REVIEW -- เที่ยวภูลังกา ดอยแม่สลอง แม่สาย วัดร่องขุ่น (Day 3 - 4 of 4) วันที่ 13 ธ.ค. 2552 สำหรับวันนี้ ถ้าจะว่าไปก็คือ hi-light ของทริปนี้เลยก็ว่า ได้เพราะว่าเราจะได้พบกับทะเลหมอกแบบว่าซึนามิหมอกเลยดีกว่า หลังจากที่เช็คมาเมื่อวานว่าช่วงนี้มีไหม ปรากฎมีมาติดๆกันแล้ว ดังนั้นวันนี้ก็ไม่น่าจะผิดหวัง แล้วเราก็เห็นลางๆ ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ มาดูกัน ดูต่อ จัดไป งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา   สรุปข้อดีของภูลังกา รีสอร์ทคือว่า วิวสวยมากๆๆๆๆๆ ที่พักราคาถูก ห้องที่เราพักแค่คืนละ 500 เท่านั้น นอนได้ตั้ง 3 คน มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไปเที่ยวภูลังกาก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ข้อต้องปรับปรุงอาหาร ผัดน้ำมันเยอะไปหน่อย   หลังจากเช็คเอาท์แล้ว เราก็ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่แม่สาย เพราะว่าดูแล้วไปเชียงใหม่น่าจะยากกว่า ก็เลยได้แวะอีกแล้ว ขอแนะนำ sponsor หลัก Tesco Value เชียงคำ เหอ เหอ วันนี้มีผ่านทางไปภูชี้ฟ้าแต่ก็แค่ผ่านอะนะ ถ้าถามทางไปเชียงรายจากภูลังกานี่ก็งงเหมือนกัน เพราะจำได้ว่า ไปทางเชียงคำ เทิง แล้วก็ไปโผล่เชียงรายตอนประมาณเกือบบ่ายโมง เราแวะทางข้าวกันที่ร้านสลุงคำ อาหารหน้าตาดีนะ แต่ไม่ถูกปากอะ มื้อนี้กินแพงสุดในทริปแต่ไม่อร่อยเลย เนื่องจากพี่ยะ(คนที่พักที่ภูลังการีสอร์ท)บอกว่าเชียงรายมีงานเทศกาลดอกไม้ มีทิวลิป เพื่อนเราก็เลยอยากมาถ่าย ปรากฎว่ามาถึงแล้วถึงรู้ว่าเทศกาลมันมีตอนสิ้นเดือน อ้าว เวรล่ะสิ เลยต้องหาที่ถ่ายรูปใหม่ เลือกไปดอยแม่สลอง เนื่องจากว่าใกล้ แม่สาย แต่ขอบอกว่าเส้นทางขับรถโหดมาก แต่ว่าไปถึงแล้ว อ้าว แค่เนี้ยเหรอ ไม่มีจุดหรือวิวที่น่าสนใจเท่าไหร่ แบบว่าขับรถแทบเป้นแทบตาย เจอแต่ร้านชา กับไร่ชา แง๊ แง มารู้ที่หลังว่าน่าจะไปดอยตุงดีกว่า ไว้รอบหน้า เราก็เลยขับรถลงจากดอยแม่สลองแล้วก็ไปช็อปปิ้งที่แม่สาย ลั๊ลลา มาแม่สายคราวนี้ก็ประมาณ 4 โมงกว่าละ กว่าจะช็อปเสร็จก็ประมาณ 6 โมง   ก่อนที่มากินมื้อเย็นที่แถว ม.แม่ฟ้าหลวง อาหารอร่อยมาก และราคาถูก แถมบรรยากาศดี จากน้องๆนักศึกษา กว่าจะเข้าที่พักที่ม่อนฟ้าใสก็มืดมากแล้ว สามทุ่มกว่า (ม่อนฟ้าใสเคยมาพักนึงแล้วตอนมาทำงาน เลยซ้ำอีกสักที มาถึงเชียงรายแล้วถึงจอง)   คืนนี้เป็นคืนที่นอนสบายสุด แล้วก็ได้ดูถ่ายทอดสดการแสดงแสงสีเสียงด้วย ดีจัง เรารักในหลวง สรุปข้อดีของม่อนฟ้าใสคือว่า บรรยากาศดี อาหารรสชาติใช้ได้ครับ ห้องกว้าง รีสอร์ทมาตอนกลางคืนหายากง่ะ   วันที่ 14 ธ.