ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะคร้าบ อย่าลืม Comment ให้ด้วยนะขรั่บ !!!
 
 

Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows เต่านินจา: จากเงาสู่ฮีโร่ (2016)

Total Worldwide Gross: $244,451,601
Total International Gross: $162,400,000
Total Domestic Gross: $82,051,601

Trailer
:

เรื่องย่อ :

จากความสำเร็จของ Teenage Mutant Ninja Turtles หรือเต่านินจา ที่กวาดรายได้จากทั่วโลกมากกว่า 490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พาราเมาท์ พิคเจอร์ส จึงจัดหนักความมันส์และความฮาสำหรับแฟนภาพยนตร์ด้วย Teenage Mutant Ninja Turtles: Out Of The Shadows เต่านินจา: จากเงาสู่ฮีโร่ ในภาคนี้ ไมเคิล แองเจโล, โดนาเทลโล, ลีโอนาร์โด และราฟาเอล กลับมาพร้อมด้วยเอพริล โอนีล (เมแกน ฟ็อกซ์) และเวิร์น เฟนวิค (วิล อาร์เน็ตต์) เสริมทีมด้วยชายในหน้ากากฮ็อกกี้ เคซีย์ โจนส์ (สตีเฟ่น อเมล) พวกเขาต้องรับมือกับวายร้ายอย่างเชร็ดเดอร์ที่ร่วมมือกับแบ็กซ์เตอร์ สต็อกแมน (ไทเลอร์ เพอร์รี่) บีบ็อบ (แกรี่ แอนโทนี่ วิลเลียมส์) และร็อคสเตดี้ (ซุปเปอร์สตาร์นักมวยปล้ำ WWEเชมัส) ที่มีเป้าหมายในการครองโลก

โดยสำหรับเรื่องราวใน Teenage Mutant Ninja Turtles ครั้งนี้ มหานครนิวยอร์กได้ตกอยู่ในการครอบงำจากอำนาจมืดของ เชร็ดเดอร์ อีกครั้ง ซึ่งเกี่ยวพันกับความปลอดภัยในความเป็น “มนุษย์” ของผู้คน เมื่อสารเคมีสีม่วงลึกลับ ที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์กลายเป็นสัตว์ประหลาด ได้ถูกใช้สร้างกองทัพเพื่อยึดครองโลก นำทีมโดย 2 วายรายตัวใหม่ ที่พึ่งถือกำเนิดขึ้นอย่าง พี่แรด และ เจ้าหมูป่า ขนาดบิ๊กบึ้ม!

ภารกิจเก็บกวาดจึงตกเป็นหน้าที่ของเหล่า 4 เต่ามุดท่ออีกครั้ง ร่วมด้วยเพื่อนเก่า สาวนักข่าว เอพริล และพ่อหนุ่มหน้ากากขาว เคซี่ เพื่อรวมกันกอบกู้เมืองให้พ้นจากอันตรายครั้งใหม่ที่กำลังเผชิญจากแผนการชั่วร้ายของเชรดเดอร์…

แต่ถึงอย่างนั้นคุณสมบัติที่น่าหลงไหลของสารเคมีสีม่วง ก็เย้ายวนใจชวนให้เหล่าสมาชิกเต่านินจา อยากใช้เปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นกัน เพื่อให้ไม่ต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แต่ภายในท่อมืดๆ อีกต่อไป งานนี้ฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ การตัดสินใจ และความสามัคคีของเหล่าเต่านินจาก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ที่มา : //www.metalbridges.com/teenage-mutant-ninja-turtles-out-of-the-shadows/

-----------------------
ภาคนี้เหมือนขาด ๆ อะไรไปหลาย ๆ อย่าง พยายามที่จะปูสเกลของหนังให้ใหญ่ขึ้น โดยเริ่มเอาเอเลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้อง มีตัวประหลาดเพิ่มขึ้น และก็มีตัวเอกเพิ่มขึ้นมา แต่ความรู้สึกหลังจากที่ดูจบคือมันยังไม่ลงตัวแล้วยิ่ง CG โดยเฉพาะท้ายเรื่องยานของ Krang มันไม่เนียน เหมือนงบหมด หรือมือทำ CG ไม่เก่งเท่าที่ควร ขาดฉากที่เป็นเอกลักษณ์แบบภาคที่แล้ว เนื้อเรื่องก็ดูไม่ค่อยปะติดปะต่อ เหมือนจะตัดทอนฉากออกไปพอสมควร เลยทำให้หนังบางช่วงดูโดดๆ แล้วที่น่าตำหนิก็ Shreder คิดได้ยังไงฉลาดมาตั้งนาน มาโง่ด้วยข้อเสนอตื้น ๆ ของ Krang โดนหลอกซะเสียชื่ออาชญากรเบอร์ 1 โลกเลย

