Group Blog
 
All Blogs
 

80ความดีถวายในหลวง

เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2550 ที่กำลังจะมาถึง อีกทั้งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนำเสนอ 80 วิธีทำดีต่อตนเอง ต่อสังคมรอบข้าง ตลอดจนประเทศชาติ มาให้ทุกคนได้ลองเลือกไปปฏิบัติตามความถนัดและความชอบ เพื่อนำมาซึ่งความสุขและความสมานฉันท์ของชาติและเพื่อถวายแด่ “ ในหลวง ” ที่รักยิ่งของเรา ดังต่อไปนี้


- ทำดีต่อตนเอง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เราได้รู้สึกดีๆ และพร้อมที่จะแบ่งปันความสุขไปให้ผู้อื่น ได้แก่
1.ตื่นขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นทุกเช้า พร้อมยิ้มแย้มแจ่มใสรับวันใหม่
2.ไหว้พระก่อนออกจากบ้านเพื่อเตือนสติและเพื่อสิริมงคลแก่ตน
3.สวัสดีคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ก่อนและหลังกลับจากโรงเรียนหรือที่ทำงานทุกครั้ง
4.ตั้งใจไม่โมโห หรือไม่โกรธใคร อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วัน
5.ไม่พาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวง
6.อ่านหนังสือดีๆอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา และนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
7.พูดคำว่า “ ขอบคุณ ” หรือ “ ขอบใจ ” ทุกครั้ง เมื่อผู้อื่นทำอะไรให้ เช่น ช่วยถือของ ให้บริการ
8.อย่าลืม “ ขอโทษ ” เมื่อทำผิดต่อผู้อื่นทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ หรือเมื่อทำสิ่งใดผิดพลาด
9.มีหลักการ ยึดมั่นในคุณความดี และมีความเพียรพยายาม
10.ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ด้วยการตั้งใจทำสิ่งใด ก็เพียรทำให้สำเร็จ ไม่เบี้ยวแม้แต่กับตนเอง

-ทำดีต่อครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเราที่สุด และมีผลต่อความสุขของสมาชิกทุกคน ได้แก่
11.ลดการบ่นว่า ดุด่าคนในครอบครัวให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นลูก สามี/ภริยา พี่น้อง เพื่อลดความเครียดในบ้านและทำให้ทุกคนรู้สึกบ้านน่าอยู่ไม่ร้อนหูร้อนใจ
12.พาสมาชิกในครอบครัวไปกินอาหารนอกบ้านหรือไปเที่ยวบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
13.ช่วยกันลดรายจ่ายด้วยการไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น เพื่อมิให้เป็นหนี้สินหรือเงินไม่พอใช้
14. ไม่คิดจะมีกิ๊ก หรือเป็นชู้กับสามี/ภริยาผู้อื่น อันเป็นสาเหตุให้ครอบครัวเราและผู้อื่นเกิดความแตกแยก
15.พูดจาไพเราะ สุภาพกับสมาชิกในบ้าน ไม่ตะคอกด่าทอหรือจิกเรียกด้วยถ้อยคำหยาบคาย
16.มีสัมมาคารวะ และแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ในบ้านทั้งพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือพี่ป้าน้าอา เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลาน
17.มีน้ำใจกับคนในบ้าน เช่น ช่วยพ่อแม่ล้างถ้วยชาม ช่วยภริยากวาดถูบ้าน ช่วยพาพ่อ/แม่ของสามีหรือภริยาไปหาหมอ ซื้อของใช้ให้สามี/ภริยา
18.ไม่เอาแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ แต่รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในบ้าน เช่น ฟังสามี/ภริยา ฟังลูกว่าต้องการอะไรบ้างเพื่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกัน
19.พูดจาชมเชยและให้กำลังใจแก่สมาชิกในบ้าน เช่น ชมว่าแต่งตัวดี ทำกับข้าวอร่อย วาดภาพสวย เป็นต้น
20.พาครอบครัวไปทำบุญสร้างกุศลร่วมกันในโอกาสวันสำคัญต่างๆ เช่น วันเกิด วันวิสาขบูชา ฯลฯ เพื่อให้สมาชิกได้ใกล้ชิดกับพระศาสนา และได้เห็นแบบอย่างการทำดีอย่างเป็นรูปธรรม

-ทำดีต่อเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน หากปลูกไมตรีต่อกันได้ ย่อมจะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ดังนั้น จึงควรทำดีต่อกัน ดังนี้
21. ยิ้มและทักทายเมื่อพบกัน
22.ช่วยดูแล สอดส่องบ้านให้เมื่อเพื่อนบ้านไม่อยู่ หรือไปต่างจังหวัด หรือช่วยแจ้งเหตุหากมีสิ่งใดผิดปกติ
23.ซื้อของขวัญหรือของฝากไปให้บ้างตามโอกาส เช่น วันปีใหม่ วันตรุษจีน หรือเมื่อกลับจากต่างถิ่น เพื่อเป็นการผูกมิตรหรือขอบคุณเขาที่ช่วยดูบ้านให้
24.ไม่เลี้ยงสัตว์หรือปลูกต้นไม้ที่จะสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจมาสู่เพื่อนบ้าน หรือเป็นมูลเหตุให้เกิดการทะเลาะกัน เช่น สัตว์ส่งเสียงดังรบกวน หรือใบไม้ร่วงไปรกบ้านเขา
25.ไม่จอดรถขวางทางเข้าบ้านของเขา หรือในที่ที่เขาจอดประจำ
26.ไม่พาสัตว์เลี้ยงเช่น หมา แมว ไปอึหรือฉี่หน้าบ้าน ต้นไม้ของเขา
27.ไม่เปิดวิทยุ โทรทัศน์ หรือคาราโอเกะเสียงดังจนรบกวนเขา โดยเฉพาะในวันหยุด
28.ไม่ซ้อมดนตรี /จัดงานหรือส่งเสียงเอะอะ โวยวายรบกวนเพื่อนบ้าน ควรจะจัดเวลาซ้อมที่ไม่เช้าหรือดึกเกินไป หรือไม่ก็ควรจะไปซ้อมที่อื่น และไม่ควรพาเพื่อนมาตั้งวงกินเหล้าส่งเสียงดัง หนวกหูชาวบ้านเขาทุกอาทิตย์
29.ไม่กวาดขยะไปกองหรือทำสกปรกหน้าบ้านผู้อื่น ควรกวาดและเก็บใส่ถุงหรือถังขยะให้เรียบร้อย
30.ร่วมกิจกรรมสังสรรค์ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านหรือชุมชนของเราเองบ้างตามโอกาสอันควร