ค. 2552 วันสุดท้าย พยายามที่จะกลับให้ถึงกรุงเทพก่อนทุ่มนึง เนื่องจากเพื่อนๆ ยังต้องทำงานกัน แต่ว่าวันนี้ในเชียงรายเราก็มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างอยู่ อย่างถ่ายรูปดอกไม้นิดนึง ตรงอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย   แล้วก็ไปแวะที่วัดร่องขุ่น ตอนแรกกะว่าจะอยู่แป๊บเดียว ไปๆมาๆ เนื่องจากความน่าสนใจและความสวยงามทำให้กว่าจะออกก็ 11 โมงแล้ว   มาดูนรกกัน   ที่วัดร่องขุ่นนี่อยากมาอีกแฮะ   ออกจากวัดร่องขุ่น 11 โมง เราแวะกินขนมจีน เรือนพี่เรือนน้องที่ จังหวัดอุตรดิถต์ ตอนบ่ายสอง ก่อนจะมุ่งหน้าทางหลวงหมายเลข 1 แล้วเลี้ยวเข้า 103 มาตัดออก 101 ที่สี่แยกร้องเข็ม หมายเหตุว่าเส้น 103 ถนนสวยมากต้นไม้เต็มสองข้างทาง แล้วเราก็วิ่งเข้าพิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง มาถึงวังน้อยประมาณทุ่มนึง ก่อนที่จะส่งเพื่อนร่วมทริปคนสุดท้ายที่บางนาตอนเกือบ 3 ทุ่ม เหนื่อยมาก สรุปทั้งทริปขับรถไป 2,200 กิโล 4 วัน เมื่อยมาก แต่ก็คุ้มมากเช่นกัน สวยสุด 1) ภูลังการีสอร์ท ทะเลหมอก 2) ภูลังกา พระอาทิตย์ตก 3) ขุนสถาน ทะเลดาวเต็มฟ้า วัดร่องขุ่น พักแพงสุด 1) ม่อนฟ้าใส 1800 บาท 2) ภูลังกา รีสอร์ท 500 บาท 3) ขุนสถาน 360 บาท เส้นทางขับยากสุด 1) เชียงราย-ดอยแม่สลอง-แม่สาย 2) เชียงคำ - เชียงราย ตัดเขาไหนสักลูกเนี่ยแหละ เส้นทางสวย ถนนวิวดี 1) ดอยแม่สลอง 2) 1148 3) 103 อาหารอร่อยสุด 1) ตลาด ม.แม่ฟ้าหลวง 2) ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา     Create Date : 01 มีนาคม 2553     Last Update : 1 มีนาคม 2553 9:49:29 น. Counter : 1072 Pageviews.   4 comment Share Tweet

REVIEW -- เที่ยวภูลังกา สวรรค์มีจริง (Day 2 of 4) วันที่ 12 ธ.ค. 2552   วันนี้ก็ออกจากขุนสถาน แล้วก็แวะสถานีต้นน้ำน่าน ซึ่งตอนแรกก็ว่าจะพักที่นี่เหมือนกัน เห็นดอกไม้ต้นไม้แล้วคิดว่าครางหน้าจะมาพักที่นี่ เพราะว่ามีพญาเสือโคร่งเต็มเลย แต่ว่าตอนที่เราไปมันยังเป้นตุ่มๆอยู่ เลยยังไม่เห้นอะไร แต่บรรยากาศดีครับ มีพื้นที่ให้กางเต๊นท์ได้ด้วย สำหรับวันนี้ของเราเป้าหมายอยู่ที่ภูลังการีสอร์ท ซึ่งจองไว้แล้ว สำหรับการไปภูลังการีสอร์ทของเราก็ตั้งต้นจาก Tesco Value น่าน น่าขอค่า sponsor นะเนี่ย มีแวะทุกระยะ ที่เราแวะกินข้างที่ food court กัน ตอนประมาณเกือบเที่ยง ก่อนจะมุ่งหน้าด้วยเส้นทาง 1148 เส้นทางที่ขับก็ต้องบอกว่าสนุกสนาน ขึ้นเขาลงเขา ไปเรื่อยๆ คดบ้างตรงบ้าง แต่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ภูลังการีสอร์ท