกที่มีการสลักลาย สวยงามมากๆ โอ๊ยยย  ตัวเนื้อแป้ง จะเป็นสีชมพู ขาวๆ สีสันปนๆกันไป  แต่พอปาดออกมาแล้วจะเป็นเนื้อแป้ง เฉดสีจะออกขาวนะ ไม่มีวิ๊งๆแต่อย่างใด เนื้อแป้งไม่หนามาก เบาๆใสๆ แต่ถ้าใครผิวคล้ำ ทาแล้วอาจจะลอยๆได้   Creer Beaute Miracle Romance Shining Moon Powder ต่อมาตัวที่ 2 เป็นตลับแปลงร่างแบบในภาค SailorMoon R   รูปน่างน่าตา เหมือนเป๊ะเลย ทั้งด้านนอก และ ด้านใน รวมถึงตรงลายเเผ่นพลาสติกใสที่เเปะหน้าแป้งด้วย  ด้านในหน้ากระจก ก็จะมีลวดลายสวยงามด้วยเช่นกัน   ตัวแป้งของรุ่นนี้ สีจะเข้มกว่ารุ่นแรกนิดหน่อย ซึ่งก็ยังคงความเบาบางของเนื้อแป้งอยู่เช่นกัน  เป็นไงล่ะ สวยงามมากเลยพวกเธอ มันเป๊ะเหมือนในการ์ตูนมากๆเลยสำหรับเจ้าแป้งรุ่นนี้ ใจสั่นแบบไม่ไหวแล้ว จงไปซื้อน๊ะจ๊ะ  Creer Beaute Miracle Romance Cosmic Heart Cheek ตลับแป้งแปลงร่าง ภาค S   ตัวนี้สวยงามมากก รักสุดๆ มีความฟรุ้งฟริ้ง ความเพชร ความคริสตัล ที่ดูหรู ดูราคาเเพง และที่สำคัญ เหมือนกับในการ์ตูนเป๊ะเลย อยากจะเอามาติดกลางหน้าอกเสียจริง  ด้านในแน่นนอนว่า ออกแบบมาเหมือนกับในการ์ตูนอีกเช่นเคย  ตัวกระจกมีความสวยงามฟรุ้งฟริ้งสูงมาก โอ๊ยยยยย สวย  ในส่วนของสีเเป้ง เมื่อทาแล้ว จะเป็นสีชมพูหวานๆ ใครแนวหวาน อยากได้บลัชสีหวานๆ จัดไป แต่ว่าเค้าจะมีวิ๊งๆในตัวเนื้อบลัชด้วยนะ แต่วิ๊งไม่ได้มาเยอะเวอร์เป็นอายแชโดว์ทาตานะเธอ  รุ่นนี้ก็ควรจัดไปจ้า ระหว่างวัน สีแก้มหลุด หยิบตลับแป้งรุ่นนี้มาเติมแก้ม เป็นสีชมพูสวยๆ แถมตลับแป้งชนะเลิศไปเลย ยกขึ้นมา คนต้องเหลียวแน่ๆ ฉันฟันธง  จบกับตลับแปลงร่างไปแล้ว ต่อมา เรามาพบกับบรรดา กองทัพไม้กายาสิทธิ์ทั้งหลายกันบ้างดีกว่า   เริ่มกับตัวแรก Creer Beaute Miracle Romance MakeUp Moisture Rouge ราคา 1,550 บาท สำหรับตัวนี้จะเป็นลิปสติก ที่มีเเพคเกจรูปร่างเป็น ตลับเปลี่ยนร่างเป็นอะไรก็ได้ ของเซเลอร์มูน ที่ปรากฏในเซเลอร์มูนภาคกำเนิด เพียงไม่กี่ตอนเท่านั้น   ตัวนี้เค้าก็ทำออกมาเหมือนกับในการ์ตูนอีกเช่นเคย งานละเอียดมาก และตัวคริสตัลสีแดงข้างบนยอด ก็สวยมากๆเช่นกัน  แท่งลิปสติก จะดูเป็นสีแดงๆนะ  แต่พอปาด และ ทาออกมาแล้ว จะเป็นสีแดงไม่ได้เข้ม จะเป็นแดงใสๆ  เมื่อทากับปาก ก็ไม่ได้แดงมาก จะออกชมพูๆด้วย สามารถทาใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย สำหรับคนที่อยากได้ลิปสติกสีหวานๆ เบาๆ เม็ดสีไม่แน่นเวอร์เกินไป   ตัวต่อมาคือ Creer Beaute Miracle Romance Moon Stick Pencil Eyeliner ราคา 549 บาท  สำหรับตัวนี้จะเป็นดินสอเขียนขอบตาสีดำ ที่มีปลอกเป็นคทาจันทร์เสี้ยวของเซเลอร์มูน  บนจันทร์เสี้ยวมีผลิกเงินมายาด้วยนะเธอ เก๋มาก สวยสุดๆ   เมื่อใช้แล้วก็จะเป็นสีดำเนื้อด้านแบบนี้เลย ขอบอกว่า ความแน่น ความคงทนของงเค้า ไม่แพ้ใครเลย ตัวนี้สีติดชัดแน่นอยู่  เอาล่ะ พอเราใช้ตัวนี้วาดตาเสร็จแล้ว ก็ใช้คทา ปล่อยพลังใส่เจ้าปีสาจร้ายต่อไปได้เลย อิอิ  Creer Beaute Miracle Romance Moonstick Liquid Eyeliner Brown ราคา 580 บาท  สำหรับเจ้าตัวนี้เป็นอายไลเนอร์แบบปากกา ซึ่งรูปร่างหน้าตาของปลอก จะเหมือนกับตัวก่อนหน้านี้ แต่มีขนาดใหญ่กว่านิดนึง   ในส่วนของสีนั้น ก็จะเป็นไลเนอร์สีน้ำตาล  ซึ่งหัวของเค้า เล็กมากซึ่งเค้าบอกไว้หน้ากล่องว่า ขนาดพู่กันเล็ก 0.1 mm. สามารถวาดหางเล็กๆ หรือลวดลายเล็กๆได้หายห่วงเลย เมื่อเขียนออกมาก็จะได้สีประมาณนี้เลยจ้า   Creer Beaute Miracle Cutie Moonrod Liquid Eyeliner Black ราคา 580 บาท  ตัวต่อมานี้ ก็จะเป็นคทาแปลงร่างของเซเลอร์มูนในภาค R ก็คือคทา Moonrod นั่นเอง  ซึ่งแกะแบบหัวคทาออกมาได้เหมือนเป๊ะๆเลย มีความเป็นคริสตัลตรหัวคทา และตรงกลางหัวใจตรงฐานคทาด้วยล่ะเธอ สวยงามไปอีก  สำหรับเจ้าตัวนี้ ก็จะเป็นอายไลเนอร์สีดำ ที่มีขนาดความบางขอเส้นไลเนอร์เล็กเพียง 0.1 MM.เท่านั้น สามารถวาดไลเนอร์หหางคมๆ เส้นเล็กๆ หรือวาดลวดลายต่างๆได้่ายมาก   Creer Beaute Miracle Romance Sprial Heart Moonrod Liquid Eyeliner #BK ราคา 580 บาท เรามีคทา Moonrod ภาค R แล้ว เราก็มีคทา Moonrod Sprial ภาค S กันต่อด้วยล่ะเธอ  แน่นอนว่า ออกแบบมาเหมือนกับคทาในการ์ตูนเป๊ะๆอีกเช่นกัน งานดี งานละเอียดมาก ตรงกลางหัวใจก็เป็นคริสตัลสีแดงๆตกแต่งมา ทำให้ดูหรูขึ้นไปอีก สวยงามมากๆ  และสำหรับตัวนี้ ก็จะเป็นอายไลเนอร์สีดำ เหมือนกับเจ้าตัวคทา MoonRod ภาค R เลยจ้า  ขนาดของหัวไลเนอร์ ก็เหมือนกันกับตัวก่อนหน้านี้ ต่างกันแค่หัวปอกคทาเท่านั้นเอง ใครอยากเเปลงร่างเป็นเซเลอร์มูนภาคไหน หรืออยากร่ายมนต์ไหนปล่อยพลังใส่ปีสาจ ก็เลือกหัวปลอกคทาตามใจชอบเลยจ้า  เรามีคทาเซเลอร์มูนตัวแม่ไปแล้ว ต่อมาเป็นคิวของตัวลูกกันบ้าง กับ Creer Beaute Miracle Romance Pink Moon Stick Liquid Eyeliner BK ราคา 580 บาท  รูปร่างหน้าตาเจ้าตัวนี้ ก็จะเป็นคทาปล่อยพลัง ของเซเลอร์มูนน้อย ซึ่งถอดแบบออกมาเหมือนในการ์ตูนเป๊ะๆ  ดูสิ น่ารักมากๆเลย โอ๊ยยย  สำหรับตัวนี้ จะเป็นอายไลเนอร์ สีดำน๊ะจ๊ะ  ขนาดความเล็กของพู่กัน เท่ากับตัวก่อนหน้านี้เลยคือ 0.1 mm. สามารถวาดลวดลายต่างๆได้สวยงาม ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน เซเลอร์มูนน้อย ก็สามารถค่ะ ว่าแล้วก็ร่ายมนต์ Moon Pink Sugar Heart Attackkkkkkk บริ๊งงงงงง  งานเมคอัพไปแล้ว งานบำรุงผิวก็มาเช่นกัน กับมาร์คหน้าเซเลอร์มูน ของทั้งสองรุ่น ราคา 490 บาทต่อกล่อง    ข้างในเมื่อเปิดใช้ ก็จะเป็น Sheet Mask แบบนี้ ตอนแรกคิดเอาเองว่าจะมีลายการ์ตูนเป็นหน้าเซเลอร์ต่างๆ เหมือนเป็นหน้ากาก แต่ไม่ใช่ เป็นชีทมาร์คสีขาวทั่วไป เมื่อมาร์คแล้วจะมีกลิ่นหอมๆ มุ้งมิ้งมาก ซึ่งตัวมาร์ค ใส่น้ำมาชุ่มชื้นมาก ชุ่มฉ่ำมหาสงกรานต์เฟสติวัลมากๆเลยจ๊ะเธอ ได้ความชุ่มชื่นผิวกันไปแบบเน้นๆเลยทีเดียว  เอาล่ะ ก็ขอจบการรีวิว + เห่อของเพียงเท่านี้ ขอตัวไปเเปลงร่างเป็นเซเลอร์มูนก่อนน๊า มนต์เเห่งจันทรา จงสำแดงฤทธรา ณ.บัดนี้ !!!!!!! รีวิว heme cc cream
CC Cream ตอนนี้บ้านเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กำลังบูมมากๆ ถึงแม้ว่าจะออกขายมาสักพักใหญ่แล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยใช้กันมาก่อน CC Cream คืออะไร เอาจริงๆคล้ายๆกับ BB Cream เลย แทบไม่ต่างกัน ต่างกันที่ว่าบางเบากว่าเท่านั้นเอง ใน CC Cream ประกอบไปด้วย รองพื้น - เบส - ครีมบำรุงผิว - ครีมกันแดด และสารปรับสีผิว ซึ่งในส่วนของรองพื้นที่ใส่มานั้น จะใส่มาบางเบากว่า bb cream และบลอคนี้เราก็จะพูดถึง cc cream แบรนด์ HEME (อ่านว่า "เฮเม่" น๊ะจ๊ะ ไม่ใช่ฮีมี หี๊มี๊ อะไรไม่ใช่นะเธอ)  HEME (เฮเม่) เป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากไต้หวัน ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2005 เป็นเครื่องสอางที่ผลิตโดยใช้ส่วนผสม และ ผลิตในโรงงานในไต้หวัน ที่สำคัญ เค้าบอกว่า เค้าไม่ใช้การทดสอบกันสัตว์ด้วย  สำหรับ CC-Cream ของ HEME นั้น ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ว่า เป็น cc cream ที่เน้นในเรื่องของความเบาบาง ทาแล้วบางเบาดุจแพรไหม ประหนึ่งเป็นผิวที่ 2 ของคุณเลยทีเดียว ซึ่งใครที่เคยใช้ cc ที่หนาๆ ทาแล้วปูนๆ ประหนึ่งว่า เลฟลอนฝาดำ เอสเต้ฝาทอง มาเลยทีเดียวก็ไม่ปาน เดี๋ยวเรามาดูกันว่า จะบางเบาดุจเเพรไหมกันรึปล่าว  หน้าหลอดของแพคเกจ เขียนบอกไว้ว่า 8 in 1 ไอ้เจ้า 8 นั้นมีอะไรบ้าง ดังนี้จ่ะตัวเธอ 1. whitening 2. Moisturizing 3. Repairing ตัวนี้เค้าบอกว่า ช่วยซ่อมแซมผิวที่หมองคล้ำไม่สดใส ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้น 4. Brightening 5. Foundation Base 6. UV Protection สารกันแดด SPF 50+**** 7. Smoothing คือ ช่วยปรับผิวให้มีความนุ่มนวล เนียนสม่ำเสมอมากขึ้น 8. Pore