ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะคร้าบ อย่าลืม Comment ให้ด้วยนะขรั่บ !!!
 
 

Kurosaki : คุโรซากิ ปล้นอัจฉริยะ (2008)

Trailer : //video.mthai.com/player.php?id=23M1213900901M0

เรื่องย่อ :

โลกนี้มี นักต้มตุ๋น อยู่ 3 ชนิด
1. ชิโรซากิ (กระสาขาว) นักต้มตุ๋นล่อลวงเหยื่อ เพื่อหวังเงิน ทอง ทรัพย์สมบัติ
2. อาคาซากิ (กระสาแดง) ล่อลวงเหยื่อด้วยเสน่หา ขโมยสิ้นทั้งทรัพย์สมบัติ ร่างกายและจิตใจ และก็มาถึง นักต้มตุ๋นเป็นสุดยอดของนักต้นตุ๋นทั้งมวล
3. คุโรซากิ (กระสาดำ) นักต้มตุ๋น ที่หมายตาเฉพาะนักต้มตุ๋นด้วยกันเท่านั้น คุโรซากิอยู่ด้วยการตามล่า ชิโรซากิ และ อาคาซากิ เป็นอาหาร ล่อลวงเอาเงินทองที่พวกนั้นขโมยมาจากเหยื่อคืนกลับมา คุโรซากิ นับเป็นนักต้มตุ๋นที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะมีเพียงศิลปะและชั้นเชิงที่เหนือกว่าเท่านั้น ที่เป็นทางอยู่รอดเดียวของเขา

คุโรซากิ ทาเคชิ(ยามาชิตะ โทโมชิสะ) ลูกชายของเหยื่อนักต้มตุ๋น เมื่อพ่อของเขาถูกชิโรซากิ นักต้มตุ๋นหลอกลวงจนสิ้นเนื้อประดาตัว และลงมือฆ่าทุกคนในครอบครัว และฆ่าตัวตายตาม เหลือเพียง คุโรซากิ คนเดียวที่รอดชีวิตมา คุโรซากิ ทาเคชิ จึงปฏิญาณตนไว้ว่า จะล้างแค้นเหล่านักต้มตุ๋นทั้งหลายในโลกนี้ เขาตัดสินใจจะเลือกทางชีวิตเดินไปในเส้นทางของ “กระสาดำ”

คุโรซากิ ซื้อข้อมูลของเหล่านักต้มตุ๋นจาก “คัตซึรากิ” (ยามาซากิ ซึโตมุ) ทั้งๆที่รู้ว่า คัตซึรากิ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการล่อลวงพ่อของเขาจนต้องฆ่าตัวตาย พรากทุกคนในครอบครัวไปจากชีวิตคุโรซากิจนหมดสิ้น

คุโรซากิ ยอมรับชีวิตที่มีพันธะแปลกประหลาดนี้โดยดี แต่คุโรซากิกลับพลิกแพลงใช้โชคชะตาเป็นแบบแผนเข้าล่อลวงเหยื่อของเขา

เป้าหมายรายล่าสุดของคุโรซากิ คือ อิชิกาคิ (ทาเคนากะ นาโอโตะ) นักต้มตุ๋นที่มีแบบฉบับการต้มตุ๋นที่เหนือชั้น ด้วยการทำตราประทับราคาแพงลิบลิ่วมอบให้แก่ประธานบริษัท และเมื่อตราประทับถูกใช้ประกอบกับลายเซ็นต์ ก็สามารถใช้เป็นการทำธุรกรรมได้อย่างเป็นทางการได้

อิชิกาคิ นำตราประทับอันใหม่ที่เขาทำเลียนแบบไว้ ไปใช้ทำสัญญาปลอมมากมาย เหยื่อรายล่าสุดที่อิชิกาคิล่อลวง เป็นประธานบริษัท ผู้ซึ่งมีลูกสาวกำลังป่วยด้วยโรคหัวใจและรอรับการผ่าตัดอยู่

