ชีวิตในฟินแลนด์ อยู่ให้เป็น ไปต่อให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในฟินแลนด์ ...
Group Blog
 
All Blogs
 
เงินค่าห้องและเงินช่วยเหลือผู้ที่อายุเกิน 18 ปี (ประเทศฟินแลนด์)

เคสนี้เป็นลูกชายป้าลี ที่ติดตามป้าลีมาอยู่ฟินแลนด์ เมื่อเดือน มี.ค. 2015 ที่ผ่านมานี้... เนื่องด้วยตามกฏหมาย เด็กสามารถติดตามมารดามาอยู่ฟินแลนด์ได้ ถ้าอายุไม่เกิน  18 ปี ถ้าเกินจะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ ไม่สามารถขอเรสซิเดนซ์เปอมิทได้ ที่ใครๆ ก็บอกว่า ถ้าจะเอาลุกมาอยู่ฟินแลนด์ อย่าให้เกินอายุ  18 ปี เหตุผล ตามนี้ค่ะ

เคสนี้ลูกชายป้าลีไม่ยอมมาตั้งกะแรก ทำยังไงเค้าก็ไม่ยอมมา ครั้งแรกที่เดินเรื่องมาและซื้อตั๋วเครื่องบิน ถึงเวลามันก็โดดเครื่องบิน ไม่ยอมขึ้นเครื่องซะงั้น...

ทำใมเด็กอายุเกิน  18 ปีแล้วยุ่งยากในการจะอยู่ฟินแลนด์ได้ เพราะว่า ถ้าอายุเกินเค้าจะถือว่าเคสเป็นผู้ใหญ่ ถ้าจะอยู่ฟินแลนด์ได้ต้องมีเหตุผลประกอบ เช่น

แต่งงานมั๊ย
นักเรียนหรือเปล่า
ทำงานหรือไม่
ถ้าจะอยู่แบบเกษียณแล้วมีเงินพอยังชีพหรือไม่

ตามนั้นค่ะ ถ้าใช้เหตุผลใหนในการขอวีซ่า ก็ต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อ.... (ถ้าเป็นนักเรียนก็ขอวีซ่านักเรียน ก็ต้องแสดงเอกสารการเป็นนักเรียนของเรา ถ้าแต่งงาน ก็เอกสารตามที่หลายคนทราบเกี่ยวกับการแต่งงาน หรือทำงานก็ต้องมีสัญญาจ้างจากนายจ้าง แบบนี้อ่ะค่ะ)

ดังนั้นเด็กๆ ที่คุณแม่คิดว่าจะพามาอยู่ฟินแลนด์และได้สวัสดิการตามสิทธิ ก็ต้องอายุไม่เกิน  18 (ต้องขอก่อน เผื่อเวลาในการขอวีซ่าด้วยนะคะ เคสลูกชายป้าลี เฉียดฉิวมากเพราะว่า เค้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและมาต่อเป็นเรสซิเด้นซ์เปอมิท ณ ตอนที่ถึงฟินแลนด์แล้ว และต้องยื่นสมัครนานหลายเดือน กว่าจะได้วีซ่าก็เกือบเกิน  18 ปีล่ะนะ)

มาถึงแล้วทำไง ปัญหาวัยรุ่นคือ เคสบางเคสเค้าอยู่ร่วมบ้านกับเราไม่ได้ เพราะว่าเค้าเป็นวัยรุ่นและเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กเกือบ  18 ของฟินแลนด์ส่วนใหญ่ออกไปอยู่ข้างนอกกันไม่ยอมอยู่กับพ่อแม่ เพราะเค้าต้องการอิสระในการใช้ชีวิต กอปรกับ บ้านเล็ก ห้องนอนไม่พอ ต้องเดินมองหน้าฝรั่งที่บ้านทุกวัน น้องสาวลูกติดแม่อีกคนก็อยู่ด้วยที่นี่ ดังนั้นอัดกันเป็นปลากระป๋อง ปัญหามันก็เกิด บ้านใหนบ้านนั้นค่ะ ปัญหาเกิดทุกบ้านเพราะพื้นที่มันแคบ แต่คนมันเยอะ นี่นับแค่คนฝ่ายเรานะคะ ยังไม่นับคนฝ่ายทางฝรั่งค่ะ..