Invisible อำพรางรูขุมขนให้กระชับขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าตัวผลิตภัณฑ์ cc cream มีส่วนผสมของครีมบำรุงผิว และสารบำรุงที่เค้าใช้นีครีมนี้ ประกอบด้วย สารอาร์บูติน , สารสกัดจากดอกกล้วยไม้ไต้หวัน , สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ , สารสกัดจากต้นสมุย และ ต้นโพธิ์   ความพิเศษของแพคเกจคือ เมื่อเปิดมาจะเป็นฟองน้ำ ซึ่งใช้ในการเกลี่ย cc cream บนผิวหน้า โดยที่ไม่ต้องใช้มือ มือจะได้ไม่เปื้อน ใช้ฟองน้ำ tab-tab cc cream ไปเลย ถ้ามันเปื้อน สกปรก สามารถแกะออกมาซักได้ง่ายๆ แค่หมุนเกลียวออกมาจ้า  ตัวเนื้อครีมของเค้า ตัวนี้จะเป็นสี nude ซึ่งดูแล้วมีความขาวประมาณนึงเลย และเนื้อเวลาเกลี่ยจะมีความหนืดๆหน่อย แต่ไม่ถึงกับเกลี่ยยากมาก เนื้อ cc cream มีกลิ่นนะ แต่กลิ่นแบบ เบาๆ ใสๆ กลิ่นน่ารัก มุ้งมิ้งมาก ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ชอบมากเลยกลิ่นของเค้า  เรามาดูกันเมื่อทาแล้ว กับ หลังทา คือเจ้า cc ของเค้าเนี่ย จะมีความขาว แต่พอทาไปสักพัก เมื่อเซตตัวแล้ว จะดรอปลงมาเนียนกับผิว แต่ก็ยังมีความผ่องกว่าผิวนิดหน่อย คือจะช่วยปรับให้ผิวดูผ่องขึ้น ไม่ได้หน้าลอยน๊ะเธอ หน้าลอย กับ หน้าผ่อง ฟิลลิ่งมันต่างกัน ความบางเบา เอาจริงๆว่าบางเบาจริงๆ จะไม่ค่อยปกปิดอะไรสักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นข้อดีของ cc cream ตัวนี้ที่ไม่หนา ทาแล้วหน้าไม่เมือก ไม่ปูน และมันดีอีกอย่างที่ ใครที่อยากจะลง cc cream ปรับผิวไปก่อน แล้วลงรองพื้นทับ จะตอบโจทย์ เพราะว่าถ้าเจอ cc cream หนาแล้ว ลงรองพื้นเข้าไปอีก โอ้ยยยยตาย หนาไปกันใหญ่ หรือคนที่อยากจะลงแค่ cc cream แล้วตามด้วยแป้งเลย ไม่อยากจะโบกหน้ามาก ก็ได้อยู่ คือคุณก็จะได้ฟีลลิ่งผิวเบาๆ แต่ดูสดใสขึ้น ดูเฟรชมากขึ้น  งานซูมที่รักยิ่งของอีช้านก็มา ซูมให้เห็นกันไปเลยว่า หนาหรือไม่หนา คุณจะยังเห็นความแดงอยู่บ้างบนผิว และ จะไม่ค่อยเห็นตัว cc cream ที่ดูหนาๆ มาเป็นปื้นๆ คราบๆสักเท่าไหร่ ซึ่งในเรื่องความเบาบางที่เค้าเคลมไว้ เราให้ผ่านมากๆเลย นอกจากนี้ข้อดีอีกข้อนึงที่ทางแบรนด์ไม่กล่าว แต่เราขอเสริมนั่นก็คือ การคุมความมัน อ่ะ อันนี้ถือว่า surprise เรามากๆเลยคือ ทาแล้วรุ้สึกว่า หน้ามันช้าลง และหลังทาเนี่ย จะได้ฟีล ผิวแมทๆ ไม่เงา ไม่ฉ่ำ ไม่มัน ตรงนี้ตอบโจทย์คนผิวมันอย่างเรา และอากาศร้อนๆบ้านเรามากๆ ใครหน้ามัน อยากใช้ cc cream ที่ไม่ทำให้หน้ามัน ตัวนี้ จัดไปโลด สุดท้าย ใครใคร่ซื้อมาลองใช้ สามารถหาซื้อได้ที่ www.facebook.com/hemethailand Line id : @hemethailand ig : @hemethailand ราคา 790 บาทจ้า พรีวิว-สวอชสี Catrice แน่นๆ