-ดีต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานของเราราบรื่น เกิดความสามัคคี และมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าของเราด้วย ได้แก่
31.ยิ้มแย้มแจ่มใส รู้จักโอภาปราศรัยต่อเพื่อนร่วมงาน ไม่ทำเมิน หรือทำหน้าเฉยเมยไร้ชีวิตเมื่อเจอกัน
32.ช่วยแนะหรือสอนงานที่เรามีความชำนาญให้
33.แสดงความยินดีหรือชมเชยเมื่อเขาประสบความสำเร็จหรือได้รับรางวัล
34.ซื้อของขวัญ ให้เงิน หรือการ์ดอวยพรในโอกาสต่างๆ เช่น วันเกิด วันแต่งงาน คลอดลูก
35.แสดงความเสียใจหรือปลอบใจเมื่อเขาประสบเหตุหรือโชคร้าย เช่น พ่อแม่ตาย ถูกขโมยขึ้นบ้าน
36.ช่วยเหลือ ตักเตือนหรือชี้แนะเมื่อเขาทำผิดพลาดด้วยความจริงใจ ไม่ซ้ำเติม
37.ไม่ขโมยผลงานของเขามาเสนอเป็นผลงานของเรา
38.ไม่ใส่ร้ายป้ายสี หรือยุยงให้เพื่อนร่วมงานแตกคอ หรือทะเลาะวิวาทกัน
39. แนะนำหนังสือ ร้านอาหาร วัด หรือสถานที่ดีๆแก่เพื่อนให้เขาได้ไปใช้บริการบ้าง
40.รู้จักอยู่ช่วยงานหรือร่วมกิจกรรมที่เพื่อนในหน่วยงานจัดขึ้น แม้จะมิใช่งานของเรา เพื่อจะได้รู้จักสนิทสนม และทำงานเข้าขากันได้มากขึ้น




-ดีต่อหน่วยงานหรือที่ทำงานของตน ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ประกอบอาชีพ ทำให้เรามีกินมีใช้ เราจึงควรต้องกตัญญูรู้คุณ ด้วยการ
41.ซื่อสัตย์ต่อหน่วยงาน ไม่โกงเวลา โกงทรัพย์สินของหน่วยงาน
42.ไม่นินทาว่าร้าย หรือดูถูกหน่วยงานของเราเอง หากเราคิดว่าไม่ดี ก็ควรออกไปหางานอื่นทำ
43.ตั้งใจทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
44.เมื่อเห็นสิ่งใดไม่ดีในหน่วยงาน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไข ไม่ใช่ซ้ำเติมหรือเมินเฉย
45.ให้บริการหรือพูดจากับผู้มาติดต่อกับหน่วยงานให้สุภาพ ไพเราะเพื่อให้เกิดความประทับใจที่ดี
46.ใช้ทรัพยากรต่างๆของหน่วยงานอย่างประหยัด คุ้มค่าให้เหมือนสมบัติของเราเอง
47.ไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ ทำลายระเบียบที่ดีจนหน่วยงานเละเทะ ยุ่งเหยิงเพราะต่างทำตามใจตนเองจนควบคุมไม่ได้
48.รู้จักเสียสละเพื่อหน่วยงานบ้างบางโอกาส เช่น ทำงานโดยไม่เอาโอ.ทีหรือร่วมลงขันจัดกิจกรรมให้หน่วยงาน
49.ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีให้หน่วยงาน เช่น แข่งกีฬาชนะเลิศ จัดทำโครงการดีๆเพื่อสังคม
50.ต้องมีความภาคภูมิใจในหน่วยงานของตน

-ดีต่อสังคม ซึ่งมีเราเป็นหน่วยหนึ่ง ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆตัวเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น เพราะจะเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร และความมีไมตรีจิตต่อกัน ด้วยการ
51.ส่งของกิน ของใช้ หรือเงินไปบริจาคมูลนิธิต่างๆเมื่อถึงวันเกิด หรือวันสำคัญอื่นๆของตน
52.ทำหนังสือชมเชยไปยังบุคคล หรือหน่วยงานที่ให้บริการที่ดีเพื่อเป็นกำลังใจ และเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น เช่นเขียนไปชมกระเป๋ารถเมล์ที่พูดจาดี ช่วยพยุงคนแก่ขึ้นรถ
53.ช่วยกันรักษาความสะอาดและถนอมใช้สมบัติสาธารณะให้มีอายุยืนนาน เช่น ไม่ขีดเขียนในห้องน้ำสาธารณะ ไม่ทิ้งขยะ/ถ่มน้ำลายบนถนนหนทางหรือในแม่น้ำลำคลอง
54.ช่วยกดลิฟท์ให้กับผู้ร่วมทาง หรือช่วยถือของหนักให้กับคนบนรถเมล์
55.ไม่แซงคิวใดๆที่เขากำลังเข้าแถวรอรับบริการ เช่น ซื้อตั๋วหนัง หรือเข้าส้วม
56.นำหนังสือดีๆ หรือหนังสือธรรมะ ไปบริจาคตามโรงพยาบาลรัฐ เช่น ห้องรอรับการรักษา ห้องพักผู้ป่วย ห้องพยาบาล เป็นต้น เพื่อเป็นการแนะวิธีปฏิบัติตน และช่วยปลุกปลอบใจ
57.ขับรถตามกฎจราจร มีน้ำใจให้กับรถคันอื่น ไม่แซงซ้ายป่ายขวา และจอดรถให้คนข้ามถนนบ้าง
58.อ่านหนังสือธรรมะ หรือหนังสือดีๆใส่เทป ซีดี ส่งไปให้คนตาบอดฟัง
59.รับเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ให้เด็กที่ด้อยโอกาสได้เรียนหนังสือ
60.ให้ความช่วยเหลือ/แนะนำแก่ผู้อื่นในสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยทำ เช่น แนะวิธีคาดเข็มขัดบนเครื่องบิน แนะวิธีใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายในฟิตเนส





-ดีต่อศาสนา อันเป็นเรื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และทำให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข เราจึงควรสืบทอดศาสนาให้ยั่งยืนต่อไปยังลูกหลานของเราด้วยการ
61.ศึกษาหลักธรรมในศาสนาของเราให้รู้จริง
62.ปฏิบัติตามธรรมะที่ศาสดาสอนไว้
63.ช่วยเหลือแนะนำผู้อื่นให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
64.ไม่ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาอื่น อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยก
65.ทำบุญตามหลักศาสนาของตนอย่างน้อยเดือนละครั้ง
66.สั่งสอนและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีกับอนุชนรุ่นหลัง
67.ไม่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือทำลายผู้อื่น
68.ไม่ใช้ศาสนาไปหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อในทางที่ผิด
69.หากเป็นพระ นักบวชต้องทำตนเป็นแบบอย่างและแนะแนวทางดำเนินชีวิตที่ถูกที่ควรแก่ศาสนิกชน
70.เชื่อมั่น และตั้งใจที่จะช่วยสืบทอดศาสนาทุกวิถีทางที่ดีและถูกต้อง

- ดีต่อชาติบ้านเมือง ซึ่งเป็นแผ่นดินถิ่นเกิดหรือให้เราได้อยู่อาศัย เราจึงควรตอบแทนด้วยการ
71.ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหรือตำแหน่งใด
72.ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่หาผลประโยชน์ใส่ตัวหรือพวกพ้อง และไม่คิดคอรัปชั่นหรือคดโกงด้วยวิธีการใดๆ
73.ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพของตน
74.ช่วยปกป้องหรือรักษาผลประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองเมื่อมีโอกาส
75.ไม่เมินเฉยหรือละเลยให้ผู้อื่นมาฉกฉวยผลประโยชน์จากชาติบ้านเมืองของเรา 76.ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
77.สอนลูกหลานให้รักและภาคภูมิใจในชาติของเรา
78.ตั้งใจศึกษาหาความรู้ และนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองอย่างเต็มที่
79.มีความรักความสามัคคีต่อกันในทุกระดับ
80.ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขของประเทศ

ทั้งหมดคือตัวอย่างการ “ ทำความดี ” อันหลากหลายที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้ แม้บางข้อดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่อย่าลืมว่าหากเราทุกคนตั้งใจทำ ความดีเล็กๆเหล่านี้ก็สามารถรวมเป็น “ พลังอันยิ่งใหญ่ ” ที่ทำให้ทุกคนเป็นสุข เพราะไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน และมีผลทำให้ชาติบ้านเมืองร่มเย็นได้ และน่าจะเป็นสิ่งที่ “ ในหลวง ” ของเรา คงทรงยินดีที่ราษฎรของพระองค์สร้างความดีแก่ตัวและผู้อื่นมากกว่าการสร้างถาวรวัตถุใดๆ ถวายพระองค์ท่านอย่ างแน่นอน




 

Create Date : 29 มกราคม 2550    
Last Update : 29 มกราคม 2550 12:36:51 น.
Counter : 603 Pageviews.  

กุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง

** กุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง
* หลักการลดน้ำหนัก *
_1._ลดปริมาณอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง แต่ละมื้อที่รับประทาน
เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง
อาหารที่มีไขมันสูงหมายถึง อาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน ไขมัน มาการีน
เนื้อสัตว์ติดมัน-หนัง เนย กะทิ
ซึ่งดูด้วยตาแล้วอาจบอกไม่ได้ว่าใช้น้ำมันมากหรือไม่
แต่ให้สังเกตลักษณะอาหารที่มีความมันวาวเนื้อสัมผัสนุ่มนวล
ไม่แข็งกระด้าง หรือบางอย่างจะกรอบ ตัวอย่างเช่น ผัดซีอิ้วใส่ไข่ ผัดไทย หอยทอด
พาย คุกกี้ เป็นต้น ควรเลี่ยง
_2._ระดับพลังงานไม่ควรต่ำเกินไป
เพื่อให้ร่างกายยังคงได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน
ระดับพลังงานในการลดน้ำหนักที่ต่ำสุดและปลอดภัยใน 1 วัน
คือ ต้องกินอาหารให้ได้พลังงาน 1200 แคลอรี่สำหรับผู้หญิง
และ 1500 แคลอรี่สำหรับผู้ชาย
_3._เพิ่มกิจกรรมของการใช้พลังงานของร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญของการลดน้ำหนัก
โดยใช้หลักของ
ความสมดุลในการกิน ถ้ากินมากใช้พลังงานมาก-น้ำหนักคงที่
ถ้ากินมากใช้พลังงานน้อย-น้ำหนักเพิ่ม
ถ้ากินน้อยใช้พลังงานมาก-น้ำหนักลด
นั่นคือความสำเร็จในการรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนได้ตลอดไป

