Bloggang.com : ชีวานรินทร์ -

Group Blog

All Blog

เทคนิคการเอาภาพมาขึ้นปกสมุดสุดเริ่ดด้วย :Photoshop CS

สวัสดีครับ วันนี้ผมหา actions
สนุก ๆ และเก๋กู๊ดมาฝากกันครับ โดยที่ Actions
นี้จะทำให้รูปโปรดของเรากลายเป็นหน้าปกของสมุดโน๊ตเล่มโปรดครับ
ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองเองดูภาพตัวอย่าง ก่อนครับ

finish11

รูป
นี้ไม่ใช่รูปผมนะครับ ถึงจะคล้ายกันมากก็ตาม แต่ยืนยันครับว่าไม่ใช่ ^^

เห็น
ตัวอย่างกันไปแล้ว ถ้าถูกใจ ลองมาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าครับ ขอบอกว่าง่ายมาก
ๆ สไตล์เว็บ photoshopdd.com ครับผม (แอบใส่ชื่อเว็บซักนิด อิอิ)

ขั้น
ที่ 1 ดาวโหลด actions นี้ไปก่อนครับ

จาก
นั้นแตกซิบไฟล์ออกมา ด้วยโปรแกรม winrar หรือ winzip หรือ 7zip ก็ได้นะครับ
แล้วแต่ถนัดเลย ก็จะได้ไฟล์หน้าตาแบบนี้ไปครับ

011

เก็บ
ไว้ที่ไหนก็ได้นะครับ ที่หาได้ง่าย ๆ อย่างผมเองเก็บไว้ที่บนตู้กับข้าวเลย
(ไม่ใช่ละ)

ขั้น
ที่ 2 เปิดโปรแกรม Photoshop ของเราขึ้นมาครับ อ้อ ..
ลืมบอกอย่างนึง actions นี้รองรับ Photoshop cs2 ขึ้นไปนะครับ
ต่ำกว่านี้ใช้ไม่ได้

เมื่อ
เปิดขึ้นมาแล้ว ให้เปิดไปที่พาแนล Actions ครับ โดยส่วนมากจะอยู่ติดกับ
History แต่ถ้าหาไม่เจอ ให้ไปที่เมนู Windows > Actions นะครับ พาแนล
actions ก็จะออกมาให้ยลโฉมในบัดดล เมื่อเจอพาแนล Actions แล้ว
ให้กดไปที่ปุ่มลูกศรสามเหลี่ยม เล็ก ๆ ตรงขวามือของคำว่า Actions ครับ
จากนั้นกดคำว่า Load Actions ครับ

021

เรา
ก็จะได้หน้าต่างใหม่ออกมา ให้เลือกไฟล์ที่เราเพิ่งโหลดไปครับ

031

โดย
เราจะมีให้เลือก 2 ไฟล์ สำหรับภาพแนวนอนและแนวตั้งครับ เพื่อน ๆ
จะเลือกอันไดอันหนึ่ง หรือเลือกทั้งสองเลยก็ได้

กด
OK แล้ว จะได้ Actions ใหม่เพิ่มขึ้นมาตามภาพครับ

041

ผม
เลือกทั้งสองไฟล์ครับ มันก็มาทั้งสอง Actions แบบนี้แล

ขั้น
ที่ 3 ถึงคราวลงมือปฏิบัติการกันแล้วววว

ให้
เลือกไปที่ Actions ที่เราต้องการครับ ถ้ารูปของเราเป็นแนวนอนก็เลือกที่
PFx_SPIRAL BIND Landscape photos แต่รูปที่ผมจะทำเป็นตัวอย่างให้เพื่อน ๆ
ดูเป็นแนวตั้ง ผมก็เลยเลือกที่ PFx_SPIRAL BIND portrait photos ครับ
โดยการกดไปที่ รูปสามเหลี่ยมหน้าชื่อแอ็คชั่นที่เราเลือก ให้มันชี้ลง
จะมีขนาดภาพแสดงออกมาให้เราเลือกเพียบเลยครับ ผมต้องการขนาดภาพที่ 400 px
ก็กดไปที่ 400 px (ตามภาพ) จากนั้นก็ไปกดปุ่ม Play (ตามภาพ) ครับ