สวัสดีจ้าทุกท่าน สำหรับบลอคนี้จะขอสวอชสี - พรีวิว แน่นๆ กับเครื่องสำอางค์ Cartice เนื่องด้วยทางแบรนด์ได้ทำการขยายตู้ขายสินค้าแบรนด์ Catrice เป็น ตู้ BS 200 ตู้ใหม่ครบทุกฟังก์ชั่นความงาม ดังภาพเลยจ้า  คือปกติ ถ้าใครไปซื้อเครื่องสำอางค์แบรนด์นี้ จะเห็ฯตู้มีขนาดแค่ตรงประมาณสีดำตรงกลาง แต่ตอนนี้เค้าขยายเพิ่มปีกด้านข้างให้ใหญ๋ขึ้น สินค้าเยอะมากขึ้น อลังการงานสร้าง (ของเต็มบุยย) (ตู้ BS 200 มีขายเฉพาะที่ ซูรูฮะ สาขาอาคาร ญาดา , ซูรูฮะ สาขาสยามสแควร์ ซอย7 , ร้านอีฟแอนด์บอย สาขา สยามสแควร์ เท่านั้นนะเธอ) ทางแบรนด์เลยส่งของมาให้เราได้ลองได้ใช้ได้เล่น แต่ทว่าไป อุ๊บอิ๊บใช้คนเดียว ไม่เผื่อแผ่กันก็กะไรอยู่ เลยเอามาสวอช ทุกสิ่งอย่างให้ท่านได้ชื่นได้ชมกัน เผื่อใครจะตัดสินใจไปซื้อมาใช้ตามๆกันเนาะ ของทั้งหมด ก็ดังนี้เลยจ้าา  เป็นไงตัวเธอ เยอะใช่มะ ................. เราจะมาสวอชกันทุกสิ่งอย่าง พร้อมเเล้ว ลุย!! ตัวแรกเป็น รองพื้น รุ่น Velvet Finish (ราคา480 บาท) รองพื้นตัวนี้เราได้แอบใช้ไปแล้ว ขอรีวิวสั้นๆเนาะ คือ การปกปิดจะปานกลาง มีรอยมีสิวอะไร จะช่วยปกปิดได้ค่อนข้างโอ แต่ไม่เปีะ 100 เปอร์เซนต์นะ เพราะเค้าไม่ได้หนามาก ต้องใช้คอนซิลเลอร์ช่วย ตอนทาไปอาจจะหนืดๆหน่อย แต่พอรองพื้นเซตตัวแล้วจะเป็นเนื้อแมท เหมาะกับอากาศบ้านเรา และคนหน้ามันอย่างเรามาก    ส่วนตัวเราใช้เบอร์ #30 จ้า คอนซิลเลอร์ catrice velvet finish concealer with hyaluron (ราคา 265 บาท) เค้าบอกว่า เป็นคอนซิลเลอร์ที่ผสม ไฮยาลูลอน , วิตามินดี , วิตามินบี5 และสารกันแดด (spf6) ขนาด 5มิล   เรารู้สึกว่า สียังแอบขาวจั๊วๆอยู่ น่าจะมีสีเข้มหน่อยเนอะ Catrice illuminating highting pen (245 บาท) เจ้าตัวนี้จะเป็นไฮไลท์เนื้อครีม มีสองสีคือ สีขาวมุกๆ สำหรับไฮไลท์ให้หน้าวิ๊งๆขาวๆ กับสีบลอนๆ จะสำหรับคนที่อยากแต่งลุคผิวโกลวๆ สีสวยมากก   Catrice liguid metal gel eye pencil (205บาท) ตัวนี้จะเป็น gel pen liner เป็นสีๆ ซึ่งทุกตัวจะมีวิ๊งๆ วาวๆ และขอบอกว่า สีติดทนมากเวอร์ ทนอลังการมาก เนื้อดินสอนิ่มมาก นิ่มจนต้องเบามือตอนเขียน เพราะเดี๋ยวมันจะหัก ใช้วิธีการหมุนตรงปลายดินสอ ถ้าไส้เริ่มทู่แล้ว   Catrice illuminating brush (245 บาท) ตัวนี้เป็นบลัช มีวิ๊งๆเล็กน้อยพอสวยงาม (ลายสวยมาก ไม่กล้าใช้เลยแก กลัวลายหาย 555)   Catrice absolute matt eyeshadow palette (280บาท) เป็นอายแชโดว์ที่ Must