ตอนที่ไปนี่แบบว่าเกือบขับเลย เพราะว่าเค้าทำป้ายใหม่ กำลังยกเปลี่ยนอยู่พอดี ดีว่า GPS เตือน มาถึงภูลังกา รีสอร์ทประมาณบ่ายสองกว่าๆ ห้อวที่จองไว้เป็นโซนห้องประชุมมีอยู่ 3 ห้อง แต่พอดูแล้วห้องมันเล็ก มีห้องน้ำในตัว เราเลยแบบว่าสำรวจเจออีกห้องนึงที่เค้าปิดไว้ แล้วขอเป้นห้องนี้แทนแต่ไม่มีห้องน้ำ ห้องก็จะกว้างกว่า มาถึงแล้วเลยอาบน้ำอุ่นให้สมใจอยากกันก่อน   มาถึงแล้วเราก็เลยตกลงที่จะซื้อทัวร์ภูลังกาต่อ ไปขึ้นภูกัน โดยที่เหมารถกะบะกัน ไปกลับ 1600 รอบนี้ก็ไปกับ คนที่มาเที่ยวด้วยกันเนี่ยแหละ ระหว่างทางก็คุยกันถูกคอดี เพราะว่าคุณพี่เค้าถ่ายรูปเหมือนกัน ก็เลยได้คุยถูกคอกับเพื่อนผมไปเลย การมาเที่ยววนอุทยานภูลังกานั้นรถเก๋งนั้น จะไม่สามารถขึ้นภูได้เนื่องจากทางเป้นดินแดงเลย ต้องใช้ 4WD เท่านั้น แต่ก็เห้นมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเหมือนกันนะ 55 สำหรับภูลังกานี้ก็จะเป้นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ตก เค้าว่ากันว่าพระอาทิตย์ตกที่ภูลังกากลางท้องท้องฟ้า (ประมาณว่ายอดภูสูงมาก)   ที่ภูลังกาก็ต้องแวะแท่นเทวดา เป็นประมาณจงอยผา พอไปยืนใกล้ๆก็เสียวเหมือนกัน แต่ว่าถ่ายรูปออกมาสวยมาก พระอาทิตย์ตกกลางท้องฟ้าจริงๆ   หลังจากเที่ยวและถ่ายรูปที่ภูลังกาหมดแล้ว เดินขึ้นภูกันเมื่อยแล้ว เราก็เลยโทรสั่งอาหารกับทางรีสอร์ทล่วงหน้า ตอนแรกก้ว่าจะราดข้าวกัน แต่ไปๆมาๆก้รับออร์เดอร์แล้ว เลยสั่งเป้นกับแล้วก็กินด้วยกันกับผู้ร่วมชะตากรรมทั้ง 9 คน (บอกแล้วว่าคุยกันถูกคอจริงๆ) กลับมาถึงก็กิน กระเพราหมู ไข่เจียว แกงจืดวุ้นเส้น ผัดผัก มั๊ง จำไม่ได้เท่าไหร่แล้ว รู้สึกว่าเจริญอาหารมาากมื้อนี้ หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็นัดกันว่าจะตื่นขึ้นมาตอนตี 5 ขึ้นมาถ่ายรูป hi-light สำหรับภูลังลังกา นั่นคือทะเลหมอกนั่นเอง สำหรับอากาศคืนนี้ที่ภูลังกาประมาณ 15 องศา แถมนอนในห้อง คืนนี้เป็นคืนสบายๆอีกหนึ่งคืน     Create Date : 28 มกราคม 2553     Last Update : 28 มกราคม 2553 7:11:33 น. Counter : 2124 Pageviews.   8 comment Share Tweet

REVIEW -- เที่ยวน่าน ขุนสถาน (Day 1 of 4) ทริปนี้เนื่องจากค่อนข้างฉุกละหุก กว่าจะเคลียร์กันได้ก็เกือบวันสุดท้ายแล้ว จากเดิมที่วางแผนไว้ว่า 4 วันที่ลามานี่จะตะลุยดังนี้ น่าน(ขุนสถาน ดอยเสมอดาว) ภูลังกา ภูชี้ฟ้า เชียงราย แม่สาย เดี๋ยวมาดูกันว่าจบทริปแล้วไปได้ตามแผน(เราคนเดียว) ได้ขนาดไหน กว่าจะ confirm ยืนยันสมาชิกได้ก็วันที่ 8 ธ.ค. แล้ว สมาชิกร่วมทริปก็มีทั้งหมด 3 คน โดยเราออกจากกรุงเทพเช้าวันที่ 11 เนื่องจากว่าเป็นคิวที่ว่างตรงกันสุดแล้ว แต่ว่าสำหรับตัวเราเองคืนวันที่ 10 ก็ต้องทำงานพิเศษกว่าจะได้กลับบ้านนอนก็ตี 3 เกือบตี 4 แล้ว ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถทางไกลครับ 11 ธ.ค. 2552 สำหรับวันแรกนั้นเราจะไปที่นอนกันที่อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน จังหวัดน่านครับ โดยเราเก็บสมาชิกทั้งหมดที่ Tesco บางนาตอนประมาณแปดโมงเช้า แล้วก็ยิงยาวมาทางวงแหวนตะวันออกลงบางปะอินแล้วก็เข้าสายเอเซีย ก่อนจะมุ่งหน้าไปนครสวรรค์ เนื่องจากทั้งทริปนี้เท่าที่คำนวณดูแล้ว ค่อนข้างขับรถเยอะ เลยเข้าไปไหว้พระพุทธชินราชที่พิษณุโลก lat 16.823672 lon 100.262239 พอช่วงปีใหม่ทีไรส่วนใหญ่จะมีโอกาสได้มาไหว้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว มาทีไรก็สบายใจทุกครั้ง อ้อ คราวนี้เสี่ยงเซียมซีด้วย ออกมาสองติ้วก็เลยเก็บมาทั้งคู่ สรุปว่า ผลเหมือนกันเลย แล้วเราก็พักกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ซึ่งร้านจะอยู่แถวๆนั้นแหละหาไม่ยาก อยู่ฝั่งแม่น้ำน่านออกมาจากวัดสัก 200 เมตรน่าจะได้ หลังจากที่กินก๋วยเตี๋ยวกันเรียบร้อยเราก็แวะซื้อเสบียงที่ Tesco พิษณุโลก ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปยังอุตรดิถต์ แพร่ น่านต่อไป โดยทางหลวง 101 เพื่อความปลดภัยในการขับขี่เราก็เลยเร่งทำเวลา มาถึงร้องกวาง จังหวัดแพร่ตอนประมาณ 3 โมงกว่าๆ 4 โมงได้ แล้วก็ตุนเสบียงครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าขุนสถาน ทางไปขุนสถานเราใช้เส้นทาง 1216 ขับไปเรื่อยๆ บรรยากาศรอบข้างก็ธรรมชาติดี ยิ่งขับขึ้นไปเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นจนไม่ต้องเปิดแอร์เลยทีเดียว สดชื่นมาก ทางก็ขับไม่ยากสามารถไปได้เรื่อยๆ ทางคดเคี้ยวเป็นระยะแก้หลับ เรามาถึง อุทยานแห่งชาติขุนสถานตอนประมาณ 5 โมงเย็น อากาศเย็นสบายมาก มาถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต๊นท์ เจ้าหน้าที่ก็อำนวยความสะดวกดีทีเดียว แถมเต๊นท์ที่เราจองไว้ก็ ทำเลดีทีเดียว ไม่มีคนเท่าไหร่ แถมติดกับจุดชมวิวด้วย ลองมาดูรูปถ่ายบริเวณที่พักกัน อุณหภูมิสำหรับการนอนเต๊นท์ของเราอยู่ที่ประมาณ 10 องศา กับความชื้นประมาณ 70% น้ำค้างแรงจนทะลุเต๊นท์เลยทีเดียว แต่ความสวย สงบ และธรรมชาติทั้งหมดก็มีมารมาผจญจนได้ ปรากฎว่ามีคณะท่านๆ VIP มาเที่ยวพอดี เที่ยวไม่เที่ยวเปล่าปรากฎว่า มาร้องคาราโอเกะกันด้วย ไม่ได้ร้องคาราโอเกะธรรมดา แต่ว่าต่อลำโพงออกกันเลยทีเดียว