051

ขั้น
ที่ 4 จะมีหน้าต่างใหม่เด้งขึ้นมาครับ
ให้เราเลือกรูปที่เราต้องการจะทำครับ จากนั้นกด OK ได้เลย

origi1

นี่
เป็นตัวอย่างรูปที่ผมเตรียมไว้ครับ .. แน่นอนว่าถึงจะเหมือนมาก
แต่ก็ไม่ใช่รูปผมเช่นกัน

จาก
นั้น ตัวโปรแกรมก็จะรัน Actions ให้เราเองจนเสร็จครับ
ก็จะได้รูปที่เอาต้องการออกมาแล้ว

finish2

สวย
งามมมมมมมมมมมม

เทคนิค
ลับในตำนาน*

มี
เทคนิคสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบสีแบ็คกราวสีเทา ๆ นะครับ
ก็สามารถเปลี่ยนสีได้ง่าย ๆ ครับ โดยไปที่ Layar ล่างสุดครับ
แล้วก็เทสีใหม่ลงไปทับได้เลยครับ

071

เล
เยอร์ล่างสุดชื่อ Canvas นี่แหละครับ

เป็น
ไงบ้างครับ หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชื่นชอบกันนะครับ แล้วถ้าเพื่อน ๆ
คนใหนลองแล้วติดใจ ชอบมากมาย หรือมีเทคนิคเพิ่มเติม
สามารถเอาภาพที่ทำแล้วไปโพสต์โชว์ได้นะ

เครดิต

photoshopdd.com

Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2553 17:05:30 น.
Counter : 3592 Pageviews.

0 comment

การทำข้อความแบบมีเวทมนต์(Harry Potter)

ในบทความนี้เราจะมาใส่เอฟเฟคให้กับข้อความค่ะ
โดยทำให้ดูเหมือนข้อความเวทมนต์ จะเหมือนเวทมนต์จริงหรือปล่าว
ลองเข้ามาดูได้ที่นี่ค่ะ

เรามาเริ่มต้นลงมือทำกันเลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 1
เริ่มแรกเลย... สร้างชิ้นงานขึ้นมาใหม่ โดยการใช้คำสั่ง File --> New แล้วเทสีให้พื้นหลังเป็นสีดำค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 ใช้ Type Tool สร้างข้อความ
โดยให้ข้อความมีสีขาวดังภาพค่ะ

ขั้นตอนที่ 3 ทำการ Double Click ที่เลเยอร์ข้อความ
จะทำให้ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Layser Style
ให้เลือก Style แบบ Outer
Glow จากนั้นปรับค่าต่าง ๆ ดังภาพค่ะ จากนั้นคลิกปุ่ม OK

ขั้นตอนที่ 4
ถึงขั้นตอนนี้เราจะได้ข้อความที่มีขอบสีฟ้าเรือง ๆ แล้วนะค่ะ ให้เราทำการ Copy Layer
ของข้อความค่ะโดยการคลิกขวาที่เลเยอร์ข้อความ จากนั้นเลือกคำสั่ง Duplicate Layer... จะทำให้ได้เลเยอร์ข้อความขึ้น
อีกหนึ่งเลเยอร์

ขั้นตอนที่ 5
ให้คลิกเลือกที่เลเยอร์ข้อความใหม่ที่ได้จากการ Copy
Layer จากนั้นใช้คำสั่ง Filter --> Blur
--> Motion Blur จากนั้นปรับค่าดังภาพ แล้วคลิกปุ่ม OK ก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 6 เมื่อถึงขั้นตอนนี้เรามาใส่
ลูกเล่นให้ข้อความอีกซักหน่อย โดยการใช้ Brush
เพิ่มเติมให้กับข้อความ โดยการสร้าง Layer
ใหม่เพิ่มขึ้นค่ะ โดยการกดคีย์ลัด Shift + Ctrl + N ค่ะ
ก็จะมีเลเยอร์ใหม่เพิ่มขึ้น