ก่อนที่ คุโรซากิ จะทันได้ลงมือ จู่โจมอิชิกาคิ หญิงสาวลึกลับ ชื่อ ซากุระ(ไดอิชิ มาโอะ) ก็ปรากฏตัวขึ้น พ่อของเธอก็เป็นเหยื่อคนหนึ่งที่เคยถูก คัตซึรากิ ทำลายชีวิตจนย่อยยับไป แต่ตรงกันข้ามกับคุโรซากิ ซากุระกลับเลือกเส้นทางชีวิตของเธอ ด้วยการให้อภัย และลืมความแค้น ยิ่งกว่านั้นเธอยังมอบหัวใจรัก คัตซึรากิ อีกด้วย

ความรู้สึก คุโรซากิ เองก็ซับซ้อนไม่น้อยไปกว่าซากุระ คัตซึรากิเป็นคนที่คุโรซากิ เกลียดชังที่สุด แต่ก็เป็นคนที่ใกล้ชิดเขามากที่สุดด้วยเช่นกัน และไม่ว่า คุโรซากิ จะเก่งกาจ เฉลียวฉลาดเพียงใด คุโรซากิ ก็ยังยอมเป็นหมากตัวหนึ่งให้ คัตซึรากิ ใช้งานอยู่ดี

ข้อมูลครั้งล่าสุดนี้ บ่งชี้ว่า เป็นงานที่มีความเสี่ยงสุดขีด แถมคัตซึรากิยังเรียกเก็บค่าข้อมูล ด้วยเดิมพันที่สูงลิบลิ่วเกินกว่าที่คุโรซากิจะจ่ายให้ได้ คุโรซากิ จะตัดสินใจ รับงานนี้หรือไม่?
คุโรซากิจะสามารถล่อลวงเอาเงินที่ อิชิกาคิ ขโมยไปคืนมา ได้ไหม? คุโรซากิจะรักษาชีวิตลูกสาวประธานบริษัทไว้ได้ทันหรือไม่ ? ถึงเวลาที่ คุโรซากิจะหันหน้ามาต่อสู้กับ คัตซึรากิ ชายที่เขาแค้นที่สุดหรือยัง ? คุโรซากิจะทำอย่างไรกับโชคชะตาแปลกประหลาดที่ผูกมัดเขาไว้กับ คัตซึรากิ ?

------------------------------------------------

ไม่ได้มีอคติกับหนังญี่ปุ่นเลยนะ เพียงแต่มันออกจะน่าเบื่อจริง ๆ โดยเฉพาะหนังญี่ปุ่นส่วนมาก เรื่องนี้ก็เช่นกัน

หนังค่อนข้างจะดำเนินเรื่องอย่างสับสน และพยายามจะเน้นพระเอกมากเกินควร น่าจะทำเนื้อเรื่องให้ดูเข้มข้นแบบเบาๆ กว่านี้ เพราะเรื่องนี้ดูแล้วพาลจะทำให้ง่วงนอน นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ญี่ปุ่นจับเอาการ์ตูนมาทำและเกือบทุกเรื่องจะทำออกมาได้แย่เอามาก ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องแย่นั้น ถ้าพยายามเน้นไปที่เนื้อเรื่อง ชิงไหวชิงพริบกันให้มากดำเนินเรื่องให้สนุกได้ เรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่ดีเลยทีเดียว

เป็นอีกเรื่องที่ติดลบในความรู้สึก แต่แฟนหนังญี่ปุ่นอาจจะเถียงก็นานาจิตตัง แต่สำหรับผมแล้วเป็นอีกเรื่องที่ไม่แนะนำ แต่ถ้าใครจะลองก็ลองดูจ้ะ อาจจะชอบก็ได้





 

Create Date : 13 ตุลาคม 2555   
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 14:53:07 น.   
Counter : 3456 Pageviews.  


Cowboys & Aliens : สงครามพันธุ์เดือด คาวบอยปะทะเอเลี่ยน (2011)

Worldwide Gross: $171,240,551
Total Budget: $230,000,000


Trailer :



เรื่องย่อ :

ในปี 1873 ดินแดนอริโซนา ชายแปลกหน้า (เคร็ก) ที่ไม่มีความทรงจำในอดีตหลงเหลืออยู่เลย ได้บังเอิญผ่านเข้ามาในแอ็บโซลูชัน เมืองใจกลางทะเลทราย สิ่งเดียวที่บอกใบ้ถึงอดีตของเขาคือกุญแจมือลึกลับที่ห้อยอยู่ที่ข้อมือข้างหนึ่งของเขา สิ่งที่เขาค้นพบก็คือชาวเมืองแอ็บโซลูชันไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า และก็ไม่มีใครเดินตามท้องถนนเว้นเสียแต่ได้รับคำสั่งจากร้อยโทกฎเหล็ก โดลาร์ไฮด์ (ฟอร์ด) นี่เป็นเมืองที่ชาวเมืองใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความกลัวโดยแท้