** เทคนิคช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ *

_1._กินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ และเป็นเวลา ควรงดอาหารว่างระหว่างมื้อ
ถ้าหิวให้ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ให้พลังงาน
เช่น น้ำเปล่า น้ำสมุนไพร เช่น น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย (ไม่ต้องเติมน้ำตาล)
จะลดความรู้สึกหิวลงได้
_2._ห้ามงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะจะทำให้กินมากขึ้นในมื้อต่อไป
_3._ปริมาณอาหารควรจัดให้สมดุลตลอดวัน ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น
โดยเฉพาะควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือช่วงกลางคืน
_4._ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เพราะแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานไม่น้อยเลยทีเดียว คือ 1 กรัมให้พลังงาน 7 แคลอรี่
และแอลกอฮอล์กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร
แอลกอฮอล์ยังให้พลังงานเพียงอย่างเดียว
โดยไม่ให้สารอาหารอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย
_5._ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองในการดื่มเครื่องดื่มโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือสา
รให้ความหวาน
เนื่องจากน้ำตาลกระตุ้นให้เกิดการรับประทานมาก เช่นเดียวกับสารที่ให้รสหวาน
_6._ไม่ควรรีบกินอาหาร ควรเคี้ยวช้าๆ การกินเร็วจะทำให้กินอาหารมากเกินอัตรา
_7._ควรคำนึงอยู่เสมอว่า การกินทุกครั้งไม่ใช่เพราะความอยากอาหาร
แต่กินเพราะร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงาน
และสารอาหารในการดำรงชีวิตอันก่อให้เกิดสุขภาพดี

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเป็นสิ่งยั่งยืนที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเรื่องของการกินอาหารควรต้องมีการยืดหยุ่นบ้าง
เช่นหากมื้อใดกินมาก มื้อต่อไปต้องลดลง เพื่อให้เกิดความสมดุลของพลังงาน
จะเลือกกินอะไรต้องใช้เหตุผลเหนือจิตใจ
ค่อยทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ต้องใช้ความอดทน
กิจกรรมประจำวันต้องกระฉับกระเฉง และควรระลึกอยู่เสมอว่า
ไม่มีอาหารหรือยาชนิดใดที่สามารถลดน้ำหนักของคุณลงได้ตลอดกาล
และอย่าเชื่อในสิ่งที่เหลือเชื่อ ขอจงเชื่อมั่นในตัวเองเป็นดีที่สุด




 

Create Date : 31 มกราคม 2548    
Last Update : 31 มกราคม 2548 16:51:46 น.
Counter : 410 Pageviews.  

เคล็ดลับการตักบาตร


เคล็ดลับการตักบาตรสำหรับผู้ที่เกิดในวันอาทิตย์

ใส่บาตรเพื่อเสริมลาภยศบารมี (การงาน) ดาวลาภยศ ของคนที่เกิดในวันอาทิตย์นั้น ก็คือดาวที่เป็นตัวแทนของการสู้รบ นั้นคือดาวอังคารนั่นเอง การใส่บาตรเพื่อเสริมลาภยศของคนที่เกินในวันอาทิตย์ จะต้องใส่บาตรด้วยอาหารที่ดาวอังคารโปรดปรานนั้นคือ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ นั่นเอง ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ หมูย่างครับ หาซื้อตอนเช้าก็ง่ายสะดวก หรือถ้าอยากให้เป็นเรื่องยาก ก็ทำสเต็กใส่บาตรก็ไม่ว่ากันครับ

ใส่บาตรเพื่อเสริมโชคด้านการเงิน ดาวการเงินของคนที่เกิดวันอาทิตย์นั้นเป็นดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด และแถมยังเป็นดาวศุภเคราะห์ที่เล็กที่สุดด้วยนะครับ การใส่บาตรเพื่อเสริมดวงทางด้านการเงินของคนที่เกิดในวันอาทิตย์นั้นก็คือ อาหารประเภทที่มีน้ำผสมในสัดส่วนที่มาก เช่นโจ๊ก เกาเหลา แกงจืดเป็นต้น นอกนั้นพวกคุณๆ ก็ลองไปปรับเปลี่ยนชนิดอาหารกันเอาเองนะครับ ขอให้มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก หรือมีลักษณะเป็นของเหลวเป็นใช้ได้ครับ


เคล็ดลับการตักบาตรสำหรับผู้ที่เกิดในวันจันทร์

การทำบุญตักบาตรของคนที่เกิดในวันจันทร์ เพื่อเสริมโชคในด้านลาภยศบารมี (การงาน) ดวงดาวในเรื่องของลาภยศสรรเสริญของผู้ที่เกิดในวันจันทร์นั้น ก็คือดาวที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดครับ สำหรับคนที่เก่งวิชา ส.ป.ช. คงจะรู้แล้วนะครับ ดาวที่เกี่ยวกับลาภยศของผู้ที่เกิดในวันจันทร์นั้น ก็คือดาวพุธครับ ดาวพุธเดิมเป็นตัวแทนของดาวแห่งสติปัญญาอยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้าผู้ที่เกิดในวันจันทร์ตักบาตรด้วยอาหารที่บูชาดาวจันทร์เสริมดวง ก็จะเป็นการเสริมโชคให้มีสติปัญญาในการทำมาหากิน และยังเป็นการเสริมส่งลาภยศให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อยครับ (แต่ดีขึ้นแน่) อาหารตักบาตรที่จะส่งเสริมลาภยศของผู้ที่เกิดในวันจันทร์นั้นก็คือ อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และมีรสชาติออกจะเบาหน่อยครับ เช่นแกงจืดเต้าหู้ เป็นต้นไงครับ

การตักบาตรเพื่อส่งเสริมในเรื่องการเงินของผู้ที่เกิดในวันจันทร์ ดวงดาวที่เป็นตัวแทนดวงดาวการเงินของผู้ที่เกิดในวันจันทร์นั้น ก็คือดาวที่มีวงแหวนล้อมรอบตัวเองนั้นไงครับ รู้หรือยังว่าเป็นดาวอะไรครับ ดาวดวงนั้นก็คือดาวพระเสาร์นั่นเองครับ การหาอาหารตักบาตร เพื่อส่งเสริมการเงินของผู้ที่เกิดวันจันทร์นั้น ก็จะเป็นอาหารประเภทพืชผักต่างๆ ครับ การตักบาตรด้วยอาหารจำพวกผัดผัก ต้มผักนั้นดูว่าจะเข้าท่าไม่เลวดีนะครับสำหรับการตักบาตร เพื่อเสริมโชคในเรื่องการเงินการทองสำหรับผู้ที่เกิดในวันจันทร์ไงครับ