มาอยู่ในป่าเขาขนาดนี้แล้ว ฟ้าก็มืดเร็ว เพลงก็เลยมาเร็ว ขุนสถานเป็นการนอนอุทยานครั้งแรก แต่ไปครั้งแรกผมกลับเจอคณะผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้จิตสำนึกในการท่องเที่ยว การไปอุทยานคือการไปใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกับผู้อื่น แต่นี่เริ่มร้องกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด ทุ่มนึงก็แล้ว สองทุ่มก็แล้ว ร้องไม่ใช่ร้องธรรมดานะครับ แต่ว่าเปิดลำโพงออกมาเลย เหมือนกับว่าท่านมาปิดรีสอร์ทเหมารีสอร์ทเฉพาะกลุ่มท่าน แต่นี่มันไม่ใช่ นี่มันอุทยานแห่งชาติ เพลงที่เลือกมาก็แน่นอนครับว่าเป้นเพลงยุคท่านๆ ทั้งนั้น ว่าเสียงดังนอนไม่หลับขนาดนั้น ผมลองเดินไปอัดคลิป VDO ไว้ กะว่าจะมาอัพโหลดไว้ที่ youtube แต่ว่ามันมืดแล้วกล้องก็อัดเสียงได้ไม่ค่อยชัดเเท่าไหร่ เสียงที่ได้มาเป็นเสียงจั๊กจั่นซะมากกว่า เสียงควายไม่ค่อยได้ยิน จะเดินไปถ่ายใกล้ๆก็อาจจะโดนอุ้มอีก วันรุ่งขึ้นพอไปจ่ายเงินได้แต่บ่นกับเจ้าหน้าที่ว่าเสียงคาราโอเกะแย่มากจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่รับว่าจะบอกหัวหน้าอุทยาน ก็เข้าใจเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ตัวปัญหาคือผู้ใหญ่กะโหลกกะลาแบบนี้มันเยอะเหลือเกินในบ้านเรา แต่ก็น่าดีใจที่ว่ามีผู้ที่ไปเที่ยววันเดียวกัน ได้รับประสบการณ์แย่ๆ แบบเดียวกัน มาตั้งกระทู้ในพันทิปแล้วเป็นกระทู้โหวตอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีการแสดงความรับผิดชอบจากอธิบดี เรียน นักท่องเที่ยวทุกท่านทราบ.......... กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และต้องขอโทษสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการให้บริการนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ด้วยที่ไม่ได้รับความสะดวก จึงขอชี้แจงมาให้ทราบว่าทาง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการและกำชับให้ อุทยานแห่งชาติฯ 148 แห่งทั่วประเทศทราบโดยให้บริการนักท่องเที่ยวให้เกิดความพึ่งพอใจสูงสุด สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด ทาง กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะได้แจ้งให้หน่วยงานปกครองทราบ ระเบียบปฏิบัติ ในการเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอแสดงความเสียใจมาอีกครั้งหนึ่ง และนักท่องเที่ยวท่านใดที่มีข้อเสนอแนะสามารถติดต่อโดยตรงกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทรศัพท์มือถือ 081-6410099 , 081-3766174 หลังจากบ่นช่วงแรกแล้วเข้ามาชมรูปตอนเช้าต่อดีกว่า พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นช้าแฮะ หลังจากกินมาม่าคัพกันก็จ่ายเงินค่าเต๊นท์ไป 360 บาท สรุปข้อดีของขุนสถานคือว่า ที่นี่ยังธรรมชาติมาก ถ้าได้พักบ้านพักน่าจะสวยมากเพราะว่ามุม 360 องศาเลยทีเดียว การเดินทางไม่ลำบากมากนัก ส่วนห้องน้ำยังเป็นแบบนั่งยองอยู่ แล้วก็รวมกับเครื่องทำน้ำอุ่น แต่อากาศหนาวอย่างนี้คงไม่ได้อาบอะ เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวมาต่อตอนต่อไป Free TextEditor   Create Date : 21 มกราคม 2553     Last Update : 21 มกราคม 2553 5:48:59 น. Counter : 1329 Pageviews.   6 comment Share Tweet

REVIEW -- NAGAYA @ สวนผึ้ง แถม SCENERY RESORT ด้วย ไปเที่ยวสวนผึ้งที่ NAGAYA เนื่องจากง่วง เราจะอัพรูปขึ้นไปก่อนส่วนเนื้อหาจะตามมาในเร็ววัน เปลี่ยนใจอัพเลยดีกว่า เนื่องจากช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้ลาพักร้อนซะที เพราะร้อนเหลือเกิน หันซ้ายแลขวาไม่ปรากฎว่าเพื่อนๆว่างตรงกันสักที ถ้างั้นขอใช้ล่วงหน้าไปสำรวจรีสอร์ทให้ก่อนนะจ๊ะ เราก็เลือกแพ็คเกจที่ซื้อไว้จากงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 15 เลือกที่จะไปสวนผึ้งก่อนเนื่องจากว่าจะเข้าหน้าฝนแล้ว เที่ยวพวกป่าๆเขาๆน่าจะดี แต่ปรากฎว่าสงสัยจะเล็งวันมาดีจัดฟ้ามืดมาเชียว เอ่อ แล้วอยู่ที่สวนผึ้งจะเป็นไงเนี่ย มืดได้ใจมั๊ยครับ บรรยากาศมาคุสุดๆ การเดินทางไปสวนผึ้ง เราใช้เส้นทางวงแหวน มาออกที่บรมราชชนนี แล้วตรงดิ่งผ่านพุทธมณฑล ออกนครชัยศรี แล้วก็ผ่าน นครปฐม ก่อนจะเข้าราชบุรี โดยแวะกินก๋วยเตี๋ยวไข่ก่อน จะต่อมาที่ถนน 3208 ซึ่งสภาพถนนเป็นสองเลนสวน พื้นผิว โอเค หลังจากขับรถมาเฮือกใหญ่ๆ อีก 5 กิโลเท่านั้น ตรงนี้ขับไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายกันดีแล้วกันนะครับ พยายามหาป้ายของ scenery resort ไว้ ถ้าเจอก็ตามนั้นเลย เพราะว่าสองรีสอร์ทนี้ มันอยู่ใกล้กันแค่เดินถึงนั่นเอง แต่เนื่องจากบัตรที่มีอยู่เป้นของนากาย่าดังนั้น เราก็จะเลี้ยวขวา ขับรถไปตามทางแล้วจอดได้เลย ถึงจุดหมายแล้ว คราวนี้เนื่องจากว่าวันที่ไปไม่มีแขกพักเลย อารมณ์แบบว่าเจ้าของรีสอร์ทสุดๆ ดังนั้นก็เลยขอเค้าเข้าห้องนู้นออกห้องนี้เต็มไปหมด วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหนเนื่องจากขณะนี้ฝนก็ยังตกอยู่ ปัจจุบัน nagaya มีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง โดยที่เป้นตึกเดียวกัน 6 ห้อง กับบ้าน 1 หลัง แต่จากการสำรวจแล้ว ส่วนที่เป็นตึกเวิร์คกว่าอย่างเห้นได้ชัดนะในมุมมองเรา