Group Blog
 
All Blogs
 
หุ่นเชิดสังหาร (Karakuri Circus)

หุ่นเชิดสังหาร



เป็นหนังสือที่ผมอ่านเพราะพี่ชายแนะนำ ทั้ง ๆ ที่รู้จักเรื่องนี้มาก่อนพี่เสียอีก

เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกับผู้วาด “อุชิโอะกับโทระ” หรือ “ล่าอสูรกาย” นั่นเอง ซึ่งล่าอสูรกายเป็นเรื่องที่ผมชื่นชอบมากสมัยเด็ก อ่านจากวิบูลย์กิจสมัยไพเรท แต่ต้องหยุดอ่านไปเนื่องจากปัญหาลิขสิทธิ์และไม่มีการพิมพ์ต่อ

เมื่อหุ่นเชิดสังหารออกมาครั้งแรก ๆ นั้น ผมกลับไม่สนใจเลยและปล่อยมันผ่านไปจน 30 กว่าเล่ม เคยเช่ามา 5 เล่มแต่ช่วงนั้นไม่มีเวลาอ่าน พี่ชายจึงอ่านแทน พอคืนหนังสือไปก็เลยไม่ได้ยืมต่อ
จนกระทั่งปีสองปีที่แล้ว พี่ชายไปเช่ามาอ่านใหม่หลังจากอ่าน หงสาจอมราชันย์ เล่มล่าสุดจบ(คงไม่รู้จะอ่านอะไร)
เลยแนะนำให้ผมอ่านดู อ่านแค่เล่มแรก ๆ ก็ประทับใจมากแล้วในฉากที่ นารุมิกอดมาซารุไว้เพื่อกันแรงระเบิดให้
ตอนมาซารุหันมาบอกว่า “พี่นารุมิ พวกเรารอดแล้ว” พร้อมกับหันมาพบกับ... ฉากนี้กระชากใจได้ดีมาก ๆ ทำให้รู้สึกว่าทั้ง ๆ ที่นารุมิมีบทบาทร่วมกับ มาซารุ และ ชิโรงาเนะ ในตอนแรก ๆ แค่ไม่กี่เล่ม แต่ตลอดทั้งเรื่องสองคนนั้นไม่
เคยลืมและพูดนารุมิถึงอยู่เสมอ ก็ไม่ทำให้ความน่าเชื่อถือในบทบาทของนารุมิลดลงเลย ยังคงทำให้เรารู้สึกประทับใจและจดจำไปกับตัวละครทั้งสองอยู่ตลอด

เรื่องนี้เป็นการดำเนินเรื่องแบบคู่ขนาน ซึ่งจะเป็นเรื่องของ มาซารุ และ นารุมิ ที่ทั้งสองคนที่ได้เจอกันในเล่มแรกแต่
ต้องแยกทางกัน ทั้งสองต่างมีเรื่องราวของตนเองโดยผู้แต่งจะสลับไปมา ซึ่งสนุกทั้งคู่ เหมือนได้สองอรรถรสในเรื่องเดียวเพราะการดำเนินเรื่องของทั้งสองคนจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การต่อสู้ด้วยหุ่นเชิด
การต่อสู้ในเรื่องนี้ไม่ยืดเยื้อ ทำให้เบื่อหน่ายเลยแต่กลับกระชับฉับไว้ยิ่งนัก และผมรู้สึกว่าผู้แต่ง
ไม่เน้นความอลังการของฉากสู้ด้วยหุ่นมากเกินไปนัก คนวาดออกแบบหุ่นเชิดไว้หลากหลาย แต่ในฉากต่อสู้บางฉากเพียงแค่ไม่กี่ช่อง หุ่นตัวนั้นก็ถูกทำลายด้วยความรวดเร็ว เพราะเนื้อหาหลักของเรื่องไม่ได้โชว์ความอลังการของหุ่น แต่อยู่ที่ปมปริศนาที่ถูกคลายมาทีละน้อยละน้อยต่างหาก

ปริศนาที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง
ทั้งหมดมีที่มาที่ไปซึ่งผู้แต่งจะเฉลยออกมาเรื่อย ๆ ตามเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป ไม่ช้าหรือเร็วไป ทำให้อารมณ์และความสนุกในการอ่านต่อเนื่องและทำให้เราทึ่งกับการคลายปมปริศนา ไม่ว่าจะชาติกำเนิดของ เอเลโนออล กรี มาซารุ

ตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง
ล้วนมีที่มาที่ไปและเรื่องราวของตัวเองทั้งนั้น ผมเป็นคนชอบการ์ตูนเรื่องยาวและตัวละครเยอะซึ่งตัวละครแต่ละตัว
จะต้องมีประวัติของตนเองแล้วได้มาพบเจอกัน เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีลักษณะแบบที่ว่าและทำให้ผมเพลิดเพลินกับประวัติของตัวละครแต่ละตัว อาจมีบางเรื่องที่รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผล แต่ก็รับได้และไม่ทำให้เสียอรรถรสของเรื่อง