จากนั้นให้ทำการเลือกเครื่องมือ Brush Tool จาก Tool
Box จากนั้นให้เราเลือกหัวแปรง โดยคลิกที่ Option
Bar จากนั้นคลิกที่ตำแหน่ง A
ในภาพค่ะ แล้วเลือกเป็นแบบ Wet Media Brushes
ที่ตำแหน่ง A1 ค่ะ

พอถึงขั้นนี้หัวแปรงที่ในบริเวณกรอบสีเหลี่ยมก็จะเปลี่ยนเป็นแบบ Wet Media Brushes
ให้ทำการเลือกหัวแปรงจากบริเวณกรอบสี่เหลี่ยมที่ชื่อว่า Scattered Dry Brush Small Tip (เอาเมาส์ชี้สักพัก
จะมีชื่อปรากฏให้เห็น) ตามภาพค่ะ

เมื่อเลือกหัวแปรงได้แล้ว ให้เราเลือกสี foreground
เป็นสีขาว จากนั้นคลิกเมาส์ลงบนเลเยอร์ที่เราได้สร้างเตรียมไว้
ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นลักษณะจุด ๆ ปรากฏขึ้นค่ะ (อันนี้ก็ใสพอประมาณนะค่ะ
เอาพอสวยไม่ต้องมากเกินไป)

เราอาจเพิ่มความสวยให้ข้อความโดยใส่ประกายแสงให้ข้อความอีกสักเล็กน้อย
โดยการทำเหมือนการเปลี่ยนหัวแปรงในครั้งแรก โดยเลือกเครื่องมือ Brush Tool จาก Tool Box จากนั้นให้เราเลือกหัวแปรง
โดยคลิกที่ Option Bar จากนั้นคลิกที่
ตำแหน่ง A ในภาพค่ะ แล้วเลือกเป็นแบบ Assorted Brushes ที่ตำแหน่ง A2
ค่ะ หัวแปรงที่ในช่องสีเหลี่ยมก็จะเปลี่ยนไป ให้เราเลือกหัวแปรงชื่อ Crosshatch 4 ขนาดหัวแปลง 30
จากนั้นก็คลิกเมาส์ลงบนเลเยอร์เดียวกับขั้นตอนแรก
แต่ให้หัวแปรงอยู่ตรงตำแหน่งของตัวอักษร (ดูตัวอย่างจากรูปสุดท้าย)

ขั้นตอนที่ 7
ยังไม่สวยค่ะ เพระเป็นแค่จุดสีขาว ๆ ยังไม่มีประกาย ให้เราทำการ Double Click ที่เลเยอร์ เพื่อเรียกใช้งาน Layser Style
ซึ่งจะมีไดอะล็อกบ็อกซ์ปรากฏขึ้นให้เราเลือกใส่ Style
แบบ Outer Glow จากนั้นปรับค่าต่าง ๆ
ดังภาพค่ะ จากนั้นคลิกปุ่ม OK

ขั้นตอนที่ 8
ข้อความของเราก็จะดูเป็นประกาย แต่ดูยังไม่ค่อยเจิดจ้าเท่าไหร่ ให้เรา
ทำการ Copy Layer ค่ะโดยการคลิกขวาที่เลเยอร์
ที่เป็นภาพประกาย จากนั้นเลือกคำสั่ง Duplicate
Layer... จะทำให้ได้ข้อความที่มีประกายสวยงามมากยิ่งขึ้น

และแล้ว ก็เสร็จซะที ดูสวยเหมือนเวทมนต์ไหมค่ะ?...
บทความนี้อาจจะยากและยาวซักนิด ในส่วนของการเลือกใช้งาน Brush แต่ก็คิดว่าน่าจะทำให้เพื่อน ๆ
ได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบของ Brush
มากขึ้นค่ะ

Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2553 17:01:56 น.
Counter : 1416 Pageviews.