ภาคนี้รายได้ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นน้องกว่าภาคที่แล้วอย่างน่าใจหาย ไม่แน่ใจด้วยซ้ำจะขาดทุนหรือไม่ และไม่แน่อีก ภาค 3 จะมาหรือเปล่า แต่คิดว่ามาและคงต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้นกู้หน้าให้ภาค 3 ออกมาดีกว่านี้ แต่ถึงยังไงก็ไม่ได้เลวร้าย ดูได้เรื่อย ๆ ยังสนุกอยู่ แต่อย่างที่บอกข้างต้น ข้อตำหนิก็เยอะเกินไปจริง ๆ แฟน ๆ ขบวนการเต่านินจาต้องไม่พลาดแน่นอน

ปล.พ่อ Arrow มาแจมภาคนี้ดูกรุ้มกริ่มดีนะ




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2559   
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2559 22:56:54 น.   
Counter : 1523 Pageviews.  


Star Trek Beyond : สตาร์ เทรค ข้ามขอบจักรวาล (2016)

Total Worldwide Gross: $336,648,340
Total International Gross: $177,800,000
Total Domestic Gross: $158,848,340

Trailer
:

เรื่องย่อ :

เตรียมพบกับการกลับมาของภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟสุดยิ่งใหญ่ Star Trek Beyond สตาร์ เทร็ค ข้ามขอบจักรวาล มันส์ทะลุจอไปกับการผจญภัยของลูกเรือยานเอนเตอร์ไพร์ส ที่ต้องเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจรายใหม่ ภาพยนตร์ เขียนบทโดย ไซม่อน เพ็กก์ และดั๊ก จุง โดยที่นักแสดงทีมเดิมอย่าง คริส ไพน์, แซ็คคารี ควินโต, โซอี้ ซัลดานา, คาร์ล เออร์บัน,แอนตัน เยลชิน และ จอห์น โช ก็กลับมารับบทเดิมทั้งทีม ในภาคนี้ ยังมีการเสริมทัพนักแสดงอย่าง ไอดริส เอลบา, โจ ทาสลิม และโซเฟีย โบเทลลา อีกด้วย
----------------------
หลังจากรอให้ภาค 3 มา ปีนี้ก็มาสักที แต่ค่อนข้างผิดหวังครับ ภาคนี้น่าจะเป็นภาคย่อยมากกว่านะในความรู้สึกของผม โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยเข้มข้น และความน่าสมเพชของตัวร้ายในภาคนี้

การมาปรากฏตัวของตัวร้ายภาคนี้ก็มาแบบเงียบ ๆ ไม่มีปี่มีขลุ่ยมาอย่างร้ายกาจ และไปอย่างน่าเห็นใจจริง ๆ มีตัวละครใหม่มาเพิ่มอีก 1 คน โดยสุดท้ายก็ได้เข้าเป็นนักเรียนของสตาร์ฟลีทด้วย แต่จะได้ขึ้นยานพระเอกไหม หรือจะโดนตัดจบไปก็คงต้องดูภาคต่อไป

ภาคนี้ดูพระเอกกับสป็อคไม่ค่อยมีความสุข แต่ก็เป็นธรรมดาของการทำงานที่ต้องทำงานแบบซ้ำไปซ้ำมาในแต่ละวันเพราะงานสำรวจจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุดแล้วราบเรียบมันก็ทำให้เบื่อได้ง่าย ๆ แต่พอหลังจากมีการผจญภัยเกิดขึ้น และจบลงพระเอกก็คิดได้ว่าชีวิตยังต้องการความตื่นเต้นอยู่ ก็เลยขอทำหน้าที่กัปตันต่อไป (ก็คงไช่ล่ะนะ ถ้าพระเอกไม่เป็นกัปตันหนังจบดิวะ)

เป็นหนังแฟรนไชนส์อีกภาคที่สนุกและน่าติดตาม ถึงแม้ภาคนี้จะไม่สามารถทำให้ความคิดถึงมันหายไป แต่ก็ช่วยให้น้ำหล่อเลี้ยงแฟน ๆ หนังเรื่องนี้ได้ต่อไปว่าภาคต่อ ๆ ไปจะตามมาแน่นอน แต่รบกวนมาให้ไวกว่านี้หน่อยก็ดีนะ แฟน ๆ เรื่องนี้คิดถึงภาค 4 แล้วสิ

ปล.ขอไว้อาลัยแก่นักแสดงเชคอฟที่เสียชีวิตไปด้วยครับ





 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2559   
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2559 18:45:02 น.   
Counter : 1715 Pageviews.  