แต่แอ็บโซลูชันก็กำลังจะได้สัมผัสกับความกลัวที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั้น เมื่อเมืองที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ถูกผู้มาเยือนจากฟากฟ้าโจมตี สัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและมาพร้อมกับแสงจ้าแสบตาเพื่อลักพาตัวชาวเมืองผู้ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ไปทีละคน ได้ท้าทายทุกสิ่งที่ชาวเมืองเคยรู้จัก

บัดนี้ ชายแปลกหน้าที่พวกเขาเคยปฏิเสธกลับกลายเป็นความหวังในการรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา ขณะที่มือปืนหนุ่มคนนี้เริ่มจดจำได้ว่าเขาเป็นใครและเขามาจากที่ไหน เขาก็ค้นพบว่าตัวเองซ่อนความลับที่อาจทำให้เมืองแห่งนี้มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับเหล่าเอเลียนได้ ด้วยความช่วยเหลือจากนักเดินทางผู้เร้นกาย เอลลา (โอลิเวีย ไวลด์) เขาก็ได้รวบรวมผู้ช่วยที่เคยเป็นคู่ปรับในครั้งเก่าของเขามาก่อน ซึ่งประกอบไปด้วยชาวเมือง โดลาร์ไฮด์และลูกสมุน พวกนอกกฎหมาย และนักรบอาปาเช เพื่อรับมือกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่คุกคามพวกเขาอยู่ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อต้านศัตรูเดียวกัน นั่นหมายถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าครั้งสำคัญเพื่อความอยู่รอดของพวกเขา

------------------------------------------------------

ปกติหนังเอเลี่ยนบุกโลกมักจะสร้างในเหตุการณ์ยุคปัจจุบันหรืออนาคต แต่เรื่องนี้บุกมากันตั้งแต่ยุคคาวบอย หรือย้อนกลับไปเกือบ 200 ปีที่แล้วเหมือนกับจริง ๆ แล้วไอเอเลี่ยนพวกนี้มาบุกกันตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว

เนื้อเรื่องถ้าไม่นับว่าใช้เหตุการณ์ย้อนยุคมาเป็นธีมในการดำเนินเรื่องแล้วก็ถือว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าหนังเอเลี่ยนบุกโลกเรื่องอื่น ๆ เลย
พระเอกในเรื่องเป็นโจร ถูกเอเลี่ยนจับตัวไปเหมือนกันแล้วหนีออกมาพร้อมขโมยอาวุธมันออกมาด้วย เลยทำให้มีอาวุธจากแขนของพระเอกที่สามารถต่อกรกับเอเลี่ยนได้ ส่วนนางเอกก็เป็นมนุษย์ต่างดาว มาเพื่อจะแก้แค้นและช่วยโลกให้ไม่ต้องตกเป็นเหมือนดาวของเธอ

หนังค่อนข้างเรื่อยเปื่อย ดูได้เรื่อย ๆ จริง ๆ แล้วคนสมัยนั้นไม่น่าจะสู้กับเอเลี่ยนที่มีอาวุธร้ายแรงได้อยู่แล้ว ถึงพระเอกจะมีอาวุธของพวกนั้นก็เถอะ แต่ก็แค่คนเดียวแต่ที่ชนะมาได้ก็เพราะชาวเมืองและทุก ๆ คนพร้อมใจร่วมมือกันต่อสู้ และบวกกับศัตรูค่อนข้างจะประมาทคิดคงคิดแค่ว่ามดปลวกจะทำอะไรได้ จึงต้องพ่ายแพ้ไป โชคดีที่พวกมันตายกันหมด ไม่อย่างนั้นมันคงไปเรียกพวกมาฆ่ามนุษย์จนหมดแน่นอน แต่จากที่ดูแล้วยังไม่เข้าใจคือทำไมมันต้องการทอง หรือดาวของพวกมันทองก็เป็นของมีค่า