2 comment

การ merge หรือการรวมหรือต่อรูป

1.เปิดไฟล์รูปที่ต้องการ merge รูปทั้งหมด

2. เลือก
File--->Automate--->Photomerge

เมื่อขึ้นหน้าจอตามด้านล่าง ให้คลิกที่ OK

3. โปรแกรมจะทำการ merge รูปให้โดยอัตโนมัติ เมื่อ merge
เสร็จแล้ว ให้คลิกที่ OK

เมื่อคลิก OK แล้วก็จะได้รูปตามด้านล่าง

4. ต่อไปต้องทำการ crop รูป เพื่อให้ได้รูปที่สมบูรณ์
โดยเลือก Rectangular Marquee Tool --->
ลากกรอบที่รูป

เลือก Image--->Crop--->
ได้รูปที่ merge เรียบร้อยแล้ว

รูปที่เสร็จสมบูรณ์

Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2553 16:58:31 น.
Counter : 1381 Pageviews.

0 comment

มาทำภาพที่ถ่ายมาแล้วมืด ให้สว่างใสกิ๊กกันดีกว่า

มาทำภาพที่ถ่ายมาแล้วมืด
ให้สว่างใสกิ๊กกันดีกว่า

เทริคนี้สั้นๆได้ใจความครับ ผมใช้บ่อยเลยเขียนมาให้เพื่อนๆลองใช้กันดูบ้าง
ได้ผลที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจครับ

*
ทำความเข้าใจก่อนสำหรับการปรับแสงให้ขาวขึ้นนะครับ *

-
รายละเอียดภาพจะต้องไม่ลดลงมาก
- ที่สำคัญจะต้องเนียนๆหน่อย
ถ้าเราปรับแสงมากเกินไปมันจะดูเหมือนไป Fake ทำคับ

เปิดภาพขึ้นมาครับ
เลือกรูปที่จะปรับแสงเลย

กด Ctrl+B เรียก
Color Balance ขึ้นมาครับ เลือกไปที่ Highlights

ปรับได้แล้วเลือก
ปรับ Level ต่อ โดยการกด Ctrl + L

จากนั้นไปที่
Images > Adjustment > Brightness/Contract

สร้าง Layer
ใหม่ขึ้นมาไว้บน layer เดิม แล้วไปที่ Filter > Blur > Glussien Blur

ปรับ
Bleeding option เป็น Screen และลด opacity ตามความเหมาะสมจ้า

เสร็จแหล่
วว

ที่มา

www.psdthai.com

Free TextEditor

Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2553 16:44:10 น.
Counter : 9613 Pageviews.

1 comment

วิธีแก้ไขปัญหา Error 180° ใน Photoshop CS3 จากการเปลี่ยนหัวแปรง Spot Healing Brush Tool

วิธีแก้ปัญหาการเกิด Error เวลาที่เราเปลี่ยนหัวแปรงของ Spot Healing
Brush Tool

ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Bug ของ Photoshop เวอร์ชั่นนี้ครับ
ภาพที่แนบมา

ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อเรา ต้องการที่จะเปลี่ยนขนาดหรือ Hardness
ของหัวแปรงใน Photoshop CS3

แล้ว มันเกิด Error แบบนี้ขึ้น

ภาพที่แนบมา

ถ้า
Error นี้เกิดขึ้นตอนเรากำลังแต่งรูปจนเกือบเสร็จแล้ว
แถมจำไม่ได้แล้วว่าแต่งอะไรไปแล้วบ้าง

ปัญหาก็จะมาเยือนครับ เพราะเราต้องปิดโปรแกรมโดยการเปิด Task Manager แล้ว
End Process ปิด Photoshop ไปเลยโดยที่ยังไม่ได้เซฟงาน

ถือว่าเป็นเรื่องเศร้าของเราเลยที เดียวครับ

วิธีแก้แบบปลายเหตุ ทำได้ไม่ยากครับ

หากกำลังแต่งภาพอยู่ แล้วต้องการใช้ Healing Brush Tool
เมื่อเราปรับหัวแปรงหรือ Hardness ของหัวแปรง จะเกิด Error
ข้างต้นขึ้นให้ทำดังนี้

คลิก OK ในข้อความ Error จนกว่าโปรแกรมมันจะพอใจ
แล้วเราจะมาปรับค่าต่อได้ แต่ถ้าปรับไม่ถูกต้อง มันจะขึ้น Error อีก
ดังนั้น ต้องระวังและทำตามขึ้นตอนต่อไปเลยครับ