All About Steve : อลเวงนัก กรี๊ดรักนายสตีฟ (2009)

Total Worldwide Gross: $40,113,521
Total International Gross: $6,253,498
Total Domestic Gross: $33,860,023

Trailer
:

เรื่องย่อ :

แซนดร้า บูลล็อค (The Proposal) และ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ (The Hangover) ร่วมกันสร้างความครื้นเครงอลเวงรักในภาพยนตร์เบาสมองเกี่ยวกับนัดบอดที่เลย เถิดเตลิดจนเรียกเสียงฮาแบบกู่ไม่กลับ เมื่อแมรี่ สาวบุคลิกสุดเพี้ยนแต่น่ารักออกเดทกับสตีฟ ตากล้องหนุ่มหล่อของสถานีข่าวแห่งหนึ่ง เธอก็ตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง แต่สำหรับเขา...ไม่เลยสักนิด หลังจากนั้นแมรี่ก็เที่ยวตามติดสตีฟที่ตะลอนทำข่าวไปทั่วประเทศ จนความคลั่งไคล้ของเธอกลายเป็นข่าวเสียเอง ท่ามกลางสื่อต่างๆที่รุมล้อมความรักสุดพิลึกครั้งนี้ ในที่สุดแมรี่ก็ได้พบที่ๆเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง รวมทั้งชายในฝันที่จะมาเป็นตัวจริงของเธอ!
-------------------------------

คิดอยากจะดูหนังตลก ไม่ต้องคิดอะไรมาก แนะนำเรื่องนี้เลย นางเอกแสดงได้รั่วมาก ๆ รั่วชนิดที่ว่าไม่ห่วงความสวย ไม่ห่วงชื่อเสียงกันเลยทีเดียว นางเอกมีงานที่ประหลาดอีกด้วย คือเป็นนักออกแบบปริศนาอักษรไขว์ เออ อาชีพแบบนี้ก็มี เป็นเนิร์ดตัวยงพอสมควร เพราะยังอยู่กับพอ่แม่ หาแฟนไม่ได้ จนกระทั่งมาเจอกับพระเอก ก็เกิดอาการตกหลุมรัก เลยทั้งเรื่องกลายเป็นนางเอกตามล่าจีบพระเอกตลอดเรื่อง มีเรื่องตลก อลวน อลเวงตลอดเรื่อง

ถ้าไม่คิดอะไรมาก และต้องการคลายเครียด อย่างที่บอกเรื่องนี้ช่วยได้ ดูโดยไม่่ต้องคิดตาม ไม่ต้องใช้การวิเคราะห์ ไม่ต้องใช้ตรรกะอะไรใด ๆ ทั้งสิ้นกับหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าต้องการความมีสาระ ให้ผ่านไปได้เลย





 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2559   
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2559 14:47:24 น.   
Counter : 3698 Pageviews.  


You Don't Mess With The Zohan : อย่าแหย่โซฮาน (2008)

Total Worldwide Gross: $199,740,170
Total International Gross: $99,721,333
Total Domestic Gross: $100,018,509

Trailer
:

เรื่องย่อ :

ทหารคอมมานโดชาวอิสราเอล โซฮาน ดิเวียร์ (อดัม แซนด์เลอร์) ผู้เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศในฐานะ เดอะ โซฮาน เป็นนักต่อต้านผู้ก่อการร้ายที่โด่งดังที่สุดของประเทศ เดอะ โซฮาน ผู้มากความสามารถและดูเหมือนจะไร้เทียมทาน มีความชำนิชำนาญในการหลีสาวพอๆ กับการกำจัดศัตรู ซึ่งรวมถึงศัตรูคู่อาฆาตของเขา ผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ แฟนทอม (จอห์น เทอร์ทูโร) แต่เดอะ โซฮานได้ปิดบังอะไรบางอย่างไว้...แม้ว่าเขาจะรักประเทศของเขา แต่เขาก็เบื่อหน่ายกับการสู้รบเต็มที และเขาก็โหยหาโอกาสที่จะหนีไปให้พ้นๆ จากกองทัพและแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของเขาด้วยการผันตัวไปเป็นช่างทำผม แต่ตราบใดที่เขายังคงรบกับพวกผู้ก่อการร้ายอยู่ ความฝันของเดอะ โซฮานก็เป็นไปไม่ได้ ทำให้เขาต้องนอนร้องไห้ทุกค่ำคืนเมื่อได้ดูภาพจากหนังสือสไตล์แต่งผมปี 1987 ของ พอล มิตเชล ที่เขาแอบซ่อนไว้ในห้องนอน