เรื่องนี้ไม่ได้ถึงกับสนุกแต่ก็ไม่ได้ห่วย โดยรวมก็ถือว่าผ่านนะ แต่ความน่าตื่นเต้นของหนังกลับไม่มี แม้แต่ตอนท้ายเรื่องก็ไม่มีฉากใหนเลยที่จะทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นและช่วยลุ้นไปกับทุกคนในเรื่อง ถือว่าเป็นจุดติข้อใหญ่เลยนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จ คงต้องโทษคนเขียนบทไปเต็ม ๆ

แผ่นออกมาได้สักพักแล้ว ถ้าใครสนใจอยากลองก็ดูได้นะ อาจจะชอบก็ได้ เพราะอย่างที่บอกหนังก็จัดว่าไม่เลวร้าย ไม่จัดว่าดี ถือว่ากลาง ๆ เฉย ๆ ละกัน





 

Create Date : 12 ตุลาคม 2555   
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 15:04:29 น.   
Counter : 3240 Pageviews.  


John Carter : จอห์น คาร์เตอร์ นักรบสงครามข้ามจักรวาล (2012)

Worldwide Gross: $283,078,100
Total Budget: $300,000,000


Trailer :



เรื่องย่อ :

ผลงานสุดยิ่งใหญ่จากผู้กำกับรางวัลออสการ์ แอนดรู แสตนตัน "จอห์น คาร์เตอร์" ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยสุดตื่นเต้นที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์อันลึกลับและน่าพิศวงที่มีชื่อว่า "บาร์ซูม" (ดาวอังคาร) "จอห์น คาร์เตอร์" สร้างจากนวนิยายสุดคลาสสิคของ เอ็ดการ์ ไรซ์ เบอร์โรวส์ ที่เรื่องราวการผจญภัยเหนือจินตนาการของเขาเป็นรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างภาพยนตร์มากมาย ทั้งในอดีตและปัจุบัน

เรื่องราวของอดีตนายทหารผู้เบื่อหน่ายสงคราม ร้อยเอก จอห์น คาร์เตอร์ (เทย์เลอร์ คิทส์ช) ที่วันหนึ่ง ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองได้มาอยู่บนดาวอังคารอย่างอธิบายไม่ได้ และเขาได้ตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังประทุขึ้นระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่บนดาวดวงนี้ รวมทั้ง ทาร์ส ทาร์คาซ (วิลเล็ม ดาโฟ) และ เจ้าหญิง เดจาห์ ธอริส ผู้ทรงสเน่ห์ (ลินน์ คอลินส์) ในโลกที่ใกล้จะถึงกาลแห่งความล่มสลาย คาร์เตอร์ ได้รู้สึกถึงการมีอยู่ของมนุษยธรรมอีกครั้ง เมื่อเขาพบว่าชะตากรรมของดาวบาร์ซูมและผู้คนบนดาวนั้นขึ้นอยู่กับเขาเพียงคนเดียว


เกร็ดน่ารู้

• เอ็ดการ์ ไรซ์ เบอร์โรวส์ เกิดที่ชิคาโกและเป็นที่รู้จักในนามของผู้เขียนและผู้สร้างตัวละครอย่าง ทาร์ซาน ตัวละครที่ประสบความสำเร็จตลอดกาล "จอห์ คาร์เตอร์" ถูกสร้างจากนวนิยายเรื่องแรกของเขาที่มีชื่อว่า "A Princess of Mars" หรือในชื่อภาษาไทยที่แฟนๆนิยายรู้จักดีว่า "เจ้าสาวดาวอังคาร"

• แอนดรู แสตนตัน ผู้กำกับรางวัลออสการ์ กำกับและร่วมเขียนบทแอนิเมชั่นเรื่อง "วอลล์-อี" ที่ได้รับทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ สาขา ภ.แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปี 2008 และถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ เขาเปิดตัวงานกำกับครั้งแรกด้วยแอนิเมชั่นเรื่องดังอย่าง "ไฟน์ดิ้ง นีโม" ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมและได้รับรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปี 2003 เขาคือ 1 ใน 4 ผู้เขียนบทที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในปี 1996 จาก "ทอย สตอรี่" และยังคงมีชื่อในฐานะผู้เขียนบทในแอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆของพิกซาร์อย่างเช่น "อะ บั๊คส์ ไลฟ์," "ทอย สตอรี่ 2," "มอนสเตอร์ อิงค์," "ไฟน์ดิ้ง นีโม" และ "วอลล์-อี"