การตักบาตรเสริมดวงด้านการเงินและการงานของผู้ที่เกิดในวันอังคาร

การตักบาตรเพื่อที่จะช่วยส่งเสริมดวงทางด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันอังคารนั้น มีเคล็ดลับพิเศษดังนี้ คือเนื่องจากดาวเจ้าการด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันอังคาร คือดาวพฤหัส ซึ่งเป็นดวงดาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวศุภเคราะห์ การเลือกอาหารใส่บาตรบูชาดาวพฤหัสนั้น ก็ควรจะสรรหาอาหารที่มีลักษณะทานแล้วอิ่มท้องง่ายเป็นจำพวกอาหารหลักต่างๆ พูดมาขนาดนี้แล้วผู้อ่านทราบกันหรือยังครับว่าเป็นอาหารประเภทใด หรือบางคนอาจจะทราบแล้วแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก เฉลยก็ได้ครับอาหารที่ใช้ตักบาตรบูชาดาวพฤหัสนั้นก็คือ ข้าวของเราดีๆ นี่เอง หุงหาจัดเตรียมก็ง่ายราคาก็ไม่แพง แต่ที่สำคัญต้องใส่บาตรด้วยจิตกุศลเท่านั้นเป็นใช้ได้ หรือถ้าอยากจะหาอย่างอื่นใส่บ้างก็อาจจะเป็นขนมปังต่างๆ ก็ดูฝรั้งฝรั่งดี หรือข้าวเหนียวก็ไม่เลว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่ที่กับข้าวที่ใส่ด้วย

การตักบาตรเพื่อที่จะช่วยส่งเสริมดวงเรื่องงานของผู้ที่เกิดในวันอังคารนั้น มีเคล็ดลับพิเศษดังนี้ ดาวประจำการในเรื่องงานของผู้ที่เกิดในวันอังคารนั้นก็คือดาวที่มีวงแหวนล้อมรอบ พูดถึงขนาดนี้แล้วคงร้องอ้อ.. แต่ถ้ายังไม่ทราบคงจะต้องไปทบทวนวิชา ส.ป.ช. หรือวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเสียใหม่ มาเฉลยกันดีกว่า ดาวประจำการเรื่องการงานของผู้ที่กำเนิดในวันอังคารนั้นก็คือ ดาวเสาร์นั้นเองครับ วิธีการใส่บาตรเพื่อบูชาดาวเสาร์ เพื่อส่งเสริมเรื่องงานของผู้ที่เกิดในวันอังคารนั้น มีดังนี้ อาหารที่ใช้ใส่บูชาดาวเสาร์นั้น จะเป็นอาหารจำพวกพืชผักสวนครัวต่างๆ ไงครับอาจจะเป็นผัดผักใส่หมู, ผัดฟักทองใส่ไข่ ฯลฯ มีอาหารให้เลือกตักบาตรมากมายแล้วแต่ความสะดวกของผู้ตัก สำคัญที่เป็นอาหารที่เกี่ยวกับพืชผักสวนครัวเป็นใช้ได้ และเคล็ดลับที่เป็นหัวใจของการตักบาตร ก็โปรดอย่าลืมนั่นก็คือการตักบาตรด้วยใจสะอาดบริสุทธิ์นั่นเองครับ


เคล็ดลับการตักบาตรเพื่อส่งเสริมการงานการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวัน

การตักบาตรส่งเสริมทางด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวัน ดวงดาวประจำการด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวันคือ ดาวที่ไม่มีจริงในระบบสุริยะจักรวาลครับ ถึงตอนนี้ผู้อ่านคงจะมีอาการงงกันแล้ว เอาว่าเฉลยกันเลยดีกว่า ดาวประจำการด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวันนั้น ก็คือดาวราหู ดาวราหูนั้นเป็นดาวที่ใช้สมมุติในตำราโหราศาสตร์หาใช่เป็นดาวที่มีอยู่แท้จริงไม่ ดาวราหูจริงๆ แล้วก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลโลกหรอกครับ คือเงาของโลกนี่เอง ไม่ได้เป็นดาวอะไรที่มีตัวตน แต่ดาวราหูนี้มีความสำคัญต่อการพยากรณ์โหราศาสตร์มากทีเดียว นอกเรื่องกันไปมาก เรากลับมาพูดถึงการสรรหาอาหารมาใส่บาตรเพื่อบูชาดาวราหู และเสริมดวงการเงินของผู้ที่กำเนิดในวันพุธกลางวันต่อดีกว่า อาหารที่ใช้ตักบาตรเสริมดวงการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวันนั้น จะเป็นอาหารประเภทหมักดองออกรสเปรี้ยว หรืออาหารที่มีสีออกเข้มหน่อยๆ ถ้าจะให้ผมยกตัวอย่างอย่างง่ายๆ ก็เช่น ไข่เยี่ยวม้า (ได้ทั้งของหมักดองและสีเข้ม) แหนมต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมก็แหนมปลาไงครับ ไก่ดำก็ดูเข้าท่าดีแต่ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน หรือจะเป็นของหวานเช่นถั่วดำ ถั่วแดงก็ได้ หรือจะเอาตามสูตรอาจารย์ดังก็ขนมเปียกปูน (สีมันดำดี) คงจะพอนึกออกกันแล้วนะครับว่าจะหาอะไรมาใส่บาตรในวันพรุ่งนี้..