แต่แล้วโอกาสก็เข้ามาหาเดอะ โซฮานเมื่อแฟนทอมปรากฏตัว แทนที่จะกำจัดเขา เดอะ โซฮานกลับแกล้งกุเรื่องการตายของเขาและหลบหนีไป ทิ้งให้แฟนทอมหลงดีใจว่าในที่สุด เขาก็กำจัดเดอะ โซฮานได้สำเร็จ หลังจากที่เขาแอบซ่อนตัวบนเครื่องบินไปนิวยอร์กโดยมีเพียงแค่ความฝันกับเสื้อผ้าติดตัวไป เดอะ โซฮานก็ซ่อนตัวในตู้คอนเทนเนอร์พร้อมกับสุนัขสองตัว ชื่อ สแคร็ปปีและโกโก

จุดหมายแรกของเดอะ โซฮานคือซาลอนพอล มิตเชล ที่ซึ่งเขาแฝงตัวเข้าไปในนาม “สแคร็ปปี โกโก” “สแคร็ปปี” ด้วยความหวังว่าจะมีคนจ้างเขา แต่เขากลับถูกล้อเลียนเรื่องสไตล์เฉิ่มเบ๊อะของเขาเสียนี่ แต่เดอะ โซฮันก็ไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้มาหยุดยั้งความตั้งใจที่จะคิดทรงผมที่สลวยสวยเก๋ได้หรอก

ในคืนนั้นเอง เดอะ โซฮานก็ได้เหยียบเข้าดิสโก้อเมริกาเป็นครั้งแรก แม้ว่าเขาจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าเขาชื่อสแคร็ปปี โกโก แต่เขากลับถูกจดจำได้โดยอูรี ผู้อพยพชาวอิสราเอลที่จดจำฮีโรจากบ้านเกิดของเขาได้ทันที เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เดอะ โซฮานยังแข็งแรงปึ๋งปั๋งดี แถมมาอยู่ในนิวยอร์กซะด้วย อูรีสัญญาว่าจะเหยียบเรื่องของเดอะ โซฮานไว้เป็นความลับ

หลังจากถูกซาลอนแห่งแล้วแห่งเล่าปฏิเสธ เดอะ โซฮานก็ไปเยี่ยมอูรีที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของเขา และก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นว่าในย่านนี้ ชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อูรีรู้ดีว่าเดอะ โซฮานควรจะไปที่ไหน...ซาลอนเก่าซอมซ่อที่มีลูกค้าค่อนข้างอายุมากไงล่ะ ติดอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้น คือมันอยู่ในฟากคนอาหรับ ตอนแรก เดอะ โซฮานก็ลังเล เขามาที่นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ แต่เขาจะสามารถทำงานให้พวกปาเลสไตน์ได้จริงๆ น่ะหรือ ดาเลีย (เอ็มมานูเอล ชรีควี) เจ้าของซาลอนเองก็ลังเลใจเหมือนกัน เพราะ “สแคร็ปปี โกโก” ไม่เคยมีประสบการณ์ในการตัดผมมาก่อน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝัน เดอะ โซฮานก็ตื๊อจนดาเลียใจอ่อน “สแคร็ปปี โกโก” อาจจะต้องทนกวาดพื้นโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่เขาก็ได้เริ่มต้นแล้ว...