• ทีมเบื้องหลังระดับรางวัลออสการ์รวมถึงผู้ออกแบบงานสร้าง นาธาน โครวลีย์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงจาก "ดาร์ค คไนท์" และ "เดอะ เพรสทีจ" และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เมเยส รูบีโอ ที่มีผลงานออกแบบในเรื่อง "อวตาร" และ "อโพคาลิปโต" ด้วย

• ไมเคิล ชาร์บอน ผู้ร่วมเขียนบท ได้รับรางวัลพูลิทเซอร์จากงานเขียนของเขาเรื่อง "The Amazing Adventures of Kavalier and Clay"

• ไมเคิล จิอัคชิโน ผู้ประพันธ์เพลง ได้รับรางวัลมากมายจากผลงานเรื่องก่อนหน้านี้ของเขากับดิสนีย์ พิกซาร์อย่าง "อัพ" (ออสการ์, บาฟตา, ลูกโลกทองคำ, และแกรมมี่) "ราทาทูอี้" (แกรมมี่ อวอร์ด, แอนนี่ อวอร์ด, เข้าชิงออสการ์) "ดิ อินเครดิเบิ้ลส์" (แอนนี่ อวอร์ด, เข้าชิงแกรมมี่ อวอร์ด)

-----------------------------------------------------

หนังที่สร้างมาจากนวนิยายอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นแนวไซไฟ พระเอกอยู่ ๆ ก็ได้ไปโผล่อยู่ดาวอังคาร กลายเป็นมนุษย์จอมพลัง สุดท้ายก็ได้แต่งงานกับเจ้าหญิง แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องกลับมาที่โลก แต่พระเอกก็รอคอยเวลาที่จะได้กลับไปดาวอังคารอีกครั้ง

ดำเนินเรื่องได้ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าที่ควร ในช่วงสัก 10 นาทีแรกค่อนข้างเรื่อยเปื่อย หลังจากนั้นก็จะดีขึ้นตามลำดับ ก็เป็นไปตามหนังแนวไซไฟ แฟนตาซีทั่ว ๆ ไป ทำออกมาได้ดีตามแบบฉบับมาตรฐานของดีสนีย์ พระเอกก็ไม่ได้เก่งมากมาย เพียงแต่แรงโน้มถ่วงของดาวอังคารเบาบางกว่าโลก เลยทำให้พระเอกมีกำลังมากกว่าคนบนดาวดวงนั้นและโดดได้สูงจนเหมือนกับเหาะได้ พระเอกได้เข้าไปอยู่ระหว่างความขัดแย้งของ 2 อาณาจักรใหญ่ ที่สู้รบกันเพื่อจะยึดครองดวงดาว แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีพวกเผ่าพันธุ์ประหลาดที่เป็นขุมกำลังที่ 3 ด้วยเพียงแต่เป็นเหมือนคนป่า ไม่ได้มีเทคโนโลยีเหมือน 2 อาณาจักรใหญ่ข้างต้น เลยค่อนข้างงถูกมองข้ามและถูกกดขี่

ค่อนข้างขัดใจกับเจ้าหญิงนะ ในสายตาผมไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แถมดูจะบึก ๆ อีกด้วย แต่ก็อย่างว่าเจ้าหญิงฝึกการเป็นนักรบมาด้วยจะให้โอดองก็ไม่ดีเท่าไหร่ เรื่องนี้ดิสนีย์ค่อนข้างหวังไว้มากกับรายได้ เพราะทุ่มงบการสร้างกับโฆษณาไปเกือบ 4 ร้อยล้านเหรียญ แต่สุดท้ายรายได้ไม่ถึงเป้า แถมค่อนข้างแป้กซะด้วย แต่คิดว่าออก DVD Bluray มาขาย ๆ ไปสุดท้ายน่าจะถัว ๆ ต้นทุนไปได้ล่ะนะ ทำให้ประธานดิสนีย์ถึงขนาดลาออก หนังก็ไม่ได้เลวร้าย เพียงแต่ความสนุกอาจจะไม่สนุกเท่าที่ใจคิด แผ่นก็ออกมาได้สักพักแล้ว ใครสนใจก็อุดหนุนหน่อย
เดี๋ยวดิสนีย์ขาดทุนจะไม่มีเงินสร้างการ์ตูนออกมาให้ดูนะ





 

Create Date : 11 ตุลาคม 2555   
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 15:05:22 น.   
Counter : 3482 Pageviews.  