ทีนี้มาลองดูห้องพักกัน อันนี้เป็นห้อง 1 ใน 4 ของชั้นล่าง ซึ่งก็มีพื้นต่างๆ อำนวยความสะดวกตามสมควร ที่ชอบอีกอย่างคือว่า บ้านมันสีขาว แต่ถ่ายรูปออกมาม่วงสวยดีแฮะ อันนี้ก็ห้องพักอีกห้องนึง ทางรีสอร์ทจะตกแต่ง แตกต่างกันไป แต่ละห้องจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว บางห้องก็มีสองเตียง บางห้องก็เตียงเดียวแต่ใหญ่หน่อย นี่ก็อีกแบบนึง ถ่ายทุกห้อง เลยจำไม่ได้ละ 55 น่าพักทุกห้องเลย นี่กะว่าถ้าที่บริษัทพาไปเที่ยวจะเสนอที่นี่นะเนี่ย ทีนี้ลองมาดูห้องพักของวิลล่าบ้าง วิลล่าหรือ mount เนี่ยจะแยกออกไปเลย อีกโซนนึง เป็นส่วนตัวมาก คือไม่ใกล้ใครเลย เหมือนก้อนอะไรสักก้อนนึงมะ ห้องนอนขนาดไม่ใหญ่กว่ากันสักเท่าไหร่ เหมือนจะแคบกว่าด้วยซ้ำ หลังจากดูภายในห้องพักแล้ว ออกมาดูพื้นที่ข้างนอกกันบ้างนะ จะเห็นว่าชั้นล่างจะมี 4 ห้อง ข้างบนอีกสอง ชั้นล่างจะดีตรงที่ใกล้กับบ่อน้ำ ปลาเต็มบ่อเลย บรรยากาศที่พักอีกมุมนึง คราวนี้มาดูปลากัน เยอะมะ มุมนี้เป้นมุมที่มองเห็นรีสอร์ทเพื่อนบ้าน ตรงนั้นเป้นที่เลี้ยงแกะ ส่วนมุมนี้ก็เป้นอีกมุมที่แบ่งพื้นที่ระหว่าง nagaya กับ scenery ทางขวามือเป้นพื้นที่ของ scenery ส่วนจรวดๆนั่นเป้นของ nagaya เป้นที่เก็บเตาบาร์บีคิว อันนี้เป้นส่วนของบริเวณที่พักทั้งหมด ก้ต้องถือว่าน่าประทับใจ อาหารการกินของรีสอร์ทก็รสชาติดีทีเดียว ไม่แพงเท่าไหร่ แต่แอบเห้นขึ้นราคาจากปีก่อนๆ (ไปอ่านรีวิวของคนอื่นเลยรู้ราคา แต่ก็เอาเหอะ เพราะว่ากว่าจะเข้าเมืองไปเนี่ยไกลอยู่ ประมาณ 20 กิโล ถึงจะเจอ 7eleven ตู้ ATM ก็อยู่ตรงนี้แหละ ที่พูดถึงตู้ ATM ก็เพราะ NAGAYA ไม่รับบัตรเครดิต ต้องบอกว่านี่เป็นข้อไม่ประทับข้อเดียของทริปนี้ นอกนั้นผ่านฉลุย)   สำหรับทริปสวนผึ้งนอกจากจะพักที่ NAGAYA แล้ว เราจะยังพาเที่ยวบริเวณข้างเคียงด้วยว่า ถ้าไปสวนผึ้งแล้วควรจะไปที่ไหนต่อกันบ้าง สำหรับคนที่พัก NAGAYA แนะนำว่าไม่ควรพลาด SCENERY RESORT ที่อยู่ติดกันนั่นแหละ ใกล้ดี สามารถเดินถึงได้สบายๆ จริงๆเหมือนกับว่ามันเป็นรีสอร์ทเดียวกันมากกว่าอะนะ ตรงนี้เป็นบริเวณด้านหน้า มีลานเลี้ยงแกะกับ ร้านอาหาร ไม่ได้ใช้บริการเลย เลี้ยงแกะซื้อหญ้ากำละ 40 บาท ต้องใส่ผ้าคลุมด้วยกันแกะติดเชื้อ อันนี้ถ่ายมุมไกลออกมาหน่อย หญ้าเขียวสะใจดี ทางด้านนี้ก็เป็นบริเวณที่เลี้ยงแกะกับวัว มีที่ยิงธนูด้วย คราวนี้จะพาแวะเข้ามาต่อที่ร้านขายของฝาก ส่วนใหญ่ก็มีแต่แกะทั้งร้านเลย ที่กำแพงจะมีรูปดาราเต็มไปหมด ของกระจุกกระจิกเต็มไปหมด ชุดประจำตัว น่ารักดีเนอะ คราวนี้จะพาต่อที่ห้องพักที่ได้เข้าไปดูมา