การพัฒนาการของตัวละคร
แต่ละตัวจะมีพัฒนาการขึ้นมาอยู่ตลอดแต่เรื่องจะเน้นพัฒนาการของมาซารุเป็นพิเศษ ตั้งแต่เป็นเด็กอ่อนแอในต้นเรื่องจนกระทั่งท้ายเรื่องกลับเปลี่ยนไป มีการเติบโต ความพยายาม และการฝึกฝน เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายาม หากคนเรามีความพยายามแล้วก็จะทำสำเร็จในที่สุด

เทคนิคในการจบตอน
รู้สึกว่านี่จะเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องหุ่นเชิดฯเลยทีเดียว ที่จบตอนแบบข้ามช็อต พอเปิดตอนใหม่ต่อมาจะมาลงรายละเอียดว่าก่อนตอนจบที่แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น เช่น กำลังสู้กันอยู่ในตอนพอหน้าสุดท้าย สู้จบ-พระเอกชนะ ตอนต่อมาก็จะมาวาดย้อนว่าพระเอกสู้ยังไง เกิดเรื่องอะไร และชนะได้อย่างไร เป็นต้น
ซึ่งนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของเรื่องนี้เช่นกัน

สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้
นอกจากความสนุกแล้วแง่คิดในเรื่องนี้ยังมีอีกมาก ขอยกตัวอย่างอันหนึ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ

ตอนที่ออโตมาต้าตัวนึงถามมาซารุว่า “ทำไมมนุษย์ต้องอยู่ร่วมกัน”
มาซารุตอบว่า “มนุษย์นั้นจะมอบสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ให้กับมนุษย์คนต่อไป แล้วก็นำไปพัฒนาปรับปรุงเพื่อที่จะสร้างสิ่งนั้นให้ดียิ่งขึ้น”

นึกถึงคำว่า Hand down ของฝรั่งเลยครับ

นักวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ท่านก็นำความรู้ที่ท่านอื่น ๆ ได้ค้นพบ นำมาพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป หลอดไฟฟ้า รถยนต์ วิทยุ โทรทัศน์ จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือที่เดี๋ยวนี้ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอได้ สามารถนำไปทำประโยชน์หลาย ๆ อย่างได้ ก็เกิดจากการค้นคว้า
ต่อเนื่องกันเรื่อยมา

ถ้ามนุษย์เราไม่ถ่ายทอดความรู้แล้วนำไปปรับปรุง โลกเราคงไม่มีการพัฒนาใด ๆ คิดอย่างนี้แล้ว จึงยิ่งรู้สึกว่ายินดีที่จะสอนหรือถ่ายทอดความรู้ให้กับคนอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นครับ

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ขอแนะนำสำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน อาจเป็นเรื่องที่ท่านอาจเสียใจเมื่อได้อ่าน ว่าทำไมเรามองข้ามไป...




Create Date : 23 พฤษภาคม 2550
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 21:04:02 น. 3 comments
Counter : 6315 Pageviews.

 
ตอนมาซารุหันมาเห็น.....นี่ทำเอาใจหายวูบเลยค่ะ

เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลย

ชอบเรื่องนี้มากๆเหมือนกันค่ะ แต่ละคนมีบทบาทที่เป็นเอกลักษณ์ดี และตัวมาซารุเองก็มีการเติบโตที่น่าชื่นชมมากๆด้วย ได้แง่คิดอะไรเยอะเลยค่ะ

ชอบจัง คุยเรื่องการ์ตูนเนี่ย ฮิฮิ ไว้วันหลังจะมาคุยด้วยใหม่นะคะ

ปล. วาดการ์ตูนเก่งจังเลยค่ะ


โดย: Hobbit วันที่: 23 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:44:37 น.  

 
ยินดีครับคุณ Hobbit แวะมาคุยเรื่องการ์ตูนกันบ่อย ๆ นะครับ

ปล. ดีใจอีกเรื่อง ที่ หุ่นเชิดฯ เล่มใหม่ออกแล้ว


โดย: ดีสุดขั้วชั่วสุดขีด วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:40:30 น.  

 
ใช่ค่ะ ตอนพระเอกรู้ว่าแม่ตายนี่แบบว่าสุดยอดแห่งความสะเทือนใจเลย

ยินดีที่ได้รู้จักค่า แล้วจาแวะมาคุยอีกนะคะ


โดย: Hobbit วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:48:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดีสุดขั้วชั่วสุดขีด
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




*~เกิดมาทั้งที ต้องขอลอง ขอลุย
อย่างที่ใจฝัน ...แม้ว่ามัน...
จะดีสุดขั้ว หรือว่า ชั่วสุดขีดก็ตาม~*
Friends' blogs
[Add ดีสุดขั้วชั่วสุดขีด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.