 พอเค้าได้ที่เรียนก็ต้องการออกไปอยู่ข้างนอก เพื่อลดปัญหาครอบครัวด้วย(แล้วทำยังไง เงินไม่มี งานก็ทำไม่ได้ เพราะยังต้องไปเรียนภาษา)

ป้าลีก็ส่งไปอยู่ ฮูวินกะ เพราะว่า ณ ตอนนั้นคิดว่าเป็นจังหวัดเล็ก น่าจะรอคิวในการเรียนภาษาของโครงการเตเอ ได้เรียนเร็วกว่าอยู่ในระแวกเฮลซิงกิและปริมณฑล

ก็ไปหาห้องเช่า (ออกค่าเช่าเองก่อน ค่าประกันเองก่อน แล้วไปเบิกกับเกล่า และ โซเซีย แล้วรอเงินจากเตเอด้วยเพราะเคส อายุ  18 สามารถขอเงินปรับตัวในการอยู่ฟินแลนด์และขอเงินว่างงานจากเตเอได้)

เมื่อได้เรสซิเด้นซ์เปอมิทแล้ว ไปขอบัตรเกล่าได้แล้ว ก็ไปหาห้องเช่า เมื่อได้ห้องเช่าแล้วก็ย้ายออกและแม่สำรองเงินก่อน เพราะค่าเช่า  650 ยูโรไม่รวมน้ำไฟ  ค่ามัดจำห้อง  1300 ยูโร (ไปเปิดบัญชีมัดจำห้องที่ธนาคารร่วมกับเจ้าของห้องค่ะ)

 แล้วเอาสัญญาเช่าไปขอเงินสวัสดิการเช่าห้องจากเกล่า (เกล่าจ่ายให้  325 ยูโร จ่ายตรงเข้าบัญชีเจ้าของห้องเช่าเลยค่ะ) 

ที่เหลือก็ไปขอที่โซเซีย สมัครครั้งแรกเค้าเรียกสัมภาษณ์พร้อมล่ามค่ะ เรียกมาคุยว่าทำใมเค้าต้องช่วยเหลือเรา และช่วยอะไรบ้าง(เช่น ป่วยแล้วมีค่ายา ค่าหมอ เค้าจ่ายให้เราค่ะ)

การขอโซเซียต้องเขียนแบบฟอร์มทุกเดือน ส่วนเกล่าสมัครครั้งเดียวไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มอีก เค้าจ่ายตรงเวลา เป๊ะๆ ค่ะ แต่ของโซเซียฯ ต้องระวังให้ดีเพราะถ้าเดือนใหนลืม เดือนนั้นจะไม่ได้เงินช่วยค่าเช่า

ทีนี้โซเซียจ่ายเท่าไหร่ และนานแค่ใหนถึงจะจ่าย คือ นานมากค่ะ สองเดือนครึ่งเห็นจะได้ นั่นหมายความว่าแม่ต้องสำรองเงินก่อน สำรองทั้งค่าห้องค่ากิน ค่าเน็ต ค่าทุกอย่างเลยทีเดียว... (ตาเหลือกเหมือนกันค่ะเพราะว่าเราไม่รู้ว่าเมือ่ไหร่เราจะได้เงินช่วย)

แต่พอเค้าช่วยเค้าจ่ายให้ค่ากินและค่าห้องนอกเหนือจากเกล่า เค้าให้มา เดือนละ 806 ยูโร และจ่ายให้ย้อนหลังค่ะทุกเดือนที่เราขอไป  ทำใมให้แปดร้อยกว่า เพราะว่าขอค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์กันหนาวด้วยค่ะ คือเสื้อผ้าที่จำเป็น และอุปกรณ์การดำรงชีพว่างั้น