แบบบ้านก็ใหญ่ดี และก็แยกเป็นหลังๆเลย รู้สึกว่าปัจจุบันจะมีทั้งหมด 7 หลัง แบบแรก แบบที่สองที่ไม่ได้เข้าดู แบบที่สามที่ได้เข้าดูละ มีดาดฟ้า สำหรับนอนดูดาวด้วย โรแมนติกมาก เข้ามาก็จะเจอกับโซนพักผ่อนก่อน ติดกับห้องน้ำ เปิดหน้าต่างจ๊ะเอ๋ได้ด้วย อ่างอาบน้ำก็ใหญ่ดีนะ น่าแช่อยู่ เตียงนุ่มๆ เนื่องจากที่ scenery นี่ จะมีคนมาถ่ายรูปเกี่ยวกับแต่งงาน หรือมาจัดงานแต่งกันบ่อย ก็เลยได้รูปนี้มา     คราวนี้จะพาเที่ยวสถานที่ธรรมชาตินิดนึง คือธารน้ำร้อนบ่อคลึงกับน้ำตกเก้าโจน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ ธารน้ำร้อนบ่อคลึงเป็นของเอกชน ถ้าอยากแช่ เค้าก็จะให้เปลี่ยนชุดอาบน้ำก่อนจะไปแช่ จ่ายตั่งค์ด้วย ส่วนรูปนี่เป็นต้นกำเนิดธารน้ำร้อน ซึ่งก็ร้อนพออุ่นๆ อันนี้เป็นสะพาน ในบริเวณน้ำตกเก้าโจน ซึ่งวันที่ไปก็เดินไปเยอะแยะเหมือนกัน แต่ว่าฝนตกก่อนหน้า น้ำก็เลยแดงๆ ไม่สามารถเล่นได้   สรุปทริปท่องธรรมชาติ ไม่ประสบความสำเร็จแฮะ มาประสบความสำเร็จที่บ้านเทียนหอมซึ่งสวยมาก บ้านเทียนหอมจะร้านขายเทียน มีร้านอาหาร แต่งร้านแบบสวยๆ เหมาะแก่การเเวะมากๆ สำหรับคนที่มาสวนผึ้ง มีเทียนให้เลือกมากมาย สีสวยๆ ซื้อมายังไม่ได้ลองจุดเลยว่าหอมจริงหรือเปล่า ก็เป็นอันว่าจบทริปสวนผึ้ง ราชบุรี NAGAYA SCENERY และบ้านเทียนหอมแต่เพียงเท่านี้นะครับเจอกันทริปหน้า     Create Date : 14 มิถุนายน 2552     Last Update : 14 มิถุนายน 2552 20:22:15 น. Counter : 4086 Pageviews.   7 comment Share Tweet

สรุปว่าได้อะไรในไทยเที่ยวไทย ผลจากการไปงานไทยเที่ยวไทยครั้งนี้ ทำให้เราได้เตรียมตัวท่องเที่ยว ได้หลายครั้งเลย เริ่มจาก HAVEN หัวหิน ต่อไปปัตตาเวีย อันนี้สระว่ายน้ำใหญ่ดี  รายการต่อไป NAGAYA ราชบุรี อันนี้เป็นบ้านดินหรือบ้านปูนไม่แน่ใจ เล็กๆดี ท่าทางเป็นส่วนตัว สุดท้าย ยังไม่เปิดแต่จองไว้ก่อน fanari resort เกาะเต่า   Create Date : 08 มีนาคม 2552     Last Update : 8 มีนาคม 2552 23:38:52 น. Counter : 573 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Home Review
• Travel
• Work, Work, Work
• Home Gallery
• Bedroom Gallery

• สีไม้น้ำ
• kittycool
• i_am_np
• kwiswis
• นายแว่นธรรมดา
• Lux Lux
• phefi
• KittySP
• แม่น้องเบสท์
• saifan
• wbj
• amuro4ever
• JIKA HOME
• ชานไม้ชายเขา
• notey & pypy
• เพิร์ล
• MARON CREAM
• dek-marketing
• ลูกเป็ดขี้เกียจ
• bobopink
• nandyl
• Webmaster - BlogGang

• BkkHome.Blogspot.com
• Thailand Tourlism
• Thai Retail
• BlogGang.com