The Avengers : ดิ เอเวนเจอร์ (2012)

Worldwide Gross: $1,514,357,910
Total Budget: $300,000,000


Trailer :



เรื่องย่อ :

อภิมหาภาพยนตร์รวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวล ที่ผู้ชมทั้งโลกรอคอย “ดิ อเวนเจอร์ส” รับหน้าที่กำกับและเขียนบทโดย “จอส วีดอน” หนังจะเดินหน้าถ่ายทำไปตามเมืองต่างๆอย่าง คลีฟแลนด์, โอไฮโอ, และ นิว ยอร์ค ซิตี้

“โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์” กลับมารับบท “โทนี่ สตาร์ค” และ “ไอรอน แมน” อีกครั้งรวมถึง “คริส แฮมส์เวิร์ธ” ในบท “ธอร์”, คริส อีแวนส์ ในบท “กัปตัน อเมริกา”, “เจเรมี เรนเนอร์” เป็น “ฮอร์คอาย”, “มาร์ค รัฟฟาโร” เป็น “ฮัลค์”, “สการ์เลต โจแฮนสัน” เป็น “แบล็ค วิโดว์”, “คลาร์ก เกร็ก” เป็น “เจ้าหน้าที่ ฟิล โคลสัน” และ “แซมูเอล แอล. แจ็คสัน” เป็น “นิค ฟิวรี่” ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 4 พฤษภาคม 2012 “ดิ อเวนเจอร์ส” จะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลเรื่องแรกที่ ดิสนีย์ จะเป็นผู้ทำการตลาดและจัดจำหน่ายอย่างเต็มตัวหลังจากที่ มาร์เวล สตูดิโอส์ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของดิสนีย์มาตั้งแต่ปี 2009

จากความสำเร็จอย่างล้นหลามของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เริ่มต้นจาก “ไอรอน แมน”, “ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์”, “ไอรอน แมน 2”, “ธอร์”, และ “กัปตัน อเมริกา: อเวนเจอร์ที่ 1” “ดิ อเวนเจอร์ส” จะเป็นการรวบรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อศัตรูที่ไม่คาดคิดได้คุกคามความมั่นคงและความปลอดภัยของโลกใบนี้ “นิค ฟิวรี่” ผู้ อำนวยการหน่วยรักษาความสงบและสันติระหว่างประเทศหรือที่รู้จักกันในชื่อ หน่วย “ชีลด์” จึงต้องรวมพลเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เพื่อที่จะมาปกป้องโลกให้พ้นจากหายนะที่กำลัง จะเกิดขึ้น

จากหนังสือการ์ตูนเรื่องยาวยอดฮิตของมาร์เวล คอมมิคส์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี1963, “ดิ อเวนเจอร์ส” คือการรวมเหล่าตัวละครซูเปอร์ฮีโร่มาไว้ในหนังเรื่องเดียวกันเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอีกหลายคนที่เข้าร่วมโปรเจคนี้อย่าง “โคบี้ สมัลเดอร์ส” เป็นเจ้าหน้าที่ “มาเรีย ฮิลล์” จากหน่วย “ชีลด์” เช่นเดียวกับ “ทอม ฮิดเดิลสโตน” และ “สเตลแลน แสคการ์ด” ที่จะกลับมารับบทเดิมของพวกเขาจากเรื่อง “ธอร์” ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ตอนนี้ในบท “โลกิ” และ “ศจ. เอริค เซลวิคจ์”

----------------------------------------

มาแล้วกับตวามมันส์ของหนังที่รวมเอาเหล่าฮีโร่สุดฮิตมาร่วมมือกันต่อสู้กับเหล่าร้ายศัตรูผู้ที่จะมารุกรานโลก