Have !! ถ้าคุณเป็นคนที่แต่งหน้า แล้วเห็นสีแชโดว์ตรงนี้ คือเป็นสี basic ที่เราได้ใช้แน่ๆ ทุกสีเป็นเนื้อด้าน ซึ่งอายเเชโดว์พาเลททั่วไปบางตัวเนี่ย มีสีเนื้อด้านน้อยมาก มีแต่สีชิมเมอร์ วิ๊งๆ เจ้าเซตนี้ก็จะเหมาะมากกับการมีไว้เพื่อใช้เป็นสีคัดเบ้า สีเขียนขอบตา หรือทำไฮไลท์ หรือจะแต่งสโมคกี้ก็ได้ หรืออาจจะมาเขียนคิ้ว หรือ งัดดั้งก้ได้ multifunction มากๆเธอ ต้องมีๆ   Catrice ultimate stay lipstick (280บาท)  Catrice gel eyeliner waterproof (205 บาท) ตัวนี้จะเป็นเจลไลเนอร์ สุตรกันน้ำ ที่ต้องใช้พู่กัน หรือ แปรง ในการเขียนไลเนอร์ ก็จะเป็นสีดำเนื้อด้านจ๊าา  หมดแล้วจ้า ของอลังการงานสร้างมาก อย่างไรก็ขอขอบคุณทาง Catrice ที่ส่งของมาให้ป๋อมได้ลองใช้ลองเล่น ขอบคุณมากๆค๊าบบบ รีวิว สวอชสี sleek i-divine au naturel palette
   SWATCH    รีวิว swatch elf warm , elf golden Blonzer
 สำหรับบลอคนี้ เราจะขอรีวิวบลอนเซอร์ของ ELF ทั้งสองรุ่น นั่นก็คือรุ่น golden blonzer และ warm blonzer คือ เกิดความฉงง และ สงสัย ว่ามันต่างกันยังไง เลยจัดมาสองอันเลยจ้าาา ก็เห็นตามภาพด้านบนแล้วเนอะ เเพคเกจก็สีดำหรูๆ คล้าย NARS เลยยูว์ ข้างใน  ข้างในถ้าดูกันแล้ว ก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ อันซ้าย ตัว golden จะดูสีอ่อนกว่าตัวขวา รุ่น warm   อ่ะ เรามา swatch สีกันโหน่ย  คือดูในภาพก่อน swatch ก็เห็นความต่างเล็กน้อย บางสีไม่ค่อยต่างกัน แต่พอมาสวอช ก็แอบต่างกันอยู่ ชัดเจนเลยว่าสีของรุ่น golden จะอ่อนกว่ารุ่น warm  และอีช้านได้ลองทำการปัดวนๆทุกสีรวมกัน คือ พยายามถ่ายรูปแล้ว แต่ถ่ายออกมาไม่เห็นสีว่ะคุณ haha พยายามถ่ายรูปแล้ว คือ เล่าให้ฟังแล้วกัน คือรุ่น golden พอปัดรวมกัน สีจะออกประมาณสีขาวทองๆ สีจะอ่อนๆ ส่วนรุ่น warm พอปัดรวมกัน จะได้สีประมาณสีทองเหลืองๆส้มๆ ซึ่งทั้งสองพาเลท พอปัดรวมกันทุกสี คือสีจะไม่แน่นเหมือนกับเวลาเราปาดสีเดียว ที่ถ่ายให้ดูในรูปนะ สีจะบางๆ ไว้สร้างความโกลวให้กับผิวมากกว่า สรุปว่า ใครอยากได้โทนสีอุ่นเบาๆ ไม่วิ๊งเวอร์วังมาก เลือกพาเลท golden ใครอยากงานโกลวแน่นๆ เลือกพาเลท warm จ้า โอเคย์เน้อออ ^.^ // ทีนี้เราก็หายข้องใจละ คืองง และ สงสัยไงว่ามันต่างกันยังไง เลยไปตำมานิดนึง ซึ่งเราไปซื้อมาจากเว็บ //www.luxola.co.th/  เค้าเซลล์ด้วยเเหล่ะ เหลืออันละ 265 บาท ก็เลยโดนมาสองอันเลยคุณ กิกิ |
lepommz
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 287 คน [?]     
Counter Start on 30 NOV. 2012
Friends Blog
Link |