....และไม่นานนัก เขาก็ได้โอกาสเมื่อช่างทำผมคนหนึ่งของดาเลียลาออกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า เมื่อลูกค้าคนแรกของเขานั่งเก้าอี้ เดอะ โซฮานก็คว้าโอกาสทองนี้ไว้ แม้ว่าเขาจะตัดผมได้แต่สไตล์โบร่ำโบราณจากหนังสือของพอล มิตเชล แต่ลูกค้า ที่หลงใหลได้ปลื้มไปกับการพูดจาและลีลาตัดผมที่แสนเร้าใจของเขา ก็ชื่นชอบผลที่ออกมามาก ความฝันของเขากลายเป็นโชคชะตาของเขา และในไม่ช้า ก็เกิดคำบอกเล่าปากต่อปากในหมู่หญิงชราชาวนิวยอร์กว่าไปหาสแคร็ปปี โกโกสิ แล้วคุณจะชอบ

ทุกอย่างไปได้สวยสำหรับเดอะ โซฮาน ความฝันของเขากำลังเป็นจริง ธุรกิจกำลังเฟื่องฟู ทำให้ดาเลียสามารถจ่ายค่าเช่าแพงขูดเลือดขูดเนื้อของเจ้าของที่คนใหม่ได้ แถมความรักระหว่างเขากับดาเลียก็กำลังผลิบานเสียด้วย แต่ปัญหาก็กำลังคืบคลานเข้ามา

ซาลิม (ร็อบ ชไนเดอร์) คนขับแท็กซีชาวปาเลสไตน์ที่มีความแค้นยาวนานกับเดอะ โซฮาน จำเขาได้และตั้งใจเอาไว้ว่าจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาให้ได้ หลังจากความพยายามในการกำจัดเดอะ โซฮานล้มเหลว ซาลิมก็บอกแฟนทอมให้รู้ว่าเดอะ โซฮานยังมีชีวิตอยู่ และผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ก็ได้สยายปีกสู่นิวยอร์ก
สำหรับเดอะ โซฮาน นี่มันเป็นหายนะชัดๆ ไม่ใช่เพราะเขากลัวแฟนทอมหรอกนะ แต่เพราะเขามาที่อเมริกาเพื่อจะทิ้งการสู้รบไว้เบื้องหลังแต่ สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเขาและแฟนทอมจะต้องจับมือกันเพื่อร่วมต่อต้านศัตรูหนึ่งเดียวที่จะทำลายย่านที่อยู่ของพวกเขา

--------------------------------------------------

หนังตลก มันคือหนังตลกที่เอามุกใต้สะดือมาเล่นแบบเป็นเรื่องธรรมดา พระเอกเป็นซุปเปอร์ทหารไร้เทียมทาน คนเดียวสู้ได้ทั้งกองทัพ แต่ใครจะรู้ความฝันของพระเอกคือการได้เป็นช่างตัดผม และได้ทำงานในร้านของ พอล มิทเชล จนภารกิจสุดท้ายพระเอกแกล้งตายและหลบหนีเข้าประเทศอเมริกา (อะไรมันจะหนีเข้าเมืองกันง่าย ๆ แบบนั้นฟะ) ไปอาศัยในย่านของพวกอิสราเอลและปาเลสไตน์ (สุดท้ายก็หนีไม่พ้นอยู่ดี) แต่ที่นี่พระเอกก็ได้พบกับนางเอกและได้เข้าไปทำงานในร้านของนางเอก ด้วยลีลาและความทะลึ่งที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สาวแก่ทั่วนิวยอร์คติดใจ ทำให้มีแต่สาวแก่หลั่งใหลมาตัดผมแต่กับโซฮานเพราะมีบริการพิเศษสุดเร้าใจ

หลังจากดูจบอยากจะบอกว่าผิดหวังนิดนึงนะ เพราะคิดว่าน่าจะตลกแบบมีสาระกว่านี้ แต่เรื่องนี้ตลกแบบไร้สาระ และค่อนข้างลามกเอาซะมาก ๆ แต่ก็ไม่ได้อนาจารเท่าไหร่ แต่ถามว่ามีสาระไหมก็มีนะที่แฝงไว้ก็อย่างเช่นคนเรามีความฝัน ก็หวังสักวันจะได้ทำตามฝันอย่างพระเอกของเรา เป็นทหารก็มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต เพราะเป็นทหารมือ 1 ค่าตัวแพงเอามาก ๆ แต่ก็ไม่พอเติมเต็มชีวิต ที่อยากเป็นช่างแต่งผมเลยมาตามฝันให้เป็นจริง

เอาเป็นว่าเป็นหนังตลกแบบฝืด ๆ ไร้สาระ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากนางเอกน่ารัก ถ้าเป็นแฟนพ่อพระเอกคนนี้ก็คงต้องดูล่ะนะ แต่ถ้าไม่หาเรื่องอื่นเถอะ




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2559   
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2559 0:04:50 น.   
Counter : 3263 Pageviews.  