การตักบาตรส่งเสริมดวงเรื่องการงานของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวัน ดวงดาวที่ส่งเสริมเรื่องของการงานของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวันนั้น เป็นดวงดาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวนพเคราะห์ นั้นคือดาวพฤหัสนั่นเองครับ ดาวพฤหัสในความหมายของโหราศาสตร์ เป็นดาวที่หมายถึงความดีความงาม หรือดาวพระ ดาวนักบวชก็เรียกได้เช่นกัน การหาอาหารมาใส่บาตรเพื่อบูชาดาวพฤหัส และส่งเสริมดวงด้านการงานของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนนั้น จะเป็นอาหารประเภทที่มีรสชาติจืด และมักจะเป็นอาหารหลักทานแล้วอยู่ท้อง พูดมาถึงขนาดนี้แล้วมาเฉลยกันดีกว่าว่าเป็นอาหารประเภทอะไร ง่ายมากครับอาหารจำพวกข้าวไง จะเป็นข้าวเจ้า ข้าวสวย หรือเป็นข้าวที่มีการทำให้ผ่านขบวนการแปรรูปชนิดต่างๆ (ไม่รวมอาหารแปรรูปที่มาจากข้าวบาเล่ย์นะครับ อันนั้นใช้ใส่บาตรไม่ได้ครับ) เช่นขนมปังต่างๆ อาหารที่ทำมาจากแป้งประเภทต่างๆ แต่เน้นว่าทานแล้วต้องอิ่มท้องอยู่ท้องนะครับ


คล็ดลับการตักบาตรเสริมดวงของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืน

การตักบาตรเสริมดวงการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืน ผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืนนั้นจะมีดาวเจ้าการในเรื่องการงานเป็นดาวจันทร์ ตามตำนานดาวจันทร์เป็นดาวที่สื่อถึงความงดงามอ่อนช้อยของเพศหญิง ถ้าในดวงของหญิงผู้ใดมีความสัมพันธ์กับดวงดาวจันทร์นี้ หญิงผู้นั้นก็จะมีความงดงามอ่อนช้อยทั้งภายนอกภายใน กริยามารยาทเรียบร้อยสมกับเป็นแม่ศรีเรือน ชายใดได้เป็นภรรยาก็จะมีแต่ความสุขความสำเร็จ เรียกว่าดวงเสริมดวงสามีก็ว่าได้ แต่ถ้าดาวจันทร์ไปสัมพันธ์กับดวงของชาย ชายนั้นจะมีทวงท่าละม้ายคลายหญิง ดูภายนอกจะดูตุ้งติ้งไปซักหน่อย แต่สำหรับการใส่บาตร เพื่อเสริมดวงด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืนนั้น อาหารที่หามาตักบาตรนั้นเพื่อเป็นการบูชาดาวจันทร์ ซึ่งเป็นดาวการเงินของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนนี้ ก็ควรจะสรรหาอาหารที่มีรสชาตินุ่มนวล กลมกล่อมเป็นอาหารที่มีความนุ่มกินง่ายทานง่าย ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงอาหารเด็กละครับใช้ได้ นมก็ดีหาง่ายด้วย ไข่ต้มก็ดีไม่เลว คราวนี้ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนที่ต้องการเสริมดวงด้านการเงินจะเลือกอะไรมาใส่บาตรก็ตามสะดวกครับ

การตักบาตรเสริมดวงด้านการงานของผู้ที่เกินในวันพุธกลางคืน ดวงดาวด้านการงานของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืนคือดาวอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ในความหมายของโหราศาสตร์นั้นมีความหมายถึง ความยิ่งใหญ่ พระราชา การกำเนิด ตำแหน่งลาภยศ อาหารที่ใช้ใส่บูชาดวงอาทิตย์นี้ก็เป็นอาหารที่มีความสดใหม่ และมีการทำให้สุกดี มีการผ่านความร้อน สะอาด จะเป็นอาหารที่มีขั้นตอนในการปรุงแต่งมากหน่อย ยกตัวอย่างเช่น แกงไก่กะทิ ข้าวผัดไข่ ฯลฯ แล้วแต่จะสรรหาดัดแปลงครับ


เคล็ดลับการใส่บาตรเสริมดวงของผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดี

การตักบาตรเสริมดวงด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดี ดวงดาวประจำการเรื่องเงินๆ ทองๆ ของผู้ที่เกิดในวันพฤหัสนั้นเป็นดวงดาวที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุด ในบรรดาดวงดาวทั้งหมดในระบบสุริยะจักรวาลนั้นก็คือ ดวงอาทิตย์ อาหารที่ใช้ใส่บูชาดวงอาทิตย์นี้ก็เป็นอาหารที่มีความสดใหม่ และมีการทำให้สุกดี มีการผ่านความร้อน สะอาด จะเป็นอาหารที่มีขั้นตอนในการปรุงแต่งมากหน่อย ยกตัวอย่างเช่น แกงไก่กะทิ ข้าวผัดไข่ ฯลฯ แล้วแต่จะสรรหาดัดแปลงครับ

การใส่บาตรเพื่อเสริมดวงด้านการงานของผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดี ดวงดาวที่เป็นดาวตัวแทนในเรื่องงานของผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดีนั้น คือดาวศุกร์ ดาวศุกร์ในความหมายของโหราศาสตร์นั้น หมายถึงความสวยงาม ความไพเราะ ความอร่อย ทุกอย่างที่เป็นสิ่งที่ชวนให้ลุ่มหลงทั้งหลาย ดังนั้นการสรรหาอาหารมาใส่บาตรเพื่อบูชาดาวศุกร์ และเสริมส่งดวงดาวด้านการงานของผู้ที่กำเนิดในวันพฤหัสบดีนั้น ควรจะเป็นอาหารที่เริ่มจากมีรสชาติออกรสหวาน มีความหอมชวนกิน หรือมีลักษณะเป็นเส้นเป็นสาย มีตัวอย่างเช่น ข้าวแช่ไงครับหอมดี ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ก็ดี หรือมักโรนีผัดกุ้งก็ดีทีเดียว พอรู้แนวของอาหารแล้วก็ลองเลือกหรือดัดแปลงอาหาร ที่จะนำมาตักบาตรบูชาดาวศุกร์กันเลยนะครับ


เคล็ดลับการตักบาตรเสริมดวงของผู้ที่เกิดในวันศุกร์

เคล็ดลับการตักบาตรเสริมดวงการเงินของผู้ที่เกิดในวันศุกร์ เนื่องจากดวงดาวการเงินของผู้ที่เกิดในวันศุกร์นั้นคือ ดวงดาวที่เป็นดาวแห่งนักรบ แน่นอนครับดวงดาวนั้นคือดาวอังคาร ดาวอังคารนั้นในความหมายของโหราศาสตร์ หมายถึงความกล้าหาญ ความอดทน การต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ส่วนอาหารตักบาตรที่บูชาดาวอังคาร และเป็นการเสริมดวงด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันศุกร์นั้น จะเป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ตัวอย่าง เช่น หมูย่างครับ หาซื้อง่ายต้อนเช้ามีขายอยู่ทั่วไป หรือถ้าอยากจะยุ่งยากซักหน่อย ก็จะเป็นพวกอาหารฝรั่งอย่างสเต็กก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ

เคล็ดลับในการสรรหาอาหารตักบาตร เพื่อเสริมดวงด้านการงานของผู้ที่เกิดในวันศุกร์ ดวงดาวที่เป็นดาวประจำการในเรื่องการงานของผู้ที่เกิดในวันศุกร์นั้น คือดาวจันทร์ ดาวที่ภาษาโหราศาสตร์ใช้แทนเพศสตรี แม่ การมีน้ำใจงาม ดาวจันทร์มีความหมายถึงสิ่งที่มีความนุ่มนวล อบอุ่น ถ้าเป็นอาชีพก็จะหมายถึงอาชีพบริการประเภทต่างๆ เช่นนางพยาบาล แม่บ้าน แม่ครัว อาหารที่ใช้ในการบูชาดาวจันทร์ นั้นจะเป็นอาหารประเภทอาหารที่มีความนุ่มทานง่าย รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวล ถ้าให้ผมยกตัวอย่างในความคิดผมผมจะนึกถึงอาหารของเด็ก ข้าวหอมมะลิร้อนๆ กับไข่ต้ม ที่ไข่แดงไม่สุกดีนัก คิดแล้วน่าอร่อยจัง ส่วนใครจะใส่บาตรด้วยอาหารอะไรก็ตามสะดวก แต่สำคัญที่ว่าต้องเป็นอาหารที่นุ่มเคี้ยวง่าย รสชาติไม่ร้อนแรงเป็นใช้ได้ครับ


เคล็ดลับการตักบาตรเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดในวันเสาร์

การเลือกสรรอาหารตักบาตร เพื่อเสริมดวงชะตาด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันเสาร์ ดวงดาวที่เป็นดาวประจำการ เรื่องของการเงินการทองของผู้ที่เกิดในวันเสาร์ นั้นคือดาวศุกร์ ในความหมายทางโหราศาสตร์ดาวศุกร์ นอกจากจะหมายถึงสิ่งสวยๆ งามๆ แล้วยังใช้ทำนายเป็นตัวแทนของเงินได้อีกด้วย ลองสังเกตผู้ที่เรียนด้านการเงินนั้น ส่วนมากจะมีหน้าตาสวยงาม เนื่องจากอิทธิพลของดวงชะตา ที่ไปมีส่วนสัมพันธ์กับดาวศุกร์นี่เองครับ อาหารที่ใช้ในการตักบาตรเพื่อบูชาดาวศุกร์ และเป็นการเสริมดวงด้านการเงินของผู้ที่เกิดในวันเสาร์ นั้นจะเป็นอาหารประเภทที่ออกรสหวาน หรือมีลักษะเป็นเส้น พอพูดมาถึงตอนนี้ก็คงจะถึงบางอ้อกันแล้วนะครับ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ก๋วยเตี๋ยว ยากิโซบะ สปาเกตตี ถ้าคล้ายๆ อาหารอย่างที่กล่าวมาก็ถือว่าไม่ผิดกฎครับ จากนั้นตอนใส่ตั้งจิตให้เป็นกุศลซะหน่อย รับรองช่วยเสริมดวงการเงินของผู้ที่เกิดในวันเสาร์ได้สบายมากครับ

การใส่บาตรเพื่อส่งเสริมดวงด้านการงานของผู้ที่เกิดในวันเสาร์ เนื่องจากดวงดาวด้านการงานของผู้ที่เกิดในวันเสาร์นั้นคือดาวราหู ดาวราหูนั้นในความจริงทางวิทยาศาสตร์นั้น ไม่มีตัวตนเนื่องจากราหูเป็นเพียงเงาของโลกเท่านั้น แต่ในความหมายของทางโหราศาสตร์ ดาวราหูมีความสำคัญมากในการทำนายทายทัก เรื่องการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ๆ ของชีวิต อาหารที่ใช้ใส่บาตรเพื่อบูชาดาวราหู คืออาหารจำพวกของหมักดอง หรือของที่มีสีออกเข้ม ถ้าให้ผมยกตัวอย่างผมชอบนึกถึงไข่เยี่ยวม้า เพราะมันเป็นทั้งของหมักดองและมีสีดำแถมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี แหนมต่างๆ แหนมปลาก็ดีเพราะกำลังเป็นที่นิยมหาซื้อก็ง่าย ถ้ายังไงก็ลองคิดๆ กันดูนะครับว่ามีอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ความสะดวกของคุณดีกว่า เราตักบาตรด้วยจิตที่เป็นกุศลก็มีค่ามากกว่าราคาอาหารเสียอีก..




 

Create Date : 31 มกราคม 2548    
Last Update : 31 มกราคม 2548 16:37:03 น.
Counter : 289 Pageviews.  