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากเพราะเนื่องจากตัวเอกหลายคน เลยทำให้อ่อนเนื้อเรื่องเพราะต้องให้ฮีโร่แต่ละตัวได้มีฉากโชว์เด่น แต่ก็สมใจผู้ชมแต่บางตัวยังไงก็ไม่เด่นจริง ๆ เช่น แบลควีโดว์ และฮอคอาย แต่ก็อย่างว่าเนื่องจากเป็นแค่คนธรรมดา แต่คนอื่นๆ เป็นพวกเหนือมนุษย์เลยทำให้ 2 คนนี้ด้อยไป แต่ก็แว่ว ๆ ว่า
ทั้ง 2 ตัวนี้อาจจะได้มีโอกาสทำหนังของตัวเองด้วย เลยทำให้คนเขียนบทพยายามจะทำให้เด่น

แต่จากที่มารวมตัวกันก็เลยทำให้เห็นว่า Hulk แข่งแกร่งมาก น่าจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเลยด้วยซ้ำ ส่วนกัปตันอเมริกา อาจจะด้อยไป แต่ก็ทดแทนด้วยมันสมองในการสั่งการ

แต่ก็น่าเสียดายอีก นี่ถ้าได้สไปเดอร์แมนมาร่วมทีมด้วย น่าจะลงตัวได้มากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็แทบจะแย่งกันออกอยู่แล้วล่ะนะ ถ้ามาอีกหนังคงต้องเพิ่มเวลาไปเป็นสัก 4 ชม เพื่อที่จะได้เก็บรายละเอียดได้ครบทุกตัว แต่ถ้าทำจริงก็พร้อมดูนะ ก็หวังว่าภาค 2 น่าจะสนุกกว่านี้แน่นอน

ภาค 2 น่าจะมาในปี 2015 นานไปหน่อย แต่หลาย ๆ คนก็คงรอดูกันแน่นอน แต่ก่อนหน้านั้นเราอาจจะได้ดูหนังที่รวมตัวกันของเหล่าฮีโร่ของค่าย DC ก่อนก็ได้นะ ซึ่งก็น่าดูอีกเหมือนกัน





 

Create Date : 10 ตุลาคม 2555   
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 15:06:01 น.   
Counter : 3016 Pageviews.  


Jumper : ฅนโดดกระชากมิติ (2008)

Total Budget: $125,000,000
Worldwide Gross: $222,231,186


Trailer :



เรื่องย่อ :

เดวิด ไร้ซ์เติบใหญ่ขึ้นมา พร้อมกับความสามารถพิเศษที่ใครๆ ต่างก็อยากมี เขาเคลื่อนที่ไปยังที่ใดในโลกก็ได้ดังใจปรารถนาโดยอาสัยช่องโหว่ของกาลเวลา ก้าวจากที่หนึ่งไปยังตึกใดก็ได้ ไปยังเมืองใดก็ได้ เพียงพริบตาเดียวเขาก็ "โดดกระชากมิติ" จากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง แล้วก็กลับมายังจุดเดิมได้ดังใจสั่งเลย เย็นวันเดียวกันเขาปรารถนาจะชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าสัก 20 ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก เช้าวันไหนอยากไปรับประทานอาหารเช้าบนยอดสฟิงซ์ในอียิปต์ (Egyptian Sphinx) ก็ไม่ยาก แล้วจะขึ้นกระดานเซิร์ฟโต้คลื่นที่ออสเตรเลีย (Australia) ทั้งวันก็ย่อมได้ พลบค่ำก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศดินเนอร์สุดหรูในกรุงปารีส (Paris) ก่อนจะไปตบท้ายของหวานที่ญี่ปุ่น (Japan) ก็สบายๆ

เขายังโดดทะลุกำแพงเข้าไปยังเซฟของธนาคาร และห้องลับสุดยอดที่ไหนก็ได้ แต่เขาก็ได้อาศัยความสามารถพิเศษนี่แหละพยายามหนีให้พ้นอดีตอันขมขื่น, ตักตวงหาผลประโยชน์จากความสามารถพิเศษอย่างเต็มที่, และไม่คิดจะพึ่งพาใครทั้งสิ้น เขาไม่เคยล่วงรู้ถึงขอบเขตหรือข้อจำกัดของความสามารถพิเศษนี้มาก่อน หรือแม้แต่พันธะที่จะตามมากับมันด้วยซ้ำ จนกระทั่งบัดนี้