Beastly : เทพบุตรอสูร (2011)

Total Worldwide Gross: $43,195,163
Total International Gross: $15,329,592
Total Domestic Gross: $27,865,571

Trailer :


เรื่องย่อ :

Beastly คือภาพยนตร์โรแมนติกที่พูดถึงการมองทะลุุผ่านเปลือกนอก และเข้าไปถึงความงามภายในจิตใจ

ไคล์ คิงสัน (อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์) เป็นเด็กหนุ่มวัย 17 ที่มีทุกอย่างที่ทุกคนต้องการ ทั้งหน้าตา ฐานะ ชื่อเสียง และความสามารถ แต่ความเพียบพร้อมทำให้เขาชอบดูถูกคนอื่น และเหยื่อคนล่าสุดก็คือ เคนดร้า (แมรี่ - เคท โอลเซ่น) เพื่อนร่วมชั้นที่มีเสียงล่ำลือว่าเป็นแม่มด เพราะ ไคล์ ไม่สำนึกในพฤติกรรมของตัวเอง เคนดร้า จึงตัดสินใจสั่งสอนด้วยการเปลี่ยนให้เขากลายเป็นอสูร ที่รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับจิตใจ โดยให้เวลาหนึ่งปีเพื่อตามหาผู้หญิงที่มองผ่านเปลือกนอกและรักเขาในแบบที่เป็น หรือจะต้องกลายเป็นแบบนี้ไปตลอดกาล ความหวังเดียวของ ไคล์ ก็คือ ลินดี้ (วาเนสซา ฮัดเจนส์) เพื่อนร่วมชั้นที่เขาไม่เคยสนใจมาก่อน นี่อาจเป็นโอกาสของเขาในการพิสูจน์ว่า "รักแท้ไม่มีวันอัปลักษณ์"

ภาพยนตร์เรื่อง Beastly นำแสดงโดย วาเนสซา ฮัดเจนส์ (High School Musical) และ อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์ (I Am Number Four) สองนักแสดงที่กำลังมาแรงที่สุดแห่งในทศวรรษนี้ Beastly สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนขายดีของ อเล็กซ์ ฟินน์ กำกับและเขียนบทโดย แดเนียล บาร์นส (Phoebe in Wonderland) และอำนวยการสร้างโดย ซูซาน คาร์โซนิส (No Reservations, Aquamarine, What Women Want)
--------------------

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ภาคคนแสดง เอ่อ เอาตรง ๆ เนื้อเรื่องใช้ได้ ถึงจะติดน้ำเน่าไปนิด แต่คนก็ชอบแบบนี้แหละ ทั้ง ๆ ทีตัวนักแสดงก็ไม่ได้เลวร้ายนะ นางเอกพระเอกก็ถือว่าโอเค พอจะดึงดูดคนดูได้ แต่การดำเนินเรื่องไม่ไหว ไม่ผ่าน หนังทำเอาน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำในหลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ตอน ขาดความเชื่อมโยงของหนังอย่างร้ายแรง ทำให้ดูไม่สนุก ไม่สมจริง เท่าที่ควร ความรักของพระเอกนางเอกก็ไม่ได้ทำให้เห็นเลยว่ามันจะรักกันไปได้ยังไง ยิ่งบางช่วงบางตอนนางเอกแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่อินไปกับตัวละครนี้เลย พระเอกก็ดูเหมือนวัยรุ่นกะโหลกกะลา หาสาระให้ชีวิตแทบไม่ได้

เป็นหนังรักที่น่าเบื่อที่สุดเรื่องนึงเลยจากที่เคยดูๆ มา ไม่อยากเสียเวลาก็ผ่านได้เลย ไม่เหมาะแก่การเสียเวลาจริง ๆ เรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่พยายามจะนึกถึงส่วนดีของหนัง แต่หาไม่ได้จริง ๆ

ปล.ไอฉากที่ตีลูกกอล์ฟบนดาดฟ้าอพาร์ทเมนท์ ผมว่าแย่มากนะ ลูกกอล์ฟลอยไปโดนหัวใครนี่ตายได้เลยนะ ด้วยความแรงแบบนั้น





 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2559   
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2559 21:06:45 น.   
Counter : 2783 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

kid^_^
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add kid^_^'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com