วันเกิดกับสีรถ

วันเกิดกับสีของรถ ตามหลักทักษา
บุคคลที่เกิดวันอาทิตย์ สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีชมพู สีโอโรส เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีเขียวเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีดำ สีเทา สีควันบุหรี่เป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีฟ้า สีน้ำเงิน (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันอาทิตย์
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันวันอาทิตย์
 อายุย่าง 23 , 32 , 41 , 50 , 59 , 68 และอายุ 77 ปี ห้ามซื้อรถสีชมพู สีโอโรส เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 24 , 33 , 42 ,51 ,60 ,และ 69 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีเขียวทุกชนิด
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีดำ สีเทา สีควันบุหรี่ เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด

บุคคลที่เกิดวันจันทร์ สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีเขียว หรือสีแดง เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีดำ สีม่วงเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีฟ้า สีน้ำเงินเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีแดง (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต)
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันจันทร์
 ช่วงอายุย่าง 22 , 31 , 40 , 49 , 58 และ 67 ปี ห้ามซื้อรถสีเขียวทุกชนิด เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง สำหรับช่วงอายุย่าง 23 , 32 , 41 ,50 ,59 และ 68 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีดำ , สีม่วง
 และช่วงอายุย่าง 26 , 35 , 44 , 53 , 62 , 71 และ 80 ขึ้นไป สีที่ห้ามซื้อคือ สีฟ้า สีน้ำเงิน เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด ยกเว้นสีแดงสีเดียว

บุคคลที่เกิดวันอังคาร สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีดำ หรือสีม่วง เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีเหลืองแก่ สีแสด สีบรอนซ์ทองเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีแดงเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีบรอนซ์เงิน สีขาว สีเหลืองอ่อน เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันอังคาร
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันอังคาร
 อายุย่าง 22 , 31 , 40 , 49 , 58 และ 67 ปี ห้ามซื้อรถสีดำและสีม่วง เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันอังคาร
 สำหรับช่วงอายุย่าง 23 , 32 , 41 ,50 ,59 และ 68 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีหลืองแก่ สีแสด สีบรอนซ์ทอง
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีแดง เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด

บุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางวัน) สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีเหลืองแก่ สีแสด สีบรอนซ์ทอง เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีดำ สีเทาเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีขาว สีขาวนวล สีบรอนซ์ทอง สีเหลืองอ่อนเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีชมพู สีโอโรส (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางวัน)
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางวัน)
 อายุย่าง 22 , 31 , 40 , 49 , 58 และ 67 ปี ห้ามซื้อรถสีเหลืองแก่ สีแสด และสีบรอนซ์ทอง เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 23 , 32 , 41 ,50 ,59 และ 68 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีดำ , สีเทา
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีขาว สีขาวนวล สีบรอนซ์เงิน สีเหลืองอ่อน เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด

บุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางคืน) สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีแดง เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีขาว สีขาวนวล สีบรอนซ์เงิน สีเหลืองอ่อนเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีดำ สีม่วงเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีเหลืองแก่ สีบรอนซ์เงิน สีแสด (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางคืน)
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันพุธ(กลางคืน)
 อายุย่าง 23 , 32 , 41 , 50 , 59 , 68และ 77 ปี ห้ามซื้อรถสีแดง เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 24 , 33 , 42 ,51 ,60 และอายุ 69 สีที่ห้ามซื้อคือสีขาว สีขาวนวล สีบรอนซ์เงินและสีเหลืองอ่อน
 และช่วงอายุย่าง 22 , 31 , 40 ,49 ,58 และ 67 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีดำ สีม่วง เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด


บุคคลที่เกิดวันพฤหัสบดี สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีแดงเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีเขียวเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีดำ สีม่วง (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันพฤหัสบดี
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันพฤหัสบดี
 อายุย่าง 22 , 31 , 40 , 49 , 58 และ 67 ปีห้ามซื้อรถสีฟ้า สีน้ำเงิน เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 24 , 33 , 42 ,51 ,60 , 69และอายุย่าง 78 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีแดง
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีเขียวทุกชนิด เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด


บุคคลที่เกิดวันศุกร์ สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีขาวนวล สีบรอนซ์เงิน สีเหลืองอ่อนเพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีชมพู และสีโอโรสเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีแสด สีเหลืองแก่ สีบรอนซ์ทอง เป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีเทา สีดำ สีควันบุหรี่ (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันศุกร์
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันศุกร์
 อายุย่าง 23 , 32 , 41 , 50 , 59 , 68 และ 77 ปี ห้ามซื้อรถสีขาวนวล สีบรอนซ์เงิน สีเหลืองอ่อน เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 24 , 33 , 42 ,51 ,60 , 69 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีชมพู สีโอโรส
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีเหลืองแก่ สีบรอนซ์ทอง และสีแสด เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด

บุคคลที่เกิดวันเสาร์ สีที่เป็นมงคล ควรเป็นสีเทา สีดำ เพราะเป็นเดช อำนาจ และบารมี สีฟ้า สีน้ำเงินเป็นสีแห่งโชคลาภเงินทอง หรือสีชมพู สีโอโรสเป็นสีของมนตรี มีคนคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่สนับสนุนดี
 สีอื่นๆไม่ดีและไม่เสีย (ธรรมดา) สีที่ต้องห้าม คือ สีเขียวทุกชนิด (เป็นสีที่อัปมงคลตลอดชีวิต) เพราะเป็นสีที่เป็นกาลกินีของบุคคลที่เกิดวันเสาร์
นอกจากนี้แล้ว บุคคลที่เกิดวันเสาร์
 อายุย่าง 22 , 31 , 40 , 49 , 58 และ 67 ปี ห้ามซื้อรถสีเทา สีดำ เพราะเป็นสีที่โชคร้ายในช่วงอายุที่ย่างมาถึง
 สำหรับช่วงอายุย่าง 23 , 32 , 41 ,50 ,59 , 68และอายุย่าง 77 ปี สีที่ห้ามซื้อคือสีฟ้า สีน้ำเงิน
 และช่วงอายุย่าง 18 , 27 , 36 ,45 ,54 , 63 และ 72 ปี สีที่ห้ามซื้อคือ สีชมพู สีโอโรส เพราะเป็นสีที่โชคร้าย ในช่วงอายุที่มาถึงเช่นกัน
 ถ้าไม่ใช่อายุจรที่ย่างมาถึงดังกล่าวข้างต้นก็สามารถเลือกซื้อสีที่เป็นมงคลได้ตลอด




 

Create Date : 24 มกราคม 2548    
Last Update : 24 มกราคม 2548 11:00:44 น.
Counter : 579 Pageviews.  


บัวบัว
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add บัวบัว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.