และที่เค้าให้เดือนละ แปดร้อยอีกเหตุผลหนึ่งคือ ลุกชายป้าลีอยู่ในช่วงซัมเมอร์ไม่มีโรงเรียนเปิดให้เรียนค่ะในโครงการของเตเอ เริ่มเรียนก็เดือนกันยายนตามเทอมการศึกษาของประเทศนี้คือ เทอมฤดูใบไม้ร่วง
ได้เรียนถึงจะได้เงินเตเอค่ะ ไม่ได้เรียนไม่ได้เงิน(เคสนี้นะ)

และเมื่อไปเรียนตามโครงการของเตเอ เค้าก็ได้เงินเรียนเหมือนกับ พี่ๆ คนไทยที่แต่งงานกับคนฟินแลนด์แล้วเดินเรื่องเรียนอ่ะนะ และเงินโซเซียที่เคยให้เดือนละ  806 ก็จะลดน้อยลง เงินเกล่าค่าห้องก็จะลดน้อยลง เพราะว่าลูกชายป้าลีจะได้เงินเรียนจากเตเอ แทน เดือนละ  800 กว่ายูโร ก็คือได้เท่ากับคนที่แต่งงานแล้วไปเรียนน่ะค่ะ 

แต่รวมกันแล้ว ก็จะอยู่ประมาณ  1,100-1,200 ยุโร รวมทั้งหมดน่ะค่ะ (ค่าเรียน +ค่าห้อง+โซเซีย)

แต่....

สัญญาเตเอคนใหม่ๆ ในช่วงเดียวกันกับลูกชายป้าลีมาสมัครนั้น เค้าจะให้ปีเดียวค่ะ จะต่อสัญญาหรือไม่ในปีถัดไปนั้น เตเอบอกมาเลยว่าต้องเข้าอัมมัตติได้เท่านั้น... ตรงนี้เน้นนะคะ ว่าต้องเข้าอัมมัตติได้เท่านั้นในอีกหนึ่งปีข้างหน้า

และเค้าได้ที่เรียนภาษาฟินน์ ระดับ  0-B1 เริ่มเรียน  กันยายน 2015 -  พ.ย.2016

นั่นแปลว่า เค้าต้องจบ  b1 และเข้าอัมมัตติในเดือน ม.ค.  2017 ถ้าไม่ได้ก็จะโดนตัดเงินจากเตเอ ตรงนี้ค่อนข้างชัวร์ เพราะเตเอบอกไว้ล่วงหน้าเลย 

แปลอีกนัย.... ก็คือ ตอนนี้เตเอ เค้าไม่ได้ให้สัญญาการปรับตัวอยู่ฟินแลนด์ ยาวถึง  3 ปีเหมือนคนรุ่นก่อนๆ แล้วนะคะ... ตรงนี้ระมัดระวังให้ดี....อาจจะไม่ทุกเคส แต่ก็ขอให้เตรียมตัวและเตรียมใจค่ะ

มีคำถามอะไรหลังไมล์หรือหน้าจอก็ได้ค่ะ.... ป้าลีพิมพ์แบบรีบๆ เพราะจะไปซาวน่า

ขอบคุณค่ะ




Create Date : 13 ตุลาคม 2558
Last Update : 13 ตุลาคม 2558 23:35:29 น. 0 comments
Counter : 1354 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lee Jay
Location :
Nurmijärvi,Vantaa,Helsinki Finland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 143 คน [?]




ชื่อ ลี ค่ะ เป็นป้ารุ่น เกือบ เลขที่ 5 เข้าทีมวัยรุ่น
ไม่ได้อัดบล็อกเกือบ 3ปี

pub-3852458659373246
New Comments
Friends' blogs
[Add Lee Jay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.