เมื่อ เดวิด รู้จักกับชายหนุ่มอีกคนที่มีความสามารถพิเศษเช่นเดียวกันชื่อ กริฟฟิน (Griffin รับบทโดย เจมี่ เบล – Jamie Bell) หนุ่ม หัวขบถสุดก้าวร้าวที่เดินทางท่องโลกมาอย่างโชกโชน เดวิดจึงได้รู้ถึงข้อเท็จจริงที่คาดไม่ถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้คนพิเศษที่ผิดธรรมชาติเพียงคนเดียวในโลก หากแต่เป็นหนึ่งในความพิเศษทางพันธุกรรมที่เรียกกันว่า เหล่าจัมพ์เฟอร์ (Jumpers) ซึ่งต่างก็กำลังตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง

บัดนี้เดวิดก็ถูกขึ้นบัญชีดำขององค์กรลับที่สาบานตนว่า จะกำจัดเดวิดและปราบเหล่าจัมพ์เฟอร์ให้สิ้นซาก และเขาก็ตกเป็นเหยื่อของการไล่ล่าอย่างไร้ความปรานี ซึ่งจะตามติดไปทุกแห่งหนทั่วโลก – เดวิด กลายเป็นหมากสำคัญตัวที่จะได้เห็นสงครามล้างเผ่าพันธุ์ที่เข่นฆ่ากันอย่าง บ้าคลั่ง แต่ไม่เป็นที่รู้เห็นแก่สายตาของชาวโลกทั่วไป และยืดเยื้อยาวนานมาหลายชั่วอายุคนแล้วด้วย

----------------------------------------------------------------

จะมีอะไรดีไปกว่านี้ ถ้าคุณสามารถโดดล่องหนไปใหนมาใหนก็ได้ ขโมยเงินในเซฟก็ได้ แปลว่าต่อไปนี้ชีวิตคุณจะไม่ขัดสนแถมยังได้เที่ยวรอบโลกอีกด้วย ชีวิตจริงอาจทำไม่ได้ แต่หนังเรื่องนี้ทำได้

แรก ๆ ก็ดูเหมือนชีวิตแบบนี้มันดีนะ ตอนต้นเรื่องอะไรก็ดีไปหมด จนกระทั่งพวกพาลาดินโผล่ออก กลับกลายเป็นว่ามีจัมพ์เปอร์ แล้วทำไมต้องส่งพวกพาลาดินมาไล่ล่าด้วย องค์กรนี้ในเรื่องจากที่ดูไม่มีที่มาที่ไม่ รู้แต่ทำอะไรตามอำเภอใจ อยากฆ่าใครก็ฆ่า ดูป่าเถื่อนสุด ๆแถมจริง ๆ แล้วมองว่าเป็นพวกขี้อิจฉาซะด้วย จริงที่คิดว่าถ้ามีพวกจัมพ์เปอร์อยู่มันไม่ดีต่อโลกก็จริง แต่การที่ไล่ฆ่าคนรอบข้างหรือใครก็ตามที่ขัดขวางการทำงานมันดูป่าเถื่อนจริง ๆ นะ

ที่อยากตำหนิโดยเฉพาะน่าจะทำการบอกที่มาที่ไปของพวกจัมพ์เปอร์และพาลาดินให้ละเอียดกว่านี้สักหน่อย เนื้อเรื่องจะได้แน่นขึ้นและดูมีเหตุและมีผลกว่าที่เป็นอยู่ แต่เรื่องนี้ก็สมกับสโลแกน Anywhere in Possible จริง ๆ เพราะพวกจัมพ็เปอร์ไปใหนมาใหนก็ได้อิสระจริง ๆ

เรื่องนี้จบแบบทิ้งปริศนาไว้มากมายแต่ก็คาดหวังว่าภาค 2 น่าจะคลายความข้องใจไปได้ไม่มากก็น้อย แต่ก็ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ เพราะนี่ก็ห่างจากภาคแรกมา 4 ปี แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าจะมาเร็ว ๆ นะ ความสนุกไม่ต้องพูดถึงจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องงที่แนะนำจ้า





 

Create Date : 08 ตุลาคม 2555   
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 15:07:03 น.   
Counter : 3090 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

kid^_^
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add kid^_^'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com